xs
xsm
sm
md
lg

เรื่องงูๆเรื่องง่ายๆ ในสวนงู "เสาวภา"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : หนุ่มลูกทุ่ง


หลังจากที่มีโอกาสนั่งดูละครโทรทัศน์เรื่องหนึ่ง ที่มีนักแสดงนำหญิงคนหนึ่งสวมบทบาทเป็นเมดูซ่าเมืองไทย มีวิกงูที่มีลักษณะคล้ายงูสายม่านยั้วเยี้ยอยู่บนศีรษะ ทำให้ฉันเกิดนึกอยากศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับงูให้เข้าใจมากขึ้น เพราะสัตว์เลื้อยคลานชนิดนี้เป็นที่รู้กันดีว่าน้อยคนนักที่จะกล้าเข้าใกล้

เมื่อมานั่งคิดดูว่าพอจะมีที่ใดในกรุงเทพฯที่เปิดโอกาสให้ฉันเข้าไปเจอและเรียนรู้เรื่อง งู ให้หายกลัวได้บ้าง ก็คิดถึง "สวนงู"ที่ตั้งอยู่ภายใน สถานเสาวภา สภากาชาดไทย บริเวณถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน เป็นแห่งแรก

เมื่อว่างเว้นจากการทำงานจึงไม่รอช้ารีบรุดมาที่ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ให้สมกับความอยาก เมื่อเข้ามาถึงสถานเสาวภา สิ่งแรกที่ฉันเห็นคือ "พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง"ที่ประทับยืนอยู่ด้านนอก

ของสถานเสาวภา ฉันจึงแวะสักการะขอพรจากพระองค์ท่าน ให้การเข้าไปชมงูในสวนงูครั้งนี้อย่าได้เกิดอุบัติเหตุใดๆแก่ตัวฉันเลย

จากนั้นจึงเดินเข้าไปใน"ตึกสถานเสาวภา"ที่มีลักษณะเป็นตึกยุโรปขนาด 2 ชั้น หลังคาสีแดง จากตึกด้านหน้าเดินทะลุเข้าไปสู่สวนงู ซึ่งอยู่ข้างในตึกของสถานเสาวภาอีกที

สวนงูแห่งนี้เป็นสวนงูแห่งที่ 2 ของโลก และเป็นแห่งแรกของเอเซีย จัดสร้างขึ้นไว้เพื่อเลี้ยงงูพิษ สำหรับผลิตเซรุ่มแก้พิษงู เพราะเซรุ่มที่สั่งจากต่างประเทศใช้ไม่ได้ผลกับพิษงูในประเทศไทย สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2466 โดย ดร.เลโอโปล์ด โรแบรต์ ผู้อำนวยการคนแรกของสถานเสาวภา งูที่เลี้ยงอยู่ที่นี่มีหลายชนิด เช่น งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม งูกะปะ งูแมวเซา เป็นต้น

และถือเป็นโชคดีของฉันเมื่อเข้าไปก็ได้มีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับ นสพ.มนตรี เชี่ยวบำรุงเกียรติ หัวหน้าสวนงู ที่กำลังรอทำการบรรยายพร้อมโชว์การแสดงการรีดพิษงูในรอบต่อไป คุณหมออธิบายเรื่องราวของงูให้ฟังว่า ประเทศไทยมีงูอาศัยอยู่ชุกชุมถึง 180 ชนิด ทั้งงูพิษและงูไม่มีพิษ ซึ่งงูเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์ทางนิเวศวิทยาช่วยรักษาสมดุลธรรมชาติ โดยกำจัดพวกสัตว์ฟันแทะต่างๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "หนู" ที่เป็นภัยต่อมนุษย์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ โดยการทำลายพืชผลทางการเกษตรและทางสาธารณสุข โดยเป็นพาหะของโรคร้าย เช่น เลปโตสไปโรซิส ซึ่งติดมากับสิ่งขับถ่ายของหนู

"คนส่วนใหญ่รู้จักงูในแง่ลบ เห็นเป็นต้องฆ่า โดยลืมไปว่าชีวิตทุกชนิดต้องการดำรงอยู่ ศัตรูธรรมชาติที่ร้ายแรงคือมนุษย์ หมอถึงต้องนำความจริงมาพูดเวลาทำการแสดงให้เข้าใจ ให้ผู้ชมที่เข้ามาชมงูในสวนงูเข้าใจงูมากขึ้นเพื่อช่วยลดช่องว่างระหว่างคนกับงูจะได้กลัวงูน้อยลง ให้รู้จักความเป็นจริงของธรรมชาติ"คุณหมอกล่าว และเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่างูเป็นสัตว์ที่น่าสงสาร อาภัพ ที่สุดในโลกเพราะใครๆก็ไม่รัก ต่างแสดงความหวาดกลัวว่าเป็นอสรพิษร้าย

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมีชมงูในสวนงู คุณหมอก็ฝากมาบอกว่าไม่ต้องกังวลเรื่องงูจะหลุดมาทำร้าย เพราะที่นี่สิ่งสำคัญที่สุด คือ การสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งฉันก็เห็นเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะเมื่อถึงเวลาที่ทำการแสดงจะเห็นเจ้าหน้าที่ของสวนงูยืนอยู่ตามจุดต่างๆคอยระวังให้อย่างดี

