xs
xsm
sm
md
lg

รื่นรมย์ชมนก ในสวนกลางกรุง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย: หนุ่มลูกทุ่ง

เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าตอนกลางวันนกฮูกเจ้าแห่งราตรีกาลทำอะไรกันอยู่??? แล้วรู้ไหมว่านกที่มองเห็นเป็นเพศผู้หรือเพศเมีย???

หลายคำถามที่สร้างความอยากรู้อยากเห็นถึงพฤติกรรมความเป็นอยู่ของเจ้าสัตว์ตัวน้อยชนิดนี้ คั่งค้างอยู่ในใจฉันมาช้านานแล้ว

กระทั่งมีโอกาสได้มาเดินชมนกในสวนสาธารณะกับ"สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย" ที่ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จัด"โครงการ Bird Walk"ขึ้น ซึ่งกิจกรรมจะมีขึ้นในทุกวันเสาร์แรกของเดือน โดยจะหมุนเวียนไปตามสวนสาธารณะต่างๆในกรุงเทพฯ เพื่อเปิดโอกาสในผู้ที่สนใจได้เรียนรู้ดูนกกันอย่างทั่วถึง

สำหรับฉันนั้นตามมาดูนกกับทางสมาคมฯที่ "สวนหลวงร.9"เขตประเวศ สวนสาธารณะที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในประเทศขณะนี้

ก่อนดูนกฉันมีโอกาสนั่งพูดคุยกับคุณ กวิน ชุติมา นายกสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย ซึ่งได้อธิบายถึงโครงการนี้ว่า นกเป็นสัตว์ที่น่ารัก สวยงาม ทำให้จิตใจเบิกบานและมีความสุข นอกจากนี้ยังทำให้ครอบครัวมีกิจกรรมที่สร้างสรรค์ทำร่วมกัน ทางสมาคมฯจึงจัดกิจกรรมดูนกเป็นประจำที่สวนสาธารณะ เพื่อช่วยเผยแพร่กิจกรรมดูนกให้แพร่หลาย

ส่วนอีกหนึ่งประเด็นคือสวนสาธารณะหลากหลายแห่งในกรุงเทพฯ มีนกชนิดต่างๆอยู่มากมาย เช่น "สวนลุมพินี" นี่ก็มีนกกว่า 100 ชนิด ส่วนที่"สวนวชิรเบญจทัศ"หรือสวนรถไฟแถวตลาดนัดจตุจักรนี่ก็ใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่ เพราะมีนกหายากให้ดูกันหลายชนิดทีเดียว เหตุที่เป็นเช่นนั้น คุณกวินบอกว่า เนื่องจากมักจะมีนกแปลกๆที่ขายกันในสวนจตุจักรหลุดจากกรงหลงเข้ามาในสวนรถไฟเป็นประจำ งานนี้ฉันฟังแล้วก็ได้เกิดหัวร่อมิได้ร่ำไห้ไม่ออกไปพักใหญ่

หันมาดูกิจกรรมในครั้งนี้กันบ้าง ซึ่งนี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้สนใจการดูนกที่ใครเล่าจะคิดว่าในเมืองหลวงที่พลุกพล่านอย่างกรุงเทพฯ จะมีนกแอบซ่อนอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้ให้เราแอบเฝ้าดูอยู่ไม่น้อยทีเดียว

ในการดูนกครั้งนี้ฉันสังเกตว่า จะมีการแบ่งทีมกันเป็นกลุ่มย่อยๆ ราว 8-10 คน โดยมีอาสาสมัครของทางสมาคมฯหนึ่งคนเป็นวิทยากรมาทำหน้าที่ช่วยคลายความข้องใจต่างๆเกี่ยวกับนกที่เห็นให้เรากระจ่างแจ้งมากขึ้น พร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ใช้ในการดูนกที่ทางสมาคมฯเป็นผู้แจกแจกให้ เป็นกล้องส่องนกแบบสองตาที่มีกำลังขยายขนาด 8-10 เท่า ซึ่งหากมีกำลังขยายมากกว่านี้อาจจะทำให้ผู้ดูนกปวดตาได้ และกล้องอีกตัวหนึ่งเป็นกล้องของวิทยากรชนิดกล้องแบบตาเดียว พร้อมขาตั้งกล้องมีกำลังขยายถึง 60 เท่า เรียกได้ว่าเห็นชัดเหมือนมีนกมาเกาะอยู่ข้างหน้าทีเดียว

