xs
xsm
sm
md
lg

เปิดรังหงส์ดำ แห่ง"ลำไทรฟาร์ม"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลายๆคนคงจะรู้จักกับ"หงส์แดง"กันดี ว่าคือฉายาของทีมฟุตบอลชื่อก้องโลกนามว่า "ลิเวอร์พูล" แห่งเกาะอังกฤษ

แล้วถ้าถามว่ารู้จัก "หงส์ดำ" หรือเปล่า?? หลายคนอาจจะพากันเกาหัว เกิดความงงปนความสงสัย ว่าหงส์ดำคืออะไร?? ทีมฟุตบอลน้องใหม่ หรือว่าฉายาของอะไรกันเล่า??

เอาล่ะอย่ามาคิดมาก หรือคิดกันไปไกลถึงไหนๆให้เสียเวลา เพราะอันที่จริงแล้ว"หงส์ดำ" (Black Swan) ก็คือสัตว์สวยงามชนิดหนึ่ง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า "Cygnus atratus" เป็นสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปออสเตรเลีย เป็นสัตว์ปีกที่มีความสง่างาม มีลำคอที่ยาวระหง เวลาว่ายน้ำชอบทำคอโค้งเป็นรูปตัวเอส มีขนสีดำตามลำตัว แต่จะมีขนสีขาวแซมอยู่ตรงปีก ลูกตามีสีแดง และเด่นตรงที่ปากมีสีแดงสดและมีแถบขาวตรงปลายปาก มีขาสีดำ โดยตามธรรมชาติหงส์ดำจะมีนิสัยอยู่รวมกันเป็นฝูง อาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบ แม่น้ำ หรือว่าหนองบึงที่น้ำไม่ลึกนัก เพื่อสามารถดำลงไปจับสัตว์น้ำ หรือพืชน้ำกินเป็นอาหาร

ปัจจุบันนี้ "หงส์ดำ" ไม่ใช่สัตว์ปีกที่หาดูได้ยาก หรือว่าต้องนั่งเครื่องบินไปเที่ยวถึงประเทศออสเตรเลีย แล้วถึงจะได้ชมความสวยงามของหงส์ดำ เพราะในประเทศไทยของเรา ก็มีหงส์ดำให้ได้ชื่นชมกัน อย่างเช่นตามสวนสัตว์ต่างๆ สวนสาธารณะใหญ่ๆ หรือตามฟาร์มที่มีการเพาะเลี้ยงสัตว์ปีก

ณ ตอนนี้ หงส์ดำได้กลายมาเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่ทางตลาดค้าสัตว์ปีกสวยงาม ให้ความสนใจกับการเพาะเลี้ยงขายกันเป็นจำนวนมาก โดยหนึ่งในนั้นก็คือที่ "ลำไทรฟาร์ม" ที่ตั้งอยู่ชานเมืองกรุง ในเขตหนองจอก ซึ่งถือว่าเป็นฟาร์มที่เพาะเลี้ยงหงส์ดำเป็นจำนวนมากแห่งหนึ่งของประเทศไทย และเปิดฟาร์มให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้วย

โดยฟาร์มแห่งนี้ มีถาวร สมานตระกูล หรือลุงถาวร เป็นเจ้าของฟาร์ม ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ปีกสวยงามมานมนาน และได้นำหงส์ดำมาเลี้ยงในฟาร์มจากความชอบส่วนตัว จนตอนนี้กลายเป็นแหล่งเพราะพันธุ์หงส์ดำที่มีชื่อเสียงขึ้นมา

"ผมเลี้ยงสัตว์สวยงาม สัตว์เศรษฐกิจมานานไล่ตั้งแต่พวกตระกูลไก่ นกพิราบ และก็มาชอบพวกนกสวยงาม เป็ดสวยงาม แล้วก็เลยคิดถึงหงส์ ก็อยากจะเลี้ยงหงส์ด้วย ผมเลือกหงส์ดำ เพราะหงส์ดำปากเค้าแดง สีก็ดำ ขนหลังมันจะหยิก เป็นความชอบส่วนตัว อยากจะซื้อมาเลี้ยงไว้เพื่อสวยงามในบ้าน เลยซื้อหงส์ดำมาคู่หนึ่งที่ตลาดอตก."

