xs
xsm
sm
md
lg

"ปาย" เมืองในฝัน...ในโลกความจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ว่ากันว่าชื่อเสียงของอำเภอปาย ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนโด่งดังนับตั้งแต่ฝรั่งตาน้ำข้าวคนหนึ่งได้เช่ามอเตอร์ไซค์วิบากจากจังหวัดเชียงใหม่ ขี่ลัดเลาะเทือกเขานับพันโค้งมายังดินแดนปิดที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักในเวลานั้น เขาตกหลุมรักปายเข้าอย่างจัง ในความงามของภูมิประเทศที่ถูกโอบล้อมด้วยขุนเขามากมาย เป็นดังเมืองเล็กกลางขุนเขาอันสงบงามที่ชาวบ้านเปี่ยมไปด้วยอัธยาศัยไมตรี ทำให้เขาต้องกลับมาเยือนที่นี่อีกหลายครั้งเพื่อเก็บข้อมูลไปเขียนหนังสือ

จากนั้นปายเริ่มเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คเกอร์ ก่อนที่จะโด่งดังฮอตฮิตติดตลาดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งความสงบงามของปายนั้นทำให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองในฝันของใครหลายๆคน

มาวันนี้ปายเปลี่ยนไปอย่างน่าใจหาย จนหลายๆคนอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า ปายเมืองในฝันของใครหลายๆคนอาจจะกลายเป็นเมืองฝันสลายได้ในเวลาไม่นาน ถ้าหากยังคงปล่อยให้ปายเติบโตแบบไร้การควบคุมและขาดการวางแผนที่ดี

"ปาย" เมืองในฝัน

ไกรสร วิชัยกุล เจ้าของร้านปายฟ้าปายฝันสตูดิโอ อ.ปาย ถือเป็นหนึ่งในผู้ที่(เคย)หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของเมืองปายในยุคแรก เล่าว่า ปายเป็นเหมือนดินแดนในอุดมคติของหลายๆคนรวมถึงตัวผมเองด้วย ปายมันต้องมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีแม่น้ำปายไหลผ่านส่วนหนึ่ง มองไปเป็นทุ่งนา แม่น้ำ ภูเขา มันช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานวาดรูปได้เป็นอย่างดี

"ผมเกิดที่นครศรีธรรมราช และเลือกที่จะไปเรียนมหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่ ตอนเรียนอาจารย์เคยพามาเที่ยวเขียนรูปที่ปายหนหนึ่ง เห็นภูเขาและความเป็นธรรมชาติที่นี่สวยดีเลยติดใจ ตอนแรกก็หาว่าเรียนจบแล้วทำอย่างไรถึงจะได้เขียนรูปต่อ คิดว่าน่าจะหาที่สงบๆเขียนรูปเก็บไว้ เพราะอยู่เชียงใหม่มา 5 ปี คนเริ่มเยอะเริ่มที่จะวุ่นวายขึ้นเยอะ จึงคิดว่าต้องเปลี่ยนที่อยู่จากเชียงใหม่ไปหาที่ที่มันสงบๆกว่านี้ แล้วปายคือใช้ ไม่วุ่นวายเกินไป เงียบสงบมีสมาธิมากขึ้น เมื่อเรียนจบจึงได้กลับมาปายอีกรอบหนึ่ง แล้วคิดที่นี่น่าจะพอทำร้านได้ เพระไม่ค่อยมีร้านแบบแกลอรี่ วาดรูป ส่วนมากจะเป็นร้านโปสการ์ด เลยลองทำดู"ไกรสรกล่าว

ด้วยความที่ปายเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มีวัฒนธรรมของตนเอง ในปายมีคนหลายชนชาติ เช่น จีนยูนนาน เขาก็รักษาวัฒนธรรมของเขาอย่างดี มีบ้านดิน มีอาหารจีน มีเชื้อชาติไต พม่า หลายเชื่อชาติ และยังมีวัฒนธรรมของคนต่างถิ่นอย่างผม วัฒนธรรมคนต่างชาติอีกแต่อยู่ร่วมกันได้

นอกจากนี้เหตุที่หลายๆคนเลือกมาอยู่อยู่ปาย ส่วนใหญ่มีเหตุผล หลักๆเพราะต้องการหนีจากเมืองใหญ่ เราเคยอยู่ในกรุงเทพฯมาแล้วตอนเรียนชั้นมัธยม เคยอยู่เชียงใหม่มาแล้วตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำให้รู้สึกว่าเบื่อเมืองใหญ่ และโดยส่วนตัวเป็นคนชอบขี่จักรยาน คิดว่าถ้าที่ไหนขี่จักรยานได้มันก็น่าอยู่ ถ้าเป็นในกรุงเทพฯจักรยานมันเป็นเหมือนส่วนเกินของเมือง

