โดย : ปิ่น บุตรี

หากพูดถึงคำขวัญประจำจังหวัดที่มีคนรู้จักกันมากที่สุดแต่ว่าท่องกันได้แค่บางท่อน คำขวัญของจังหวัดสุราษฎร์ธานีคงนอนมาอย่างไม่ต้องสงสัย
“เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ ชักพระประเพณี” คือคำขวัญเต็มๆของสุราษฎร์ แต่ว่าคนส่วนใหญ่มักท่อนได้แค่ท่อน “หอยใหญ่ ไข่แดง” ซึ่งสามารถตีความได้ทั้งเวอร์ชั่นปกติและเวอร์ชั่นสองแง่สามง่าม โดยเฉพาะกับท่อน“หอยใหญ่”นี่ สามารถตีความเป็นเวอร์ชั่นเรทอาร์ เรทเอ๊กซ์ได้อย่างสบายๆ ซึ่งจะว่าไปแล้วนี่ถือเป็นเสน่ห์ของภาษาไทยที่คำบางคำ แม้จะอ่านและเขียนเหมือนกันแต่ว่าสามารถสื่อความหมายออกไปได้หลายอย่าง
สำหรับหอยใหญ่ แต่ละคนอาจจะใช้จินตนาการตีความหอยใหญ่ไปต่างๆนานา แต่ข้อเท็จจริงที่ไม่ต้องจินตนาการก็คือหอยใหญ่เมืองสุราษฎร์นั้นใหญ่สมชื่อ ใหญ่มั่กๆ แถมยังใหญ่แบบมีคุณภาพ คือ สด เนื้อแน่นหวาน

เวลาไปเยือนสุราษฎร์คราใดหนึ่งในเมนูที่มักจะไม่พลาดด้วยประการทั้งปวงก็คือ “หอย” ทั้งหอยนางรม หอยแมลงภู่ หินแครง ที่ผมสามารถกินได้กินดี ยิ่งได้น้ำจิ้มรสแซ่บ กินแกล้มเบียร์เย็นๆในร้านริมทะเลมีสายลมคลอเคล้าและเสียงคลื่นขับกล่อม โอ้ว...พระเจ้าจอร์จ มันยอดหอยมาก
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเวลากินหอยควรระวังไว้สักนิดสำหรับคนธาตุอ่อน เพราะเมื่อหอย+น้ำจิ้ม อาจจะเกิดปฏิกิริยาปรู๊ดปร๊าดต่อท้องไส้ของเรา จนอาจจะต้องละวางจากหอยหันหน้าเข้าหาคอห่านแทนก็เป็นได้ ส่วนหนุ่มที่พาหญิงไปกินหอย ควรระวังเรื่องคำพูดคำจาไว้นิดส์นึง เพราะหากเผลอพูดผิดหลุดคำอันไม่พึงประสงค์ออกไป อาจจะทำให้วงแตกได้
นอกจากหอยใหญ่สุราษฎร์จะกินอร่อยแล้ว หอยใหญ่สุราษฎร์ยังเที่ยวหรอยอีกด้วย เพราะที่อ่าวบ้านดอน อ.กาญจนดิษฐ์ แหล่งเพาะเลี้ยงหอยแหล่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย ซึ่งในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาทางสินมานะฟาร์มสเตย์ ฟาร์มเลี้ยงหอยขนาดใหญ่ได้เป็นผู้บุกเบิกกิจกรรมนั่งเรือเที่ยวอ่าวบ้านดอนขึ้นในแนวคิด “ชิมหอยนางรม ชมขนำกลางทะเล พักฟาร์มสเตย์ มนต์เสน่ห์อ่าวบ้านดอน” ในลักษณะทริปประเภทเที่ยวไปกินไป บนขนำกลางทะเลท่ามกลางเสียงเห่กล่อมของทะเลคลื่นลม

สำหรับการนั่งเรือเที่ยวอ่าวบ้านดอนก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่เลือกแพ็คเกจว่าจะเที่ยวแบบไหน แบบไปสาย-กลับบ่าย มีอาหาร 1 มื้อ คิดคนละ 400 บาท หรือแบบไปพักค้างคืนกลับเช้า มีอาหาร 2 มื้อ คิดคนละ 800 บาท อาหารแต่ละมื้อมีประมาณ 10 อย่าง โดยจะเน้นไปที่“หอย”สดๆรสอร่อยที่มีให้กินกันอย่างจุใจ โดยเฉพาะหอยนางรมของอ่าวบ้านดอนที่ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องของความอวบใหญ่ เนื้อขาวสะอาด ปราศจากกลิ่นคาว
เมื่อตกลงปลงใจได้แล้วว่าจะเที่ยวในแพ็คเกจไหน ก็ลงเรือที่ท่าคลองท่าทองมุ่งหน้าสู่อ่าวบ้านดอนกันได้แล้ว
ระหว่างทางช่วงแรกในคลองท่าทอง 2 ข้างทางจะเป็นชุมชนริมน้ำและบ้านเรือนชาวประมง พอถึงช่วงท้ายที่จะออกปากอ่าวจะเป็นพื้นที่ของป่าชายเลน และเมื่อพ้นอ่าวชายเลนสู่ปากอ่าว อารมณ์คืบก็ทะเลศอกก็ทะเลเดินทางเข้ามาเยือนในดวงใจผมทันที ว่าแล้วก็อดฮัมเพลง “เรฟูจี” ของ “คาราบาว” ในเวอร์ชั่นของตัวเองขึ้นมาไม่ได้
“...เวิ้งฟ้ากว้างกลางน้ำเรือลำน้อยล่องไป ลอยล่องไป ล่องไป...หาหอยกิน...”