"ทีแรกก็ไม่ได้คิดจะมาทำตลาดอะไรหรอก เลี้ยงไว้เพื่อความสวยงาม เลี้ยงไว้ปีกว่าๆ เกือบ 2 ปี หงส์ที่ซื้อมาเป็นตัวเมียทั้งคู่ก็ออกไข่ ได้ลูกหงส์มา พอมาระยะหลังรู้ว่ามันพอที่จะขายได้ ก็ติดใจเลยไปซื้อพ่อแม่พันธุ์หงส์ดำมาเลี้ยง ผมก็หาประสบการณ์เอาเอง ถูกไม่ถูก ผมไม่ทราบ แต่ว่าผมอาศัยประสบการณ์และข้อมูลที่มีของผมเองนี่แหละ" ลุงถาวรเล่าถึงความเป็นมาของการเลี้ยงหงส์ดำให้ฟัง พร้อมกับพาเดินไปดูรังที่อยู่ของหงส์

สำหรับที่อยู่อาศัยของหงส์ดำ จะเลี้ยงอยู่ในพื้นที่ของบ่อปลาที่มีขนาดพื้นที่กว้างขวางกว่า 7 ไร่ มีสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ ซึ่งตอนนี้ที่ลำไทรฟาร์มมีพ่อแม่หงส์ดำอยู่ 8 คู่ โดยการเลี้ยงก็จะแยกให้หงส์ดำอยู่ด้วยกันเป็นคู่ๆ โดยใช้ตาข่ายมากั้นให้เป็นล็อคๆ และอยู่ล็อคละ 1 คู่ ใช้เนื้อที่ประมาณ 20 -30 ตารางเมตร

"เลี้ยงหงส์ต้องมีพื้นที่ที่มีน้ำ บวกกับที่บกด้วย เพราะหงส์จะอยู่ในน้ำประมาณ 80% กลางคืนจะอยู่ในน้ำตลอด ช่วงกลางวันแดดร้อนๆเค้าจะขึ้นมาบนบก ขึ้นมาพักผ่อนช่วงระยะเดียว พื้นบกไม่จำเป็นต้องใหญ่ ประมาณ 4-5 เมตร 6-7 ตารางเมตรก็พอต่อคู่ ส่วนอาหารผมก็ให้กินอาหารไก่บวกข้าวเปลือกนิดหน่อย และก็ให้กินผัก ส่วนใหญ่ผมจะเอาผักตบชวาให้กิน เพราะผักตบชวาในแหล่งแถวบ้านผมเยอะแยะ ผักตลาดเค้าก็กินแต่ก็ไม่มั่นใจในความปลอดภัยจากสารเคมี" ลุงถาวรบอกถึงการเลี้ยงหงส์

ลุงถาวรอธิบายต่อว่า การเลี้ยงหงส์นั้นไม่ยาก เพราะหงส์เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย และมีความเชื่อง แต่การจะเลี้ยงเพื่อออกไข่นั้นยาก หงส์ดำที่พร้อมจะเจริญพันธุ์ต้องมีอายุ 2 ปีขึ้นไป การเพาะพันธุ์หงส์ดำนั้นลุงถาวรจะจับคู่หงส์ตัวเมียให้กับหงส์ตัวผู้ ซึ่งการจะดูว่าหงส์ตัวไหนเป็นตัวผู้หรือว่าตัวเมียนั้น มีข้อแตกต่างกันเล็กน้อย คือ หงส์ตัวผู้คอจะยาวกว่าตัวเมีย ตัวเมียคอสั้น ตัวป้อมกว่า

"บางทีก็ดูยาก เพราะว่าตัวเมียบางตัวมีลักษณะที่ใกล้เคียงกับตัวผู้มาก จึงต้องดูรูปร่าง และดูพฤติกรรมด้วย อย่างถ้าเป็นตัวผู้มันชอบกางปีกแสดงความเป็นแมน ชอบแอ็คท่า ทำกร่าง ดูก้าวร้าว แต่ตัวเมียจะเรียบร้อย ดูอ่อนแอ" ลุงถาวรอธิบาย

เมื่อหงส์ดำถูกจับคู่แล้ว มันก็จะรักคู่ของมันตัวนั้นไปตลอด จะไม่ยอมเปลี่ยนคู่ง่ายๆ จนกว่าคู่ของมันจะตายไป แต่ถ้าคู่ตายไปแล้วก็สามารถเอาคู่ใหม่มาแทนได้ และเมื่อหงส์ถูกจับคู่แล้วก็จะปล่อยให้มันผสมพันธุ์กันเองตามธรรมชาติ โดยหงส์จะช่วยกันทำรัง เก็บพวกหญ้าแห้ง ฟางแห้ง ใบไม้แห้งมาทำรัง และจะออกไข่ประมาณ 5-6 ฟอง ซึ่งไข่หงส์จะมีขนาดโตกว่าไข่เป็ด 2 เท่า

การฟักไข่พ่อแม่หงส์จะพลัดเวรยามกันกกไข่ ดูแลไข่ ซึ่งหงส์นั้นเป็นสัตว์ที่หวงไข่มาก หากเข้าไปแย่งไข่มันจะปกป้องไข่เต็มที่ ซึ่งลุงถาวรจะปล่อยให้แม่หงส์ฟักไข่เองนานประมาณ 28-30 วัน แล้วจะนำไข่มาฟักต่อในตู้ฟักอีกประมาณ 5-7 วัน รวมเวลาฟักไข่ประมาณ 35 วัน ซึ่งการที่นำไข่มาฟักในตู้ฟักจะช่วยให้ลูกหงส์ปลอดภัยจากการที่แม่หงส์อาจจะทับลูกจนตายได้