สำหรับพี่วิทยากรของฉัน เขามีนามกรว่า "ไก่ บางจาก" โดยที่มาของชื่อนี้ไม่ใช่ว่าบ้านของพี่ไก่อยู่ที่บางจากหรอกนะ แต่ว่าพี่ไก่ทำงานกับ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ต่างหาก ซึ่งบริษัทนี้ถือว่าเป็นบริษัทที่ให้การสนับสนุนการดูนกแบบเป็นจริงเป็นจังถึงขั้นมีชมรมดูนกเป็นกลุ่มเป็นก้อนในบริษัทเลยทีเดียว

เมื่อพร้อมทั้งสมาชิกและผู้นำแล้วก็เริ่มออกเดินทางดูนกกันได้ พี่ไก่เริ่มพาฉันและพลพรรคออกดูนกและเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ส่งสัญญาณให้หยุด เพราะเจอเป้าหมายบินร่อนลงเกาะอยู่บนสายไฟฟ้า พี่ไก่เปิดโอกาสให้ส่องดูกันอยู่พักใหญ่ ก่อนจะถามว่ารู้ไหมว่าคือนกอะไร นักดูนกมือใหม่ส่ายหน้ากันเป็นแถว ร้อนถึงวิทยากรต้องรีบเฉลยให้ฟังว่าคือ "นกเขาชวา" นกชนิดนี้จะสังเกตได้จากลักษณะเฉพาะขอมันคือมี ตาสีฟ้า คอสวยเหมือนคอม้าลาย

ฉันว่าดูนกนี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สังเกตจากพี่ไก่วิทยากรของเราที่ต้องมีสายตาว่องไว คอยสอดส่ายสายตามองซ้ายทีขวาทีตลอดเวลา ว่าจะมีนกอะไรให้เราได้ดูระหว่างที่สอดสายตาหานกอยู่นั้น พี่ไก่ก็มีสีหน้าดีใจเป็นอย่างมากเพราะเจอนก"นกสีชมพูสวน"ซึ่งพี่ไก่อธิบายว่า เป็นนกที่มีขนาดเล็ก กระโดดไว ดูยาก เคลื่อนไหวเร็ว เราต้องขยับตัวตามตลอด เป็นนกกาฝากชนิดหนึ่ง กินลูกไม้เป็นอาหาร และใกล้ๆกันยังพบ"นกเอื้องสาลิกา"ที่พี่ไก่บอกว่า เมื่อไหร่ที่เห็นนกชนิดนี้ก็แสดงว่าชุมชนเริ่มเข้าใกล้ป่ามากขึ้น

และจากการแอบดูนกในวันนั้น สำหรับมือใหม่หัดดูนกอย่างฉันได้เรียนรู้พฤติกรรมของนกหลายชนิดด้วยกัน อีกทั้งยังได้รู้จักกับนกที่ไม่เคยรู้จัก อย่าง นกกะติ๊ดขี้หมู นกกระเต็นน้อยธรรมดา นกปรอทหัวโขน ซึ่งนอกจากจะเพิ่งเห็นครั้งแรกตัวเป็นๆกันก็คราวนี้แล้ว ฉันยังไม่คิดว่าจะมีอยู่ในกรุงเทพฯอีกด้วย

หรือแม้แต่"นกกระจอกบ้าน" ที่เห็นโผผินบินกันชินตา ฉันก็เพิ่งรู้ว่าเวลามันอยู่กับพื้นมันไม่เดิน แต่จะใช้วิธีการกระโดดแทน คงเป็นโชคดีของฉันที่การมาดูนกครั้งนี้ ได้เจอกันนกที่พี่ไก่เล่าว่าปกติจัดอยู่ในขั้นหายากในสวนสาธารณะ แต่เราเจออยู่หลายชนิดด้วยกันอย่าง "นกเขาไฟ" ที่ไม่ค่อยโผล่เห็นในเมืองหลวง นกชนิดนี้ทางอีสานเรียก "นกเขาตู้" เพราะไม่ค่อยร้อง