ทะเลที่ผมพบอยู่เบื้องหน้า แม้จะเวิ้งว้างแต่ว่าก็ไม่อ้างว้าง เพราะรอบๆกายที่หันซ้ายแลขวาล้วนเต็มไปด้วยฟาร์มหอยที่ดารดาษไปด้วยไม้ปักเลี้ยงหอย ไม้ปักเขต และขนำน้อยใหญ่กลางทะเลที่สร้างอยู่เรียงรายที่ข้อมูลในเอกสารบอกว่ามีประมาณ 200-300 หลังด้วยกัน
จะว่าไปแล้วทะเลที่อ่าวบ้านดอน ไม่ใช่ทะเลเพื่อการท่องเที่ยวที่มีหาดทรายขาว น้ำใส ปะการังสวย อย่างทะเลภูเก็ต กระบี่ พังงา หรือสมุย แต่ว่าทะเลที่อ่าวบ้านดอนเป็นทะเลแห่งชีวิตที่ใต้ทะเลมากไปด้วยสัตว์น้ำสารพัดอย่าง กุ้ง ปู ปลา และหอยที่มีเหลือคณานับ ส่วนในทะเลก็มีชีวิตของชาวประมงที่ออกเก็บหอย หาปลา จับสัตว์น้ำอยู่ทั่วไป
ระหว่างทางจากอ่าวบ้านดอนจากจุดหมายคือขนำของสินมานะฟาร์มสเตย์ นอกจากผมจะเพลิดเพลินกับภาพแห่งทะเลที่มีชีวิตแล้ว“น้องก้อย”เจ้าหน้าที่ฟาร์มยังให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหอยในอ่าวบ้านดอนอีกมากมาย เริ่มจากการที่หอยอ่าวบ้านดอนตัวใหญ่มาก ก็มาจากมีสภาพน้ำ ดิน ทราย ที่เหมาะสมเต็มไปด้วยอาหารของหอย รวมถึงวิธีการเลี้ยงหอยของชาวบ้านที่มีการสั่งสมภูมิปัญญามาช้านาน

ส่วนเรื่องของระดับน้ำในการเลี้ยงหอยนั้น น้ำลึก เลี้ยงหอยแมลงภู่ น้ำปานกลางเลี้ยงหอยแครง น้ำตื้นเลี้ยงหอยนางรม โดยหอยแต่ละชนิดต่างก็มีเกร็ดที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไป
หอยแครงที่อ่าวบ้านดอนเลี้ยง 2 พันธุ์ คือพันธุ์พื้นเมือง ตัวเล็ก พันธุ์มาเลย์ ตัวอวบใหญ่
หอยแมลงภู่ มี 3 เพศ คือ เพศผู้ สีขาวซีด เพศเมีย สีส้มสด และหอยกระเทย มีสีครีมนวล
ผมกินหอยแมลงภู่มาตั้งแต่เด็กจนโต ก็เพิ่งรู้วันนี้แหละว่ามีหอยกระเทยด้วย
ส่วนหอยนางรมนั้น น้องก้อยขออุบไว้ก่อน ให้ไปเรียนรู้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดบนขนำซึ่งเรือได้แล่นมาถึงพอดี
ขนำของสินมานะฯมีขนาดค่อนข้างใหญ่(หากเทียบกับขนำในละแวกนั้น) มี 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นใต้ถุนเลี้ยงหอยนางรมไว้เพียบเลย ส่วนชั้นบนคือพื้นที่ใช้งานของขนำ มีห้องพัก ครัว และชานเอกเขนกตามใจชอบ
หลังสมาชิกทัวร์หอยกินน้ำและปฏิบัติภารกิจส่วนตัวกันเรียบร้อย ก่อนที่ผมจะได้เปิบหอยให้หนำใจทางฟาร์มก็ทำพิธียั่วน้ำลายด้วยการสาธิตการแกะหอยนางรมให้ชม ซึ่งดูเหมือนง่ายแต่เมื่อลองแกะเองก็รู้เลยว่ายากมากๆสำหรับมือใหม่ แถมถ้าแกะหอยนางรมไม่เป็นนี่ทำให้หอยเสียรสชาติอีกต่างหาก
