หลังจากสนามบินแห่งความภาคภูมิใจ “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ท่าอากาศยานนานาชาติแห่งความภาคภูมิใจ ของชาวไทยที่อยู่ในเขตของจังหวัดสมุทรปราการได้เปิดอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ (28 ก.ย. 49) ซึ่งสนามบินแห่งใหม่นี้จะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งรอบๆท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายต่อหลายแห่งที่พร้อมแล้วสำหรับการมาเยือนของนักท่องเที่ยว
เบญจวรรณ สุเนตรวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ภาคกลางเขต 8 เปิดเผยว่า ททท. ได้ร่วมกับ แอตต้า (สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว)เตรียมโครงการไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องรอต่อเครื่อง โดยจากการสำรวจพบว่า ผู้โดยสารที่ต้องมารอต่อเครื่องบินมีเวลา 3-6 ชั่วโมง ไปจนถึง 10 ชั่วโมง ซึ่งสามารถที่จะซื้อทัวร์จากบริษัททัวร์ที่เตรียมเอาไว้แล้วออกไปเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากสนามบินเกิน 100 กิโลเมตร และสามารถเที่ยวได้ในระยะเวลาสั้นๆ เดินทางไป-กลับ ประมาณ 3-4 ชั่วโมงได้
"ที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวรอบๆสุวรรณภูมิเป็นวงแหวน สามารถไปเที่ยวได้ในหลายจุด อาทิ ใกล้แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่างพัทยา ใกล้สมุทรปราการ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจหลากหลาย อาทิ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ (ช้าง 3 เศียร) ฟาร์มจระเข้ เมืองโบราณ รวมถึงใกล้วัดหลวงพ่อโสธร ที่สามารถดึงเส้นทางล่องเรือชมแม่น้ำบางประกงเข้ามาบรรจุในโปรแกรมทัวร์ได้ ซึ่งเมื่อทุกอย่างพร้อมคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในแถบนี้ให้ดีขึ้นมาก" ผอ. ททท. ภาคกลางเขต 8 กล่าว
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และอยู่ไม่ไกลจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อีกทั้งยังทำให้นักท่องเที่ยวสามารถย้อนรำลึกถึงอดีตวัยเยาว์อันสนุกสนานได้คือ “ตลาดคลองสวน 100 ปี” ที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ลักษณะเป็นห้องแถวเรือนไม้เก่าๆ 2 ชั้น อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ที่ปกคลุมด้วยหลังคาสังกะสี มีระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ตั้งขนานไปตามริมคลองที่ตลบอบอวลด้วยกลิ่นอายของบรรยากาศเก่าๆ แห่งการแลกเปลี่ยนซื้อขาย ณ ริมคลองประเวศน์บุรีรมย์ ที่ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัดคือ จังหวัดฉะเชิงเทรา(อ.บ้านโพธิ์ ต.เทพราช) และ จังหวัดสมุทรปราการ (อ.บางบ่อ ต.คลองสวน)
เดิมนั้นชาวบ้านในบริเวณนี้ต่างใช้ชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำ โดยการเดินทางจากฉะเชิงเทราเข้ากรุงเทพฯต้องใช้เรือเมล์ขาวของนายเลิศที่มีเพียงลำเดียวรับคนจากประตูน้ำท่าถั่ว(ฉะเชิงเทรา) ผ่านตลาดคลองสวน ก่อนจะแล่นเข้าสู่กรุงเทพฯ(วังสระปทุม)
ตลาดคลองสวนจึงเป็นจุดแวะพักและเป็นศูนย์รวมของชุมชน ดังจะเห็นได้จากสิ่งปลูกสร้างต่างๆ อาทิ โรงเจ วัดสุเหร่า และร้านรวงต่างๆ โดยมีร้านกาแฟเป็นศูนย์รวมของการพบปะและแลกเปลี่ยนข่าวสาร ซึ่งหากใครสนใจเรื่องราวในอดีตก็สามารถฟังเรื่องเล่าพร้อมชิมกาแฟกลิ่นหอมกรุ่นที่ร้านกาแฟโบราณในตลาดคลองสวน
หรือจะย้อนอดีตวัยเยาว์รำลึกถึงสมัยเด็กก็ย่อมได้ที่ร้านขนม ที่จำหน่ายพวกหมากฝรั่งมวนบุหรี่ตราแมวสีดำ ลูกอมรสโคล่า หรือขนมโก๋แถมแหวน และอีกสารพัดขนมสีสันล่อตาล่อใจที่หาไม่ได้ในยุคปัจจุบัน
ปัจจุบันตลาดคลองสวนอยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนตำบลเทพราช จ.ฉะเชิงเทรา และเทศบาลตำบลคลองสวน จ.สมุทรปราการ ได้สนับสนุนให้ชุมชนร่วมกันอนุรักษ์บ้านเรือน รวมทั้งการดำเนินชีวิตให้คงไว้ซึ่งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย และส่งเสริมให้ตลาดคลองสวนเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเรียนรู้ดูวิถีชีวิต รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างที่ยังมีกลิ่นอายสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ยังคงกลิ่นอายของความเป็นชุมชนเก่าแก่ไว้ได้อย่างครบครัน
“วัดโสธรวรารามวรวิหาร” เดิมมีชื่อว่า “วัดหงส์” สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อพุทธโสธร” หรือ "หลวงพ่อโสธร" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรา วัดนี้โดดเด่นด้วยพระอุโบสถที่สร้างใหม่ ซึ่งเป็นงานสถาปัตยกรรมทรงไทยประยุกต์สีขาวเด่นสวยงามริมอยู่น้ำบางปะกง
โดยมีลักษณะแบบพระอุโบสถเป็นหลังคาประกอบเครื่องยอดชนิดยอดทรงมณฑปแบบไทย ต่อเชื่อมด้วยวิหารทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้านข้างต่อเชื่อมด้วยอาคารรูปทรงเดียวกับพระวิหารเป็นอาคารมุขเด็จ จึงมีลักษณะเป็นอาคารมีหลังคาแบบจตุรมุขอย่างปราสาทไทย กว้าง 44.5 เมตร ยาว 123.50 เมตร
ส่วนกลางพระอุโบสถมียอดมณฑปสูง 85 เมตร โดยยอดมณฑปมีลักษณะเป็นฉัตร 9 ชั้น มียอดฉัตรเป็นทองคำ ส่วนผนังด้านนอกพระอุโบสถปูด้วยหินอ่อนจากเมืองคาร์ราร่า ประเทศอิตาลี ผนังด้านในเป็นงานจิตรกรรมฝาผนัง โดยศิลปินแห่งชาติซึ่งเป็นผู้เขียนภาพประกอบพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก
สำหรับจุดที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของโบสถ์นี้ก็คือ ส่วนกลางของพระอุโบสถซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธร ประกอบด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบนับตั้งแต่พื้นพระอุโบสถ เสา ผนัง และเพดานจะบรรจุเรื่องราวให้เป็นแดนแห่งทิพย์ เป็นเรื่องราวของสีทันดรมหาสมุทร จตุโลกบาล สวรรค์ดาวดึง พรหมโลก ดวงดาว และจักรวาลซึ่งเป็นภาพเขียนประดับโมเสกสีอันสวยงาม
นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวยังสามารถ "ล่องเรือเที่ยวแม่น้ำบางปะกง" พร้อมทั้งศึกษาประวัติศาสตร์แห่งลุ่มน้ำบางปะกง ชมทิวทัศน์และสถานที่สำคัญสองฝั่งแม่น้ำ โดยสามารถลงเรือได้ที่หลังพระอุโบสถหลังใหม่ วัดโสธรวรารามวรวิหาร
“ช้างเอราวัณ” ที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ ณ “พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ” ซึ่งถือว่าเป็นประติมากรรมช้างเอราวัณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งทำด้วยวิธีเคาะมือ
สำหรับพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ตัวอาคารมีความสูงเท่ากับตึกสูงประมาณ 17 ชั้น ความสูงจากพื้นดินถึงโหนกหัวช้าง 43.60 ม. ส่วนตัว “ช้างเอราวัณ” ที่ตั้งอยู่ด้านบนตัวอาคาร มีความสูง 29 เมตร กว้าง 12 เมตร. ยาว 39 เมตร. น้ำหนักตัวช้างรวม 250 ตัน ส่วนลำตัวหนัก 150 ตัน ส่วนเศียรหนัก 100 ตัน และใช้ทองแดงบริสุทธิ์ เคาะด้วยมือในการทำผิวช้าง
หากใครมาเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณแห่งนี้แล้ว จะได้รับความรู้ในเชิงช่างหลายอย่าง ได้ชมศิลปะเชิงช่างที่สวยงามวิจิตรและหาชมได้ยาก รวมทั้งได้ชมโบราณวัตถุที่มีค่า และได้พักผ่อนหย่อนใจในทัศนียภาพโดยรอบ ที่สำคัญจะได้มาเคารพสักการะองค์ “ช้างเอราวัณ” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองอีกด้วย
