ณ เทือกเขาตะนาวศรีรอยต่อชายแดนไทย-พม่าในเขตจังหวัดราชบุรี
อำเภอสวนผึ้งตั้งอยู่อย่างสงบนิ่งท่ามกลางขุนเขาที่เมฆลอยไล่ไต่ระเรี่ย
ด้วยความที่เป็นอำเภอชายแดน ภาพของสวนผึ้งในสายตาของคนส่วนใหญ่จึงมักมองพื้นที่นี้ว่าเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและปัญหาของชนกลุ่มน้อย แต่ว่าหากใครได้เดินทางไปสัมผัสกับอำเภอสวนผึ้งแล้วก็จะรู้ว่าเมืองเล็กๆแห่งนี้ดูแสนจะอบอุ่นเต็มไปด้วยไมตรีจิต
นอกจากนี้สวนผึ้งยังเป็นเมืองงามที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติอันสมบูรณ์พร้อม มีทั้งลำธาร น้ำตก และป่าเขาลำเนาไพร เรียกว่าหากใครได้ไปเที่ยวสวนผึ้งนั้นก็จะได้สัมผัสทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตวัฒนธรรมที่น่ายลและน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับ"ผู้จัดการท่องเที่ยว" แม้จะเคยออกท่องในอำเภอสวนผึ้งมาแล้ว แต่ว่าเมื่อเพื่อนจากกลุ่ม สมาร์ท กรุ๊ป ที่เป็นการรวมตัวของ 4 บริษัททัวร์ชักชวนเราไปดูความเปลี่ยนแปลงในอำเภอสวนผึ้ง เราไม่ปฏิเสธการออกเดินทางสู่อำเภอสวนผึ้งในทันที
จากกรุงเทพฯพอเข้าเขตจังหวัดราชบุรี เพื่อความเป็นสิริมงคลเราไปแวะไหว้พระที่ วัดพระศรีอารย์ ใน อ.โพธาราม ซึ่งทันทีที่เห็นอุโบสถเหลืองอร่ามไปทั้งหลังก็สร้างความตื่นตาตื่นใจได้เป็นยิ่งนัก พร้อมกับมีคำถามในใจว่าเหตุใด โบสถ์วัดพระศรีอารย์จึงเป็นสีทองเปล่งประกายทั้งหลัง
แต่เรื่องนี้ก็กระจ่างในทันใด เมื่อพระครูวิทิตพัฒนโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ ท่านก็เมตตาเล่าให้ฟังว่า ภายในอุโบสถสีเหลืองทองที่เห็น คือทองคำแท้บริสุทธิ์ 100% ที่ได้รับงบประมาณบริจาค คิดเป็นมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท
ส่วนด้านนอกนั้น ใช้สีสเปรย์พ่นเนื่องจากงบประมาณอันจำกัด อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจภายในวัดก็คือ การได้มากราบสักการะร่างของหลวงพ่อขันธ์ อดีตเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ซึ่งทางวัดนำมาตั้งบรรจุอยู่ในโลงแก้วอีกด้วย
จากนั้นออกเดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่ อ.สวนผึ้ง แวะเข้าชม "พิพิธภัณฑ์ภโวทัย" หรือสวนภูมิปัญญาชาวบ้าน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีลักษณะเป็นเรือนไทยประยุกต์ ใช้เป็นที่รวบรวมวัตถุโบราณในอดีต
ไม่ว่าจะเป็นผ้าทอพื้นบ้านของจังหวัดราชบุรี จะเข้ที่มีรูปร่างเป็นจระเข้ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าจริงๆแล้ว เดิมเครื่องดนตรีไทยอย่างจะเข้ อาจจะเรียกจระเข้แล้วเพี้ยนมาเป็นจะเข้หรือเปล่า