ว่าแล้วดูเขาแกะพร้อมรอกินเป็นดีที่สุด ซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 10 นาทีเมนูต่างๆก็ทยอยมาเสิร์ฟขึ้นต้น ไม่ว่าจะเป็นแกงเหลือง ปลาทรายทอด ไข่เจียวหอยนางรม หอยหมก ผัดใบเหรียงใส่ไข่ หอยแมลงภู่ผัดพริกเผา หอยแมลงภู่ หอยแครงลวกจิ้ม และที่ถือเป็นไฮไลท์ก็คือหอยนางรมสดๆตัวโตขาวที่เสิร์ฟมาพร้อมนำจิ้มรสแซ่บ

ทว่าบรรดาเพื่อนร่วมทริปส่วนใหญ่ของผมกลับเป็นพวกไม่นิยม“หอยนางรม” (ดิบๆสดๆ) เพราะเมื่อเร็วๆนี้เพิ่งมีข่าวออกมาจากกระทรวงสาธารณสุขว่า การกินหอยนางรมดิบๆสดๆ คู่ยอดกระถิน แถมซดเหล้าแกล้ม ค่อนสุ่มเสี่ยงต่ออันตรายจากโรคความดันสูงและโรคหัวใจขาดเลือด แถมในหอยนางรมยังมีคอเลสเตอรอลสูงอีกต่างหาก
เมื่อข่าวออกมาเช่นนี้หลายๆคนในทริปจึงกลายเป็นพวก“เมินหอยนางรม”ไปโดยปริยาย ซึ่งก็ถือเป็นการเสร็จโจรอย่างผมไปโดยปริยายเช่นกัน เพราะงานนี้ผมกับ“พี่ไก่”ททท.สุราษฎร์ขันอาสากำจัดหอยนางรมทั้งหมดแบบไม่ให้หลุดรอดฝีปากไปสักตัว
หอยนางรมสดๆ ตัวโต เนื้อขาวแน่นใส่กระเทียม ยอดกระถิน เหยาะน้ำจิ้มรสแซ่บ ก่อนส่งหมับเข้าปาก ให้เนื้อหอยกับยอดกระถินออกรสผสมกันในปากที่รสชาตินั้นทั้งหวานทั้งแน่น ก่อนตามด้วยเหล้าเพียวๆตบตูด โอว...สุดยอดทีเดียว
เรียกว่าผมทำตรงข้ามกับคำเตือนของกระทรวงสาธารณสุขโดยสิ้นเชิงแบบไม่กลัวคอเลสเตอรอลถามหา ก็แหม...นานๆเจอหอยใหญ่ทีนี่นา ไม่ได้กินหอยอย่างนี้ทุกวันเสียเมื่อไหร่
นอกจากนี้ผมยังถือว่า“หอย”เป็นสัตว์น้ำที่กินแล้วสะอาดปลอดภัยหายห่วง เพราะหอยเป็นสัตว์ที่มี“อย.” ใครไม่เชื่อก็ลองสะกดคำว่า ห-อ-ย...“หอย” ดู
ว่าแล้วงานนี้จึงขอหม่ำหอยอย่างเต็มที่ให้สมกับบรรยากาศ“ทัวร์หอย หรอยจังฮู้”หน่อย
*********************************************************
สอบถามรายละเอียดกิจกรรมนั่งเรือเที่ยวอ่าวบ้านดอนได้ที่ ททท.ภาคใต้ เขต 5 โทร. 0-7728-1828,0-7728-8817-9
หากพูดถึงคำขวัญประจำจังหวัดที่มีคนรู้จักกันมากที่สุดแต่ว่าท่องกันได้แค่บางท่อน คำขวัญของจังหวัดสุราษฎร์ธานีคงนอนมาอย่างไม่ต้องสงสัย
“เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ ชักพระประเพณี” คือคำขวัญเต็มๆของสุราษฎร์ แต่ว่าคนส่วนใหญ่มักท่อนได้แค่ท่อน “หอยใหญ่ ไข่แดง” ซึ่งสามารถตีความได้ทั้งเวอร์ชั่นปกติและเวอร์ชั่นสองแง่สามง่าม โดยเฉพาะกับท่อน“หอยใหญ่”นี่ สามารถตีความเป็นเวอร์ชั่นเรทอาร์ เรทเอ๊กซ์ได้อย่างสบายๆ ซึ่งจะว่าไปแล้วนี่ถือเป็นเสน่ห์ของภาษาไทยที่คำบางคำ แม้จะอ่านและเขียนเหมือนกันแต่ว่าสามารถสื่อความหมายออกไปได้หลายอย่าง
