xs
xsm
sm
md
lg

เที่ยวหลากสไตล์กับโปรแกรมทางเลือกที่ “ฮอลิเดย์ อินน์ เชียงใหม่”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงใหม่ เมืองในดวงใจของใครหลายๆคน ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม วัฒนธรรมที่น่าหลงใหล ทำให้เมืองงามทางตอนเหนือของประเทศไทยแห่งนี้กลายเป็นจุดมุ่งหมายในการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลก

จากการต้องรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกทำให้โรงแรมที่พักในจังหวัดเชียงใหม่เกิดขึ้นมากมาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกสบาย และประทับใจ ท่ามกลางความเป็นเมืองแห่งทัศนียภาพและวัฒนธรรม “โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เชียงใหม่” ก็เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่ต้องการให้ผู้เข้าพักได้รับความอิ่มกายอิ่มใจ

ฮอลิเดย์ อินน์ เชียงใหม่ มีห้องพักหลายสไตล์ให้เลือกพักทั้งห้องเดี่ยว และห้องชุดที่มีขนาดใหญ่ ถึง 526 ห้อง และ ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิง ทำให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำปิงหรือดอยสุเทพได้ครบทุกห้อง ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกผ่อนคลาย พร้อมการต้อนรับด้วยรูปแบบวัฒนธรรมทางภาคเหนือของไทยอย่างอบอุ่น

นอกจากห้องพักแล้ว ฮอลิเดย์อินน์ยังมีบรรยากาศการกินอาหารนานาชาติ รวมถึงอาหารภาคเหนือแท้ๆแบบโรแมนติกบริเวณระเบียงริมน้ำ ซึ่งได้รับความนิยมใช้บริการเป็นอย่างมาก พร้อมความสะดวกสบายด้วยอุปกรณ์ Wi-Fi ที่ถูกติดตั้งไว้ทั่วบริเวณ เพื่อให้ผู้เข้าพักสามารถออนไลน์ได้อย่างง่ายดายและสะดวก

สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเชียงใหม่ จะได้รื่นรมย์ชมธรรมชาติ พักผ่อนหย่อนใจ และเรียนรู้วัฒนธรรมใน 10 กิจกรรมเด่น ที่จะทำให้คุ้นเคยกับวิถีชีวิตล้านนากับกิจกรรมแรก “ชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า-ทำบุญที่วัด-ขึ้นดอยสุเทพ” โดยเริ่มวันใหม่แต่เช้าตรู่ เดินทางสู่วัดใกล้ๆเพื่อทำบุญตักบาตรและรับศีลจากพระภิกษุสงฆ์ หลังจากเสร็จสิ้นการทำบุญแล้ว เดินทางกลับสู่โรงแรมเพื่อรับประทานอาหารเช้า จากนั้นออกไปเยี่ยมชมวัดพระธาตุดอยสุเทพ
 
วัดนี้เป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นหลักเมืองที่โดดเด่น ตั้งตระหง่านเหนือตัวเมืองท่ามกลางเทือกเขาเขียวชอุ่มเป็นฉากหลัง ด้วยระดับความสูง 1,067 เมตรจากระดับน้ำทะเล และได้รับการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.1924 นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นบันได้นาคสูงชันซึ่งมีทั้งหมด 306 ขั้น หรือเลือกนั่งรถกระเช้าขึ้นสู่ยอดก็ได้ ภายในเจดีย์ทองคำบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และเป็นสถานที่สำคัญที่พระภิกษุสงฆ์จากทั่วโลกเดินทางมาจาริกแสวงบุญตลอดปี

กิจกรรมที่สอง “ตื่นตากับศิลปะ งานช่างและวัฒนธรรมล้านนา” โดยการเยี่ยมชมหมู่บ้านงานฝีมือและโรงงานหัตถกรรมเพื่อเรียนรู้กระบวนการผลิตของที่ระลึกแบบภาคเหนือดั้งเดิมที่ ร่มบ่อสร้าง / หมู่บ้านทำร่ม หมู่บ้านที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ตลอดถนนสองข้างทางเต็มไปด้วยโรงงานผลิตสินค้าหัตถกรรม ภายในกระท่อมท่านจะได้เห็นช่างฝีมือทอผ้าไหมและประดิษฐ์ร่มจากผ้าและกระดาษซึ่งได้รับการระบายเป็นรูปสัตว์และดอกไม้สีสันสดใส หลายชั่วอายุคนของสมาชิกหมู่บ้านบ่อสร้างได้ประกอบอาชีพทำร่มกันฝนและร่มกันแดดเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวมากว่า 200 ปี