ที่นี่เขาเก็บรักษาของเก่าได้ดี เพราะแต่ละชิ้นยังคงเหมือนใหม่ มีตั้งแต่ปิ่นโตลวดลายแปลกตา มีถาดเก่าๆที่วาดแต่งแต้มด้วยดอกไม้หลายสี ตัวเรือนไทยถูกดัดแปลงเป็น2ชั้น เพื่อสะดวกแก่การเข้าชม เมื่อเดินออกมาข้างนอกก็จะพบกับความร่มรื่น ของพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับของไทยนานาชนิด ทั้ง สายหยุด ชมผกา จำปา จำปี และอีกสารพัดไม้ไทย
ออกจากพิพิธภัณฑ์แล้วก็เตรียมตัวกันเพื่อจะไปล่องแก่งที่ แก่งส้มแมว ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอสวนผึ้งประมาณ 25 กิโลเมตร แก่งส้มแมวตั้งอยู่กลางลำน้ำภาชี มีโขดหินน้อยใหญ่ อยู่ในบริเวณสวนป่าสิริกิติ์
แก่งส้มแมวเกิดจากอุบัติเหตุทางธรรมชาติ เมื่อปี 2528 ได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ น้ำป่าไหลทะลักมาจากเทือกเขาพังทลายหน้าดิน จนกระทั่งเซาะเอาดินออก และดันเอาหินใต้ดินขึ้นมา เป็นแก่งส้มแมวดังทุกวันนี้
แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าเราไม่สามารถลงล่องแก่งได้ เพราะฝนตกช่วงก่อนไป 2-3 วันฝนตกน้ำทำให้มีน้ำหลากมากเกินไป ด้วยเหตุนี้เราจึงเปลี่ยนใจไปล่องแก่งแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่"บ้านไร่ไทรงาม" แทน
ซึ่งความพิเศษอันเป็นเสน่ห์ของการล่องแก่งที่นี่ก็คือ การนำห่วงยางมาประกอบเข้ากับเนื้อไม้ เพื่อใช้เป็นที่นั่ง และใช้ไม้พายที่ดัดแปลงทำขึ้นเอง บังคับให้แพห่วงยางไหลล่องไปตามลำน้ำที่หากทรงตัวไม่ดีก็หงายคว่ำตกน้ำป๋อมแป๋มกันได้
เหน็ดเหนื่อยจากการล่องแก่ง เราก็กลับเข้าที่พัก ณ บ้านสวนดารัตน์ ออมแรงไว้ เพราะรุ่งสางเรามีคิวจะไปดูทะเลหมอกกัน ที่ยอด"เขากระโจม" ที่ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ตะลุยขึ้นไปยังจุดชมวิวเท่านั้น
แต่ถึงแม้ว่าจะการขึ้นไปชมวิวบนยอดเขากระโจมจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ว่าเมื่อขึ้นมาถึงและได้สูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมยืนรับลมเย็นๆแล้วมันก็แสนจะคุ้มค่ายิ่งนัก
เขากระโจมนั้นค่อนข้างโด่งดังและมีชื่อเสียง เพราะเคยใช้เป็นฐานกำลังของชนกลุ่มน้อย ที่เรารู้จักกันดีในนาม"กะเหรี่ยงก็อดส์อาร์มี่" ที่มีเด็กแฝดลิ้นดำอย่าง จอนห์นี่ทู และลูเธอร์ เป็นผู้นำ ต่อมาเมื่อทางรัฐบาลไทยได้ระดมกำลังกวาดล้าง "เขากระโจม" จึงกลายเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของตำนานความขัดแย้ง
มาวันนี้เขากระโจมกลายเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญแห่งสวนผึ้ง โดยยอดเขากระโจมหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า"เนิน 1,000" ในวันนี้ ถือเป็นจุดชมทะเลหมอกชั้นดี ที่การได้มาเห็นสัมผัสสายหมอกที่ลอยล่องกระจายสีขาวฟูเต็มท้องฟ้า ในยามเช้ารับลมชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าดินแดนแห่งนี้ จะอยู่ในเขตภาคกลางและอยู่ใกล้กรุงเทพฯแค่เอื้อม
