หน้าหนาวทีไร อานิสงส์แห่งอากาศหนาวจะส่งผลให้ดอกไม้แห่งเมืองหนาวพากันผลิดอกชูช่อเบ่งบาน
ในเมืองไทย หน้าหนาวนี้ตามสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในภาคเหนือ ต่างก็มีมวลหมู่ดอกไม้งามหลากหลายชนิดพากันผลิดอกชูช่อไสว รอคอยนักท่องเที่ยวให้ไปเที่ยวชม
และนี่ถือเป็นบางส่วนของไฮไลท์ดอกไม้ยามหน้าหนาวในภาคเหนือ ที่รอคอยให้ผู้ที่ชื่นชอบในมนต์เสน่ห์แห่งดอกไม้เดินทางไปสัมผัสในความงาม
"ชมพูภูคา"หนึ่งในโลกที่ดอยภูคา
ที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน ถือเป็นถิ่นอาศัยของต้น"ชมพูภูคา" พืชหายากใกล้สูญพันธุ์ ดอกสีชมพูอมขาวงดงาม เมื่อเกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาเคยมีรายงานการสำรวจพบต้นชมพูภูคาทางตอนใต้ของประเทศจีนและทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม
จากนั้นไม่มีรายงานการค้นพบต้นไม้ชนิดนี้อีก ทำให้คาดว่าอาจจะสูญพันธุ์ไปจากโลกแล้ว จนในปี พ.ศ. 2532 ดร.ธวัชชัย สันติสุข นักพฤกษศาสตร์ ได้ค้นพบต้นชมพูภูคาอีกครั้งที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
และตอนนี้ก็ใกล้ถึงเวลาที่"ชมพูภูคา"จะออกดอกอวดโฉมความเป็นหนึ่งเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว ระหว่างเดือน ก.พ.-มี.ค. เป็นช่วงที่ดอกชมพูภูคาพร้อมใจกันเบ่งบาน โดยมีรูปลักษณ์คล้ายระฆัง กลีบดอกด้านนอกมีสีชมพูจางขาว และกลีบดอกด้านในมีสีชมพูลายเส้นสีม่วง ชูช่อเป็นพวงใหญ่
ซึ่งอุทยานแห่งนี้นอกจากจะมีดอกชมพูภูคาเป็นไฮไลท์แล้วก็ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายอย่างเช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งมีระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นบริเวณที่ทำการอุทยานฯ โดยในเส้นทางศึกษาธรรมชาตินี้มีต้นชมพูภูคาให้เยี่ยมชม แล้วยังมี"ต้นเต่าร้างยักษ์" และ"ก่วมภูคา" ให้ชมอีกด้วย
"กุหลาบพันปี"ราชินีแห่งอินทนนท์
จากน่านขึ้นไปที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ ยอดดอยอินทนนท์ ในอุทยานแห่งชาติอินทนนท์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่ขึ้นชื่อว่าสูงที่สุดในประเทศไทย ที่มีอากาศหนาวเย็นปกคลุมตลอดปี ที่แห่งนี้ "กุหลาบพันปี" ไม้งามแห่งหิมาลัยปรากฏโฉมท้าลมหนาวอยู่ในช่วงเดือนธ.ค.-ม.ค.ของทุกปี
กุหลาบพันปีที่พบบนดอยอินทนนท์นั้น คือ Rhododendron Arborea เป็นชนิดเดียวกันบนหิมาลัย ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติของเนปาล นักท่องเที่ยวที่มายลโฉม กุหลาบพันปี จะสามารถพบเจอได้ที่บริเวณอ่างกา และผาแง่ม
ซึ่งมีทั้งพันธุ์ดอกสีขาวที่ชื่อท้องถิ่นเรียกกันว่า"คำขาว" และดอกสีแดงเข้มหรือ"คำแดง"นับเป็นพืชหายากที่มีดอกงดงามมาก ชนิดหนึ่งของประเทศไทยและจะพบอยู่เฉพาะในเขตอากาศหนาวเย็นบนพื้นที่ ชุ่มชื้น สันเขาหรือหน้าผาระดับความสูงประมาณ 1,600 - 2,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
กุหลาบพันปีได้รับยกย่องว่าเป็นราชินีแห่งเทือกเขาหิมาลัย หลายๆคนเข้าใจผิดว่า กุหลาบพันปีบนดอยอินทนนท์คือกุหลาบโบราณ ความจริงแล้ว เหตุที่เรียกกันว่า กุหลาบพันปี ก็เพราะว่าไม้ชนิดนี้ยามออกดอกจะมีสีสันสวยงามเหมือนดอกกุหลาบ นอกจากนี้ลำต้นที่หงิกงอ มีมอส ไลเคนขึ้นปกคลุมจึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ดูเก่าแก่โบราณดังกุหลาบพันปี
ทิวลิปหลากสีที่"ดอยผาหม่น"
ส่วนแหล่งชมดอกไม้หน้าหนาวที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นที่ ณ ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงดอยผาหม่น บ้านพญาเลาอู ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งหลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ดอกทิวลิปที่มากที่สุดในประเทศไทย
โดยในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ดอกทิวลิปหลายหลากสีจะพากันเบ่งบานสลอนเต็มที่ เพราะอุณหภูมิบนดอยผาหม่นในช่วงหน้าหนาวที่อยู่ประมาณ 2-8 องศาเซลเซียสนั้น เหมาะต่อการบานของดอกทิวลิป