และที่ หมู่บ้านทอผ้าไหมและผ้าฝ้ายสันกำแพง หมู่บ้านที่โด่งดังไม่แพ้กันอีกแห่งหนึ่ง คือแหล่งผลิตสินค้าผ้าไหมและผ้าฝ้ายสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ช่างทอผ้าในหมู่บ้านจะทอผ้าจากกี่ไม้แบบโบราณ และสร้างสรรค์ผ้าหลากหลายแบบทั้งแบบผ้าพื้น ผ้ามัดหมี่ ผ้ายกพื้น ผ้าลายทาง ลายศิลป์และลายตาราง

กิจกรรมต่อไป “ขี่ช้างและล่องแพไม้ไผ่” ซึ่งจะนำนักท่องเที่ยวออกจากตัวเมืองเชียงใหม่สู่กลางป่าเขียวตลอดเส้นทางที่รายล้อมด้วยวิวอันสวยงาม แล้วสัมผัสประสบการณ์การฝึกหัดช้างให้ทำงานหนักอย่างการลากไม้ซุงให้ง่ายราวกับเป็นไม้เบาๆ ซึ่งเป็นทักษะที่ได้รับการอบรมถ่ายทอดมากว่าศตวรรษ จากนั้นนำคุณขึ้นขี่หลังช้างบนที่นั่งซึ่งทำจากไม้ ชื่นชมกับภูมิทัศน์อันน่าประทับใจจากมุมสูงและประสบการณ์ที่คุณจะไม่ลืมเลือน

และหากใครสนใจกิจกรรมผจญภัยและท้าทาย ลองแวะสถานีล่องแม่น้ำปิงซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถล่องแพไม้ไผ่อันน่าตื่นเต้นเพื่อชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าเขาและแนวหญ้าแฝกได้

กิจกรรมอีกหนึ่งทางเลือก “ผจญภัยไต่เขา” ชาวเขาเผ่าม้ง ลีซอ เย้า อาข่า ละว้า และกะเหรี่ยงต่างมีถิ่นฐานอาศัยอยู่ทั่วไปในหุบเขาทางภาคเหนือของประเทศไทย ชาวเขาเหล่านี้มีประเพณีความเชื่อในเรื่องภูตผีและเคารพบูชาวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ตามป่าเขาเหมือนกัน แต่ละเผ่าจะมีเครื่องแต่งกายที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ประเพณีการหาคู่ เกม การละเล่น วิถีทางเกษตรกรรม พิธีกรรมรับการเข้าวัยหนุ่มสาว ภาษาหรือสำเนียง ค่านิยมทางความสวยงามและนิสัยการรักษาสุขอนามัยแตกต่างกันไป

การ “เดินเขา” ที่เป็นที่นิยมนั้นใช้เวลาตั้งแต่ 2 ถึง 7 วัน ซึ่งจะนำผู้มาเยือนขึ้นสู่ภูเขาที่ปกคลุมด้วยฝืนป่า หุบผาและทุ่งหญ้า ซึ่งรวมไปถึงการไปเยี่ยมชมถิ่นที่พักอาศัยของชาวเขาในที่ราบสูงทุรกันดารสำหรับการค้างแรม ผู้นำทางที่ดีที่สุดคือชาวเขาตัวน้อยซึ่งสามารถพูดภาษาอังกฤษ ไทย และภาษาเผ่าท้องถิ่นได้อย่างน้อยสามภาษา

การเดินเขาโดยปกติคือการเดินทางด้วยเท้า บางครั้งโดยเรือ การขี่หลังช้าง ม้าหรือรถจี๊ป ซึ่งโดยมากมักเป็นการรวมวิธีเดินทางเหล่านี้เข้าด้วยกันสองถึงสามอย่าง ระยะเวลาของการเดินทางไม่แน่นอน

กิจกรรมที่ห้าได้แก่ “เยี่ยมชุมชนผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่บ้านทวาย” สำหรับผู้ที่ชอบของโบราณ ของทำเทียมของโบราณ เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน การเดินทางสู่บ้านทวายนั้นคุ้มค่ากับการออกจากตัวเมือง บ้านทวายนับเป็นหนึ่งในแหล่งงานฝีมือสำคัญที่สินค้าราคาไม่แพง งานแกะสลักไม้ถือเป็นงานที่เป็นเอกลักษณ์ของช่างแห่งบ้านทวาย ซึ่งได้รับการถ่ายทอดทักษะกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

