เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2549 ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานมอบรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยหรือรางวัลกินรี ครั้งที่6 ประจำปี 2549ในปีนี้มีผู้ที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ทั้งสิ้น 33 ราย
แบ่งออกเป็นรางวัลยอดเยี่ยม 15 ราย และรางวัลดีเด่น 18 ราย ใน 6 ประเภทรางวัล ได้แก่ รางวัลประเภทแหล่งท่องเที่ยว รางวัลประเภทที่พักนักท่องเที่ยว รางวัลประเภทรายการนำเที่ยว รางวัลประเภทองค์กรส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว รางวัลประเภทโครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว และรางวัลประเภทการสื่อสารและประชาสัมพันธ์
"สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช" จังหวัดนครราชสีมาเป็นหนึ่งในผู้ได้รับรางวัลดีเด่นในครั้งนี้ด้วย ในประเภทแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ในฐานะเป็นผืนป่าแห่งการค้นคว้าเพื่อภูมิปัญญา เพื่อการวิจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยา มีความพร้อมในด้านเป็นห้องปฏิบัติการธรรมชาติ เพื่อศึกษาหาความรู้เรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ และยังมีบทบาทที่หลากหลาย ทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับนานาชาติ
สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ก่อตั้งเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2510 ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองนครราชสีมา ประมาณ 60 กิโลเมตร มีพื้นที่ครอบคลุม 48,750ไร่ ความพิเศษของที่นี่คือมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ในแหล่งอาหารที่จัดว่าสมบูรณ์แบบป่าไม้ถูกอนุรักษ์อย่างดีโดยความร่วมมือของชาวบ้าน ที่นี่เป็นหน่วยงานภายใต้ การบริหารจัดการ ของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร ์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วท.)
มีความสำคัญในฐานะเป็นสถานที่เพื่อวิจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยาป่าเขตร้อน รวมถึงทำหน้าที่เป็นห้องปฏิบัติการธรรมชาติด้วย เป็นแหล่งสงวนชีวมณฑลเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติและพักผ่อนหย่อนใจ สาเหตุที่ สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ได้รับรางวัลดีเด่นด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในครั้งนี้ส่วนหนึ่งคงเป็นผลพ่วงมาจากกิจกรรมอันหลากหลายที่เดินหน้าควบคู่ไปพร้อมกับการพัฒนาป่าอย่างยั่งยืนนั้นเอง
ทักษิณ อาชวาคม หัวหน้าสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ได้กล่าวถึงป่าสะแกราชว่า ป่าแห่งนี้เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑล แห่งแรกของประเทศไทย ป่าสะแกราชแห่งนี้มีอยู่ด้วยกันสองแบบคือส่วนของพื้นที่ป่าเต็งรังและป่าดิบแล้ง
ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของป่ากว่า70% ที่เหลือเป็นป่าไผ่ ทุ่งหญ้าเป็นหญ้าเพ็ก เบาฟูสีเขียว ปกคลุมทั่วพื้นป่า กฏของที่นี่คือห้ามนักท่องเที่ยวนำทุกอย่างออกไปจากป่าแค่หินก้อนเดียวก็ไม่ได้ ต้นไม้ใหญ่น้อยในป่ามีความสำคัญที่เกื้อกูลซึ่งกันและกันหมดขนาดไฟป่าเราก็ยังเห็นเป็นประโยชน์
เพราะต้นไม้บางชนิดอย่าง "ต้นมะค่าแต้" เขาขยายพันธุ์เพราะไฟป่า ถ้าไม่มีไฟป่าเมล็ดที่มีความแข็งแรงมากจะไม่สามารถออกจากฝักได้ มะค่าแต้เป็นไม้ในป่าเต็งรังโบราณนิยมนำมากินกับหมากเมล็ดกินสดได้ เมล็ดแก่นํามาคั่วแล้วกะเทาะเปลือกรับประทานได้ คล้ายเมล็ดมะขาม รส หวาน การพานักท่องเที่ยวมาทัศนศึกษาที่นี้เราจะมีอาสาสมัคร ซึ่งก็คือชาวบ้านที่มีความรอบรู้ในพื้นที่และรู้จักป่าแห่งนี้เป็นอย่างดีเป็นผู้นำทาง
