xs
xsm
sm
md
lg

หังโจว-ซูโจว แดนสวรรค์บนแผ่นดินจีน (1)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : แสงจันทร์

“หากฟากฟ้ามีสรวงสวรรค์ บนผืนปฐพีก็มีซู – หัง” คำเปรียบเปรยถึงความงดงามราวสรวงสวรรค์ของ ซูโจว และ หังโจว เป็นที่เลื่องลือมาตั้งแต่อดีตกาลจวบจนปัจจุบัน

ทัศนียภาพอันงดงามและวิจิตรตระการตาจากการสรรค์สร้างของธรรมชาติและฝีมือชนชาวจีนผู้สืบทอดอารยธรรมแห่งตะวันออกมานมนานหลายพันปี ยังได้รับการรักษาไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาและพัฒนาสู่เมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของจีนในเวลานี้

ทริปท่อง หังโจว – ซูโจว ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก รวมถึงชาวจีนในแผ่นดินจีนและชาวจีนจากแผ่นดินไทยรวมทั้งคนไทยเองไม่น้อย ซึ่งคณะสื่อมวลชนไทยที่ได้รับเชิญจากอาศรมสยาม-จีนวิทยา ภายใต้ ซีพี เซเว่น อีเลฟเว่น เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาก็เป็นหนึ่งในกรุ๊ปทัวร์ที่เลือกท่องเมืองสวรรค์บนดินแห่งนี้

หังโจว เป็นเมืองเอกของมณฑลเจ้อเจียง ราชธานีโบราณ 1 ใน 7 ของประวัติศาสตร์จีนแห่งนี้ (ราชธานีโบราณ ประกอบด้วย ซีอาน, ปักกิ่ง, ลั่วหยาง ไคฟง อานหยาง, หังโจว และนานกิง) เพิ่งได้รับรางวัลเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุด 1 ใน 3 ของจีนจากสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติและองค์การท่องเที่ยวของสหประชาชาติเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

หังโจว มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึงสองพันสองร้อยปี มีความเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดเมื่อราชวงศ์ซ่ง ตัดสินใจย้ายเมืองหลวงจากไคฟง ที่ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำเหลือง ลงมายังหังโจว ที่อยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง เพื่อหลีกหนีการรุกรานของชนเผ่าจิน และได้ตั้งราชวงศ์ซ่งใต้ขึ้น (ค.ศ. 1127 – 1279)

หังโจว มีทะเลสาบ “ซีหู” หรือทะเลสาบตะวันตกเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังนับจากอดีตถึงปัจจุบัน ทะเลสาบซีหู มีพื้นที่ 5.6 ตร.กม. ล้อมรอบด้วยภูเขาสามด้าน อีกด้านหนึ่งติดกับเมือง สมัยที่ ซูตงปอ กวีเอกสมัยราชวงศ์ซ่ง เป็นเจ้าเมืองหังโจว ได้สั่งให้ขุดลอกทะเลสาบแห่งนี้จากแต่เดิมที่มีความลึกเพียงครึ่งเมตรเป็น 1.8 เมตร เพื่อระบายน้ำแล้วนำดินมาทำเป็นทำนบหรือเขื่อนเพื่อกั้นน้ำขึ้นในทะเลสาบแห่งนี้ และกลายเป็นถนนเชื่อมทะเลสาบจากแนวเหนือ-ใต้ และตะวันออก – ตะวันตก แบ่งซีหูออกเป็นทะเลสาบขนาดเล็ก 5 แห่ง

เสน่ห์ของ ซีหู ที่นักท่องเที่ยวไม่ยอมพลาดคือ การล่องเรือชมทัศนียภาพรอบทะเลสาบดื่มด่ำบรรยากาศบนเรือย้อนยุคเหมือนในหนังจีนกำลังภายใน แต่ด้วยอากาศในเดือนสิงหาคมที่ร้อนอบอ้าว กรุ๊ปทัวร์ท่องเที่ยวมักจะล่องเรือติดแอร์ชมทัศนียภาพผ่านกระจกใสแทน