งานแกะสลักไม้ของไทยนั้นได้รับการยอมรับในระดับโลกถึงคุณภาพที่ยอดเยี่ยม และช่างจากบ้านทวายแต่ละคนก็ต่างมีทักษะทางช่างที่หลากหลาย ทำให้เกิดผลงานอันวิจิตรในรูปแบบต่างๆ นอกจากอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและเครื่องเรือนแล้ว บ้านทวายยังมีผ้าไหม สินค้าจากไม้ไผ่ สบู่และน้ำมันหอม ตลอดจนเครื่องประดับและแจกันให้เลือกซื้อหาอีกด้วย

สำหรับกิจกรรมที่หก “ชมนิทรรศการไม้ดอกที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์” ในช่วงปี พ.ศ.2473 ดร.เคอร์จากประเทศอังกฤษได้ริเริ่มจัดตั้งสวนพฤกษศาสตร์เล็กๆในพื้นที่ระยะทาง 12 ก.ม. ตลอดเส้นทางหุบเขาแม่สา สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ในปัจจุบันเปิดขึ้นในปี พ.ศ.2535 และได้รวบรวมพรรณไม้ต่างๆมากมายซึ่งรวมถึงพรรณไม้หายาก สวนพฤกษศาสตร์นี้ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยค้นคว้า หอพักนักศึกษาและศูนย์ให้ข้อมูล ด้วยที่ตั้งบนเทือกเขาทำให้การมาเยือนสวนแห่งนี้เป็นกิจกรรมที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ผู้มาเยือนสามารถเดินชมตลอดเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีอยู่มากมาย โดยในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีจะมีการจัดนิทรรศการไม้ดอกอีกด้วย

กิจกรรมทางเลือกต่อไปคือ “ลอดถ้ำที่เขาเชียงดาว” หมู่ถ้ำเชียงดาวนั้นกินระยะทางมากกว่า 12 ก.ม. ลึกเข้าไปในภูเขา แต่ภายในมีพื้นที่หลักอยู่ห้าส่วนซึ่งปลอดภัยสำหรับการเข้าเยี่ยมชม หน้าทางเข้าหลักมีบ่อน้ำใสซึ่งเต็มไปด้วยปลาขนาดใหญ่หลายชนิดซึ่งได้อานิสงส์จากเหล่าคนขายอาหารปลาและเด็กๆที่กระตือรือร้นจะให้อาหาร น้ำในบ่อนี้ไหลมาจากภูเขาโดยตรง

ภายในถ้ำเป็นโถงกว้างซึ่งมีพระพุทธรูปประดิษฐาน และมีไกด์นำทางพร้อมโคมไฟก๊าซในมือคอยให้ความสว่างและคอยแนะนำสิ่งต่างๆภายใน ไกด์เหล่านี้คิดค่าบริการ 100 บาทโดยมีป้ายติดกำหนดไว้ชัดเจน และเป็นราคาสำหรับกลุ่มผู้มาเยือนไม่ว่ากลุ่มเล็กหรือใหญ่ ดังนั้นการรวมกลุ่มกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆจึงเหมาะสมเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

กิจกรรมที่แปดคือ “นวดตัวคลายเมื่อยล้า” การนวดเป็นบริการที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ศาสตร์แห่งการนวดแผนไทยนั้นได้รับการขัดเกลามาตลอดระยะเวลาหลายร้อยปีและถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นในจังหวัดเชียงใหม่ วิธีการนวดในปัจจุบันนี้มีประวัติความเป็นมาย้อนไปสู่ธรรมเนียมอายุรเวทของอินเดียซึ่งได้รับการพัฒนาโดยพระภิกษุในศาสนาพุทธตั้งแต่ 2000 ปีที่แล้ว

การให้หมอนวดหนึ่งถึงสองชั่วโมง ซึ่งรวมถึงการบีบกล้ามเนื้อ ดัน ดึงและผ่อนคลายนับเป็นประสบการณ์แปลกใหม่และช่วยคลายความเมื่อยล้าและอาการเจ็บปวดที่ได้รับระหว่างการท่องเที่ยว การเดินหรือการนั่งบนรถหรือเครื่องบินเป็นเวลานานๆ การนวดที่เป็นที่นิยมนั้นมีสามแบบด้วยกัน คือ

