โดย:มะเมี้ยะ

"จิ่วไจ้โกว" เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่มีความโดดเด่นทางนิเวศวิทยา เป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าตอนใต้แห่งเทือกเขา หมินซาน เป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำเจียหลิง สิ่งแวดล้อมของอุทยานฯแห่งนี้จึงที่ความอัศจรรย์ยิ่ง เพราะมีร่อยรอยที่เกิดจากแรงอัดและการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกหนุนขึ้นให้ขึ้นมาจนอยู่ในระดับสูง
ทำให้เกิดร่องรอยของหินคดเคี้ยวเป็นทางยาว มีทั้งพื้นที่ส่วนที่เป็นยอกเขามีหิมะปกคลุมสูงเสียดฟ้า ขณะเดียวกันก็มีหุบเขาลึก อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี 7-8 องศาเซสเซียส
ด้วยความแตกต่างของระบบนิเวศน์ที่หลากหลายทำให้มีพืชพรรณสัตว์ป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 2,000 ชนิด สัตว์อนุรักษ์อีกราว 17 ชนิดอย่างหมีแพนด้า กระทิง ละมั่งลายจุดซึ่งเป็นสัตว์สงวนที่อาศัยอยู่ในบริเวณจิ่วไจ้โกว

พูดถึงหมีแพนด้าแล้วก็นึกถึง "ทะเลสาบหมีแพนด้า"(Xiong Mao Hai) ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านขวาของตัววาย(อธิบายเรื่องตัววายไว้ในตอนที่แล้ว)ไกด์นำทางบอกกับฉันว่าที่ทะเลสาบแห่งนี้มักมีชาวบ้านพบเห็นหมีแพนด้าลงมากินน้ำในทะเลสาบแห่งนี้อยู่เสมอๆเพราะใกล้ๆกันมีทะเลสาบอีกแห่งหนึ่งชื่อว่า
"ทะเลสาบไผ่ลูกศร" (Jian Ju Hai)เป็นแหล่งอาหารที่หมีแพนด้าชื่นชอบ ซึ่งก็คือไผ่นั่นเอง แต่ก่อนแถบนี้มีไผ่เยอะแต่ตอนนี้มีน้อยลงมาก จากทะเลสาบหมีแพนด้า สายน้ำจะค่อยๆลดระดับลงสู่เบื้องล่างปรากฏเป็น"น้ำตกหมีแพนด้า"(Panda Fall)ที่งดงามมากแห่งหนึ่ง

จากทะเลสาบหมีแพนด้ามาที่ "ทะเลสาบกระจก"หรือจิ้งไห่ (Jing Hai)ซึ่งมีตำนานที่ฉันติดค้างไว้คราวก่อนมาเล่าให้ฟัง ตามตำนานของชาวทิเบตกล่าวกันว่า มีเทพบุตรหนุ่มผู้กล้าหาญนามต๋าเกอ (Da ge) ได้ผูกสมัครใจรักใคร่กับเทพธิดาสาวผู้มีนามเชอโม (Se Mo) เทพบุตรหนุ่มต๋าเกอได้พากเพียรฝนกระจกบานใหญ่ โดยได้รับความช่วยเหลือจากเทพแห่งวายุ และเทพเมฆาบนสรวงสวรรค์
เพื่อมอบเป็นของขวัญอันล้ำค่าแทนความรักที่ต๋าเกอมีต่อเซอโม เพื่อให้เซอโมได้ส่องยลโฉมอันงดงามของตนเอง ทว่า เมื่อเชอโมได้รับก็มิทันได้ระวัง กระจกได้พลัดหลุดจากมือร่วงลงสู่พื้นโลก เมื่อเธอลงมาค้นหา ก็พบว่ากระจกนั้นได้แตกเป็นเศษเสี้ยวรวม108 ชิ้น
และได้กลายมาเป็นผืนผิวของแผ่นน้ำบนทะเลสาบทั้ง 108 แห่งในจิ่วไจ้โกวนั่นเอง แต่เหตุใดจึงยกให้ "ทะเลสาบกระจก"เป็นตัวแทนแห่งกระจกของเทพธิดาเซอโมเหนือทะเลสาบทั้งมวลในจิ่วไจ้โกวแห่งนี้ ฉันก็ไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัด
ซึ่งหากตามข้อสันนิษฐานแล้วฉันคิดว่าก็คงหนีไม่พ้นความใสแจ๋วของน้ำในทะเลสาบนั้นแหละ ที่ยามส่องสะท้อนกระทบกับภูเขาตั้งตระหง่านสูงเสียดฟ้า เหมือนเวลาส่องกระจกไม่มีผิดเพี้ยนจนบางครั้งเผลอคิดไปว่า "อันไหนคือผืนน้ำ อันไหนคือเขาสูง"

