"...เก็บตะวันที่เคยส่องฟ้า เก็บเอามาเก็บไว้ในใจ เก็บพลังเก็บแรงแห่งแสงยิ่งใหญ่ รวมกันไว้ให้เป็นหนึ่งเดียว..."
เพลง"เก็บตะวัน"ของอิทธิ พลางกูร
ดวงตะวัน นอกจากจะเก็บไว้ในภาพถ่ายแล้ว การเก็บดวงตะวันไว้ในดวงใจ ถือเป็นความทรงจำอันเพริศแพร้วอย่างหนึ่ง
ยิ่งดวงอาทิตย์อันงดงามกลมโตของอรุณรุ่งเบิกฟ้ายามหน้าหนาวยิ่งวิจิตรงดงาม แถมยังแฝงไว้ด้วยปรัชญาและความท้าทายสำหรับผู้ที่ค้นพบมัน
ในเมืองไทยมีสถานที่ชมพระอาทิตย์อันสวยงามและขึ้นชื่อมากมาย
นักเดินทางแต่ละคนจึงเลือกสถานที่เก็บตะวันไว้ในจิตใจและในความทรงจำที่แตกต่างกันออกไป
พระอาทิตย์ขึ้น ริมทะเลอีกหนึ่งความงามที่ชวนสัมผัส
ภาคภูมิ น้อยวัฒน์ นักเขียนและช่างภาพจากอนุสาร อสท. หนึ่งในผู้เดินทางไปสัมผัสความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวมาแล้วมากมาย กล่าวถึงสถานที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามในเมืองไทย ว่า มีหลากหลายสถานที่ อย่างจุดที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมไปชมพระอาทิตย์ขึ้นก็คือ ที่ผาชนะได อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ที่นับว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยอีกจุดหนึ่ง
"พระอาทิตย์ขึ้นที่ผาชนะไดสวยงาม เพราะจะมีแม่น้ำโขงไหลผ่าน มันจะเป็นจุดที่ตอนเช้าๆ เวลาพระอาทิตย์ขึ้น จะมีทะเลหมอกข้างล่างด้วย ซึ่งเกิดจากความชื้นจากแม่น้ำโขงจะขึ้นมา และอากาศก็จะเย็น มีทั้งพระอาทิตย์และมีทะเลหมอกอยู่ข้างๆ มันจะสวยและน่าประทับใจมาก" ภาคภูมิบอก
แต่เมื่อถามว่ามีสถานที่ไหนในความรู้สึกของเขาที่คิดว่าพระอาทิตย์ขึ้นสวยที่สุดแล้วนั้น ภาคภูมิใช้เวลาคิดสักนิด ก่อนที่จะตอบออกมาว่า "อุทยานแห่งชาติหาดขนอม" หมู่เกาะทะเลใต้ จ.นครศรีธรรมราช เป็นสถานที่ที่เขายกให้เป็นเบอร์หนึ่ง โดยความประทับใจที่มีต่อพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ ภาคภูมิบอกว่ามันเป็นมุมมองที่แตกต่างออกไปจากที่เคยเห็นมาทั่วๆ ไป
"ความรู้สึกคือมันสวยมาก มันแปลกตาจากทั่วๆ ไป คือแตกต่างจากที่เคยไปมาหลายๆที่ ความรู้สึกที่มันเคยชินกับภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่เราเคยถ่ายเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน อย่างถ่ายที่ภูเขามันก็เป็นภูเขา ก็จะเห็นทิวเขา ถ่ายทะเลมันก็เห็นทะเล เห็นน้ำสะท้อน และพอมาที่หาดขนอมแห่งนี้ มันก็เหมือนกับเอาสองอย่างมารวมกัน แล้วอีกอย่างก็คือไม่ต้องเดินไปไหนกันเลย คือตื่นขึ้นมาก็เห็นเลย เพราะว่าตรงนั้นเป็นจุดบ้านพักและเป็นจุดบริการที่ให้กางเต็นท์ด้วย ไม่ต้องเดินขึ้นเขาหน้าผาอกแอ่น อันนี้อยู่บนภูเขาตื่นมาปุ๊บมองเห็นเลย แถมเห็นทะเลอีกต่างหาก ได้แบบทูอินวัน" ภาคภูมิบอกความรู้สึก
