โดย : หนุ่มลูกทุ่ง

วันแม่ปีนี้มีใครเตรียมทำอะไรพิเศษให้แม่กันหรือยัง?
สำหรับฉันเองอาจจะไม่มีอะไรพิเศษมากมายเพราะได้ทำตัวเป็นลูกที่ดีเลิศมาตลอด 365 วันแล้ว
แต่ไหนๆ ก็ใกล้วันแม่ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชินีทั้งที ฉันในฐานะที่เป็นนักท่องเมืองกรุงก็เลยอยากจะพาแม่มาเที่ยวแถวๆ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พอให้อินเทรนด์กับกระแสวันแม่เสียหน่อย

สำหรับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นี้ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าสร้างขึ้นมาเพื่อการประชุมโดยเฉพาะ โดยสร้างขึ้นเพื่อรองรับการประชุมของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ครั้งที่ 46 เมื่อปี พ.ศ. 2534 และก็ได้จัดงานประชุมระดับชาติและนานาชาติมาอีกหลายครั้ง
ฉันคิดว่าแทบทุกคนก็ต้องเคยมาที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์กันบ้างสักครั้งหนึ่งนั่นแหละ เพราะที่นี่มักจะเป็นสถานที่จัดงานใหญ่ๆ อยู่บ่อยครั้ง ไม่เฉพาะงานประชุมสัมมนายิ่งใหญ่สารพัดอย่าง แต่ก็ยังมีงานแสดงมหกรรมสินค้าต่างๆ หรือที่ผ่านไปสดๆ ร้อนๆ ก็ต้องงานแสดงสัตว์เลี้ยง Pet Expo แต่ที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดก็ต้องนี่เลย งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่จัดกันปีละสองครั้ง ซึ่งก็ได้รับความนิยมกันมากๆ เรียกว่ามีผู้คนไปเดินกันล้นหลามตั้งแต่เช้าจดเย็นเลยทีเดียว
แต่วันนี้ฉันไม่ได้จะชวนมาดูงานแสดงอะไรที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์หรอก แต่อยากจะพามาเที่ยวที่ "สวนเบญจกิติ" ที่อยู่ติดๆ กับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นั่นแหละ

เวลาพูดถึงสวนเบญจกิติทีไร ก็ชอบมีคนสับสนถามว่า "อะไรนะ สวนเบญจศิริเหรอ?" ทุกทีไป จึงต้องขอเรียนให้ทราบตรงนี้ว่ามันคนละที่กันนะจ๊ะ สวนเบญจศิรินั้นอยู่ข้างๆ ห้างสรรพสินค้าเอ็มโพเรียม ส่วนสวนเบญจกิติที่เรากำลังพูดถึงนั้นก็อยู่ข้างศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นี่เอง
แต่เดิมนั้นพื้นที่ตรงนี้เป็นทางโรงงานยาสูบ แต่หลังจากที่ได้ย้ายโรงงานออกไปยังภูมิภาคแล้ว พื้นที่ตรงนี้จึงได้จัดทำเป็นสวนสาธารณะขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้มาพักผ่อนหย่อนใจ โดยทางรัฐบาลได้ทูลเกล้าถวายการพัฒนาพื้นที่สวนสาธารณะในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงมีพระชนมายุครบ 72 พรรษา และได้รับพระราชทานชื่อสวนสาธารณะนี้ว่า "สวนเบญจกิติ"
ก็เป็นปกติของทุกสวนที่จะมีผู้คนมากหน้าหลายตามาพักผ่อนหย่อนใจกันในช่วงเย็นๆ และที่สวนเบญจกิติแห่งนี้ก็เช่นเดียวกัน ช่วงแดดร่มลมตกประมาณ 4-5 โมงเย็น ก็ดูจะเป็นช่วงที่ผู้คนต่างก็มารวมตัวกันเพื่อออกกำลังกาย และมาพักผ่อนกันมากเป็นพิเศษ

