ดูเหมือนว่าปีนี้สายฝนจะโปรยปรายลงมาเร็วกว่าที่เคย เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนความแห้งแล้งในหลายพื้นที่หายไป มีแต่ความชุ่มฉ่ำเข้ามาแทน ในขณะที่เหล่าดอกไม้งามบางชนิดต่างก็พากันชูช่อเบ่งบานอวดโฉมความงามเป็นปรากฏการณ์ดอกไม้ป่าหน้าฝนอันน่ายลในหลายพื้นที่
สำหรับการเที่ยวชมทุ่งดอกไม้ยามหน้าฝนนั้น แบ่งอย่างง่ายๆเป็น 3 ช่วง คือ เริ่มต้นฤดูฝน ช่วงกลางฝน และช่วงปลายฝนต้นหนาวช่วงต้นฤดู เริ่มจากเดือนพฤษภาคม- กรกฎาคม พันธุ์ไม้จะเป็นไม้ล้มลุกที่มีเหง้าฝังอยู่ใต้ดิน แทงช่อดอกผลิบานหลังได้รับฝนครั้งแรก ไม้ดอกที่มักจะพบได้ในช่วงฤดูนี้ได้แก่ กระเจียว เปราะภู ดอกเข้าพรรษา ดอกดิน เป็นต้น
ส่วนช่วงกลางฤดูฝนเริ่มจากเดือนสิงหาคม-กันยายน ช่วงนี้ฝนจะตกหนักและพันธุ์ไม้ที่พบเห็นได้แก่ เทียนต่างๆ เช่น เทียนน้อย เทียนภู เทียนน้ำ หญ้าดอกคำ หญ้าปราบดอย ผักเบี้ย ตาเหินไหว แววมยุรา มณเฑียรทอง เป็นต้น
จากนั้นเมื่อฤดูกาลเข้าสู่ช่วงปลายฤดูฝนต้นหนาว ในราวเดือนตุลาคม-ธันวาคม ดอกไม้งามดอกเล็กดอกน้อยบนลานหินในหลายพื้นที่ต่างก็พากันออกดอกสะพรั่งไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้บรรดาเหล่าพันธุ์ไม้กินแมลงขนาดเล็กก็นิยมออกดอกรวมกันเป็นทุ่งกว้างในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน
หลากสถานที่ยลดอกไม้หน้าฝน
หากต้องการไปเที่ยวชมดอกไม้หน้าฝนจะไปที่ไหนดี เรื่องนี้ ชนินทร์ โถรัตน์ คอลัมน์นิสต์จากนิตยสาร nature explorer ผู้เชี่ยวชาญเรื่องดอกไม้ป่าในระดับต้นๆของเมืองไทย กล่าวแนะนำว่า แหล่งดูดอกไม้หน้าฝนมีอยู่ด้วยกันหลายที่ แต่ที่โดดเด่นที่สุด ต้องยกให้ "ทุ่งดอกกระเจียว" ที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต และที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง อ.หนองบัวระเหว ซึ่งอยู่ในจังหวัดชัยภูมิทั้งคู่
ดอกกระเจียวมีลักษณะคล้ายดอกข่า มีหัวอยู่ในดิน ขึ้นในป่าเต็งรังและป่าลูกหิน เมื่อได้รับน้ำฝนก็จะดันตัวกันขึ้นมาออกดอกสีชมพูอมม่วง บานสะพรั่งไปทั่วผืนช่วงหน้าฝนระหว่างเดือนมิถุนายน–เดือนสิงหาคมของทุกปี
"ดอกกระเจียวถือได้ว่าเป็น"ราชินี"ของดอกไม้หน้าฝน เพราะถือเป็นการประกาศว่าฤดูฝนได้มาเยือนแล้ว สำหรับผมมีความประทับใจส่วนตัวต่อดอกกระเจียวที่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม เพราะเมื่อมองแล้วเต็มตาสวยงาม อิ่มในความรู้สึก การได้มาเดินอยู่กลางสายหมอกฝน ที่เป็นละอองไอจางๆ มันดูคล้ายภาพฝันมากกว่าความจริง ที่นี้จึงเป็นไฮไลท์หนึ่งของหน้าฝนนี้ ที่คนรักดอกไม้และการถ่ายภาพไม่ควรพลาด'ชนินทร์กล่าวแนะนำ
