ช่วงนี้กระแส"ทหาร"ฟีเวอร์เริ่มแผ่วลงหลังทหารกลับเข้ากรม กอง ซึ่งก็ได้แต่ภาวนาว่าในอนาคตภายภาคหน้า ทหารอย่าได้ยกกองกำลังพร้อมอาวุธครบมือ ขับรถถัง รถฮัมวี มาจอดกลางกรุงให้ประชาชนถ่ายรูปเหมือนการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 49 เป็นดีที่สุด
แต่สำหรับผู้ที่อยากถ่ายรูปกับทหาร รถถัง เครื่องบิน หรืออยากสัมผัสกับบรรยากาศแบบทหารหาญ เดี๋ยวนี้ในค่ายทหารหลายแห่งเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ผู้ที่สนใจเข้าไปเที่ยวชมรับรู้เรื่องราวของทหารกันได้ ในรูปแบบทัวร์ค่ายทหาร ซึ่งแต่ละค่ายต่างก็มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป
และที่พิเศษเป็นอย่างยิ่งสำหรับปีนี้ก็คือ ทางกองทัพบกได้เปิดพื้นที่ 4 ค่ายทหารจัดแสดงการสาธิตการใช้อาวุธของทหารเหล่าต่างๆ อันได้แก่เหล่าทหารราบ ทหารม้า ทหารพลร่ม และทหารปืนใหญ่ ที่มีการแสดงเพียงปีละครั้งให้ผู้สนใจได้เข้าชม ในระหว่างวันที่ 6-8 พ.ย. ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ทางกองทัพเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม ทั้งนี้ก็เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงภารกิจของทหารหาญในการปกป้องประเทศชาติ และได้รับความเพลิดเพลินความบันเทิงจากการแสดง อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้ทหารกับประชาชนใกล้ชิดกันมากขึ้น
พล.ท.คมชาติ สมิตานนท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก และผู้บุกเบิกโครงการนำประชาชนเข้าชมการสาธิตอาวุธของเหล่ากองทัพบก กล่าวว่า
"การสาธิตอาวุธนี้ทางกองทัพบกได้ดำเนินการสาธิตเป็นประจำทุกปีและกระทำมานานแล้ว เพียงแต่เป็นการสาธิตเพื่อให้วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร(วปอ.)และส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้ชมเท่านั้น ซึ่งเห็นว่าการสาธิตแต่ละครั้งต้องใช้งบประมาณจะแสดงอยู่แล้ว จึงอยากจะให้คนทั่วไปได้มีโอกาสเข้ามาร่วมชมการสาธิต เพื่อให้รู้ว่าเงินที่เขาเสียภาษีมานั้น ทหารนำไปทำอะไรได้บ้าง อาวุธที่กองทัพไทยมีใช้อยู่นั้นมีประสิทธิภาพเพียงใด สามารถป้องกันบ้านเมืองให้ชาวไทยเราได้อยู่อย่างสุขสบายได้อย่างไร
ในปีนี้ทางทหารบกจึงเปิดบ้านให้ประชาชนทั่วไปได้รู้ถึงแสนยานุภาพของอาวุธต่างๆที่ใช้ในกองทัพไทยเป็นครั้งแรก แต่จะจำกัดเฉพาะ “คนไทย”เท่านั้นที่สามารถร่วมชมได้"
ค่ายธนะรัชต์ สาธิตอาวุธและยุทธวิธีทหารราบ
ในส่วนของการสาธิตอาวุธของเหล่าทหารราบทหารด่านแรกที่ต้องเข้าไปยึดพื้นที่ ที่เปรียบเสมือนราชินีแห่งการรบ จะมีการจัดแสดงขึ้นในวันที่ 6 พ.ย. 49 เวลา 14.00 น. ที่ ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยจะมีการแสดงการใช้อาวุธต่างๆของทหารราบ ตั้งแต่ปืนพกติดตัวไปจนถึงปืนกลหนัก ปืนต่อสู้รถถัง เครื่องยิงลูกระเบิด
อีกทั้งยังมีการแสดงการรบทางยุทธวิธีของทหารราบที่คล้ายกับในภาพยนตร์สงครามไม่น้อย จากนั้นจะเป็นการจัดหมวดหมู่ในการรบ และปิดท้ายด้วยการแสดงการใช้อาวุธในการแข่งขันของทีมมือปืนของกองทัพบก ทั้งการยิงอยู่กับที่และการยิงขณะเคลื่อนไหว
