หนีร้อนไปชุ่มฉ่ำ ที่ "น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น"

หลังลมหนาวผ่านไป ลมร้อนมาเยือน ปีนี้จากภาวะโลกร้อนทำให้อากาศในบ้านเราที่ร้อนอยู่แล้วทวีความร้อนระยับตับแล่บมากขึ้น จนเพื่อนร่วมงานของ "ผู้จัดการท่องเที่ยว"บ่นร้อนๆๆ เป็นหมีกินผึ้งได้ทุกวัน

จะว่าไปแล้วไม่ว่าจะทั้งเรื่องดินฟ้าอากาศหรือว่าเรื่องวุ่นๆ ในบ้านเมืองเรา บอกได้เลยว่าทำอะไรไม่ได้หรอก นอกจากจะทำใจให้สบายๆ ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศรอบๆ ตัวเองเป็นดีที่สุด เหมือนอย่างที่ "ผู้จัดการท่องเที่ยว" เลือกที่จะไม่มานั่งพร่ำบ่นเหมือนคนบ้า และอารมณ์เสียหงุดหงิดไปกับความร้อนรอบๆ ตัว

แต่เราเลือกที่จะหาทางหลบลมร้อน ด้วยการไปเที่ยวผ่อนคลายความร้อนกันที่น้ำตกจะดีกว่า เพราะว่าใกล้ๆ กรุงเทพฯ อย่างที่จ.กาญจนบุรี ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีน้ำตกสวยๆ ให้เลือกเที่ยวมากมาย และน้ำตกที่เราเลือกมาเที่ยวก็คือ "น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น" ที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

"น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น" ถือว่าเป็นน้ำตกขนาดใหญ่และมีความสวยงามมากแห่งหนึ่งของจ.กาญจนบุรี เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยแม่ขมิ้น ซึ่งมีต้นน้ำจากป่าดงดิบแล้งในเทือกเขากะลาซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของ อช. เขื่อนศรีนครินทร์ และไหลผ่านเทือกเขาหินปูนที่ลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้น ๆ เกิดเป็นน้ำตก 7 ชั้น ที่มีความงดงามและมีชื่อเรียกตามลักษณะเด่นของน้ำตกแต่ละชั้น ว่า ดงว่าน ม่านขมิ้น วังหน้าผา ฉัตรแก้ว ไหลจนหลง ดงผีเสื้อ และร่มเกล้า ซึ่งน้ำตกแห่งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวได้ทุกฤดูกาล เพราะว่าที่นี่มีน้ำให้ได้เล่นตลอดทั้งปี โดยช่วงหน้าฝนน้ำจะเยอะที่สุด ส่วนช่วงปลายฝนต้นหนาวน้ำตกจะดูนุ่มพลิ้วสวยที่สุด ในขณะที่หน้าร้อนเช่นนี้แม้สายน้ำตกจะน้อยไปบ้างแต่กระนั้นก็ยังคงมีมากพอให้เราหลบร้อนจากกรุงเทพฯลงไปนั่งเอาก้นแช่น้ำได้อย่างชุ่มฉ่ำสบายใจ

สำหรับการเดินทางสู่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นของ "ผู้จัดการท่องเที่ยว" ในครั้งนี้ เราเลือกใช้เส้นทางจากกรุงเทพฯ วิ่งมาเมืองกาญจน์ แล้วก็มาใช้บริการข้ามแพขนานยนต์ ซึ่งเป็นเส้นทางไปยังน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นที่สะดวกสบายที่สุด และช่วยย่นระยะทางได้ดีนักเชียว แถมระหว่างทางที่ลงแพข้ามเขื่อน ยังได้ชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเขื่อนอีกต่างหาก

โดยการข้ามแพขนานยนต์ก็คือ การขับรถลงไปในแพขนาดใหญ่ที่สามารถบรรทุกรถได้จำนวนหลายคัน แล้วก็จะมีคนขับแพที่จะพาทั้งเราและรถข้ามเขื่อนศรีนครินทร์ไป ซึ่งเราต้องทำการข้ามแพถึง 2 ช่วง