ทั้งนี้ศูนย์ฯดอยผาหม่นเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ทิวลิปชั้นดีจากประเทศเนเธอแลนด์ ด้วยโครงการปลูกดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ดอกทิวลิป ดอกลิลลี่ โดยใช้หัวพันธุ์กว่า 20,000 หัว มาหลายปีดีดักแล้ว สำหรับดอกทิวลิปมีทั้งสิ้น 6 สายพันธุ์ คือ Christmas Sweet (สีขาว) LLe de Srance (สีแดง) Aaske (สีชมพู) Leen Vd Nark (สีแดงเข้ม) Negrita (สีม่วง) และ Strong gold (สีเหลืองทอง)
นักท่องเที่ยวที่เข้าไปเยือนศูนย์ฯดอยผาหม่น จะได้พบกับ ดอกทิวลิปหลากสี รวมถึงดอกลิลลี่ และดอกไม้เมืองหนาวอีกมากมายบนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ โดยบางวันคนรอชมแน่นขนัดทางเจ้าหน้าที่ก็จะให้ต่อแถวเข้าชม แต่ถ้าวันไหนคนน้อยก็สามารถเข้าชมกันได้สบายๆ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากนี้ที่บริเวณหน้าศูนย์ฯดอยผาหม่น นักท่องเที่ยวยังร่วมถ่ายภาพประทับใจกับเด็กๆชาวเขาได้อีกด้วย
สำหรับหนาวนี้ทางสำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงรายให้ข้อมูลว่าทางดอยผาหม่นจะมีการนำทิวลิปมาลงแปลงให้ชมกันเป็นงวดสุดท้ายในวันที่ 27 มกราคม นี้ โดยสามารถดูได้หลังจากนั้นอีก 15 วัน ก่อนที่ดอกทิวลิปจะร่วงโรย
ดอกเสี้ยวบานตระการตาบน"ภูชี้ฟ้า"
เหนือขึ้นไปจากดอยผาหม่นอีกไม่ไกลในเส้นทางเดียวกันบนยอดดอย "ภูชี้ฟ้า"ช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ นอกจากจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและวิวทะเลหมอกอันเลื่องชื่อแล้ว บนภูชี้ฟ้ายังเป็นช่วงที่ดอกเสี้ยวบานขาวโพลนเป็นเวิ้งทั่วป่ารอบเชิงเขาอีกด้วย
"ดอกเสี้ยว"เป็นพันธุ์ไม้ยืนต้นหรืออีกชื่อหนึ่งคือ"ชงโคป่า"นิยมขึ้นตามภูเขาเทือกเขาดอยผาหม่น สวยสะพรั่งบนยอดดอยเป็นสัญลักษณ์แห่งความสวยงามอีกหนึ่งเสน่ห์ของภูชี้ฟ้า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ระหว่างวันที่ 13-15 ของทุกปี จะมีการจัดงานเทศกาลดอกเสี้ยวบาน
แต่ก่อนและหลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์นักท่องเที่ยวก็สามารถขึ้นไปเยี่ยมชมได้ เพราะเป็นช่วงที่ดอกเสี้ยวผลิบานทั่วขุนเขา ซึ่งนอกจากจะมีความงดงามแล้วชาวบ้านทางภาคเหนือยังนิยมนำมาดัดแปลงปรุงรสเป็นอาหารได้อีกด้วย
"ซากุระ"บานสะพรั่งบนดอยสูง
ปิดท้ายความงามยามหน้าหนาวกันที่ ดอยวาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตเชียงราย(สถานีทดลองเกษตรที่สูงวาวี) บน"ดอยช้าง" โดยช่วงระหว่างเดือน ม.ค.-ก.พ. จะมีดอกซากุระบานย้อมบริเวณที่ปลูกเป็นสีชมพูสดใส
สำหรับซากุระที่ดอยวาวีเป็นซากุระเมืองไทย หรือนางพญาเสือโคร่ง หรือชมพูภูพิงค์ เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ ROSACEAE ตระกูลเดียวกับ ท้อ บ๊วย พลัม เชอร์รี่ หรือซากุระเป็นพันธุ์ไม้ป่าขึ้นบนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 800-1,000 เมตร พบได้ทั่วไปตามยอดดอยในภาคเหนือ อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน และน่าน มีทั้งดอกสีชมพู ชมพูประแดง และสีขาว
แต่ส่วนใหญ่จะเป็นดอกสีชมพู โดยที่ดอยวาวีถือเป็นแหล่งซากุระที่มากที่สุดในเมืองไทย เพราะมีปลูกมากถึง 400,000 ต้น นอกจากนี้ยังมีดอกซากุระสีขาวรวมอยู่ด้วย โดยเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมต้นซากุระริมถนนจะพากันผลิดอกบานเต็ม 2 ข้างทาง
นอกจาก 2 ดอย ที่กล่าวมาแล้ว ทางภาคเหนือยังมีดอกซากุระ(เมืองไทย)บานอีกในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ ดอยแม่สลอง ดอยอ่างขาง ดอยอินทนนท์ ขุนวาง แม่จอนหลวง ซึ่งความงามของดอกซากุระแต่ละแห่งต่างก็ช่วยสีสันและมนต์เสน่ห์ของหน้าหนาวนี้ให้ดูโรแมนติกน่าเที่ยวมากขึ้น
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สำหรับการไปเที่ยวชมดอกไม้หากไม่ต้องการผิดหวัง ควรติดต่อสอบถามก่อนล่วงหน้า
ชมชมพูภูคาติดต่อ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน โทร.0-5470-1000, 0-1960-0477
ชมกุหลาบพันปีติดต่อ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ โทร. 0- 5326- 8550
ชมทิวลิปติด ดอกเสี้ยว และซากุระ ติดต่อ สำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย โทร.08-1167-5058,0-5360-1299