ไม่แปลกเลยที่กล่าวกันว่า น้ำธรรมดานี่แหละที่เป็นจุดดึงดูดและสร้างให้จิ่วไจ้โกวมหัศจรรย์จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับชาติของจีน ความงามประหลาดของน้ำในจิ่วไจ้โกวนั้น สาเหตุก็เนื่องมาจากการที่แหล่งน้ำมีการสะสมของธาตุแคลเซี่ยม หินปูน เจือปนอยู่ในปริมาณสูง
เมื่อแร่ธาตุเหล่านี้ได้ตกตะกอนอยู่ในก้นของแอ่งน้ำ สีของผลึกแร่ต่างๆกับสิ่งมีชีวิต อาทิเช่น สาหร่าย กอปรกับซากพืชที่จมดิ่งอยู่ใต้พื้นน้ำปรากฏขึ้นมาให้เห็น ทำให้ทะเลสาบและธารน้ำของที่นี่มีสีสันสดใสงดงามแปลกตา
อีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากทะเลสาบกระจกไม่ไกลกันนักเป็นหนึ่งในสุดยอดความงามแห่งจิ่วไจ้โกวเช่นกันนั่นก็คือ"ลำธารน้ำตกไข่มุก" (Zhen Zhu Tan Pu Bu) เป็นน้ำตกที่ไหลผ่านแมกไม้ตั้งอยู่กลางลำธารที่เชี่ยวกราดไหลลงสู่เบื้องล่างมีลักษณะคล้ายม่านน้ำตก
ยามฤดูหนาวสายน้ำตกที่ไหลทอดลงมาจะกลายสภาพจากสายน้ำมาเป็นสายน้ำแข็งงดงามยิ่ง ระยิบระยับเป็นประกายยามต้องแสงอาทิตย์ ชาวทิเบตยกให้ที่นี่เป็นประดุจดังสายสร้อยไข่มุกของเทพธิดาเซอโม

สิ่งหนึ่งที่ฉันเห็นว่าดีมากจนอุทยานในบ้านเราควรจะลอกเลียนแบบนั้นก็คือการกำหนดเส้นทางเดินในบรรดานักท่องเที่ยวเพื่อความสะดวกทางเดินในจิ่วไจ้โกวจะมีลักษณะเป็นสะพานไม้บุพื้นด้วยตะแกงลวดเพื่อกันลื่น
และที่สำคัญเป็นการปกป้องมิให้นักท่องเที่ยวเหยียบย่ำพืชพรรณสิ่งมีชีวิตหรือเผลอลื่นตกน้ำได้ จิ่วไจ้โกวยังมีหลากสถานที่ท่องเที่ยวที่ฉันมิอาจบรรยายได้หมดสิ่งที่ถ่ายทอดมาเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เหลือต้องไปดูกับตาแล้วล่ะ
"จิ่วไจ้โกว"คือสุดยอดประติมากรรมความงามจากธรรมชาติเป็นสวรรค์บนพื้นพิภพอย่างแท้จริง เป็นศูนย์รวมความฝันราวกับหลุดอยู่ในดินแดนแห่งเทพนิยายเป็นเสน่ห์ชวนหลงใหลมีทั้งสายธาราอันเชี่ยวกราด
น้ำตกมากมาย ขุนเขาตระหง่าน ทะเลสาบแสนสวย ใบไม้เปลี่ยนสี ยากจะหาใดเทียมใครได้ยลเป็นต้องมนต์ทุกราย ใครคิดว่าเกินจริงก็ลองหาเวลาว่างไปท้าพิสูจน์กันดู

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
อุทยานแห่งชาติจิ่วไจ้โกว มรดกโลกทางธรรมชาติ ปีค.ศ. 1992 ที่ตั้ง- ทางตอนเหนือของมณฑลซื่อชวน (เสฉวน)ภาคตะวันตกของจีน อาณาเขต - พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 643 ตารางกิโลเมตร ระดับน้ำทะเล 2,000 – 4,760 เมตร เขตเปิดให้สาธารณชนท่องเที่ยว 55 ตารางกิโลเมตร ระดับน้ำทะเล 2,000 – 3,100 เมตร สัตว์ป่าอนุรักษ์ 2,576 ชนิด
หลังเดือนตุลาคมไปแล้ว จิ่วไจ้โกวจะเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว ร้านขายอาหารหลายแห่งปิดให้บริการ ควรเจรจากับทางสถานที่พักให้เตรียมจัดหาอาหารไว้ล่วงหน้า (ฤดูท่องเที่ยวอุทยานฯจิ่วไจ้โกวและหวงหลง อยู่ในเดือนเมษายน-พฤษภาคม, กันยายน-ตุลาคม- 15 พฤศจิกายน)