ตชด.ที่รักษาการอยู่ที่นี่บอกว่า หากมองตรงไปยังฝั่งพม่าจะเห็นเมืองทวาย ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 80 กิโลเมตร บนเขากระโจมนี้ มีที่พักแรม กลางเต็นท์ ไว้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย
ขากลับลงเขาไม่ไกลนัก ใกล้ๆกับฐานตชด. มีน้ำตกชื่อน้ำตกผาแดง ซึ่งต้องเดินทางเท้าเพราะทางเข้าเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ฤดูฝนอย่างนี้ ใครจะพกยาเส้นกับถุงเท้ากันทากไปด้วยก็ไม่ว่ากัน เพราะเจ้าทากตัวน้อยที่มีสมญานามว่า แดร็กคิวล่าแห่งพงไพร จะได้ไม่กล้าเข้ามากล้ำกราย
เมื่อเดินมาถึงบริเวณน้ำตก(อันที่จริงน่าจะเรียกว่าลื่นไถลมาซะมากกว่า) ก็จะเห็นทิวทัศน์ที่เป็นผืนป่ากว้าง และฉ่ำอุราเย็นใจไปกับสายน้ำที่ปรากฏให้เห็น ที่เรียกน้ำตกผาแดงเข้าใจว่า ก็คงจะมาจากโขดหินก้อนใหญ่ ที่มีสีแดงซึ่งตั้งอยู่กลางน้ำตกนั่นเอง
กลับออกมาจากน้ำตกผาแดง ด้วยความสนุกที่ทุลักทุเลพอสมควร เลยขอชะแว้บไปแช่น้ำร้อนให้หายเหนื่อยกันที่ "ธารน้ำร้อนบ่อคลึง" ที่ต้นน้ำมีอุณหภูมิถึง 60 องศาเซลเซียส...
เมื่อไหลมารวมที่สระอาบน้ำ อุณหภูมิจะเย็นลงเล็กน้อยเหลือประมาณ 40-50 องศาเซสเซียสการแช่น้ำร้อนนี้ ทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนเครียดความตึงเครียด ของกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี ทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
สำหรับสระของธารน้ำร้อนบ่อคลึงที่มีให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำนั้นก็มีทั้งส่วนของสระดินตามธรรมชาติ และส่วนของสระกระเบื้องที่ใครชอบสระแบบไหนก็สามารถเลือกลงเล่นได้ตามใจชอบ
จึงมีแรงเดินท่องกันต่อที่ "อุทยานธรรมชาติวิทยาตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ" ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆกัน มีศาลาข้อมูลธรรมชาติวิทยา ใช้เป็นที่รวบรวมข้อมูลทั่วไปของอุทยานธรรมชาติวิทยา
โดยจัดแสดงในรูปของนิทรรศการ ทั้งหินชนิดต่างๆ และพืชพันธุ์สัตว์ป่า ที่มีในเขตอุทยานจะมีภาพ และบรรยายถึงคุณลักษณะความเป็นอยู่ของสัตว์ป่าให้ได้ชม และยังมีห้องสมุดสืบค้นไว้คอยบริการประชาชนอีกด้วย
กว่าจะออกมาจากอุทยานธรรมชาติวิทยาฯ ก็เป็นเวลาเย็นย่ำพอดิบพอดี “ผู้จัดการท่องเที่ยว” กับพ้องเพื่อนจึงคิดว่าถึงเวลาอำลาจากเมืองสวนผึ้งกันเสียที แต่ก็ยังติดเอาไว้ว่าหากมีโอกาสเราจะกลับไปตะลุยในเมืองงามท่ามกลางขุนเขานามว่า"สวนผึ้ง" อีกแน่นอน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
การเดินทางไปอำเภอสวนผึ้ง จากตัวเมืองราชบุรีไปตามถนนหมายเลข 3208 ผ่านอำเภอจอมบึงจะเจอทางแยกสู่อำเภอสวนผึ้ง จากนั้นไปตามถนนหมายเลข 3087 สู่อำเภอสวนผึ้ง
สำหรับผู้ที่สนใจเที่ยวสวนผึ้งกับบริษัททัวร์ตามโปรแกรมเบื้องต้น สามารถติดต่อได้ที่ กลุ่มSMART GROUP โทร. 0-2530-2675,0-2651-4355-8,0-2736-2125-6,0-2514-1284-5
ที่พัก ร้านอาหาร