ภายในสวนงูแห่งนี้เต็มไปด้วยงูนานาชนิดที่นำมาจัดแสดงให้ชม ถึงฉันจะเป็นผู้ชายแต่ความกลัวงูก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าสาวๆนักหรอก เพียงแค่เห็นงูที่เลื้อยคดเคี้ยวอยู่ในกรง ก็แทบอย่างจะเผ่นหนีออกมาเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ด้วยแรงฮึดที่อย่างรู้เรื่องราวของเจ้าสัตว์เลื้อยคลานที่ใครๆก็ขยาดสามารถเอาชนะความกลัวในใจได้ จึงรวบรวมสมาธิเดินดูต่อไปทีละกรง

งูที่จัดแสดงงูในสวนงูแห่งนี้มีทั้งงูที่มีพิษและไม่มีพิษ งูเหล่านี้ทางสวนงูไม่ปล่อยให้เลื้อยเพ่นพล่าน จัดสร้างกรงอย่างดีไว้ให้พวกมันอาศัย พร้อมทั้งจำลองสถานที่ให้มีบรรยากาศกลมกลืนกับความเป็นอยู่ของงูแต่ละชนิด เช่น งูจงอาง ที่ฉันสังเกตว่าเจ้างูชนิดนี้มันอาศัยอยู่ในบ้าน ที่กว้างกว่าเพื่อนเป็นกรงเหล็กขนาดใหญ่ ยืนมองอยู่นานก็ไม่เห็นตัวสักที
หรือ งูเขียวหางไหม้ ที่อาศัยอยู่ในกรงที่ครอบด้วยกระจก พร้อมด้วยเพื่อนบ้านอย่าง งูกะปะ งูแมวเซา ก็มีการทำต้นไม้ที่มีสีเขียวครึ้มมาตั้งไว้ในเลื้อยเล่นซึ่งก็ดูกลืนกับสีผิวของเจ้างูชนิดนี้ดี

นอกจากจะเดินชมงูแต่ละชนิดแล้ว ฉันยังมีโอกาสได้ชมการแสดงที่มีคุณหมอเป็นผู้บรรยายด้วย การบรรยายก็มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษสลับกันไป ซึ่งการแสดงนั้นเป็นการสาธิตการจับงูโดยเจ้าหน้าผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี

แต่แม้เป็นผู้คร่ำหวอดมานานก็ยังมีพลาดได้ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งโชว์มือขวาที่ปราศจากนิ้วชี้ให้ดู เพราะเกิดอุบัติเหตุระหว่างการแสดงถูกงูพิษกัดต้องสูญเสียนิ้วชี้ไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็ไม่ได้มีที่ท่าว่าจะรังเกียจหรือหวาดกลัวงูแต่อย่างไรยังคงแสดงโชว์คู่กับงูต่อไปเหมือนเดิม

ในการแสดงมีการนำงูแต่ละชนิดออกมาแสดงในศึกษา พร้อมกับบรรยายเสริมสร้างความความเข้าใจแก่ผู้ชมไปในตัว ฉันเพิ่งจะมีโอกาสได้เห็นการรีดพิษงูชัดเจนก็ที่นี่แหละ งูเห่าที่มีพิษร้ายแรงถูกเจ้าหน้าที่หยิบมาจากกล่องขังงูขนาดใหญ่ ก่อนจะจับสองข้างแก้มของมันให้อ้าปาก แล้วกดลงบนแผ่นแก้วใส ให้ผู้ชมมองเห็นพิษงูที่เป็นน้ำสีเหลืองไหลออกมาจากคมเขี้ยวของมัน

หลังจากการรีดพิษงูเจ้าหน้าที่คงเป็นห่วงกลัวว่ามันจะเพลีย จึงทำการป้อนอาหารด้วยการใช้คีบที่มีด้ามจับยาวๆคีบเนื้อสดๆยัดใส่ปากให้มันกินเป็นค่ารางวัลในการโชว์ ตบท้ายด้วยการนำงูหลามขนาดใหญ่ออกมาให้นักท่องเที่ยวรวมถ่ายภาพที่ระลึก

และเพื่อเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับงูให้มากขึ้นขณะนี้ทางสวนงูกำลังก่อสร้าง "ตึก 4 มะเส็ง" ภายในบริเวณสวนงู สถานที่แห่งนี้ จะเป็นสถานที่เพาะเลี้ยงงู ตลอดจนมีตู้งูที่จัดแสดงตามธรรมชาติของงูต่างๆกว่า 30 ตู้อยู่ภายใน มีโครงกระดูกงู พร้อมทั้งสถานที่แสดงการรีดพิษงู ห้องจัดแสดงงู แสดงกายภาพของงู สื่อความรู้แอนนิเมชั่น จัดแสดงนิทรรศการสาธิตการปฐมพยาบาลที่ถูกวิธี

ซึ่งตึกดังกล่าวอยู่ในระหว่างการตกแต่งภายใน เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะช่วยให้ผู้ที่เข้ามาสวนงูได้รู้จักงูอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น หลังจากการแสดงที่กินเวลาร่วมครึ่งชั่วโมงจบลง ฉันจึงลาคุณหมอและเจ้างูต่างๆในสวนงูพร้อมกระซิบบอกพวกมันว่า

"ตอนนี้รู้จัก เข้าใจ กลัวงูน้อยลงแล้ว"

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

"สวนงู"ตั้งอยู่ใน สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เปิดบริการ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. และในวันเสาร์เปิดบริการ 08.30-12.00 น. ค่าเข้าชมคนไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 70 บาท หากต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะต้องทำหนังสือแจ้งล่วงหน้า โทร. 0-2252 0161-4
กำลังโหลดความคิดเห็น