xs
xsm
sm
md
lg

"หัวหิน"ฤาจะเป็นจังหวัดที่ 77 ของไทย??

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เมื่อเร็วๆนี้มีมติจากคณะรัฐมนตรีให้ศึกษาถึงความเป็นไปได้ของการตั้งจังหวัดใหม่ ซึ่งมีความประสงค์จะแยกอำเภอหัวหิน อำเภอปราณบุรี กิ่งอำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี มารวมกันเป็นจังหวัดใหม่ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะใช้ชื่อว่า"จังหวัดไกลกังวล" โดยรัฐบาลคาดการว่าจะตั้งให้ทันภายในปี 2550 ซึ่งเป็นปีเฉลิมฉลองครบรอบ 80 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ทั้งนี้อำเภอ"หัวหิน"ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถูกระบุว่าจะใช้เป็นศูนย์กลางของจังหวัดใหม่

"หัวหิน" เมืองตากอากาศคลาสสิก

แม้หลายๆคนจะคุ้นเคยกับหัวหินและอาจเคยผ่านแวะทักทายบ้าง แต่ก็ยังอาจจะไม่รู้จักอย่างลึกซึ้งเพียงพอ อ.หัวหินเดิมนั้นเป็นที่รู้จักกันดี ในฐานะเป็นสถานที่ตากอากาศอันแสนคลาสสิกนับแต่ช่วงปลายรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมาที่ดินริมชายหาดถูกจับจองด้วยเหล่าบรรดาเจ้าขุนมูลนาย เพื่อสร้างบ้านพักสาเหตุเนื่องมาจากในปลายรัชกาลที่ 5ได้มีการสร้างทางรถไฟสายใต้ จากสถานีบางกอกน้อยมาถึงบริเวณบ้านสมอเรียง (หัวหินในปัจจุบัน)ทำให้การเดินทางสะดวกสบายขึ้น

แถบบ้านสมอเรียงนี้มีกลุ่มหินกระจัดกระจายอยู่อย่างสวยงาม แต่เป็นที่รู้จักในวงกว้างเมื่อ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศวรฤทธิ์ ปลูกสร้างตำหนักหลังงามนาม"ตำหนักสุขเวศม์"ตั้งอยู่ชายทะเลด้านใต้ของหมู่หิน ทรงขนานนามหาดทรายบริเวณตำหนักและหาดถัดไปทางใต้ใหม่ว่า "หัวหิน" นานวันเข้าชื่อหัวหินก็คลอบคลุมทั่วทั้งหาด

ในปีพ.ศ.2464 ซึ่งเป็นปีที่ทางรถไฟสายใต้เชื่อมต่อกับมลายูสร้างเสร็จ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์ให้หัวหินเป็นที่ตากอากาศอันทันสมัยจึงโปรดเกล้าฯให้สร้าง "โฮเต็ลรถไฟหัวหิน"(ปัจจุบันคือโรงแรมโซฟิเทลเซ็นทรัล หัวหิน ที่ยังมีร่องรอยบางส่วนของโฮเต็ลรถไฟเหลืออยู่) และ"สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน" ซึ่งเป็นสนามกอล์ฟ 9 หลุม มาตรฐานสากลแห่งแรกของไทย พูดถึงหัวหินถ้าไม่พูดถึง"สถานีรถไฟหัวหิน"ก็เหมือนยังมาไม่ถึงเพราะที่นี้คือสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นมรดกของท้องถิ่นที่นี่จุดเด่นคือพลับพลาหลวงที่สร้างตั้งแต่รัชกาลที่ 6

หัวหินโด่งดังสุดขีดเมื่อรัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯให้สร้าง "พระราชวังไกลกังวล"ในปีพ.ศ. 2469 รวมทั้งสร้าง "ตลาดฉัตรไชย"ออกแบบให้มีหลังคารูปโค้งครึ่งวงกลมต่อเนื่องกัน 7 โค้ง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 จัดว่าเป็นตลาดที่ถูกสุขอนามัยมากที่สุดของไทยในเวลานั้นพระราชวังไกลกังวลปัจจุบันเป็นที่ประทับยามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันเสด็จแปรพระราชฐานยังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ความเงียบงันมาเยือนหัวหินครั้งแรก เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนจะเข้าสู่ยุค "หัวหินฟีเวอร์"เมื่อสงครามสงบช่วงนั้นหัวหินต้องต้อนรับผู้คนมากมาย ในฐานะเป็นเมืองตากอากาศที่หรูหราของบรรดาผู้มีอันจะกิน หัวหินเข้าสู่ยุคแห่งความร่วงโรยอีกครั้ง เมื่อมีสถานที่ตากอากาศใกล้กรุงเกิดขึ้นในยุคหลัง อย่างบางปูและพัทยาเป็นต้น

อย่างไรก็ตามหัวหินก็ไม่เคยห่างหายไปจากความทรงจำ แม้จวบจนปัจจุบันชื่อของหัวหินก็ยังหอมหวนอบอวลเต็มเปี่ยมไปด้วยร่อยรอยของอดีตยากที่จะหาใครมาเทียบเคียง

"หัวหิน" ฤาจะเป็นจังหวัดที่ 77 ???