ราคาบัตรผ่านประตู : ฤดูท่องเที่ยว 1 เมษายน – 15 พฤศจิกายน ราคา 220 หยวน ส่วนระหว่าง 16 พฤศจิกายน – ปลายเดือนมีนาคม ราคา 80 หยวน ( ราคาปรับใหม่เมื่อ 1 กรกฎาคม 2548 )
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง : อุทยานแห่งชาติหวงหลง (มรดกโลกทางธรรมชาติ)ห่างจากจิ่วไจ้โกวกว่า 300 กิโลเมตร ราคาตั๋ว 110-70 หยวน(ตามฤดูกาลท่องเที่ยว) ใช้เวลาท่องเที่ยววันเดียว(4-5ชม.) เปิดตั้งแต่ 9 :10 – 16 :40 น. (ส่วนใหญ่การเดินทางไปอุทยานฯหวงหลงจะรวมอยู่ในโปรแกรมท่องเที่ยวจิ่วไจ้โกวแล้ว ท่านสามารถระบุจุดหมายท่องเที่ยวก่อนเดินทาง)
วัดหวงหลง: ห่างจากจิ่วไจ้โกว 128 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยรถบัสจากจิ่วไจ้โกวลงใต้ไปเมืองซงพัน ราว 92 กิโลเมตร ถึงวัดชวนจู่ซื่อ แล้วต่อรถไปทางตะวันออก อีก 41 กิโลเมตร จึงถึงวัดหวงหลง
นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าไปเที่ยวในอุทยานฯจิ่วไจ้โกว มากกว่าหนึ่งครั้งขึ้นไปต้องทำเรื่องล่วงหน้า ณ จุดจำหน่ายตั๋ว ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่บริษัทนำเที่ยวทั่วไป
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
'จิ่วไจ้โกว'สรวงสวรรค์บนผืนพิภพ (1)
"จิ่วไจ้โกว" เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่มีความโดดเด่นทางนิเวศวิทยา เป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าตอนใต้แห่งเทือกเขา หมินซาน เป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำเจียหลิง สิ่งแวดล้อมของอุทยานฯแห่งนี้จึงที่ความอัศจรรย์ยิ่ง เพราะมีร่อยรอยที่เกิดจากแรงอัดและการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกหนุนขึ้นให้ขึ้นมาจนอยู่ในระดับสูง
ทำให้เกิดร่องรอยของหินคดเคี้ยวเป็นทางยาว มีทั้งพื้นที่ส่วนที่เป็นยอกเขามีหิมะปกคลุมสูงเสียดฟ้า ขณะเดียวกันก็มีหุบเขาลึก อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี 7-8 องศาเซสเซียส
ด้วยความแตกต่างของระบบนิเวศน์ที่หลากหลายทำให้มีพืชพรรณสัตว์ป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 2,000 ชนิด สัตว์อนุรักษ์อีกราว 17 ชนิดอย่างหมีแพนด้า กระทิง ละมั่งลายจุดซึ่งเป็นสัตว์สงวนที่อาศัยอยู่ในบริเวณจิ่วไจ้โกว
พูดถึงหมีแพนด้าแล้วก็นึกถึง "ทะเลสาบหมีแพนด้า"(Xiong Mao Hai) ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านขวาของตัววาย(อธิบายเรื่องตัววายไว้ในตอนที่แล้ว)ไกด์นำทางบอกกับฉันว่าที่ทะเลสาบแห่งนี้มักมีชาวบ้านพบเห็นหมีแพนด้าลงมากินน้ำในทะเลสาบแห่งนี้อยู่เสมอๆเพราะใกล้ๆกันมีทะเลสาบอีกแห่งหนึ่งชื่อว่า