นอกจากภาคภูมิจะบอกกล่าวถึงสถานที่ชมพระอาทิตย์ที่เขาประทับใจแล้ว เขายังได้มีข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่คิดจะเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้น และต้องการบันทึกภาพประทับใจที่สวยงามนั้นไว้แล้วล่ะก็ ต้องเตรียมขาตั้งกล้องไปด้วย เพราะว่าช่วงที่ก่อนพระอาทิตย์จะขึ้นนั้น แสงยังน้อยอยู่ถ้าไม่ใช้ขาตั้งกล้องอาจจะถ่ายได้ออกมาไม่สวยนัก
ส่วนข้อคิดทิ้งท้ายที่ภาคภูมิฝากไว้ก็คือ นักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางไปเที่ยวชมพระอาทิตย์ขึ้นยังสถานที่ต่างๆไว้เมื่อไปเที่ยวก็อยากให้ช่วยกันรักษาความสะอาด อย่าทิ้งขยะ เพราะว่าอย่างบางสถานที่พอคนไปชมกันเยอะ พอพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จขยะก็เต็มไปหมดเลย
"ผมอยากจะฝากให้ทุกคนใส่ใจในเรื่องขยะด้วย"ภาคภูมิกล่าว
ตะวันรุ่งทอแสงแรกแห่งสยามที่ "โขงเจียม"
ด้าน เกรซ มหาดำรงค์กุล พิธีกรสาวสวยผู้มากไปด้วยความสามารถ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ "40 เส้นทางท่องเที่ยวของคนดัง"ว่าตัวของเกรซเองนั้น มีความประทับใจในจุดชมพระอาทิตย์ใน อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เป็นอย่างมาก
"โดยส่วนตัวแล้ว เกรซ เป็นคนที่ชอบเที่ยวแบบดิบๆ ไม่มีการพัฒนามากจนเกินไป คนไม่เยอะ ไม่ชอบเมืองใหญ่เพราะส่วนใหญ่จะมีลักษณะเหมือนๆกัน พอไปที่จังหวัดอุบลราชธานี รู้สึกว่าใช่เลย มีเสน่ห์มาก บรรยากาศสบายๆ แบบไทยๆ ทิวทัศน์สวยงาม มีแม่น้ำสองสี ที่แม่น้ำมูลสีชาแกมเขียวไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขงสีน้ำตาลอ่อน สองข้างทางที่ขับรถผ่านไปเป็นแปลงข้าวสีเขียวขจี ดูสวยดี"
สำหรับ อ.โขงเจียม แห่งนี้ ถึงแม้จะเป็นเพียงอำเภอเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ของ จ.อุบลราชธานี อยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศไทย แต่ความงดงามของภาพดวงตะวันที่ขึ้นเหนือสายน้ำโขงและภูผาทางฝั่งประเทศลาว เป็นความงามเหนือคำบรรยาย ท้าทายให้ผู้รักบรรยากาศยามเช้าได้เดินทางมาทักทายตะวันก่อนใครในสยาม
นอกจากนี้ เกรซยังได้ถ่ายทอดความรู้สึกไว้ว่า ริมแม่น้ำโขง เป็นพื้นที่โล่งกว้างวิว ทิวทัศน์สวยงาม มีก้อนหินธรรมชาติอยู่เยอะ มีลักษณะเป็นหน้าผา เช่น ผาชนะได ผาหินแตก ผาจ้อมก้อม ผาแดง ผาหินฝน ซึ่งเป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขง บรรยากาศเหมือนกับถูกจัดวางจากธรรมชาติไว้ ข้างหลังจะเป็นต้นไม้สีเขียว อากาศสะอาด และในช่วงเดือนกันยายนถึงมกราคมที่นี่ยังจะสามารถชมทะเลหมอกสีขาวหนาฟูอยู่สุดสายตาได้อีกด้วย
"เกรซรู้สึกว่า คนเราทำงานเหนื่อยขนาดไหนก็เอาไปไม่ได้ น่าจะให้รางวัลกับตัวเองบ้าง อย่างน้อยได้เห็นบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยจริงๆ สักครั้ง ที่นี้เราจะเห็นพระอาทิตย์ได้นานกว่าที่อื่น และดวงใหญ่มาก ทุกนาทีแสงและสีที่ให้จะไม่เหมือนกัน บรรยากาศจะแตกต่างกัน สีแดงของดวงอาทิตย์ก่อนลับขอบฟ้าที่โขงเจียมจะเป็นสีที่มองได้ ไม่ใช่แดงแบบแสบตา" เกรซถ่ายทอดความประทับใจ