“เมืองโบราณ” เมืองที่จำลองสถาปัตยกรรม และศิลปกรรมชิ้นโบว์แดงของ 76 จังหวัดทั่วไทยมารวมไว้ ในผังบริเวณ(สมัยนั้น)ที่จำลองให้คล้ายไทยแลนด์แดนขวานทอง ณ วันนี้หากไปเที่ยวเมืองโบราณนอกจากจะได้เที่ยวชมและสัมผัสกับสุดยอดสถาปัตยกรรม และศิลปกรรมจำลองแล้ว เรายังจะได้สัมผัสกับบรรยากาศแห่งอดีต ที่น่าจะหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในเมืองไทย
รูปแบบการเที่ยวในเมืองโบราณก็มีทั้งเดิน ขี่จักรยาน นั่งรถราง และขับรถส่วนตัวชมเมืองโบราณ ส่วนสถานที่สำคัญๆที่ได้ถกรวบรวมไว้ ณ ที่แห่งนี้ในแบบจำลอง อาทิ พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท าลาการเปรียญวัดใหญ่สุวรรณราม จ.เพชรบุรี มณฑปพระพุทธบาท จ.สระบุรี พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ที่อยู่ในพระบรมมหาราชวังในกทม.นี่เอง พระธาตุพนม จ.นครพนม ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ พระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช พระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฏร์ธานี และยังมีอีกหลายต่อหลายที่ให้ได้ชมกัน เรียกได้ว่าเที่ยวทั่วไทยได้ภายในหนึ่งวันเลยทีเดียว
ร่วมตื่นตาตื่นใจไปกับ "ฟาร์มจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก" ที่ "ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ" นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นฟาร์มจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ที่นี่ยังเป็นแห่งแรกของโลกที่มีการเพาะเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์จระเข้ที่ทันสมัยที่สุด มีการเพาะพันธุ์ทุกสายพันธุ์ ปัจจุบันมีจำนวนจระเข้มากถึง 60,000 ตัว โดยเฉพาะจระเข้ขนาดยักษ์ พันธุ์ผสมระหว่างจระเข้น้ำจืดและจระเข้น้ำเค็ม ความยาวประมาณเกือบ 6 เมตร น้ำหนักกว่า 1,114 กิโลกรัม โดยได้รับการรับรองจากกินเนสบุ๊ค ออฟเรคคอร์ด ว่าเป็นจระเข้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
อีกทั้งยังมีจระเข้ประหลาดที่ไม่สามารถหาชมที่ไหนได้เช่น จระเข้ทอง จระเข้ 5 ขา จระเข้ 6 ขา จระเข้ไม่มีตา จระเข้ไม่มีหาง จระเข้หลังค่อม พร้อมทั้งยังมีการแสดงจับจระเข้ด้วยมือเปล่า การต่อสู้กับจระเข้ และนอกจากจระเข้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของที่ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการแล้ว ยังมีการแสดงช้างแสนรู้ อาทิ ช้างเต้นรำ ช้างวาดรูป และยังมีสัตว์ป่าต่างๆให้ได้เลือกชมอีกมากมายเช่น เสือโคร่ง เสือดาว สิงโต หมี เป็นต้น
นอกจากนี้เมืองแห่งการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่างพัทยา จ.ชลบุรี ก็อยู่ไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิเช่นกัน และในเมืองพัทยานี้ก็มีสถานท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวแล้วจะได้พบกับความสนุก ตื่นเต้น หวาดเสียว ผจญภัย ท้าทาย มันสะใจ และเรื่องราวเหลือเชื่อต่างๆ มากมายให้เราได้สัมผัสกัน อย่างเช่น “พิพิธภัณฑ์ริบลีส์ฯ” ซึ่งถือกำเนิดมาจากนายโรเบิร์ต ลีรอย ริบลีส์ ชาวอเมริกัน ผู้ที่ชื่นชอบสะสมสิ่งของ และเรื่องราวแปลกประหลาดจากทั่วทุกมุมโลกไว้ และได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ฯ ขึ้นมา ซึ่งเกิดขึ้นที่สหรัฐฯ เป็นที่แรก และมีอยู่อีกหลายๆ ประเทศ สำหรับประเทศไทยที่พัทยา เปิดเป็นที่ 22 ภายในพิพิธภัณฑ์ริบลีส์ฯ จัดแสดงเรื่องราว และสิ่งของแปลกๆ พิสดารมากมายกว่า 300 ชิ้น และถูกจัดแสดงไว้ได้อย่างนาสนใจภายในห้องต่างๆ กว่า 10 ห้อง อาทิ ห้องสะสมของแปลก ห้องภาพมายาลวงตา ห้องสัตว์และมนุษย์พิศวง ห้องอุโมงค์พิศวง เป็นต้น