เอาเป็นว่าฉันจะพาเดินชมสวนพื้นที่ 430 ไร่ ไปพร้อมๆ กันเลยก็แล้วกัน ถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วยเลย ฉันเดินเข้าไปภายในสวนเบญจกิติทางประตูที่อยู่ติดกับศูนย์ประชุม มองเห็นลักษณะของสวนเป็นเหมือนรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางและมีน้ำพุสูงอยู่กลางสระ
และสระน้ำขนาดใหญ่นี่แหละก็เป็นที่ออกกำลังขาและแขนชั้นเยี่ยม เพราะว่ามีจักรยานน้ำและเรือพายให้ได้ออกกำลังกัน และนอกจากจะเป็นการบริหารร่างกายแล้ว ก็ยังเป็นการบริหารความโรแมนติกได้อีกต่างหาก เพราะฉันเห็นคู่รักหลายคู่จูงมือลงไปช่วยกันถีบเรือแถมคุยกระหนุงกระหนิงกันอยู่บนเรือ ท่าจะมีความสุขไม่น้อย แถมวิวบริเวณรอบข้างสระน้ำก็ยังน่าดูไม่น้อย เพราะเป็นตึกสูงใหญ่อยู่ล้อมรอบดูแล้วเป็นสวนกลางเมืองสุดๆ ทำเอาคนแถวนี้ที่มาเดี่ยวๆ ต้องอิจฉาตาร้อนไปตามๆ กัน
แน่นอนว่ากิจกรรมสุดฮิตของสวนสาธารณะทุกแห่งก็คือการมาวิ่งออกกำลัง ที่สวนเบญจกิตินี้ก็มีถนนสำหรับให้คนมาวิ่งและเดินออกกำลังอยู่รอบสระน้ำ วิ่งไปก็ได้ชมวิวสวยๆ งามๆ ไปด้วย และก็ได้เหงื่อแน่นอนเพราะถนนสำหรับวิ่งนี้มีความยาวถึง 1.8 กิโลเมตร เลยทีเดียว

นอกจากนั้น ที่นี่ก็ยังมีการจัดแบ่งพื้นที่ไว้ให้สำหรับพวกน่องเหล็กได้มาปั่นจักรยานกันด้วย ทำเป็นทางคู่ขนานกับถนนวิ่งออกกำลังกาย รับรองไม่อุบัติเหตุจักรยานชนคนแน่ๆ ใครจะเอาจักรยานมาจากบ้านก็ได้ หรือจะมาเช่าจักรยานกันที่นี่ก็มีเตรียมไว้ให้ในราคากันเองมากๆ
ถ้าใครที่มาวิ่งหรือมาปั่นจักรยานแล้วยังไม่เหนื่อย ฉันขอแนะนำให้เดินเข้ามาด้านในสวนเบญจกิติกันด้วยก็ดี เพราะนอกจากด้านในจะร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ซึ่งถือเป็นแหล่งความรู้เกี่ยวกับพรรณไม้ในภาคต่างๆ ของประเทศไทยแล้ว ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างเช่นที่ ลานเบญจกิติ ซึ่งเป็นลานกว้างเชื่อมต่อระหว่างทางวิ่งออกกำลังกับทางจักรยานนั้น จะมีประติมากรรม "ปทุมชาติ" สัญลักษณ์ของสวนเบญจกิติแห่งนี้ ที่มีลักษณะเป็นเหมือนดอกบัวบานสีทองอยู่บนยอดเสา
หรือหากวิ่งเหนื่อยมากนัก ก็แวะพักไปไหว้พระที่ลานองค์พระ ซึ่งมีพระพุทธวิสุทธิมงคลประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง แวะไหว้ท่านเพื่อเป็นสิริมงคลและเพื่อพักเหนื่อยสักครู่ก็ดีเหมือนกัน หรือถ้าใครมีลูกเล็กเด็กแดงมาด้วย ก็เชิญได้ที่สนามเด็กเล่น ซึ่งอยู่ใกล้กับลานเบญจกิติ ที่มีทั้งเครื่องเล่นต่างๆ ของเด็ก สวนน้ำ ลานสเก็ตให้เด็กๆ เล่นกัน

นอกจากนั้นในสนามหญ้าเขียวขจีก็ยังมีประติมากรรมนานาชาติ อย่างเช่น รูปสลักเมอร์ไลออนของสิงคโปร์ เสาหินแบบจีน หรือกงล้อโกนารักของวัดสุริยเทพในประเทศอินเดีย เดินไปชมไป ได้ทั้งออกกำลังกายได้ทั้งความรู้จากสัญลักษณ์เด่นๆ ของแต่ละประเทศอีกด้วย