กิจกรรมที่ได้รับความนิยม ในป่าสะแกราชมีอยู่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการดูนก ดูผีเสื้อ ส่องแมลงยามค่ำคืน นอนดูดาว โดยเฉพาะการเดินท่องป่าเพื่อศึกษาธรรมชาติเป็นให้นักท่องเที่ยวรู้จักต้นไม้ใบหญ้าที่มีประโยชน์ในป่าได้เป็นอย่างดี
สำหรับกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนนอกจากจากการเดินป่าอย่างการดูนก ป่าสะแกราชก็มีนกหลายชนิดทั้ง นกยางกรอกพันธุ์จีน นกแอ่นพง นกกระสาคอขาว นกยูง นกคุ้มอืดเล็ก ฯลฯรวมถึง “ไก่ฟ้าพญาลอ” ซึ่งจัดเป็นนกหายากใกล้จะสูญพันธ์ สาเหตุเนื่องมาจากที่อยู่อาศัยถูกทำลายและถูกล่ามาเป็นอาหารให้นักดูนกได้ส่องกล้องดูอย่างใกล้ชิดกับธรรมชาติอีกด้วย
แล้วเรายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่น่าชมไม่ว่าจะเป็น “จิ้งเหลนปักธงชัย” สัตว์เลื้อยคลานที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ เพราะเป็นสัตว์ป่า ที่หายาก และพบเฉพาะที่ป่าสะแกราช เพียงแห่งเดียวเท่านั้น เห็ดป่าที่หลากหลาย ทำให้ผู้คนที่เข้าไปพบเห็น ตื่นตาตื่นใจ เช่น เห็ดถ้วย ที่ดอกเห็ดมีลักษณะเหมือนถ้วย ขึ้นเป็นกลุ่มอยู่ตามซากกิ่งไม้ มีสีชมพูสดใส
ส่วนสิ่งมีชีวิตประเภทรา สาหร่าย และไลเคน ซึ่งเป็นการอยู่ร่วมกัน ระหว่างรากับสาหร่ายคู่ ถึงแม้ว่าความหลากหลาย ของไลเคนจะไม่มีมาก แต่ก็ได้ให้ตัวอย่าง สำหรับการศึกษาหาความรู้ สำหรับผู้ไปเยือนได้เคยสังเกตกันหรือเปล่าว่าเหตุใดชุดของทหารจึงเป็นลายพรางนั่นก็เพราะต้องการเลียนแบบธรรมชาตินั้นเอง
ลุงแสวง อายุ 80 ปี ปัจจุบันเป็นผู้ทำหน้าที่อาสาสมัครนำทางในป่าสะแกราช ลุงแสวงเคยเป็นเจ้าหน้าที่ในสถานีวิจัยสะแกราชมาก่อน จนกระทั่งปลกเกษียณก็ยังไม่เคยทอดทิ้งผืนป่าสะแกราชไปไหน ปัจจุบันจึงเป็นหนึ่งในผู้นำทางบอกเล่าเรื่องราวของป่าสะแกราชแก่นักท่องเที่ยว
"ลุงอยู่มาตั้งแต่หนุ่มๆจนอายุปูนนี้รักป่าที่นี่มาก รู้จักต้นไม้แทบทุกต้นในป่า เวลานักท่องเที่ยวหรือนักเรียนมาก็จะเป็นคนทำหน้าที่ชี้ชวนอธิบายลักษณะของต้นไม้ต่างๆในป่าให้เขาดูและฟัง อย่างเห็นต้นไทรเราก็ต้องอธิบายว่า "ไทร"คือนักบุญแห่งป่านักฆ่าแห่งพงไพรรัดต้นไม้ทุกต้นที่อยู่ใกล้
พอพาเขาเดินมาเจอต้นตะเคียนก็จะเพิ่มเติมไปว่า แต่ไทรรัดตะเคียนไม่เข้าเพราะมีเปลือกนอกที่แข็งแรงห่อหุ้ม นอกจากนี้ป่าแห่งนี้ยังมีต้น "ลูกดิ่ง" หรือสะตออีสานที่มีรสชาติใกล้เคียงกัน มี "ต้นแกแล" ที่นำมาทำสีย้อมผ้ามีสีเหลืองทอง อย่างคำว่า "ดำเป็นตอตะโก" ก็มีที่มาเนื่องจากต้นตะโกมีสีดำ เราก็จะพาไปดูต้นตะโกให้เขาเห็นว่าจริงหรือเปล่า มันต้องอธิบายให้คนที่มาเข้าใจทุกครั้งเพื่อจะได้ไม่ผลักไสป่าห่างตัว
ต้นไม้ในป่าสะแกราชมีมากมายทั้งฟ้าทะลายโจร มะค่าโมงที่นิยมใช้ทำโซฟา อายุบางต้นเฉลี่ยถึง 200-300ปี อย่างต้นพลองกินลูก ตะเคียนหิน ฯลฯนอกจากป่าที่มีดั้งเดิมแล้วภายหลังทางสถานีฯได้มีการนำป่าปลูกเข้ามาเมื่อปี พ.ศ.2523 เพื่อทดแทนผืนป่าที่ถูกชาวบ้านทำลายด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์"
สถานีวิจัยฯแห่งนี้นับเป็นกำไรจากธรรมชาติอีกแหล่งหนึ่งที่มีคุณค่าประโยชน์มหาศาลจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดรางวัลกินรีดีเด่น ประเภทแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศจึงตกเป็นของที่แห่งนี้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ตั้งอยู่ที่ ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา สอบถามรายละเอียดโทร.0-4425-8642,0-4424-4474,0-4424-2533