ตะวันแรกแย้มโผล่พ้นทะเล ที่ "อ่าวประจวบฯ"
หันมาทางด้าน วีรศักดิ์ จันทร์ส่งแสง นักเขียนสารคดีฝีมือเยี่ยมจากกองบรรณาธิการนิตยสารสารคดี ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่เดินทางท่องเที่ยวมาแล้วหลากหลายสถานที่ โดยเขาได้บอกว่าถ้าให้นึกถึงที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามแล้ว เขานึกถึงสถานที่ที่เคยไปมาแล้ว อย่างภูกระดึง ซึ่งเป็นจุดหลักที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่ายามเช้าที่ผานกแอ่น เป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นสวยงามจุดหนึ่ง
แต่โดยส่วนตัวของเขาแล้ว เมื่อพูดถึงจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมานั้น เขากลับยกให้ที่ "อ่าวประจวบคีรีขันธ์" จ. ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีลักษณะเป็นอ่าวที่มีลักษณะโค้งสวยงามเป็นสถานที่พักผ่อนยามเย็นของชาวเมือง และนักท่องเที่ยวมักมาเฝ้าชมดวงอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าตรู่ที่นี่ เพราะเป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก
"ถ้าพระอาทิตย์ขึ้นที่เห็นแล้วมันสวยที่สุดก็คือที่อ่าวประจวบคีรีขันธ์ ที่อยู่ข้างๆ เมืองประจวบนั่นเอง เป็นที่ท่องเที่ยวค่อนข้างจะธรรมดาอยู่ใกล้ๆ เมือง ปกติเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมือนเป็นสวนสาธารณะของชาวประจวบคีรีขันธ์ โดยเมื่อประมาณปี 2540 ผมไปกางเต็นท์นอนอยู่ที่อ่าวประจวบ และได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยมาก ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเวลาที่มันประจวบเหมาะมาก พอตื่นเช้ามานี่ฟ้ามันเป็นริ้วเป็นสีสันที่แปลกและสวย คิดว่าสวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นพระอาทิตย์ขึ้นมา มันเป็นริ้วแสงสีต่างๆ บนขอบฟ้าด้านตะวันออกก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น เป็นยามเช้า เป็นรุ่งอรุณสวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาในชีวิตเลย ในเช้าวันนั้น”
นอกจากนี้วีรศักดิ์ยังมีข้อแนะนำสำหรับผู้ที่คิดอยากจะชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามในยามเช้า ว่าอย่างแรกต้องตื่นแต่เช้า ต้องไม่ขี้เกียจที่จะตื่นเช้า เพราะถ้าตื่นเช้าก็จะไปทันดูพระอาทิตย์ขึ้น ส่วนอีกเรื่องที่เขาอยากจะฝากไว้ก็คือ เรื่องของมารยาท การต้องมีมารยาทในเรื่องการใช้สถานที่ และเรื่องเสียง
"ช่วงหลังผมสังเกตเห็นว่าบางทีคนที่บันทึกภาพพระอาทิตย์ขึ้น เขาบันทึกเป็นภาพวีดีโอด้วย และเก็บเสียงด้วย ซึ่งเสียงของยามเช้านี่ถ้าตามธรรมชาติแล้วมันอาจจะมีเสียงน้ำค้าง เสียงนกร้อง แต่ถ้าเราไปโหวกเหวกเสียงดังมันก็จะเป็นการรบกวนคนอื่น แทนที่จะได้ซึมซับบรรยากาศยามเช้าของวันใหม่ด้วยความสงบเงียบได้อย่างเต็ม ก็กลับต้องมาได้ยินเสียงโหวกเหวกแทน"