เอก (นามสมมติ) ชาวประจวบคีรีขันธ์ที่มาปักหลักตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เมืองปายเพราะหลงใหลในเสน่ห์ของเมืองนี้เล่าว่า ก่อนที่จะเคยมาเมืองปาย ไม่เคยรู้จักปายมาก่อนทำให้ไม่มีภาพในใจว่าปายต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ เมื่อไปเยือนปายครั้งแรกตอนอยู่มหาวิทยาลัยเมื่อประมาณ 8-9 ปีก่อน ไม่รู้สึกประทับใจหรือชื่นชอบปายเลยอาจเป็นเพราะเรามาแวะที่ปายแค่วันเดียว เลยทำให้ยังไม่ได้เห็นอะไรมากมาย แต่เมื่อมาปายรอบที่สองเป็นช่วงหน้าฝน มาแล้วเห็นว่าธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้า บรรยากาศมันสวยจึงได้เกิดความรู้สึกชอบที่นี่

"ปาย"เปลี่ยนไป

หลังจากที่อยู่อาศัยหลับนอนในเมืองเล็กๆแห่งนี้ได้ประมาณ 5 ปี เอกได้รู้ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของปายก่อนเล่าว่า

"ถามว่า 5 ปีมานี้ปายเปลี่ยนไปไหม มันก็ต้องเปลี่ยนแน่ๆ เพราะนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเยอะขึ้น โดยเฉพาะในปี 2549ที่ผ่านมา ในยุคแรกๆชาวบ้านไม่รู้อะไรมากก็เลยขายที่ให้กับคนที่มาเสนอซื้อ ซึ่งเมื่อขายแล้วก็หมดไป แต่ยุคหลังจะแบ่งให้เช่ามากกว่าวิถีชีวิตจึงเปลี่ยนไป ปัจจุบันมีตึกมากขึ้น รีสอร์ทเยอะขึ้น คิดว่าถ้าระยะยาวมันจะไม่ดี เพราะมันไม่เป็นจริง อย่างเช่นราคารีสอร์ทที่พักห้องละหลายพัน ราคาเช่าจักรยาน เช่ามอเตอร์ไซค์แพงขึ้นทุกๆอย่าง แทนที่นักท่องเที่ยวอยากจะมาอยู่ปาย 5 วัน ก็อาจจะอยู่ได้แค่ 2 วัน"

ด้านไกรสร กล่าวสมทบว่า สำหรับความเปลี่ยนแปลงเห็นว่าเปลี่ยนไปเยอะที่สุดก็คงจะเป็นเกสต์เฮาส์ เพราะเมื่อก่อนมีเกสต์เฮาส์แบบกระท่อมมุงจากไม่มีเป็นอิฐเป็นปูนราคาคืนละหลายพันบาท

"ในความคิดผมบางทีมันบดบังทัศนียภาพที่สวยงามเพราะมันแน่นเกินไป เมื่อก่อนมันจะเห็นเป็นสายน้ำคดโค้งไปเป็นสายยาวสวยงาม แต่ก็คงเป็นเรื่องจำเป็นของคนอื่นคนที่เป็นนักธุรกิจ ซึ่งก็ไปว่าเขาไม่ได้"ไกรสรเล่า

ส่วนรัตนา แสงเขื่อน ชาวเขาเผ่าลีซอใน อ.ปาย เล่าว่า เดิมเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมาเมืองปายมีความเป็นธรรมชาติมาก มีต้นไม้เยอะ ยังไม่มีถนน ชาวบ้านอยู่บ้านดิน บ้านหญ้าคา แต่ปัจจุบันปายเปลี่ยนแปลงไปเยอะ ธรรมชาติลดลง ต้นไม้น้อยลง มีถนนหนทางเดินทางสะดวกสบาย มีบ้านปูน มีเกสต์เฮาส์ผุดขึ้นมามากมาย โดยเฉพาะช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวเข้ามาปายเยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่ชาวเผ่าลีซอเองแต่ก่อนก็จะใส่ชุดลีซอ แต่ปัจจุบันปายมีความเป็นเมืองมากขึ้นมีแฟชั่นใหม่ๆเข้ามา ทำให้ชาวลีซอจะแต่งชุดลีซอก็เพียงแต่ตอนที่มีงานตามวัฒนธรรมประเพณีเท่านั้น