ครั้นพอขึ้นมาจากแพขนานยนต์ช่วงที่ 2 แล้วเราก็ต้องขับรถไปตามถนนลูกรังอีกสักระยะ ก็จะมาถึงยังอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และก็จะมีป้ายบอกทางไปน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ซึ่งมีให้เลือก 2 ทาง คือทางแรกจะเลือกพักรถและเริ่มเที่ยวน้ำตกตั้งแต่ชั้น ที่ 1 หรือว่าจะเลือกขับรถขึ้นเขาไปอีกนิด ก็จะถึงจุดพักช่วงที่ 2 ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ และเป็นจุดชมน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นชั้นที่ 4 ชั้นฉัตรแก้วที่ถือว่าสวยงามมากที่สุด แถมยังมีลานกางเต็นท์ และบ้านพัก ร้านค้าสวัสดิการของอุทยานฯ คอยให้บริการอำนวยความสะดวกด้วยอีกต่างหาก งานนี้เราจึงขอตัดสินใจที่จะเลือกเที่ยวชมความงดงามของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ตั้งแต่ชั้นที่ 4 ขึ้นไปจะดีกว่า

"ผู้จัดการท่องเที่ยว" ขับรถมาถึงที่ยังที่ตั้งอุทยานฯ ด้านบน เราก็ได้ยินเสียงน้ำตกไหลดังซู่..ซู่...มาแต่ไกล เพราะว่าห่างจากที่ตั้งทำการอุทยานประมาณ 100 ม. เราก็จะได้พบกับภาพความงดงามของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นชั้นที่ 4 ที่เรียกว่าชั้น"ฉัตรแก้ว" ที่ถือว่ามีความงดงามที่สุด จากบรรดาน้ำตกที่มีถึง 7 ชั้น

น้ำตกชั้นที่ 4 นี้มีความงดงามเป็นอย่างมาก ตัวน้ำตกดูสวยงามใหญ่โต และร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ที่ขึ้นครึ้มอยู่ข้างทางตัวน้ำตก พร้อมกับมีสายน้ำใสๆ ไหลลดหลั่นไร่เรื่อยจากความสูงด้านบนลัดเลาะมาตามชั้นหินปูนมาสู่เบื้องล่าง ทำเอายามที่ได้มองสายน้ำไหลเรื่อยเช่นนี้ มันช่วยให้คลายความร้อน เกิดความรื่นรมย์ในจิตใจเสียยิ่งนัก

หลังจากที่ชื่นชมกับความงามของน้ำตกชั้นฉัตรแก้วจนอิ่มเอมแล้ว เราก็ออกเดินเท้าเดินไปตามแนวทางเดินป่าที่ทางอุทยานฯ จัดทำไว้ โดยเป็นเส้นทางเดินสบายๆ ที่ร่มครึ้มไปด้วยธรรมชาติของป่าไผ่อันอุดมสมบูรณ์ เพื่อตรงไปยังน้ำตกชั้นที่ 5 ที่มีชื่อว่า "ไหลจนหลง"

ที่ถือว่าเป็นน้ำตกชั้นที่มีความพิเศษคือ หลักจากที่น้ำตกแยกจากลำห้วยสายหลังแล้ว กลับไหลตกลงหลุมยุบ ทำให้สายน้ำหายไป บริเวณหลุมยุบดังกล่าว เมื่อฝนตกลงมาทำให้หินปูนเกิดการชะล้าง ลึกกร่อน เป็นโพรง เป็นรูเล็กๆ ทำให้สายน้ำที่ไหลมาบริเวณนี้ มุดลอดได้สะดวก แต่ไม่สามารถมองเห็นธารน้ำได้ น้ำตกชั้นนี้จึงไม่ไหลรวมกับน้ำตก ชั้นที่ 4 3 2 และ 1 แต่จะไหลไปโผล่บริเวณเลยน้ำตกชั้นที่ 1 ไปแล้ว และไหลกลับลงห้วยเหมือนเดิม และเมื่อเราได้ไปเห็นแล้วก็ประจักษ์แจ้งกับตา เพราะว่าไม่เห็นสายน้ำเลยจริงๆ ดูแล้วก็แปลกและฮาดีที่น้ำตกแต่ดันไม่มีน้ำตกให้เห็นเลยสักนิด