หลังมติ ครม.ได้พิจารณาให้ อ.หัวหิน อ.ปราณบุรี กิ่ง อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี รวมกันแล้วยกฐานะเป็นจังหวัดใหม่ ในชื่อจังหวัดไกลกังวล (ซึ่งไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเมื่อไหร่) ก็เริ่มมีกระแสตอบรับทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

ชานนท์ พงศ์ธราธิก เจ้าของนิตยสารหัวหินพ็อกเก็ตไกด์ ชาวหัวหินโดยกำเนิด ได้แสดงทัศนะในเรื่องนี้ว่า ชาวหัวหินมีทั้งที่เห็นด้วยบ้างไม่เห็นด้วยบ้าง โดยที่เห็นด้วยก็จะเป็นในเรื่องของความเจริญที่จะเกิดขึ้น พร้อมงบประมาณการพัฒนาถนนหนทางเรื่องสาธารณูปโภค ส่วนที่ไม่เห็นด้วยก็เกรงว่าเมื่อแยกเป็นจังหวัดแล้วทางประจวบคีรีขันธ์อาจจะไม่มีจุดขาย รายได้หลักจากทางภาษี อาจจะน้อยลงไปเพราะหลักของเขาอยู่ที่หัวหิน

"ถ้าหัวหินจะเปลี่ยนโฉมไปในฐานะจังหวัดที่ 77 ของไทย ก็ควรจะออกมาในรูปแบบของการผสมผสานระหว่างศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมกับเรื่องของปัจจุบันและอนาคต คือต้องกำหนดแนวทางให้ชัดเจนเราไม่ควรจะทิ้งอดีต อย่างหัวหินที่เป็นจุดขายได้ก็เนื่องมาจากมีจุดยืนทางประวัติศาสตร์ ที่เป็นสถานที่ตากอากาศแห่งแรกของประเทศไทย แหล่งท่องเที่ยวหลายที่ควรอนุรักษ์เอาไว้ ถึงจะมีโรงแรม 5 ดาวขนาดใหญ่และแหล่งสปาระดับโลกก็ตาม แต่ก็ต้องให้ประชาชนในชุมชนเล็กๆอยู่ได้และได้ประโยชน์จากการพัฒนาชุมชนตรงนี้"ชานนท์กล่าว

ทางด้านนิด (นามสมมุติ) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ที่คุ้นเคยกับการดูแลพื้นที่ท่องเที่ยวในเขตหัวหิน-ชะอำเป็นอย่างดี เปิดเผยถึงเรื่องจังหวัดที่ 77 ว่า การจะแยะหัวหินกับชะอำซึ่งเป็นอำเภอที่มีรายได้ของ 2 จังหวัด ทั้งเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ รายได้ของ 2 จังหวัดจะขาดหายไป รัฐบาลแถลงออกมาอย่างนี้ก็จริงแต่คงเป็นไปไม่ได้ ที่จะตั้งเป็นจังหวัดภายใน 2-3 ปี เพราะมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ถ้าคิดจะตั้งจริงๆทำไมเขาไม่ไปตั้งทางอีสานที่ต้องการการพัฒนามากกว่า

นิดตั้งข้อสังเกตว่า"อาจจะมีอะไรลึกลงไปหรือเปล่าอย่างการขายที่ดินเหมือนสุวรรณภูมิ หรือไม่เข้าใจว่ารัฐบาลจะต้องการเบี่ยงเบนอะไรหรือเปล่า นอกจากนี้ก่อนจะตั้งจังหวัด ควรจะทำประชาพิจารณ์และสอบถามประชาชนในพื้นที่ก่อนอย่าง อำเภอชะอำจะยอมไหม ถ้าจะยุบมาอยู่รวมกับหัวหิน ขณะนี้ชะอำห้องพักเยอะกว่าหัวหิน แต่ว่าค่าใช้จ่ายและรายได้ต่อหัวหัวหินจะดีกว่าชะอำ"

"หัวหินตอนนี้ที่ดินแพงมาก ไม่มีแล้วที่ติดทะเลสวยๆไม่เหลือให้เห็น มีแต่นายทุนมาลงทุนหมดแล้วฝรั่งมาซื้อบ้านหลังละ10 ล้าน - 20 ล้านหนีหนาวมาอยู่เยอะมากเป็นหมู่บ้านเลยก็มี แทนที่เราจะพัฒนาตรงนี้ให้ดีก่อนรองรับคนที่มาอยู่ให้ดีก่อนจะดีกว่าหรือไม่"นิดกล่าว

และนี่ก็เป็นมุมมองบางส่วนต่อข่าวการกำเนิดจังหวัดที่ 77 ของเมืองไทยที่จะใช้พื้นที่หัวหินเป็นส่วนกลาง ซึ่งในอนาคต หัวหิน จะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดก็สุดจะคาดเดา เพราะอำนาจการเปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่ในมือของคนในท้องถิ่น หากอยู่ที่ความคิดเห็นจากผู้มีอำนาจสั่งการจากส่วนกลาง การคิดจะตั้งจังหวัดใหม่นั้นยังคงต้องรอคอยคำตอบอีกหลายประการ ที่สำคัญที่สุดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการตั้งจังหวัดที่ 77 คงจะไม่ใช่การปั่นราคาที่ดินของนักการเมืองบางคน เหมือนกับแนวคิดและข่าวการตั้งจังหวัดใหม่ๆของเมืองไทยที่ผ่านๆมา ไม่ว่าจะเป็นที่นครนายกหรือที่สุวรรณภูมิ

*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *  *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *   
ข้อมูลทางสถิติจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลางเขต 2 ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามายัง อำเภอหัวหินในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2549 มีจำนวนทั้งสิ้น 635,649 คน แบ่งเป็นชาวไทย 424,460 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปี 2548 ร้อยละ 2.78 และชาวต่างชาติ 211,189 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปี 2548 ร้อยละ17.23
กำลังโหลดความคิดเห็น