ซีหู ทะเลสาบที่มีทิวทัศน์สวยงาม มีเรื่องเล่ามากมาย ทั้งตำนานการก่อเกิดจากไข่มุก ทั้งนิยายรักโศกเศร้าเคล้าน้ำตา ดังเช่น “นางพญางูขาว” ทำให้ ซีหู คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวทุกฤดูกาล

เมืองหังโจว ยังได้ปรับปรุงทะเลสาบซีหู ด้วยการปลูกต้นหลิวโดยรอบ ทำสวนดอกไม้ตามฤดูกาล ทำให้นักท่องเที่ยวขนานนามว่า “พฤกษาในนครินทร์” นับเป็นการผสมผสานเสน่ห์จากธรรมชาติและฝีมือตกแต่งของมนุษย์ ขับเน้นให้หังโจวโดดเด่นด้านท่องเที่ยวอันดับหนึ่งไม่เสื่อมคลาย

ใกล้ๆ กับทะเลสาบซีหู ยังมีสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์จีนอีกแห่งหนึ่ง คือ ศาลเจ้าและสุสานงักฮุย หนึ่งในวีรบุรุษผู้รักชาติที่ถูกประหารเพราะถูกขุนนางกังฉินให้ร้าย

เรื่องราวของงักฮุย เป็นอุทธาหรณ์สอนคนรุ่นหลังให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ กตัญญูรู้คุณแผ่นดิน ดังอักษรจีน 4 ตัวที่มารดาของเขาสลักไว้บนแผ่นหลังของบุตรชายก่อนไปรับใช้ชาติว่า “จิ้นจงเป้ากั๋ว” แปลว่า “รู้รักภักดี พลีชีพเพื่อชาติ” นี่ถ้าหากอดีตนายกรัฐมนตรีคนก่อนของไทยหรือข้าราชการจอมคด จะเอาอย่างบ้างก็น่าจะดีไม่น้อย

งักฮุย หรือ “เย่ว์เฟย” เกิดในปลายราชวงศ์ซ่งเหนือ ที่มณฑลเหอหนาน ในช่วงวัยหนุ่มราชวงศ์ซ่งเหนือถูกพวกจินรุกราน จับตัวฮ่องเต้ไปเป็นเชลยศึกจนนำไปสู่จุดจบของราชวงศ์ซ่งเหนือ งักฮุย จึงตั้งปณิธานว่าจะกอบกู้ชาติกลับคืนมาโดยสมัครเข้าเป็นทหารในยุคราชวงศ์ซ่งใต้ ที่ย้ายเมืองหลวงจากไคฟงมาอยู่ที่หลินอันหรือหังโจวในปัจจุบัน

งักฮุย สู้รบข้าศึกจนมีผลงานเข้าตาแม่ทัพจงเจ๋อ และแม่ทัพก็ได้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาการศึกให้งักฮุย เมื่อ จงเจ๋อ เสียชีวิต งักฮุย ก็สืบทอดตำแหน่งแม่ทัพและได้เป็นแม่ทัพใหญ่ในขณะอายุเพียง 32 ปีเท่านั้น

ชื่อเสียงของงักฮุยด้านการรบ ความเข้มงวดในระเบียบวินัย ทำให้กองทัพของงักฮุย แข็งแกร่งสามารถรบชนะชนเผ่าจินทุกครั้งที่ทำศึก กระทั่งมีคำกล่าวว่า “โยกภูเขานั้นง่าย คลอนทัพงักฮุยนั้นยากยิ่ง” งักฮุยตะลุยรบขึ้นทางเหนือยึดดินแดนคืนมากมาย กระทั่งต่อมาเขาถูก “ฉินฮุ่ย” ขุนนางกังฉินที่เป็นใส้ศึกให้กับชนเผ่าจินใส่ร้ายว่าเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาสงบศึกกับเผ่าจิน

การปั้นเรื่องให้ร้ายงักฮุยต่างๆ นาๆ ของ ฉินฮุ่ย ทำให้งักฮุยต้องถูกประหารชีวิตในที่สุด ชาวเมืองซึ่งรักและเคารพงักฮุยได้นำศพของเขามาทำพิธีฝังศพและต่อมาได้ย้ายหลุมศพงักฮุยมาไว้ริมทะเลสาบซีหู คนรุ่นต่อมาได้ยกย่องให้งักฮุยเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์และรักชาติ เหมือนกับเทพเจ้ากวนอู