ส่วนตัวที่ฉันเห็นแล้วชื่นชอบก็เห็นจะเป็น"นกตีทอง"ที่ได้รับสมญานามให้เป็นราชินีนกเมือง พี่ไก่วิทยากรอธิบายถึงที่มาของชื่อนกชนิดนี้ว่า เนื่องจากเสียงของมันไพเราะคล้ายการตีทอง คนจึงเรียกว่านกตีทอง นกชนิดนี้กินลูกไทร ลูกโพธิ์เป็นอาหารและเป็นตัวช่วยให้ต้นไม้แพร่พันธุนับว่าเป็นประโยชน์ต่อระบบนิเวศน์ไม่น้อย

เดินดูนกชมสวนอยู่นานจนแดดเริ่มแผดแสงจ้า พี่ไก่ก็เกิดอาการดีอกดีใจใช้วิทยุสื่อสารติดต่อกับวิทยากรท่านอื่นเป็นยกใหญ่ แกบอกว่าเจอนกสุดพิเศษ คือ "นกเขาเปล้าคอสีม่วง"ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มนกที่หาดูได้ยากมากในสวนสาธารณะ และเป็นนกสีสวยหลากสีสัน เกาะอยู่บนกิ่งไม้ใกล้สวนจีน

ระหว่างที่มะรุมมะตุ้มรุมดูนกเขาเปล้าคอสีม่วงอยู่นั้น ฉันจึงซักถามด้วยความอยากรู้จากพี่ไก่หลายข้อด้วยกัน เช่นว่าทำไมเราต้องตื่นมาดูนกในตอนเช้าดูนกตอนสายๆไม่ได้หรือ พี่ไก่ไขข้อกระจ่างให้ฉันทันทีแกบอกว่า นกมีการใช้ชีวิตประจำวันคล้ายคลึงกับคน คนตื่นแต่เช้าไปทำงาน นกก็ต้องออกจากรังแต่เช้าเพื่อหากิน เที่ยงคนพัก นกก็พัก เพราะแดดร้อน จะดูนกได้อีกครั้งต้องเป็นตอนเย็นตอนนกกลับรัง ฉะนั้นช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการดูนกคือเช้ากับเย็น

อย่างการสังเกตว่านกตัวไหนเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย ก็สังเกตได้ง่ายที่สุดคือดูจากสีสันบนตัวนก ถ้าเป็นนกตัวผู้จะมีสีเข้มหรือสีสันสวยงามกว่านกตัวเมียในวงศ์เดียวกัน เพราะสีสันสามารถใช้ล่อตัวเมียได้ ตรงข้ามกับตัวเมียที่ต้องทำสีให้กลมกลืนกับธรรมชาติ เพราะสะดวกเวลากกไข่ปลอดภัยจากสายตาศัตรู ซึ่งถ้าอยากรู้ก็ต้องหมั่นศึกษาและสังเกตเองจากการดูนกบ่อยๆ หรือถ้าอยากรู้จักนกให้มากขึ้นก็สามารถมาดูในสวนสาธารณะกับทางสมาคมฯได้ โดยทางสมาคมฯจะจัดกิจกรรมดูนกครั้งต่อไปในวันเสาร์แรกของเดือนมิถุนายนที่สวนรถไฟ ทั้งนี้ใครสนใจก็ลองตามไปดูกันได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ส่วนวันนี้ฉันขออำลาสวนหลวง ร.9 ไปพร้อมๆกับความรู้เรื่องนกที่ได้มาอย่างเต็มที่

นอกจากนี้สิ่งที่เหนือความคาดหมายสำหรับมือใหม่หัดดูนกอย่างฉันก็คือ ไม่เคยคาดคิดว่ากรุงเทพฯจะมีนกสวยๆงาม นกแปลกและหายาก ให้ชมกันหลากหลายถึงเพียงนี้ นี่แหละคือเสน่ห์แห่งเมืองกรุงที่หากค้นหาให้ลึกลงไปความงามยางอย่างที่แอบแฝงซ่อนเร้นอยู่ก็จะปรากฏให้เห็น

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สอบถามกิจกรรมการดูนกจาก"สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย"เพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2691-5976,0-2691-4816

กำลังโหลดความคิดเห็น