เป็นชั่วโมงทีเดียวกว่าฉันจะเดินจนครบรอบสวน เหนื่อยไม่ใช่น้อยเลยทีเดียวนะนี่ คราวนี้มานั่งหยุดพักดูพระอาทิตย์ตกกันบ้างดีกว่า หลังจากออกกำลังกายได้เหงื่อกันแล้ว การได้มานั่งตากลมเย็นๆ ให้เหงื่อแห้งก็ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งเหมือนกันนะ
สวนเบญจกิตินี้ก็เป็นสวนกลางเมืองอีกแห่งหนึ่งที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองมาสัมผัสดู อ้อ... เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศวันแม่นิดหนึ่ง ก็อย่าลืมพาแม่มาออกกำลังหรือแค่มาพักผ่อนที่สวนสวยๆ แห่งนี้บ้างก็ไม่เลวเลย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สวนเบญจกิติ ตั้งอยู่ข้างศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถนนรัชดาภิเษก คลองเตย กรุงเทพมหานคร เปิดให้เข้ามาพักผ่อนออกกำลังกายตั้งแต่ 05.00-20.00 น. อัตราค่าเช่าจักรยาน 1 ชั่วโมง 20 บาท/คัน ค่าเช่าจักรยานน้ำและเรือพาย ครึ่งชั่วโมง 30 บาท/ลำ
การเดินทาง สามารถนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาขึ้นที่สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรือนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีอโศกและต่อรถไฟฟ้าใต้ดินมายังสวนเบญจกิติได้ ส่วนรถประจำทาง มีสาย 45, 46, 109, 115, 116, ปอ.22, ปอ.185 และปอ.507 ผ่าน
วันแม่ปีนี้มีใครเตรียมทำอะไรพิเศษให้แม่กันหรือยัง?
สำหรับฉันเองอาจจะไม่มีอะไรพิเศษมากมายเพราะได้ทำตัวเป็นลูกที่ดีเลิศมาตลอด 365 วันแล้ว
แต่ไหนๆ ก็ใกล้วันแม่ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชินีทั้งที ฉันในฐานะที่เป็นนักท่องเมืองกรุงก็เลยอยากจะพาแม่มาเที่ยวแถวๆ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พอให้อินเทรนด์กับกระแสวันแม่เสียหน่อย
สำหรับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นี้ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าสร้างขึ้นมาเพื่อการประชุมโดยเฉพาะ โดยสร้างขึ้นเพื่อรองรับการประชุมของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ครั้งที่ 46 เมื่อปี พ.ศ. 2534 และก็ได้จัดงานประชุมระดับชาติและนานาชาติมาอีกหลายครั้ง
ฉันคิดว่าแทบทุกคนก็ต้องเคยมาที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์กันบ้างสักครั้งหนึ่งนั่นแหละ เพราะที่นี่มักจะเป็นสถานที่จัดงานใหญ่ๆ อยู่บ่อยครั้ง ไม่เฉพาะงานประชุมสัมมนายิ่งใหญ่สารพัดอย่าง แต่ก็ยังมีงานแสดงมหกรรมสินค้าต่างๆ หรือที่ผ่านไปสดๆ ร้อนๆ ก็ต้องงานแสดงสัตว์เลี้ยง Pet Expo แต่ที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดก็ต้องนี่เลย งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่จัดกันปีละสองครั้ง ซึ่งก็ได้รับความนิยมกันมากๆ เรียกว่ามีผู้คนไปเดินกันล้นหลามตั้งแต่เช้าจดเย็นเลยทีเดียว