"ทะเลสาบไผ่ลูกศร" (Jian Ju Hai)เป็นแหล่งอาหารที่หมีแพนด้าชื่นชอบ ซึ่งก็คือไผ่นั่นเอง แต่ก่อนแถบนี้มีไผ่เยอะแต่ตอนนี้มีน้อยลงมาก จากทะเลสาบหมีแพนด้า สายน้ำจะค่อยๆลดระดับลงสู่เบื้องล่างปรากฏเป็น"น้ำตกหมีแพนด้า"(Panda Fall)ที่งดงามมากแห่งหนึ่ง
จากทะเลสาบหมีแพนด้ามาที่ "ทะเลสาบกระจก"หรือจิ้งไห่ (Jing Hai)ซึ่งมีตำนานที่ฉันติดค้างไว้คราวก่อนมาเล่าให้ฟัง ตามตำนานของชาวทิเบตกล่าวกันว่า มีเทพบุตรหนุ่มผู้กล้าหาญนามต๋าเกอ (Da ge) ได้ผูกสมัครใจรักใคร่กับเทพธิดาสาวผู้มีนามเชอโม (Se Mo) เทพบุตรหนุ่มต๋าเกอได้พากเพียรฝนกระจกบานใหญ่ โดยได้รับความช่วยเหลือจากเทพแห่งวายุ และเทพเมฆาบนสรวงสวรรค์
เพื่อมอบเป็นของขวัญอันล้ำค่าแทนความรักที่ต๋าเกอมีต่อเซอโม เพื่อให้เซอโมได้ส่องยลโฉมอันงดงามของตนเอง ทว่า เมื่อเชอโมได้รับก็มิทันได้ระวัง กระจกได้พลัดหลุดจากมือร่วงลงสู่พื้นโลก เมื่อเธอลงมาค้นหา ก็พบว่ากระจกนั้นได้แตกเป็นเศษเสี้ยวรวม108 ชิ้น
และได้กลายมาเป็นผืนผิวของแผ่นน้ำบนทะเลสาบทั้ง 108 แห่งในจิ่วไจ้โกวนั่นเอง แต่เหตุใดจึงยกให้ "ทะเลสาบกระจก"เป็นตัวแทนแห่งกระจกของเทพธิดาเซอโมเหนือทะเลสาบทั้งมวลในจิ่วไจ้โกวแห่งนี้ ฉันก็ไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัด
ซึ่งหากตามข้อสันนิษฐานแล้วฉันคิดว่าก็คงหนีไม่พ้นความใสแจ๋วของน้ำในทะเลสาบนั้นแหละ ที่ยามส่องสะท้อนกระทบกับภูเขาตั้งตระหง่านสูงเสียดฟ้า เหมือนเวลาส่องกระจกไม่มีผิดเพี้ยนจนบางครั้งเผลอคิดไปว่า "อันไหนคือผืนน้ำ อันไหนคือเขาสูง"
ไม่แปลกเลยที่กล่าวกันว่า น้ำธรรมดานี่แหละที่เป็นจุดดึงดูดและสร้างให้จิ่วไจ้โกวมหัศจรรย์จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับชาติของจีน ความงามประหลาดของน้ำในจิ่วไจ้โกวนั้น สาเหตุก็เนื่องมาจากการที่แหล่งน้ำมีการสะสมของธาตุแคลเซี่ยม หินปูน เจือปนอยู่ในปริมาณสูง
เมื่อแร่ธาตุเหล่านี้ได้ตกตะกอนอยู่ในก้นของแอ่งน้ำ สีของผลึกแร่ต่างๆกับสิ่งมีชีวิต อาทิเช่น สาหร่าย กอปรกับซากพืชที่จมดิ่งอยู่ใต้พื้นน้ำปรากฏขึ้นมาให้เห็น ทำให้ทะเลสาบและธารน้ำของที่นี่มีสีสันสดใสงดงามแปลกตา
อีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากทะเลสาบกระจกไม่ไกลกันนักเป็นหนึ่งในสุดยอดความงามแห่งจิ่วไจ้โกวเช่นกันนั่นก็คือ"ลำธารน้ำตกไข่มุก" (Zhen Zhu Tan Pu Bu) เป็นน้ำตกที่ไหลผ่านแมกไม้ตั้งอยู่กลางลำธารที่เชี่ยวกราดไหลลงสู่เบื้องล่างมีลักษณะคล้ายม่านน้ำตก
ยามฤดูหนาวสายน้ำตกที่ไหลทอดลงมาจะกลายสภาพจากสายน้ำมาเป็นสายน้ำแข็งงดงามยิ่ง ระยิบระยับเป็นประกายยามต้องแสงอาทิตย์ ชาวทิเบตยกให้ที่นี่เป็นประดุจดังสายสร้อยไข่มุกของเทพธิดาเซอโม
สิ่งหนึ่งที่ฉันเห็นว่าดีมากจนอุทยานในบ้านเราควรจะลอกเลียนแบบนั้นก็คือการกำหนดเส้นทางเดินในบรรดานักท่องเที่ยวเพื่อความสะดวกทางเดินในจิ่วไจ้โกวจะมีลักษณะเป็นสะพานไม้บุพื้นด้วยตะแกงลวดเพื่อกันลื่น