นอกจากการแสดงของทหารราบแล้ว ในวันปกติค่ายธนะรัชต์ยังมีพิพิธภัณฑ์ทหารราบให้เที่ยวชม ส่วนผู้ที่ชอบความท้าทายก็สามารถ ทดสอบกำลังกายกำลังใจกันได้กับการ โดดหอสูง 34 ฟุต การไต่หน้าผาจำลอง หน้าผาจริง เลื่อนบก เลื่อนน้ำ ฯลฯ
ค่ายอดิศร สาธิตอาวุธเหล่าทหารม้า
ในวันที่ 7 พ.ย. 49 เวลา 13.00 น. ที่ ค่ายอดิศร อ.เมือง จ.สระบุรี จะมีการแสดงสาธิตอาวุธของเหล่าทหารม้า เริ่มตั้งแต่การแสดงความเป็นมาของทหารม้า การจัดกำลังของทหารม้ายานเกราะ การรบบนหลังม้าและทหารที่ตามม้ารบ การบรรยายและสาธิตการแต่งการในการออกรบตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากสินมหาราชจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีการแสดงรถถังตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในสมัยที่รถถังยังมีขนาดเล็กจนพัฒนามาเป็นรถถังขนาดใหญ่ดังเช่นปัจจุบัน พร้อมทั้งอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับรถถังทั้งหมด ทั้งรุ่น ยี่ห้อรถ ความจุ เชื้อเพลิงและอุปกรณ์ต่างๆภายใน การแสดงการรบทางยุทธวิธีของรถถัง การแสดงการยิงปืนของรถถังทั้งที่อยู่กับที่และแบบเคลื่อนที่ยิงเป้าที่อยู่บนเขาด้วยกระสุน 2 วิถี เป็นต้น
สำหรับค่ายอดิศรใช่เพียงมีการสาธิตอาวุธของเหล่าทหารม้าเท่านั้น แต่ค่ายแห่งนี้วันปกติยังเปิดให้ประชาชนเข้าไปเที่ยวชมและร่วมทำกิจกรรมต่างๆที่ทางค่ายจัดไว้ให้ อาทิ พิพิธภัณฑ์ทหารม้าสถานที่แสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหล่าทหารม้าเคยใช้ในอดีต การจอดแสดงของรถถังที่ปลดประจำการ รวมถึงแสดงรถถังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันเคยประทับ และในส่วนของกิจกรรมต่างๆ สวนสุขภาพเฉลิมพระเกียรติฯ สนามยิงปืน ศูนย์กีฬากอล์ฟ สระว่ายน้ำ สนามขี่ม้า และยิมเนเซียม นอกจากนั้นยังมีการเดินทางไกลและค่ายพักแรม การทดสอบสมรรถภาพร่างกายและจิตใจอีกด้วย
ค่ายเอราวัณ สาธิตการรบทางดิ่ง
หลายๆคนที่ไม่รู้จักการรบทางดิ่ง ในวันที่ 8 พ.ย. 49 เวลา 09.00 น. หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ค่ายเอราวัณ อ.เมือง จ.ลพบุรี จะมีการสาธิตการแสดงการรบทางดิ่ง ที่มีตั้งแต่การกระโดดร่มจากบอลลูนลงมาทำการรบที่พื้นดิน การสนับสนุนการรบด้วยเฮลิคอปเตอร์ การกระโดดร่มทางยุทธวิธีทางกีฬา การชิงตัวประกัน การดำรงชีพในป่า การแสดงของหน่วยจิตวิทยา
ส่วนการแสดงที่ถือเป็นไฮไลท์ของงานก็คือ การโจมตีใต้น้ำ ซึ่งผู้ชมจะได้เห็นการสาธิตจากริมคลองยาวใหญ่ในบริเวณหน่วยที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่กลับมีการซุ่มโจมตีใต้น้ำที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า เหล่านักรบนั้นมาจากไหน
นอกจากการแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษแล้ว ในวันปกติ ค่ายเอราวัณ ยังมีสิ่งน่าสนใจ อาทิ ศาลเทพเจ้าเอราวัณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำค่ายเอราวัณ พิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ ภายในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของอาวุธต่างๆ และโมเดลจำลองยุทธวิธีในการรบต่างๆ รวมถึงกิจกรรมท้าทายความสามารถอาทิ การกระโดดหอสูง 34 ฟุต การไต่หน้าผาจำลองและหน้าผาจริง การสาธิตการดำรงชีวิตในป่า การป้องกันอันตรายจากสัตว์มีพิษ การสาธิตการจับงูและเรียนรู้รู้จักกับงูแต่ละชนิด ฯลฯ ซึ่งสิ่งน่าสนใจต่างๆในค่ายเอราวัณ ผู้สนใจสามารถติดต่อเที่ยวชมได้ในวันเวลาราชการ
ค่ายพหลโยธิน สาธิตอาวุธทหารปืนใหญ่
หากเป็นวันปกติ ค่ายพหลโยธิน อ.เมือง จ.ลพบุรี จะเปิดค่ายให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมสิ่งที่น่าสนใจ อาทิ ตึกชาโดว์ สถาปัตยกรรมฝรั่งเศสที่สวยงามสร้างขึ้นในปี 2487 ตึกพิบูลสงคราม พิพิธภัณฑ์อาวุธทหารปืนใหญ่ ห้องเทียมลากปืนใหญ่ พิพิธภัณฑ์พลเอกพหล พลพยุหเสนา ที่จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ของท่านและท่านผู้หญิงบุญหลง พลพยุหเสนา อนุสรณ์สถานจอมพลป. พิบูลสงคราม อาคารปืนใหญ่พระมหาฤกษ์พระมหาไชย เป็นต้น
แต่สำหรับวันพิเศษ ซึ่งตรงกับ วันที่ 8 พ.ย.49 เวลา 13.00 น. ค่ายเอราวัณ จะมี การสาธิตการใช้อาวุธเหล่าสุดท้ายของเหล่าทหารปืนใหญ่ ราชาแห่งสนามรบ ณ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ โดยจะเป็นการแสดงอาวุธต่างๆของเหล่าทหารปืนใหญ่ เช่น ปืนใหญ่ขนาดกว้างปากลำกล้อง 105 มม. และ 155 มม. ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน จรวดหลายลำกล้อง การสาธิตการยิงปืนใหญ่ต่อเป้าหมายต่างๆ สุดท้ายจะเป็นการรวมอำนาจการยิงของปืนใหญ่ ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน และจรวดหลายลำกล้องต่อเป้าหมาย
ส่วนที่ถือเป็นไฮไลท์ของการสาธิตนี้ก็คือ จะมีกระสุนสำหรับให้ผู้เข้าชมได้ทดลองยิงด้วยตัวเองอีกด้วย เป็นการปิดท้ายการแสดงสาธิตการใช้อาวุธของทหารบกเหล่าต่างๆที่หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจจะเข้าชมการแสดงสาธิตการใช้อาวุธของกองทัพบก ระหว่างวันที่ 6-8 พ.ย. 49 สามารถเลือกชมได้เพียงหนึ่งวันหนึ่งเหล่าเท่านั้น โดยกองทัพบกได้ให้ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.)เป็นผู้ประสานงานในเรื่องของการสำรองที่นั่ง การเดินทาง ในรูปแบบแพ็คเกจทัวร์ ซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดในราคา 1,990 บาท/คน ทั้งนี้ผู้สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2981-4156,08-1889-5295
ส่วนในวันปกตินักท่องเที่ยวสามารถติดต่อขอเข้าเที่ยวชมค่ายทหารตามที่กล่าวมาข้างต้นได้ในวัน-เวลาราชการ ดังนี้
ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0-3254-2455-64/ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร อ.เมือง จ.สระบุรี 0-3622-1268/ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ค่ายเอราวัณ อ.เมือง จ.ลพบุรี 0-3641-2003/ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่ายพหลโยธิน อ.เมือง จ.ลพบุรี 0-3648-6433-4