xs
xsm
sm
md
lg

“เหวสุวัต เหวนรก” 2 น้ำตกใหญ่ แห่งเขาใหญ่ /ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี

บนเขาใหญ่ ปลายฝน เกือบๆต้นหนาว

สายฝนพรำเพิ่งหยุดตกไปไม่นาน ทำให้ผืนป่ารอบๆตัวผมดูเขียวชอุ่มสดชื่นมากขึ้น จนผมรู้สึกอยากจะเก็บโอโซนบนนี้ใส่กระป๋องเอาไปฝากเพื่อนๆที่กรุงเทพฯเสียจริง

สูดอากาศป่าคอนกรีตเจอแต่ฝุ่นควันมลพิษจนทำให้หงุดหงิดเวียนหัวบ่อยครั้ง ผิดกับการสูดโอโซนบนเขาใหญ่ที่รู้สึกสดชื่นเป็นอย่างยิ่ง

แต่นั่นมันคือเป้าหมายรอง เพราะเป้าหมายหลักในการขึ้นเขาใหญ่ของผมครั้งนี้อยู่ที่การตะลุยเที่ยว 2 น้ำตกใหญ่อันเป็นน้ำตกยอดฮิตของที่นี่ นั่นก็คือน้ำตกเหวสุวัตและน้ำตกเหวนรกที่ชื่อแม้จะฟังดูน่าครั่นคร้ามเพราะคำว่า“เหว”นี่มันฟังน่ากลัวไม่น้อย โดยเฉพาะน้ำตกเหวนรกนี่ถือเป็นชื่อที่ฟังแล้วดับเบิ้ลน่ากลัวเลยทีเดียว ไหนจะเหวเอย นรกเอย แต่ในชื่อที่น่ากลัวนี้กลับเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่สวยงามของสายน้ำที่น่าเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

ยกเว้นก็แต่ในช่วงเทศกาลหยุดยาวอย่างปีใหม่ สงกรานต์ เข้าพรรษา หรือลองวีคเอนด์อื่นๆที่ ใครอยากจะไปเที่ยวเขาใหญ่ เที่ยวน้ำตกเหวนรก น้ำตกเหวสุวัต ก็เชิญเถอะ ส่วนผมขอนอนดูหนังฟังเพลงอยู่ที่บ้านดีกว่า เนื่องจากว่าเคยมีประสบการณ์เที่ยวเขาใหญ่ในช่วงลองวีคเอนด์ 4-5 ครั้ง ซึ่งนอกจากจะเจอรถติดบนเขาใหญ่โดยเฉพาะช่วง 1-2 กิโลเมตรก่อนจะถึงน้ำตกทั้ง 2 แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างมันดูแน่น แออัดยัดเยียดต้องแย่งกันกิน แย่งกันฉี่ แย่งกันอึ แย่งกันหาที่นอน ดูสับสนวุ่นวายไปหมด จนผมตั้งปณิธานไว้ว่า ถ้าไม่จำเป็นและไม่ถูกบังคับ ก็จะไม่ขึ้นเขาใหญ่หรือไปตามแหล่งท่องเที่ยวดังๆในช่วงเทศกาลหรือลองวีคเอนด์เด็ดขาด

สำหรับการไปเขาใหญ่ในครั้งนี้ ผมไปในวันธรรมดาที่มีคนเที่ยวกันน้อยมาก เห็นคนมาเดินป่าดูนกกันไม่กี่คนเท่านั้น แต่นั่นก็คือสิ่งที่ชื่นชอบไม่น้อยเลย หลังจ่ายตังค์ค่าธรรมเนียม ณ ที่ทำการอุทยานฯ ผมก็ขอข้ามการเดินเที่ยวในเส้นทางน้ำตกกองแก้วไปเพราะผมรู้สึกว่าน้ำตกกองแก้วนี่มันดูเป็นแก่งใหญ่มากกว่าน้ำตกน่ะ แต่ถ้าใครมีเวลาผมว่าก็น่าไปเดินชมธรรมชาติที่นี่นะ เดินสบาย แถมยังมีมุมสะพานแขวนสวยๆให้ถ่ายรูปอีกด้วย