"คิดว่านักท่องเที่ยวที่มายังปาย อยากมาดูธรรมชาติที่สวยงาม มาดูน้ำตก มาดูวัฒนธรรมวิถีชีวิตของชาวเขาผ่าต่างๆ มาสัมผัสอากาศเย็นในช่วงหน้าหนาว แต่ก็มีบางคนบางกลุ่มที่เห็นว่าปายเป็นเมืองที่สวย บรรยากาศดี มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ และก็มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเยอะจึงได้มาชื้อที่ดินของคนปายเพื่อสร้างเกสเฮาส์ โรงแรม รีสอร์ท ทำให้ปัจจุบันคนปายแท้ๆแทบไม่เหลืออยู่แล้ว ต่อไปปายจะไม่เหลือความเป็นเมืองแห่งธรรมชาติที่สวยงาม จะเป็นเหมือนเชียงใหม่ เหมือนกรุงเทพฯ ซึ่งสำหรับตนคิดว่าอยากให้ปายเป็นเหมือนเมื่อ 10 กว่าปีก่อนมากกว่า" รัตนากล่าว

ถึงผู้มาเยือนเมือง"ปาย"

"การที่นักธุรกิจที่มีทุนเยอะๆจะเข้ามา อาจจะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงอาจจะเจริญขึ้น การจะเจริญขึ้นก็อยากให้อยู่กับธรรมชาติได้อย่าลุกลามธรรมชาติ ใครจะเข้ามาก็ได้แต่ต้องสามารถแทรกตัวที่กลมกลืนกับธรรมชาติได้ อย่าไปลิดรอนธรรมชาติ เมื่อก่อนท้องนาเคยสวยแต่ไปถมมันเพื่อที่จะขึ้นราคาในเรื่องของที่ดินเรื่องของนักธุรกิจ แต่ความงามที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมมันหายไป อย่างแม่น้ำปายตอนนี้ตื้นเขินมาก ล่องแพก็ลำบาก ถ้าแม่น้ำปายแห้งมากๆคงลำบาก ท้องนาไม่มี ธรรมชาติไม่มี มีแต่เกรสเฮาส์นักท่องเที่ยวก็ไม่รู้จะมาดูอะไรที่ปายแล้ว"ไกรสร กล่าว

ในขณะที่เอกบอกว่า ที่ผ่านมา ทั้งแก๊งค์ชอปเปอร์ แก๊งค์เวสป้า แก๊งค์รถโฟร์วีล มีแรกเก้ปาตี้ มีคอนเสิร์ตแจ๊ซ มีคอนเสิร์ตเพื่อชีวิต ซึ่งทั้งหมดนั้นถ้าถามว่าปายเป็นเมืองแบบนั้นไหม...ก็ไม่ อยากจะบอกว่าใครอยากมาปายก็มาได้ แต่ต้องเข้าใจว่าเมืองนี้เป็นเมืองแบบไหนแล้วปรับตัวเองให้เข้ากับปาย มาเที่ยวมาอยู่อย่างกลมกลืนเมืองก็จะไม่เสียของเดิมก็จะยังคงอยู่ เช่น คนปายมักจะเข้านอนเร็วและตื่นเช้า ถ้ามาเปิดคอนเสิร์ตที่นี่ คอนเสิร์ตก็ไม่ควรเลิกดึกมาก หรือจะมาขี่ชอปเปอร์ก็มาได้แต่ไม่ควรเบิ้ลเครื่องเสียงดังรบกวนคนอื่น เป็นต้น

ทุกวันนี้อยากให้ปายมีภาพที่ชัดเจน เช่น เป็นเมืองศิลปะ ภาพวาด ภาพถ่าย เมืองพักผ่อน อยากให้ระบุบุคลิกของเมืองว่าเป็นอย่างไร นักท่องเที่ยวที่มาจะได้รู้ เช่นหากจะมาเที่ยวกลางคืน มากินเหล้าเฮฮา ก็น่าจะไปที่พัทยา คือเลือกที่ที่จะไปให้ถูกกับความต้องการ

สำหรับเมืองเล็กๆกลางหุบเขาอันสงบงามอย่างอำเภอปาย มาวันนี้หลายๆคนมองว่าปายได้เปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นเมืองที่มีความวุ่นวายมากขึ้น ผู้คนแก่งแย่งกันมากขึ้น อีกทั้งธรรมชาติที่เคยสวยงามและเป็นเหมือนจุดขายอันโดดเด่นของปายได้ถูกทำลายลงไปมาก ในขณะที่ร้านเหล้า ผับบาร์ รวมถึงที่พักราคาแพง ได้ผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็วช ทำให้ปายกลายเป็นเมืองในฝัน ที่หมายถึงเมืองในโลกแห่งความฝันเท่านั้น เพราะในโลกแห่งความจริง ปายกำลังเปลี่ยนไปอย่างที่ใครหลายๆคนคาดไม่ถึง!?!
กำลังโหลดความคิดเห็น