สำหรับหอยใหญ่ แต่ละคนอาจจะใช้จินตนาการตีความหอยใหญ่ไปต่างๆนานา แต่ข้อเท็จจริงที่ไม่ต้องจินตนาการก็คือหอยใหญ่เมืองสุราษฎร์นั้นใหญ่สมชื่อ ใหญ่มั่กๆ แถมยังใหญ่แบบมีคุณภาพ คือ สด เนื้อแน่นหวาน
เวลาไปเยือนสุราษฎร์คราใดหนึ่งในเมนูที่มักจะไม่พลาดด้วยประการทั้งปวงก็คือ “หอย” ทั้งหอยนางรม หอยแมลงภู่ หินแครง ที่ผมสามารถกินได้กินดี ยิ่งได้น้ำจิ้มรสแซ่บ กินแกล้มเบียร์เย็นๆในร้านริมทะเลมีสายลมคลอเคล้าและเสียงคลื่นขับกล่อม โอ้ว...พระเจ้าจอร์จ มันยอดหอยมาก
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเวลากินหอยควรระวังไว้สักนิดสำหรับคนธาตุอ่อน เพราะเมื่อหอย+น้ำจิ้ม อาจจะเกิดปฏิกิริยาปรู๊ดปร๊าดต่อท้องไส้ของเรา จนอาจจะต้องละวางจากหอยหันหน้าเข้าหาคอห่านแทนก็เป็นได้ ส่วนหนุ่มที่พาหญิงไปกินหอย ควรระวังเรื่องคำพูดคำจาไว้นิดส์นึง เพราะหากเผลอพูดผิดหลุดคำอันไม่พึงประสงค์ออกไป อาจจะทำให้วงแตกได้
นอกจากหอยใหญ่สุราษฎร์จะกินอร่อยแล้ว หอยใหญ่สุราษฎร์ยังเที่ยวหรอยอีกด้วย เพราะที่อ่าวบ้านดอน อ.กาญจนดิษฐ์ แหล่งเพาะเลี้ยงหอยแหล่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย ซึ่งในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาทางสินมานะฟาร์มสเตย์ ฟาร์มเลี้ยงหอยขนาดใหญ่ได้เป็นผู้บุกเบิกกิจกรรมนั่งเรือเที่ยวอ่าวบ้านดอนขึ้นในแนวคิด “ชิมหอยนางรม ชมขนำกลางทะเล พักฟาร์มสเตย์ มนต์เสน่ห์อ่าวบ้านดอน” ในลักษณะทริปประเภทเที่ยวไปกินไป บนขนำกลางทะเลท่ามกลางเสียงเห่กล่อมของทะเลคลื่นลม
สำหรับการนั่งเรือเที่ยวอ่าวบ้านดอนก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่เลือกแพ็คเกจว่าจะเที่ยวแบบไหน แบบไปสาย-กลับบ่าย มีอาหาร 1 มื้อ คิดคนละ 400 บาท หรือแบบไปพักค้างคืนกลับเช้า มีอาหาร 2 มื้อ คิดคนละ 800 บาท อาหารแต่ละมื้อมีประมาณ 10 อย่าง โดยจะเน้นไปที่“หอย”สดๆรสอร่อยที่มีให้กินกันอย่างจุใจ โดยเฉพาะหอยนางรมของอ่าวบ้านดอนที่ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องของความอวบใหญ่ เนื้อขาวสะอาด ปราศจากกลิ่นคาว
เมื่อตกลงปลงใจได้แล้วว่าจะเที่ยวในแพ็คเกจไหน ก็ลงเรือที่ท่าคลองท่าทองมุ่งหน้าสู่อ่าวบ้านดอนกันได้แล้ว
ระหว่างทางช่วงแรกในคลองท่าทอง 2 ข้างทางจะเป็นชุมชนริมน้ำและบ้านเรือนชาวประมง พอถึงช่วงท้ายที่จะออกปากอ่าวจะเป็นพื้นที่ของป่าชายเลน และเมื่อพ้นอ่าวชายเลนสู่ปากอ่าว อารมณ์คืบก็ทะเลศอกก็ทะเลเดินทางเข้ามาเยือนในดวงใจผมทันที ว่าแล้วก็อดฮัมเพลง “เรฟูจี” ของ “คาราบาว” ในเวอร์ชั่นของตัวเองขึ้นมาไม่ได้
“...เวิ้งฟ้ากว้างกลางน้ำเรือลำน้อยล่องไป ลอยล่องไป ล่องไป...หาหอยกิน...”