และที่สำคัญเป็นการปกป้องมิให้นักท่องเที่ยวเหยียบย่ำพืชพรรณสิ่งมีชีวิตหรือเผลอลื่นตกน้ำได้ จิ่วไจ้โกวยังมีหลากสถานที่ท่องเที่ยวที่ฉันมิอาจบรรยายได้หมดสิ่งที่ถ่ายทอดมาเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เหลือต้องไปดูกับตาแล้วล่ะ
"จิ่วไจ้โกว"คือสุดยอดประติมากรรมความงามจากธรรมชาติเป็นสวรรค์บนพื้นพิภพอย่างแท้จริง เป็นศูนย์รวมความฝันราวกับหลุดอยู่ในดินแดนแห่งเทพนิยายเป็นเสน่ห์ชวนหลงใหลมีทั้งสายธาราอันเชี่ยวกราด
น้ำตกมากมาย ขุนเขาตระหง่าน ทะเลสาบแสนสวย ใบไม้เปลี่ยนสี ยากจะหาใดเทียมใครได้ยลเป็นต้องมนต์ทุกราย ใครคิดว่าเกินจริงก็ลองหาเวลาว่างไปท้าพิสูจน์กันดู
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
อุทยานแห่งชาติจิ่วไจ้โกว มรดกโลกทางธรรมชาติ ปีค.ศ. 1992 ที่ตั้ง- ทางตอนเหนือของมณฑลซื่อชวน (เสฉวน)ภาคตะวันตกของจีน อาณาเขต - พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 643 ตารางกิโลเมตร ระดับน้ำทะเล 2,000 – 4,760 เมตร เขตเปิดให้สาธารณชนท่องเที่ยว 55 ตารางกิโลเมตร ระดับน้ำทะเล 2,000 – 3,100 เมตร สัตว์ป่าอนุรักษ์ 2,576 ชนิด
หลังเดือนตุลาคมไปแล้ว จิ่วไจ้โกวจะเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว ร้านขายอาหารหลายแห่งปิดให้บริการ ควรเจรจากับทางสถานที่พักให้เตรียมจัดหาอาหารไว้ล่วงหน้า (ฤดูท่องเที่ยวอุทยานฯจิ่วไจ้โกวและหวงหลง อยู่ในเดือนเมษายน-พฤษภาคม, กันยายน-ตุลาคม- 15 พฤศจิกายน)
ราคาบัตรผ่านประตู : ฤดูท่องเที่ยว 1 เมษายน – 15 พฤศจิกายน ราคา 220 หยวน ส่วนระหว่าง 16 พฤศจิกายน – ปลายเดือนมีนาคม ราคา 80 หยวน ( ราคาปรับใหม่เมื่อ 1 กรกฎาคม 2548 )
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง : อุทยานแห่งชาติหวงหลง (มรดกโลกทางธรรมชาติ)ห่างจากจิ่วไจ้โกวกว่า 300 กิโลเมตร ราคาตั๋ว 110-70 หยวน(ตามฤดูกาลท่องเที่ยว) ใช้เวลาท่องเที่ยววันเดียว(4-5ชม.) เปิดตั้งแต่ 9 :10 – 16 :40 น. (ส่วนใหญ่การเดินทางไปอุทยานฯหวงหลงจะรวมอยู่ในโปรแกรมท่องเที่ยวจิ่วไจ้โกวแล้ว ท่านสามารถระบุจุดหมายท่องเที่ยวก่อนเดินทาง)
วัดหวงหลง: ห่างจากจิ่วไจ้โกว 128 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยรถบัสจากจิ่วไจ้โกวลงใต้ไปเมืองซงพัน ราว 92 กิโลเมตร ถึงวัดชวนจู่ซื่อ แล้วต่อรถไปทางตะวันออก อีก 41 กิโลเมตร จึงถึงวัดหวงหลง
นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าไปเที่ยวในอุทยานฯจิ่วไจ้โกว มากกว่าหนึ่งครั้งขึ้นไปต้องทำเรื่องล่วงหน้า ณ จุดจำหน่ายตั๋ว ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่บริษัทนำเที่ยวทั่วไป
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
'จิ่วไจ้โกว'สรวงสวรรค์บนผืนพิภพ (1)