แต่วันนี้ฉันไม่ได้จะชวนมาดูงานแสดงอะไรที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์หรอก แต่อยากจะพามาเที่ยวที่ "สวนเบญจกิติ" ที่อยู่ติดๆ กับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นั่นแหละ
เวลาพูดถึงสวนเบญจกิติทีไร ก็ชอบมีคนสับสนถามว่า "อะไรนะ สวนเบญจศิริเหรอ?" ทุกทีไป จึงต้องขอเรียนให้ทราบตรงนี้ว่ามันคนละที่กันนะจ๊ะ สวนเบญจศิรินั้นอยู่ข้างๆ ห้างสรรพสินค้าเอ็มโพเรียม ส่วนสวนเบญจกิติที่เรากำลังพูดถึงนั้นก็อยู่ข้างศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นี่เอง
แต่เดิมนั้นพื้นที่ตรงนี้เป็นทางโรงงานยาสูบ แต่หลังจากที่ได้ย้ายโรงงานออกไปยังภูมิภาคแล้ว พื้นที่ตรงนี้จึงได้จัดทำเป็นสวนสาธารณะขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้มาพักผ่อนหย่อนใจ โดยทางรัฐบาลได้ทูลเกล้าถวายการพัฒนาพื้นที่สวนสาธารณะในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงมีพระชนมายุครบ 72 พรรษา และได้รับพระราชทานชื่อสวนสาธารณะนี้ว่า "สวนเบญจกิติ"
ก็เป็นปกติของทุกสวนที่จะมีผู้คนมากหน้าหลายตามาพักผ่อนหย่อนใจกันในช่วงเย็นๆ และที่สวนเบญจกิติแห่งนี้ก็เช่นเดียวกัน ช่วงแดดร่มลมตกประมาณ 4-5 โมงเย็น ก็ดูจะเป็นช่วงที่ผู้คนต่างก็มารวมตัวกันเพื่อออกกำลังกาย และมาพักผ่อนกันมากเป็นพิเศษ
เอาเป็นว่าฉันจะพาเดินชมสวนพื้นที่ 430 ไร่ ไปพร้อมๆ กันเลยก็แล้วกัน ถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วยเลย ฉันเดินเข้าไปภายในสวนเบญจกิติทางประตูที่อยู่ติดกับศูนย์ประชุม มองเห็นลักษณะของสวนเป็นเหมือนรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางและมีน้ำพุสูงอยู่กลางสระ
และสระน้ำขนาดใหญ่นี่แหละก็เป็นที่ออกกำลังขาและแขนชั้นเยี่ยม เพราะว่ามีจักรยานน้ำและเรือพายให้ได้ออกกำลังกัน และนอกจากจะเป็นการบริหารร่างกายแล้ว ก็ยังเป็นการบริหารความโรแมนติกได้อีกต่างหาก เพราะฉันเห็นคู่รักหลายคู่จูงมือลงไปช่วยกันถีบเรือแถมคุยกระหนุงกระหนิงกันอยู่บนเรือ ท่าจะมีความสุขไม่น้อย แถมวิวบริเวณรอบข้างสระน้ำก็ยังน่าดูไม่น้อย เพราะเป็นตึกสูงใหญ่อยู่ล้อมรอบดูแล้วเป็นสวนกลางเมืองสุดๆ ทำเอาคนแถวนี้ที่มาเดี่ยวๆ ต้องอิจฉาตาร้อนไปตามๆ กัน
แน่นอนว่ากิจกรรมสุดฮิตของสวนสาธารณะทุกแห่งก็คือการมาวิ่งออกกำลัง ที่สวนเบญจกิตินี้ก็มีถนนสำหรับให้คนมาวิ่งและเดินออกกำลังอยู่รอบสระน้ำ วิ่งไปก็ได้ชมวิวสวยๆ งามๆ ไปด้วย และก็ได้เหงื่อแน่นอนเพราะถนนสำหรับวิ่งนี้มีความยาวถึง 1.8 กิโลเมตร เลยทีเดียว
นอกจากนั้น ที่นี่ก็ยังมีการจัดแบ่งพื้นที่ไว้ให้สำหรับพวกน่องเหล็กได้มาปั่นจักรยานกันด้วย ทำเป็นทางคู่ขนานกับถนนวิ่งออกกำลังกาย รับรองไม่อุบัติเหตุจักรยานชนคนแน่ๆ ใครจะเอาจักรยานมาจากบ้านก็ได้ หรือจะมาเช่าจักรยานกันที่นี่ก็มีเตรียมไว้ให้ในราคากันเองมากๆ