"ลูกหงส์ที่เกิดมาจะดูขี้เหร่ ดูไม่สวย ดูเทาๆ หม่นๆ ไม่น่ารักเหมือนพ่อแม่ แต่พออยู่ไปประมาณเดือน 2 เดือนก็เริ่มถ่ายขน เอาขนใหม่ หลังจากนั้นจะทำการตัดปลายปีก เพื่อไม่ให้เค้าบิน เพราะที่จริงแล้วหงส์เป็นสัตว์ที่บินได้ ผมจะอนุบาลจนลูกหงส์มีอายุประมาณ 2-3 เดือนจึงเริ่มจำหน่ายได้ สำหรับราคาซื้อ-ขายหงส์ดำที่ได้จากการเพาะขยายพันธุ์นั้น ส่วนใหญ่จะจำหน่ายเป็นคู่ ราคาหงส์ดำที่มีอายุประมาณ 3 เดือน ตกคู่ละประมาณ 20,000 บาท" ลุงถาวรบอก

เมื่อถามว่าการเพาะเลี้ยงหงส์ดำขายนั้นสร้างรายได้ให้กับครอบครัวมากน้อยเพียงใด ลุงถาวรตอบทันทีว่า "ก็ดีครับ ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาซื้อหงส์ไปเลี้ยงก็เป็นพวกไฮโซ เพราะเชื่อว่าหงส์เป็นสัตว์ที่ตระกูลสูงส่ง ถ้าได้ครอบครองแล้ว ก็จะไปเสริมบารมีเจ้าของด้วย บางทีพวกรีสอร์ทก็มาซื้อไปปล่อยเพิ่มความสวยงาม หรือร้านอาหารที่มีพื้นที่อยู่ในน้ำก็เอาไปปล่อยดึงดูดลูกค้า ไม่ได้เลี้ยงไว้ทานเนื้อ เลี้ยงไว้เพื่อสวยงามเฉยๆ"

และตอนนี้นอกจากหงส์ดำที่สวยงามสง่าแล้ว ที่ลำไทรฟาร์มยังมีหงส์ขาวให้ดูด้วย และมีสัตว์ปีกสวยงามอื่นๆ ให้ชมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเป็ดสวยงาม อย่างเป็ดแมนดาริน เรดเฮด มินิมาลลาร์ด นกสวยงามต่างๆ อาทิ นกมาคอว์บลูแอนโกล์ด นกแอฟริกันเกรย์ นกเลิฟเบิร์ด และยังมีไก่แจ้ให้ได้ดูกันอีกด้วย

"ผู้ที่สนใจจะหาข้อมูลหรืออยากจะเลี้ยงหงส์ดำ หรืออยากจะมาเที่ยวชมที่ลำไทรฟาร์ม ผมยินดีนะครับ มาได้ทุกเมื่อ ไม่มีวันหยุด แต่ถ้าเป็นไปได้ก็โทรมาล่วงหน้าสักนิดก็ดี ผมจะได้อยู่ต้อนรับ และจะได้ให้ข้อมูลแก่ทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน กลุ่มเด็ก นักศึกษา กลุ่มนักทัศนาจรต่างๆ ก็มาเที่ยวชมได้ครับ" ลุงถาวร พูดเชิญชวนด้วยน้ำเสียงยินดีต้อนรับทุกคน

เรียกว่าหากนักท่องเที่ยวอยากจะชื่นชมกับความงดงามของหงส์ดำ รวมไปถึงสัตว์ปีกสวยงามชนิดอื่นๆ แล้วละก็ สามารถพากันมาได้ที่ “ลำไทรฟาร์ม” แห่งนี้ ซึ่งทุกคนจะได้รับทั้งความสุข ความสนุกสนานเพลิดเพลิน แถมยังได้รับความรู้ติดตัวกลับบ้านไปด้วยจากลุงถาวร

*********************************************
*********************************************

"ลำไทรฟาร์ม" ตั้งอยู่ที่ 33/1 ม.5 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ การเดินทางถ้ามาจากทางมีนบุรี เลยจากมีนบุรีมา 18 กม. จะถึงแยกหนองจอก เลี้ยวซ้ายมา 4 กม. ถึงถ.ลำไทร เข้าถ.ลำไทรมา 1.2 กม. ก็ถึงลำไทรฟาร์ม เปิดให้เที่ยวชมได้ทุกวัน ถ้าต้องการมาเป็นหมู่คณะติดต่อก่อนล่วงหน้าจะดี ที่เบอร์ 08-6991-1181, 08-1268-0825

กำลังโหลดความคิดเห็น