จากที่ทำการผมเดินทางไปยังน้ำตกเหวสุวัตทันที ซึ่งช่วงที่มาเที่ยวเขาใหญ่กับเพื่อนๆสมัยเรียนมหาวิทยาลัย บอกตรงๆว่าเราไม่นิยมการเที่ยวในแบบนี้กันเท่าไหร่ เพราะช่วงนั้นบ้าพลังถ้าจะไปน้ำตกเหวสุวัต เส้นทางแรกที่จะไปก็คือเล่นเดินป่าจากที่ทำการอุทยานฯ ไปเหวสุวัตเลย

เส้นทางนี้ระยะทางประมาณ 8 กม. เดินกันเหนื่อยหลายชั่วโมง ผ่านสิ่งที่น่าสนใจอย่าง น้ำตกเหวไทร น้ำตกเหวประทุน ก่อนจะไปสิ้นสุดยังน้ำตกเหวสุวัต ส่วนช่วงขากลับหากเป็นช่วงบ้าพลังสุดๆก็จะเดินป่ากลับทางเส้นเหวสุวัต-ผากล้วยไม้ แต่เท่าที่จำได้ผมจะทำแบบนี้แค่ครั้งเดียว เพราะมันเหนื่อยเอาเรื่องทีเดียว

อีกเส้นทางหนึ่งที่นิยมก็คือไปตั้งหลักยังจุดกางเต็นท์ที่ผากล้วยไม้แล้วเดินป่าจากน้ำตกผากล้วยไม้มาน้ำตกเหวสุวัต เส้นทางนี้ประมาณ 3 กม. เดินชมนก(แต่ไม่ค่อยเห็น)ชมไม้ไปเพลินๆไม่นานก็ถึง ส่วนขากลับจะกลับทางเดิมหรือโบกรถกลับ ก็ขึ้นอยู่กับสภาพ ณ ช่วงเวลานั้น ว่ายังฟิตอยู่หรือเปล่า นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับว่าจะมีรถหลงมาให้โบกด้วยหรือเปล่า แต่มาวันนี้ไม่มีพลังให้บ้าแล้ว การไปเที่ยวน้ำตกเหวสุวัตจึงนั่งรถไปสถานเดียว ไม่เดินให้เมื่อยตุ้มแล้ว

น้ำตกเหวสุวัต อยู่ห่างจากที่ทำการฯทางถนนประมาณ 13 กม. หนึ่งในน้ำตกขึ้นชื่อแห่งเขาใหญ่ ซึ่งเป็นจุดสุดถนนธนะรัชต์ ที่พอไปถึงจอดรถก็เดินไปชมน้ำตกมุมสูงได้อย่างง่ายดายไม่กี่สิบเมตร ณ “ชุดชมวิว”ที่ทางอุทยานฯได้สร้างเป็นลานไม้อย่างดีที่เมื่อ มองลงไปก็จะเห็นสายน้ำตกสีขาวไหลกระทบโขดหินดังซู่ๆ

จากนั้นเดินไปอีกหน่อยก็จะพบกับทางลงไปสู่น้ำตกที่ทำเป็นบันไดที่เทปูนอย่างดี ทำให้การเดินลงสู่น้ำตกเหวสุวัตนั้นไม่ลำบากยากเย็น

ณ ริมธารน้ำตกเหวสุวัต ผมมองผ่านแอ่งน้ำไปสู่ตัวน้ำตกที่มีสายน้ำขาวโพลนถั่งโถมลงมาจากความสูงประมาณ 20 เมตรกระทบกับแอ่งน้ำเป็นฟองขาวฟูฟ่องฟุ้งกระจาย ซึ่งในหน้าฝนเช่นนี้ในลำธารที่มีน้ำไหลแรงไม่สมควรลงเล่นน้ำด้วยประการทั้งปวง หากจะเล่นน้ำก็ควรลงเล่นในลำธารที่สายน้ำไหลเนิบนาบและน้ำไม่ลึกเกินไปเพราะว่าน้ำค่อนข้างเย็น ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและร่างกาย