นอกเหนือจากราชินีดอกไม้หน้าฝนอย่างดอกกระเจียวแล้ว ชนินท์ยังแนะนำอีกหลายสถานที่ ที่มีดอกไม้หลากหลายชนิดที่เกาะกลุ่มกันออกดอกเบิกบานรับสายฝน อย่างที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าจังหวัดพิษณุโลก ณ ลานหินปุ่ม และ ลานหินแตก ฐานที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์ในอดีต ที่ในฤดูกาลอื่นจะพบเจอเพียงโขดหินเท่านั้น แต่ถ้ามาในฤดูฝนสิ่งที่จะได้พบเพิ่มเป็นพิเศษคือ “ดอกเปราะภู”ที่เริ่มบานผลิดอกขึ้นเป็นดง
.ดอกเปราะภู นี้ก็เป็นพืชชนิดหนึ่งในตระกูลขิง ข่า เช่นกัน มีเหง้าอยู่ใต้ดินเหมือนดอกกระเจียว พอฝนตกเหง้าก็จะแตกตัวดันกันขึ้นมาตามซอกหินอย่างน่าอัศจรรย์ มีสีขาว ชมพู เหลืองสลับกันขึ้นทั่วลานหิน ดอกเปราะภูมีลักษณะใบเรียวแหลมมีความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร จะออกดอกระหว่างเดือนพฤษภาคม – กรกฏาคมของทุกปี ออกเป็นช่อที่ปลายยอด สวยงามอีกแบบหนึ่ง"ชนินท์อธิบาย
ส่วนอีกหนึ่งแห่งสำหรับชมดอกไม้หน้าฝนที่พลาดไม่ได้คือ "ดอกหงอนนาค" ที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่นี่คือสถานที่ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยกให้เป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์ได้รับการขนานนามว่า "ทะเลดอกไม้"ผลิดอกละลานตาช่วงเดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน กว่าสองพันไร่ในฝั่งไทยและต่อเนื่องจรดไปยังฝั่งลาวอีกกว่านับพันไร่
ดอกหงอนนาคสีม่วงอ่อนจะบานบนลานสนภูสอยดาวเต็มทุ่ง หลังจากดอกหงอนนาคบาน จากนั้นก็จะมีดอกสร้อยสุวรรณาบานตามไล่กันมา ก็จะสลับกันขึ้นในทุ่งทำให้เกิดเป็นภาพดอกสีม่วงดอกสีเหลืองสลับกันไป
อนึ่งการเที่ยวภูสอยดาวช่วงฤดูฝน นอกเหนือดอกหงอนนาคแล้ว ที่ภูสอยดาวยังมีสิ่งน่าสนใจอย่างอื่นอาทิ การเดินสำรวจพันธุ์ไม้ระหว่างการเดินทาง เห็ดหน้าฝน พืชแปลกตา และที่ขาดไม่ได้ก็คือ น้ำตกที่จะงามสมบูรณ์พิสุทธิ์ที่สุดในช่วงหน้าฝน ซึ่งทางทางอุทยานฯภูสอยดาวจะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไป ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม-15 มกราคมของทุกปีเท่านั้น โดยหลังจากนั้นจะปิดการท่องเที่ยวและการพักแรมบนลานสน ระหว่างวันที่ 16 มกราคม-30 มิถุนายน ของทุกปี
มหัศจรรย์ดอกไม้กินแมลง
นอกจากดอกไม้ป่าตามฤดูกาลแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จะสร้างความอัศจรรย์ใจแก่ผู้พบเห็นต่อการรับชมดอกไม้หน้าฝนก็คือ "ดอกไม้บานบนลานหิน"ที่ อุทยานฯผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี ในช่วงปลายฤดูฝนลานหินทรายริมฝั่งลำน้ำโขง บริเวณใกล้กับน้ำตกสร้อยสวรรค์ ในเขตอุทยานฯ
ดอกไม้ดอกเล็กๆหลากชนิด ต่างผลิบานพร่างพรายแต่งแต้มสีสวย ที่โดดเด่นมีหลายชนิดแต่ละชนิดล้วนได้รับชื่อพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จประพาสอุทยานฯทางภาคอีสาน
ไม่ว่าจะเป็น "สร้อยสุวรรณา" ดอกสีเหลืองเข้ม ขึ้นสลับกับ "ดุสิตา" ที่มีสีม่วงแกมน้ำเงิน หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันในชื่อภาษาถิ่นว่า "หญ้าข้าวก่ำน้อย" ชูช่อขาวโพลนด้วย "มณีเทวา"หรือกระดุมเงิน แซมด้วย"สรัสจันทร"สีม่วงล้วนแข่งขันอวดโฉมบนลานหินทราย