ถ้าใครที่มาวิ่งหรือมาปั่นจักรยานแล้วยังไม่เหนื่อย ฉันขอแนะนำให้เดินเข้ามาด้านในสวนเบญจกิติกันด้วยก็ดี เพราะนอกจากด้านในจะร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ซึ่งถือเป็นแหล่งความรู้เกี่ยวกับพรรณไม้ในภาคต่างๆ ของประเทศไทยแล้ว ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างเช่นที่ ลานเบญจกิติ ซึ่งเป็นลานกว้างเชื่อมต่อระหว่างทางวิ่งออกกำลังกับทางจักรยานนั้น จะมีประติมากรรม "ปทุมชาติ" สัญลักษณ์ของสวนเบญจกิติแห่งนี้ ที่มีลักษณะเป็นเหมือนดอกบัวบานสีทองอยู่บนยอดเสา
หรือหากวิ่งเหนื่อยมากนัก ก็แวะพักไปไหว้พระที่ลานองค์พระ ซึ่งมีพระพุทธวิสุทธิมงคลประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง แวะไหว้ท่านเพื่อเป็นสิริมงคลและเพื่อพักเหนื่อยสักครู่ก็ดีเหมือนกัน หรือถ้าใครมีลูกเล็กเด็กแดงมาด้วย ก็เชิญได้ที่สนามเด็กเล่น ซึ่งอยู่ใกล้กับลานเบญจกิติ ที่มีทั้งเครื่องเล่นต่างๆ ของเด็ก สวนน้ำ ลานสเก็ตให้เด็กๆ เล่นกัน
นอกจากนั้นในสนามหญ้าเขียวขจีก็ยังมีประติมากรรมนานาชาติ อย่างเช่น รูปสลักเมอร์ไลออนของสิงคโปร์ เสาหินแบบจีน หรือกงล้อโกนารักของวัดสุริยเทพในประเทศอินเดีย เดินไปชมไป ได้ทั้งออกกำลังกายได้ทั้งความรู้จากสัญลักษณ์เด่นๆ ของแต่ละประเทศอีกด้วย
เป็นชั่วโมงทีเดียวกว่าฉันจะเดินจนครบรอบสวน เหนื่อยไม่ใช่น้อยเลยทีเดียวนะนี่ คราวนี้มานั่งหยุดพักดูพระอาทิตย์ตกกันบ้างดีกว่า หลังจากออกกำลังกายได้เหงื่อกันแล้ว การได้มานั่งตากลมเย็นๆ ให้เหงื่อแห้งก็ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งเหมือนกันนะ
สวนเบญจกิตินี้ก็เป็นสวนกลางเมืองอีกแห่งหนึ่งที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองมาสัมผัสดู อ้อ... เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศวันแม่นิดหนึ่ง ก็อย่าลืมพาแม่มาออกกำลังหรือแค่มาพักผ่อนที่สวนสวยๆ แห่งนี้บ้างก็ไม่เลวเลย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สวนเบญจกิติ ตั้งอยู่ข้างศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถนนรัชดาภิเษก คลองเตย กรุงเทพมหานคร เปิดให้เข้ามาพักผ่อนออกกำลังกายตั้งแต่ 05.00-20.00 น. อัตราค่าเช่าจักรยาน 1 ชั่วโมง 20 บาท/คัน ค่าเช่าจักรยานน้ำและเรือพาย ครึ่งชั่วโมง 30 บาท/ลำ
การเดินทาง สามารถนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาขึ้นที่สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรือนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีอโศกและต่อรถไฟฟ้าใต้ดินมายังสวนเบญจกิติได้ ส่วนรถประจำทาง มีสาย 45, 46, 109, 115, 116, ปอ.22, ปอ.185 และปอ.507 ผ่าน