ส่วนใครที่คิดว่าตัวเองมีพลังเหลือเฟือจะไปกระโดดน้ำตกเล่นนั้น ห้ามเด็ดขาด!!! เพราะที่ผ่านมามีคนไปทดลองพลังด้วยการกระโดดจากบนน้ำตกสู่แอ่งข้างล่าง เสียชีวิตและบาดเจ็บไปหลายรายแล้ว เพราะฉะนั้นใครที่เที่ยวน้ำตกเหวสุวัต แค่ยืนชม ถ่ายรูป และเล่นน้ำในที่ปลอดภัยก็ได้อรรถรสแล้ว ส่วนใครที่ยังไม่หมดแรงจะเดินต่อไปยังน้ำตกเหวไทร และน้ำตกเหวประทุนที่อยู่ถัดไปในเส้นทางเดินป่าอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

หลังเพลิดเพลินกับการยลน้ำตกเหวสุวัตแล้ว ผมออกเดินทางต่อไปยัง“น้ำตกเหวนรก”ในพื้นที่เขาใหญ่ฝั่งจังหวัดนครนายก

น้ำตกเหวนรก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่หนึ่งในไฮไลท์อันโดดเด่นของเขาใหญ่ จากจุดจอดรถต้องเดินป่าไปประมาณ 1 กม.จึงจะถึงยังจุดชมน้ำตก ช่วงแรกเป็นทางเดินสบายๆผ่านต้นไม้ใบหญ้าอันร่มรื่นเขียวครึ้ม ก่อนจะไปถึงยังสะพานข้ามคลองท่าด่านหรือห้วยสมอปูนที่มองจากบนสะพานลงไปจะเห็นลำธารสายเดียวกับน้ำตกเหวนรกไหลรี่ดูสวยงามน่ายลไปอีกแบบ

จากนั้นทางจะพาไปพบกับกำแพงกันช้างที่เป็นเสาคอนกรีตปักเรียงราย สร้างเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ฝูงช้างป่าผ่านเข้าไปใกล้น้ำตกเหวนรก เนื่องจากที่ผ่านมามีช้างป่าหลุดเข้าไปตกน้ำตกเหวนรกตายออกไป

สำหรับช่วงใกล้จะถึงตัวน้ำตกจากทางเดินสบายๆจะเปลี่ยนเป็นบันไดค่อนข้างชัน ซึ่งขาเดินลงนะไม่เท่าไหร่แต่ขาเดินขึ้นนี่สิโหดหินเอาเรื่องทีเดียว

เมื่อลงบันไดไปจนสุดแล้ว ผมได้พบกับจุดชมวิวน้ำตกที่เมื่อมองออกไปจะเห็น สายน้ำที่ขาวโพลนกระโจนพุ่งลงอย่างแรงมาในแนวดิ่งเกือบ 90 องศาสู่หุบเหวเบื้องล่าง เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมด้วยละอองกระเซ็นฝอยของสายน้ำที่ปลิวมาปะทะร่าง ดูแล้วช่างน่าครั่นคร้ามสมดังชื่อน้ำตกเหวนรกจริงๆ ซึ่งน้ำตกแห่งนี้มีความสูงโดยรวมกว่า 150 เมตร แบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้นแรกสูงประมาณ 60 เมตร ส่วนชั้นที่ 2 และ ชั้นที่ 3 ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวลงไปชม เพราะเป็นเหวลึกและอันตรายขนาดช้างตกลงไปตาย

อย่างไรก็ตามแม้น้ำตกเหวนรกจะมีชื่อฟังน่ากลัว แต่ด้วยความสวยงามของน้ำตกก็ทำให้มีคนไปเที่ยวชมน้ำตกแห่งนี้อยู่ไม่ได้ขาด เช่นเดียวกับป่าเขาใหญ่ที่หลายสิบปีที่ผ่านมาป่าผืนนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นในอันดับต้นๆของเมืองไทย ซึ่งหลังจากที่เขาใหญ่ได้กลายเป็นมรดกโลกไปแล้ว นักท่องเที่ยวที่ขึ้นเขาใหญ่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติและเที่ยวเขาใหญ่อย่างรู้คุณค่า เพื่อเก็บมรดกโลกอย่างเขาใหญ่ไว้ให้อยู่คู่เมืองไทยตราบนานเท่านาน...
กำลังโหลดความคิดเห็น