ทะเลที่ผมพบอยู่เบื้องหน้า แม้จะเวิ้งว้างแต่ว่าก็ไม่อ้างว้าง เพราะรอบๆกายที่หันซ้ายแลขวาล้วนเต็มไปด้วยฟาร์มหอยที่ดารดาษไปด้วยไม้ปักเลี้ยงหอย ไม้ปักเขต และขนำน้อยใหญ่กลางทะเลที่สร้างอยู่เรียงรายที่ข้อมูลในเอกสารบอกว่ามีประมาณ 200-300 หลังด้วยกัน
จะว่าไปแล้วทะเลที่อ่าวบ้านดอน ไม่ใช่ทะเลเพื่อการท่องเที่ยวที่มีหาดทรายขาว น้ำใส ปะการังสวย อย่างทะเลภูเก็ต กระบี่ พังงา หรือสมุย แต่ว่าทะเลที่อ่าวบ้านดอนเป็นทะเลแห่งชีวิตที่ใต้ทะเลมากไปด้วยสัตว์น้ำสารพัดอย่าง กุ้ง ปู ปลา และหอยที่มีเหลือคณานับ ส่วนในทะเลก็มีชีวิตของชาวประมงที่ออกเก็บหอย หาปลา จับสัตว์น้ำอยู่ทั่วไป
ระหว่างทางจากอ่าวบ้านดอนจากจุดหมายคือขนำของสินมานะฟาร์มสเตย์ นอกจากผมจะเพลิดเพลินกับภาพแห่งทะเลที่มีชีวิตแล้ว“น้องก้อย”เจ้าหน้าที่ฟาร์มยังให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหอยในอ่าวบ้านดอนอีกมากมาย เริ่มจากการที่หอยอ่าวบ้านดอนตัวใหญ่มาก ก็มาจากมีสภาพน้ำ ดิน ทราย ที่เหมาะสมเต็มไปด้วยอาหารของหอย รวมถึงวิธีการเลี้ยงหอยของชาวบ้านที่มีการสั่งสมภูมิปัญญามาช้านาน
ส่วนเรื่องของระดับน้ำในการเลี้ยงหอยนั้น น้ำลึก เลี้ยงหอยแมลงภู่ น้ำปานกลางเลี้ยงหอยแครง น้ำตื้นเลี้ยงหอยนางรม โดยหอยแต่ละชนิดต่างก็มีเกร็ดที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไป
หอยแครงที่อ่าวบ้านดอนเลี้ยง 2 พันธุ์ คือพันธุ์พื้นเมือง ตัวเล็ก พันธุ์มาเลย์ ตัวอวบใหญ่
หอยแมลงภู่ มี 3 เพศ คือ เพศผู้ สีขาวซีด เพศเมีย สีส้มสด และหอยกระเทย มีสีครีมนวล
ผมกินหอยแมลงภู่มาตั้งแต่เด็กจนโต ก็เพิ่งรู้วันนี้แหละว่ามีหอยกระเทยด้วย
ส่วนหอยนางรมนั้น น้องก้อยขออุบไว้ก่อน ให้ไปเรียนรู้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดบนขนำซึ่งเรือได้แล่นมาถึงพอดี
ขนำของสินมานะฯมีขนาดค่อนข้างใหญ่(หากเทียบกับขนำในละแวกนั้น) มี 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นใต้ถุนเลี้ยงหอยนางรมไว้เพียบเลย ส่วนชั้นบนคือพื้นที่ใช้งานของขนำ มีห้องพัก ครัว และชานเอกเขนกตามใจชอบ