ทว่าถึงแม้น้ำตกชั้นที่ 5 จะไม่มีน้ำตกลงมาให้เห็น แต่ก็ยังมีน้ำตกชั้นถัดไปให้ชมกันอีก นั่นคือ น้ำตกชั้นที่ 6 "ดงผีเสื้อ" น้ำตกชั้นนี้ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะว่า ตรงบริเวณรอบๆ น้ำตกจะมีผีเสื้อหลากสีสันบินกันให้เห็น ส่วนตัวน้ำตกก็เป็นธารน้ำที่ไหลลดหลั่นตามกันมาเป็นชั้นๆ ไม่สูงมากนัก

จากชั้นที่ 6 เราเดินเลยต่อไปอีกนิดก็มาถึงยังน้ำตกชั้นสุดท้ายชั้นที่ 7 ที่มีชื่อเรียกว่า"ร่มเกล้า" เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม สายน้ำไหลมาจากชั้นหินปูนด้านบนที่แผ่กว้าง ไหลตกลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง เหมาะแก่การลงเล่นน้ำเย็นๆ เสียเหลือเกิน ซึ่งเราก็ไม่ได้ลงเล่นน้ำตกหรอกน่ะ แค่ได้นั่งพักเหนื่อย เอาแขน เอาเท้าจุ่มๆ น้ำตกก็เย็นสดชื่นใจ เอามากๆ แล้ว พร้อมกับมีแรงที่จะเดินกลับไปยังน้ำตกชั้นที่ 4 ซึ่งเป็นจุดหมายที่พักของเรา

ซึ่งระหว่างทางเดินกลับนั้น"ผู้จัดการท่องเที่ยว" ก็ได้ใช้เวลาในการเดินชื่นชมธรรมชาติรอบๆ ตัวอย่างเต็มอิ่ม ได้ชมนก ชมไม้ และเดินไร่เรื่อยมาตามน้ำตกแต่ละชั้น พร้อมกับนึกอยู่ในใจว่า ธรรมชาตินี้มันช่างมีความอัศจรรย์จริงๆ มันสามารถช่วยคลายความร้อนอบอ้าวของอากาศ และยังช่วยคลายความร้อนลุ่มในจิตใจของเราให้เย็นลงได้อย่างไม่น่าเชื่อเลย

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี การเดินทางจากรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหมายเลข 323 ถึงจ.กาญจนบุรี จากนั้นใช้เส้นทาง 3199 กาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ จนถึงด่านการไฟฟ้าเขื่อนศรีนครินทร์ (กฟฝ.) สามารถเลือกเดินทางได้ 3 เส้นทาง คือ 1. ทางรถยนต์ ทางแพขนานยนต์ โดยข้ามแพ 2 ครั้ง และทางเรือ

นอกจากน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นแล้ว ที่อช.เขื่อนศรีนครินทร์ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีก อาทิ "น้ำตกผาตาด" เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่สวยงามจนได้ชื่อว่าเป็นทีลอซูเมืองกาญจน์ "น้ำตกผาสวรรค์" น้ำตก 7 ชั้นที่อยู่กลางป่าลึก และการนั่งเรือเที่ยวชมทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ สามารถสอบถามรายละเอียดการเดินทางและสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ อช.เขื่อนศรีนครินทร์ โทร. 0-3451-6667

ที่พัก               ร้านอาหาร               เทศกาลและงานประเพณี

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
"เมืองกาญจน์" สวรรค์แห่งใหม่ของนักเที่ยวผจญภัย
สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี
เสน่ห์แห่งสังขละ เมืองบาดาล กลางสายน้ำ
ผจญป่าฝ่าสายน้ำที่"กาญจนบุรี" ทริปนี้เหนื่อย-เปียก แต่มันสะใจ