ครั้นถามวีรศักดิ์ว่าในความคิดเห็นของเขา คิดว่าการชมพระอาทิตย์ที่สวยงามนั้น เรื่องของสถานที่ชมมีความสำคัญมากน้อยเพียงใด เรื่องนี้เขาตอบว่า เรื่องการดูพระอาทิตย์ขึ้นในความรู้สึกของตัวเขาเอง คิดว่าเรื่องของจังหวะเวลามีความสำคัญกว่าสถานที่เสียอีก เพราะในเรื่องของสถานที่นั้น ถ้าบางครั้งอยู่ในสถานที่ที่ดี แต่ก็อาจเห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่ไม่สวยนักก็เป็นได้
"ในความเป็นจริงแล้วถ้าเป็นความจงใจที่จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ดูที่ไหนมันก็สวยทั้งนั้น ถ้าเรามีความพร้อม ความพร้อมคือความโล่งในเรื่องของจิตใจ ความปลอดโปร่งที่จะไปเที่ยวชมธรรมชาติ ผมเลยรู้สึกว่ามันพูดยากที่จะบอกว่าไปดูพระอาทิตย์ที่ไหนดี เพราะที่ไหนก็ได้ ถ้าเราพร้อม ณ เวลานั้น อย่างถ้าแม้อยู่ที่กรุงเทพฯ เราก็สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามได้ แต่อาจจะเห็นยากนิดหน่อย ตรงที่มีตึกเยอะ ตึกมาบัง ผมเคยเห็นอยู่หลายครั้งเหมือนกันที่บริเวณกลางทุ่งโล่งๆ จะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นกลางทุ่ง อย่างทุ่งแถวปทุมธานี หรือทุ่งแทบภาคอีสาน มันไม่จำเป็นจะต้องเป็นที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในลิสต์อันดับของสถาบันใดๆ เลย ไม่จำเป็นต้องเป็นภูเขา ขึ้นไปเหนือสุดถึงจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยๆ"
ไม่เพียงได้รับความงามจากการชมพระอาทิตย์ขึ้นเท่านั้น แต่วีรศักดิ์ยังได้ฝากข้อคิดแฝงปรัชญาไว้ด้วย ว่า
"ถ้าเราลุกขึ้นมาชมตะวัน อย่างหนึ่งที่จะได้ก็คือ เราจะได้ตื่นเช้า ซึ่งผมรู้สึกว่าสิ่งนี้มันสอดคล้องกับชีวิตคน ชีวิตคนเราโดยธรรมชาติมันต้องดำรงชีวิตและดูโลกและทำงานในเวลากลางวัน ถ้าเราลุกขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นทัน อย่างหนึ่งที่เราได้คือได้ตื่นเช้า แบะได้เวลาในช่วงกลาวันที่มันยาวนานและสอดคล้องกับสภาพตามธรรมชาติของชีวิตคนเรา ทีนี้ถ้าเราตื่นเช้าพอถึงเย็นเราใช้ชีวิตมาทั้งวันมันก็พอดีตามสภาพธรรมชาติ แต่ถ้าเราตื่นสาย เราก็ทำงานล่วงไปถึงยามค่ำยามดึก ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วตะวันที่เราชมมันคือแหล่งพลังงาน เพราะนั้นถ้าเราอยู่ช่วงกลางวันกับมัน เราก็จะได้รับพลังงาน และก็ใช้พลังงานนั้นในกิจวัตรประจำวัน แต่ว่าถ้าเราไปตื่นสาย และใช้เวลาลางไปตอนกลางคืน เราก็ต้องใช้พลังงานอย่างอื่นที่ไม่ใช่พลังงานตามธรรมชาติในการใช้ชีวิตในการทำงาน มันก็ต้องไปเบียดเบียนโลกไปสร้างความไม่สมดุลให้กับโลก อย่างเช่นการต้องใช้ไฟฟ้า การต้องสร้างเขื่อนเพื่อเป็นแหล่งพลังงาน สร้างโรงไฟฟ้าอะไรแบบนี้
"เมื่อเราดูพระอาทิตย์ขึ้นเราอาจจะระลึกถึงสิ่งเหล่านี้บ้างก็ดี ว่านอกจากเราชมมันในฐานะของความงามแล้ว ก็อยากให้ระลึกไปถึงสิ่งนั้นในฐานนะแหล่งพลังงานสำหรับชีวิตเราด้วย" วีรศักดิ์ ให้ข้อคิดดีๆทิ้งท้าย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