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ถึงความพิเศษของดอกไม้เล็กๆเหล่านี้ว่า มันเป็นดอกไม้กินแมลง ดอกไม้เหล่านี้อาศัยกินไรน้ำและตัวอ่อนของแมลงเล็กๆเป็นอาหาร นอกจากดอกไม้กินแมลงแล้ว ที่นี่ยังมีพืชกินแมลงอย่าง "จอกบ่วาย"หรือ "หยาดน้ำค้าง" ขึ้นอยู่หลายชนิด บางชนิดมองดูคล้ายดอกไม้ที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำค้าง หารู้ไปว่านั้นคือยางเหนียวกับดักล่อแมลงให้หลงกล ที่นี่จึงจัดเป็นสถานที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในหน้าฝนนี้
แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีเวลาน้อย ไม่สามารถไปยังสถานที่ท่องเที่ยวไกลๆได้ ชนินท์ก็มีสถานที่ใกล้กรุงมาแนะนำ
"ใครที่สนใจจะไปดูดอกไม้หน้าฝนก็ต้องไปดูที่อีสานตอนบนเพราะถือว่าเขาเป็นที่หนึ่ง แต่ถ้าใครสนใจจะชมดอกไม้หน้าฝนที่ใกล้กรุงเทพฯก็พอจะมีที่เขาใหญ่ เขาเขียว แต่ต้องหาดูในเขตพื้นที่ชุ่มน้ำ จึงจะได้เห็นดอกไม้หน้าฝน หรือเบื่อดูดอกไม้ก็ไปดูเห็ดแชมเปญสีชมพูอมแดง ที่เขตน้ำตกเหวสุวัต น้ำตกเหวนรก ก็ไม่เสียเที่ยว"
ชนินท์ยังได้ฝากข้อควรระวังไว้ให้นักท่องเที่ยวจดจำด้วยว่า สิ่งหนึ่งที่ต้องพึงระลึกอยู่เสมอเมื่อไปเที่ยวดูดอกไม้คือต้องไปให้ถูกที่ถูกเวลา ถ้าไปผิดเวลา ก็อาจจะเจอแต่ลานหินโล่งๆ ฉะนั้นควรโทรสอบถามสำนักอุทยานแห่งชาติของแต่ละแห่งเสียก่อน
ส่วนเรื่องการของแต่งกายในหน้าฝนก็สำคัญควรแต่งกายให้เหมาะสมต่อการเดินทาง อย่างเดินป่าสวมรองเท้าแตะก็ไม่เหมาะ ควรสวมรองเท้าผ้าใบ ใส่เสื้อผ้าที่แห้งเร็ว ถ้าใครชอบถ่ายรูปควรเตรียมอุปกรณ์ กันฝน ยากันทากติดตัวไปด้วย
"พึงจำไว้เสมอว่าสถานที่ท่องเที่ยว คือ สมบัติของส่วนรวม ทุกคนต้องช่วยกันรักษาอย่าสร้างความเสียหาย เดินในเส้นทางที่เจ้าหน้าที่เขากำหนด คิดจะดูดอกไม้อย่าเหยียบย่ำดอกไม้ และไม่เดินฝ่าออกนอกเส้นทางเด็ดขาด"ชนินท์กล่าวทิ้งท้าย
* * * * * * * * * * * * * * * * * *
เพื่อเป็นการไม่ผิดหวังในการไปชมดอกไม้ควรสอบถามข้อมูลก่อนการเดินทาง ดอกกระเจียว จะเบ่งบานเต็มที่ราวเดือนมิ.ย.-ก.ค. จุดชมน่าสนใจ คือ อช.ป่าหินงาม จ.ชัยภูมิ โทร.0-4489-0105 อช.ไทรทอง จ.ชัยภูมิ โทร.08-282-3437, 08-1877-8485, ดอกหงอนนาค จะบานสวยงามช่วงกลางฤดูฝน เดือนก.ค.-ส.ค. จุดชมน่าสนใจ คือ อช.ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์โทร. 0-5543-6001, ดอกเปราะภู บานเต็มที่ช่วงเดือนพ.ค.-ก.ค. จุดชมน่าสนใจคือ อช.ภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก โทร. 0-5523-3527,ดอกไม้บนลานหิน จะบานเต็มที่ช่วงปลายฝนต้นหนาว เดือนต.ค. - พ.ย.จุดชมน่าสนใจคือ อช.ผาแต้ม จ.อุบลราชธานี โทร. 0-4531-8026 ,0-4524-6332