อีกแหล่งท่องเที่ยวที่เป็น สวนประดิษฐ์ที่มีการปรับแต่งภูมิทัศน์อย่างงดงาม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อก็คือ “สวนนงนุช” ในพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 1,500 ไร่ นั้นล้วนแต่เต็มไปด้วยสีสันอันหลากหลายของมวลดอกไม้และความร่มเย็นเขียวขจีของพืชนานาพันธุ์ที่ได้รวบรวมพันธุ์พืชหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลกมาจัดแสดงเป็นส่วนๆ พร้อมตกแต่งอย่างประณีต สวยงาม เช่น สวนสับปะรดสี สวนกล้วยไม้ สวนยุโรป สวนฝรั่งเศส สโตนเฮนจ์เมืองไทย เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมาย รอบๆท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทั้งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เชิงผจญภัย เชิงอนุรักษ์ ก็สามารถเลือกเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปี
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ล่องเรือแม่น้ำบางประกง จ.ฉะเชิงเทรา ลงเรือหลังพระอุโบสถหลังใหม่ วัดโสธรวรารามวรวิหาร วันเสาร์-อาทิตย์-วันหยุดราชการ เรือออกเวลา 10.30 / 11.30 / 13.00 / 14.00 / 15.00 น. วันอื่น ๆ เรือออกเวลา 11.30 / 14.00 น.
“วัดโสธรวรารามวรวิหาร” ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ริมแม่น้ำบางปะกง สามารถไปได้โดย จากกรุงเทพฯเดินทางสู่ จ.ฉะเชิงเทรา
“พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ” ค่าบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฯ พร้อมสักการะผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 50 บาท เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00 น.-18.00น. โดยมีไกด์นำชมพร้อมอธิบายรายละเอียด โทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0-2371-3135-6
เมืองโบราณ ตั้งอยู่ที่ ต. บางปู อ. เมือง จ. สมุทรปราการ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท ค่าจักรยาน(1 ที่นั่ง) 50 บาทค่ารถยนต์/รถตู้ (ไม่รวมคนขับ) คันละ 50 บาท รถราง + มัคคุเทศก์ ผู้ใหญ่150 บาท เด็ก 75 บาท เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 8.00 - 17.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2709-1644, 0-2224-1057, 0-2226-1936-7 หรือดูรายละเอียดที่ เมืองโบราณ
ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 07.00 -18.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร.0-2703-4891,0-2703-5144-8
พิพิธภัณฑ์ริบลีส์ เชื่อหรือไม่ เป็นส่วนหนึ่งของ ริบลีส์ เวิลด์ ออฟ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (Ripley’s World of Entertainment) ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ศูนย์การค้ารอยัล การ์เด้น พลาซ่า 218 หมู่ 10 ถ.เลียบชายหาด พัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เปิดให้บริหารทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-23.00 น. เสียค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 280 บาท เด็ก 180 บาท
“สวนนงนุช พัทยา” ตั้งอยู่ระหว่างพัทยา-สัตหีบ จ.ชลบุรี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่สวนนงนุช โทร.0-3870-9358-61
สำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือสนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่บนถนนบางนาตราด ประมาณกิโลเมตรที่ 15 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ อยู่ห่างจากใจกลางกรุงเทพมหานครไปทางทิศตะวันออก 25 กิโลเมตร
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
วัดโสธรวรารามวรวิหาร
ยล(ประติมากรรม)ช้างเอราวัณ ใหญ่ที่สุดในโลก
“เมืองโบราณ”กับอดีตที่ยังคงทันสมัย
ย้อนอดีตตลาด 100 ปี ที่ “ตลาดคลองสวน”
งามตางามใจเมื่อไปสวนนงนุช
ไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่อ ที่ “พิพิธภัณฑ์ริบลีส์ ” พัทยา