5 จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่น่าสนใจ
1. "อุทยานแห่งชาติภูกระดึง" จ. เลย มีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่มีชื่อเสียงเป็นที่กล่าวขานกันในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งหลาย ว่าถ้ามาที่ภูกระดึงแล้วอยากชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงาม ก็ต้องพากันมาที่ "ผานกแอ่น" ซึ่งเป็นลานหินเล็กๆ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงาม ยามที่พระอาทิตย์ทอแสงพ้นขอบฟ้าขึ้นมาตัดกับทิวเขาและท้องทุ่งที่อยู่เบื้องล่างเป็นภาพที่งดงาม และยังจะได้สัมผัสกับอากาศที่เย็นสบายๆ อีกต่างหาก ซึ่งผู้ที่จะไปชมประอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น ควรเตรียมไฟฉายสำหรับใช้ส่องทางไปด้วย
2. "อุทยานแห่งชาติผาแต้ม" จ. อุบลราชธานี ตรงบริเวณลานหินอุทยานแห่งชาติผาแต้ม จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทาง มารอชมเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นทอแสงโผล่พ้นจากทิวเขาด้านทิศตะวันออกซึ่งอยู่ในเขตประเทศลาว ตัดกับภาพท้องฟ้าอันสดใส และวิวของแม่น้ำโขงที่ไหลผ่าน เป็นภาพที่สร้างความประทับใจเป็นอย่างมากแก่ผู้ที่ได้เดินทางมาเที่ยวชม นอกจากนี้ยังมี "ผาชนะได" บริเวณป่าดงนาทามเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นแห่งแรกในเมืองไทย
3. "อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง" มีจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยงามอยู่ตรงจุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและมีชื่อเสียง ในยามเช้าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากมาคอยชมพระอาทิตย์ขึ้นโผล่พ้นทิวเขาที่สลับซับซ้อน และมีทะเลหมอกให้ชมด้วย
4. "ภูชี้ฟ้า" จ.เชียงราย เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โดดเด่น ด้วยลักษณะของภูชี้ฟ้า ที่เป็นหน้าผามีปลายยอดแหลมชี้เข้าไปยังฝั่งประเทศลาว บนยอดภูชี้ฟ้า ถือว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ในตอนเช้าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ ยามเมื่อพระอาทิตย์โผล่ขึ้นผ่านพ้นขอบฟ้าขึ้นมา ก็จะได้เห็นภาพเห็นของพระอาทิตย์ทอแสงฉายสว่างอาบภูชี้ฟ้า และเบื้องล่างอบอวลไปด้วยสายหมอกอันขาวโพลนเป็นภาพที่งดงามมาก
5. "ดอยอ่างขาง" จ. เชียงใหม่ มีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นอยู่ที่ จุดชมวิวขอบด้ง ซึ่งในช่วงฤดูหนาวจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้ากันอย่างแหนงแน่น และยังมีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นอีกหนึ่งที่จุดชมวิวกิ่วลม ตรงจุดนี้สามารถชมวิวได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตก หรือทะเลหมอก และสามารถมองเห็นวิวทิวเขารอบด้าน และหากฟ้าเปิดจะมองเห็นสถานีเกษตรหลวงอ่างขางด้วย