การนวดแผนไทย: การนวดชนิดนี้ช่วยคลายจุดกว่า 100 แห่งบนร่างกาย ด้วยการใช้น้ำหนักมือและร่างกายของหมอนวดในการลงแรงกดที่จะช่วยผ่อนกล้ามเนื้อที่ตึงและสร้างสมดุลให้แก่เส้นประสาทในร่างกายอีกครั้ง

การนวดน้ำมัน: การนวดแบบนี้จะอ่อนโยนกว่านวดแผนไทยและมีการใช้น้ำมันที่มีคุณสมบัติพิเศษเพื่อการรักษาเนื้อเยื่อในกล้ามเนื้อ

และการนวดเท้า: การนวดเท้าเป็นการกระตุ้นอวัยวะต่างๆในร่างกายผ่านการนวดเฟ้นที่จุดเส้นประสาทบนฝ่าเท้าซึ่งไม่ต่างกับการกดจุดเพื่อรักษาอาการป่วย นี่นับเป็นทักษะที่ได้รับการถ่ายทอดมาหลายชั่วอายุคนแล้วและได้ผลค่อนข้างดีในการล้างสารพิษในร่างกาย

ทางเลือกต่อไปเป็นกิจกรรม “ดื่มด่ำกับอาหารค่ำแบบล้านนาริมแม่น้ำปิง” หนึ่งในวิธีที่จะสัมผัสประสบการณ์แบบวัฒนธรรมล้านนาแท้ในจังหวัดเชียงใหม่คือการทานอาหารขันโตก ซึ่งเป็นธรรมเนียมอาหารแบบไทยเหนือดั้งเดิมเพื่อแสดงการต้อนรับแขกผู้มาเยือน คำนี้มีที่มาจากโต๊ะกลมขนาดเล็กที่ทำจากไม้เคลือบหรือไม้ไผ่ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อการนี้โดยเฉพาะ

ผู้มาเยือนจะได้รับพวงมาลัยดอกไม้และได้ชมการแสดงระหว่างที่ทานอาหาร จานเด่นที่มักเสิร์ฟบนขันโตกคือแกงฮังเล ซึ่งเป็นแกงเผ็ดหมูแบบพม่า น้ำพริกอ่องซึ่งทำจากหมูสับและมะเขือเทศ แกงข่าไก่ ทำจากไก่และผัก และข้าวเหนียวซึ่งเป็นอาหารหลักของชาวเชียงใหม่ ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสอาหารแบบขันโตกริมแม่น้ำปิงได้ที่ร้านอาหารริเวอร์ เทอเรซภายในโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์

และกิจกรรมทางเลือกสุดท้าย “เลือกซื้อของฝากถูกใจที่ตลาดไนท์บาซาร์” แหล่งจับจ่ายสินค้าที่ระลึกหลักในจังหวัดเชียงใหม่คือไนท์บาซาร์ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ตลาดนี้ครอบคลุมเนื้อที่กว่าสี่ช่วงตึกของถนนช้างคลาน เวลาตั้งร้านคือประมาณช่วงอาทิตย์ตกดิน (โดยทั่วไป 18:00 น.) และร้านค้าต่างๆเปิดขายจนถึงเวลาประมาณ 22:30 น.โดยบางร้านอาจปิดดึกยิ่งกว่านั้น

ตลาดแห่งนี้คือแหล่งรวมสินค้าทุกชนิด บางชนิดโดดเด่นเป็นพิเศษ แต่ที่ได้รับความนิยมมากคือ CD และ DVD เสื้อผ้า รองเท้า ผ้าไหมไทย งานฝีมือและกระเป๋าสตางค์ ราคาสินค้าในตลาดไนท์บาซาร์ไม่จำกัดแน่นอน และการต่อรองราคากับพ่อค้าแม่ค้าถือเป็นหนึ่งในความสนุกของการจับจ่าย แต่หากท่านต้องการสินค้าที่คุณภาพสูงขึ้น (รวมไปถึงราคา) ก็มีตลาดเวียงปิงไนท์บาซาร์ซึ่งเป็นตึกสองชั้นใกล้กับถนนท่าแพให้เลือกชม

นอกจากนี้บริเวณไนท์บาซาร์ยังมีร้านอาหารและบาร์มากมายสำหรับให้ท่านได้พักเหนื่อยและเรียกกำลังคืนมาก่อนจะออกเดินเลือกซื้อสินค้าในตลาดอีกครั้ง

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เชียงใหม่” ตั้งอยู่เลขที่ 318/1 ถ.เชียงใหม่-ลำพูน จังหวัดเชียงใหม่ 50000



กำลังโหลดความคิดเห็น