หลังสมาชิกทัวร์หอยกินน้ำและปฏิบัติภารกิจส่วนตัวกันเรียบร้อย ก่อนที่ผมจะได้เปิบหอยให้หนำใจทางฟาร์มก็ทำพิธียั่วน้ำลายด้วยการสาธิตการแกะหอยนางรมให้ชม ซึ่งดูเหมือนง่ายแต่เมื่อลองแกะเองก็รู้เลยว่ายากมากๆสำหรับมือใหม่ แถมถ้าแกะหอยนางรมไม่เป็นนี่ทำให้หอยเสียรสชาติอีกต่างหาก
ว่าแล้วดูเขาแกะพร้อมรอกินเป็นดีที่สุด ซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 10 นาทีเมนูต่างๆก็ทยอยมาเสิร์ฟขึ้นต้น ไม่ว่าจะเป็นแกงเหลือง ปลาทรายทอด ไข่เจียวหอยนางรม หอยหมก ผัดใบเหรียงใส่ไข่ หอยแมลงภู่ผัดพริกเผา หอยแมลงภู่ หอยแครงลวกจิ้ม และที่ถือเป็นไฮไลท์ก็คือหอยนางรมสดๆตัวโตขาวที่เสิร์ฟมาพร้อมนำจิ้มรสแซ่บ
ทว่าบรรดาเพื่อนร่วมทริปส่วนใหญ่ของผมกลับเป็นพวกไม่นิยม“หอยนางรม” (ดิบๆสดๆ) เพราะเมื่อเร็วๆนี้เพิ่งมีข่าวออกมาจากกระทรวงสาธารณสุขว่า การกินหอยนางรมดิบๆสดๆ คู่ยอดกระถิน แถมซดเหล้าแกล้ม ค่อนสุ่มเสี่ยงต่ออันตรายจากโรคความดันสูงและโรคหัวใจขาดเลือด แถมในหอยนางรมยังมีคอเลสเตอรอลสูงอีกต่างหาก
เมื่อข่าวออกมาเช่นนี้หลายๆคนในทริปจึงกลายเป็นพวก“เมินหอยนางรม”ไปโดยปริยาย ซึ่งก็ถือเป็นการเสร็จโจรอย่างผมไปโดยปริยายเช่นกัน เพราะงานนี้ผมกับ“พี่ไก่”ททท.สุราษฎร์ขันอาสากำจัดหอยนางรมทั้งหมดแบบไม่ให้หลุดรอดฝีปากไปสักตัว
หอยนางรมสดๆ ตัวโต เนื้อขาวแน่นใส่กระเทียม ยอดกระถิน เหยาะน้ำจิ้มรสแซ่บ ก่อนส่งหมับเข้าปาก ให้เนื้อหอยกับยอดกระถินออกรสผสมกันในปากที่รสชาตินั้นทั้งหวานทั้งแน่น ก่อนตามด้วยเหล้าเพียวๆตบตูด โอว...สุดยอดทีเดียว
เรียกว่าผมทำตรงข้ามกับคำเตือนของกระทรวงสาธารณสุขโดยสิ้นเชิงแบบไม่กลัวคอเลสเตอรอลถามหา ก็แหม...นานๆเจอหอยใหญ่ทีนี่นา ไม่ได้กินหอยอย่างนี้ทุกวันเสียเมื่อไหร่
นอกจากนี้ผมยังถือว่า“หอย”เป็นสัตว์น้ำที่กินแล้วสะอาดปลอดภัยหายห่วง เพราะหอยเป็นสัตว์ที่มี“อย.” ใครไม่เชื่อก็ลองสะกดคำว่า ห-อ-ย...“หอย” ดู
ว่าแล้วงานนี้จึงขอหม่ำหอยอย่างเต็มที่ให้สมกับบรรยากาศ“ทัวร์หอย หรอยจังฮู้”หน่อย
*********************************************************
สอบถามรายละเอียดกิจกรรมนั่งเรือเที่ยวอ่าวบ้านดอนได้ที่ ททท.ภาคใต้ เขต 5 โทร. 0-7728-1828,0-7728-8817-9