ส่วนฉินฮุ่ย นายกรัฐมนตรีกังฉินผู้ขายชาติและภรรยา ชาวเมืองได้ระบายแค้นด้วยการปั้นแป้งสองชิ้นมาบีบติดกันแล้วทอดกิน เรียกว่า “ปาท่องโก๋” หรือ อิ่วจาก้วย ซึ่งการนำชื่อฉินฮุ่ย มาทอดน้ำมันและนำมาเป็นอาหารก็เพื่อให้คนรุ่นหลังได้จดจำการกระทำของผู้ทรยศต่อประเทศชาติ

ปัจจุบัน รูปปั้นของเทพเจ้างักฮุยเด่นสง่าน่าเกรงขามเป็นที่เคารพยกย่องของชาวจีน แต่รูปปั้นนั่งคุกเข่าเอามือไพล่หลังของคนขายชาติคือ ฉินฮุ่ย-ภรรยา และม่อฉีเซี่ย – จ้างจุ้น ถูกดูถูกเหยียดหยามถ่มน้ำลายรดจนต้องติดประกาศห้ามถ่มน้ำลายเพื่อสุขอนามัย
เจดีย์ริมทะเลสาบซีหูที่สร้างตามความเชื่อของจีน
นอกจากศาลเจ้างักฮุยแล้ว อาณาบริเวณ 60 ตร.กม.ที่มีทะเลสาบซีหูเป็นใจกลาง ยังมีสถานที่น่าท่องเที่ยวอีกมากมายกว่า 40 แห่ง มีโบราณสถานกว่า 30 แห่ง ทั้งวัดวาอาราม ภูเขา สวน ธารน้ำ ฯลฯ

ในบรรดาวัดเก่าแก่ที่อยู่ทางทิศใต้ใกล้ทะเลสาบซีหู ก็คือ วัดจี้กง วัดโบราณที่ตั้งอยู่บนภูเขานานผิง สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์โจว วัดนี้ได้รับการบูรณะหลายครั้ง ภายในมีพระโพธิสัตย์กวนอิมพันกร รูปปั้นพระจี้กง และมีหอระฆังที่บรรจุระฆังทองแดงหนัก 40 ตัน ที่ชาวญี่ปุ่นมอบให้ในปี 1986

วัดจี้กงมีระฆังดีที่ได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสิบของดีแห่งซีหู ระฆังเทพเก้ามังกรของวัดจะถูกเคาะวันละ 108 ครั้ง และทุกวันสิ้นปีจะมีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นมาฟังเสียงระฆังเที่ยงคืนเพื่อต้อนรับปีใหม่

ใกล้ๆ กับซีหู ยังมีหมู่บ้านใบชาบ่อมังกร หรือใบชาหลงจิ่ง อันเป็นชาที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งของเมืองหังโจว หมู่บ้านใบชาแห่งนี้เป็นหนึ่งในกิจการของรัฐบาลจีนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวศึกษาและชมกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นจนกว่าจะมาเป็นใบชาในกระป๋อง
การแสดงในเมืองจำลองราชวงศ์ซ่ง
ด้วยศิลปะการขาย การอธิบายถึงอรรถประโยชน์ลดไขมัน ลดสารพิษ ทำให้นักท่องเที่ยว ต่างควักกระเป๋าซื้อชาในสนนราคากระป๋องละ 200- 300 หยวน (1,000 – 1,500 บาท : 1 หยวน ประมาณ 5 บาท) เป็นของฝาก

ไฮไลต์ทริปท่องหังโจว จบลงด้วยการชมเมืองจำลองราชวงศ์ซ่ง และการแสดงแสง สี เสียง ตระการตา เพื่อบอกเล่าประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สมัยราชวงศ์ซ่งรุ่งเรืองทั้งทางเศรษฐกิจ ศิลปวัฒนธรรม รวมถึงตำนานนางพญางูขาวแห่งซีหู...(อ่านต่อตอนหน้า)
กำลังโหลดความคิดเห็น