xs
xsm
sm
md
lg

เที่ยวเชิงเกษตรที่ "ภูเรือ" ดินแดนสุดหนาวในสยาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


จังหวัดเลย เป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสานที่ได้ชื่อว่า “สุดหนาวในสยาม” เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 400 เมตร มีเทือกเขาสลับซับซ้อนสวยงาม และในพื้นที่ที่นับว่าหนาวที่สุดในประเทศนั้นก็อยู่ในอำเภอภูเรือ จุดสูงสุดคือยอดภูเรือ ซึ่งมีความสูงถึง 1,365 เมตรทำให้ในฤดูหนาวของบางปีอากาศบนยอดภูเรืออาจหนาวจนเกิดแม่คะนิ้ง หรือน้ำค้างแข็งบนใบหญ้าเลยทีเดียว ส่วนในพื้นที่ราบของอำเภอภูเรือนั้นก็มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ต่างกับจังหวัดอื่นๆ ในภาคเดียวกัน

ด้วยความที่มีอากาศเป็นใจเช่นนี้ ทำให้การเกษตรเมืองหนาวในอำเภอภูเรือเป็นไปได้ด้วยดีไม่แพ้จังหวัดอื่นๆทางภาคเหนือ ซึ่งก็ส่งผลให้อำเภอภูเรือเป็นหนึ่งในพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในเมืองไทย โดยสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เด่นๆ ก็มี

สวนเห็ดบ้านภูเรือ ถือเป็นแหล่งรวมเห็ดหลากหลายพันธุ์ที่น่าสนใจ โดยมีว่าที่ร้อยตรีอาวุธ โกษาจันทร์ สมาชิกสภา อบจ.จังหวัดเลย เขตอำเภอภูเรือ เจ้าของกิจการสวนเห็ดบ้านภูเรือ ได้อธิบายถึงฟาร์มเห็ดแห่งนี้ให้ฟังว่า จริงๆ แล้วตัวเองนั้นก็ไม่ร่ำเรียนมาทางด้านที่เกี่ยวกับการเกษตร แถมยังประกอบอาชีพเกี่ยวกับการรับเหมาก่อสร้าง แต่ด้วยความสนใจ รวมทั้งจากการที่ได้มาทำงานการเมืองท้องถิ่นทำให้ต้องการจะส่งเสริมชาวบ้านให้มีอาชีพและรายได้ที่แน่นอน จึงได้เริ่มเพาะเห็ดหอมขึ้น

"เมื่อก่อนนี้การจะเข้าไปขอความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเพาะเห็ดนี่เป็นเรื่องที่เขาหวงกันมาก จนถึงกับต้องปลอมตัวเข้าไปเพื่อให้ได้ความรู้มาเพาะเห็ด และเมื่อได้ทำฟาร์มเห็ดเป็นของตัวเองแล้วจึงตั้งใจจะเปิดให้ความรู้แก่ทุกคนที่สนใจ เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องการเพาะเห็ด" สจ.อาวุธ กล่าว

การเพาะเห็ดในสวนเห็ดบ้านภูเรือจึงเกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2528 ซึ่งก็มีทั้งเห็ดหอม และเห็ดกระด้าง แต่ที่ปลูกมากที่สุดก็คือเห็ดหอม สำหรับเห็ดหอมนั้น เมื่อก่อนนี้ถือเป็นอาหารที่มีราคาแพง เพราะต้องนำเข้าจากประเทศจีนหรือญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศเมืองหนาวสามารถเพาะเห็ดหอมได้ แต่ในจังหวัดเลย โดยเฉพาะในอำเภอภูเรือ ซึ่งมีอากาศเย็นสบายตลอดปีนั้น ก็มีอากาศที่เหมาะสามารถเพาะเห็ดหอมได้ดีเช่นกัน

ในการขยายพันธุ์เห็ดหอมที่ฟาร์มแห่งนี้นั้น สจ.อาวุธ เล่าว่า ได้นำเชื้อเห็ดหอมจากจีนแดงและไต้หวันมาผสมกันออกมาจนได้เชื้อเห็ดที่เหมาะกับอากาศที่ภูเรือ จากนั้นจึงนำเชื้อเห็ดมาเพาะในถุง ซึ่งมีส่วนผสมของขี้เลื่อยยางพารา รำ ยิปซั่ม เกลือ และน้ำตาล ฯลฯ เพาะปลูกในโรงเรือน รดน้ำทุกวันเพราะเห็ดชอบความชื้น และกว่าก้อนเชื้อจะมีดอกเห็ดเกิดขึ้นก็ใช้เวลานาน 5-6 เดือนเลยทีเดียว ทำให้เห็ดหอมยังคงมีราคาแพงกว่าเห็ดอื่นๆ และก้อนเชื้อเหล่านี้ก็จะขายให้กับชาวบ้านในราคาถูกเพื่อนำไปเพาะ และตัดดอกขายได้กำไรกันถ้วนหน้า เพราะเห็ดหอมมีราคาถึงกิโลกรัมละ 130 บาท เลยทีเดียว

เห็ดหอมเหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกส่งไปขายที่กรุงเทพฯ ตามจังหวัดอื่นๆ ก็มีบ้าง เช่นในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีเห็ดหอมจากภูเรือถึงกว่า 50% เลยทีเดียว แม้ว่าเชียงใหม่จะเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีการปลูกเห็ดหอม แต่เนื่องจากปลูกได้เฉพาะบนดอยที่มีอากาศเย็นเท่านั้น ต่างกับภูเรือซึ่งเป็นที่สูง มีอากาศเย็นตลอดทั่วทั้งพื้นที่

สำหรับผู้ที่มาเที่ยวที่สวนเห็ดบ้านภูเรือนี้ นอกจากจะได้ชมบรรดาเห็ดในโรงเพาะ และได้รับความรู้เกี่ยวกับการเพาะเห็ดแล้ว ก็ยังสามารถซื้อเห็ดหอมสดๆ ดอกโตๆ กลับไปกินที่บ้านได้อีกด้วย ซึ่ง สจ.อาวุธ ได้กระซิบบอกเคล็ดลับในการเก็บเห็ดหอมสดไว้ให้กินอร่อย และกินได้นานว่า ให้นำเห็ดหอมสดไปลวกในน้ำเดือดประมาณ 1 นาทีก่อน แล้วจึงเก็บเข้าตู้เย็น หรือถ้าจะนำไปทำอาหารเลยก็ควรลวกก่อนเช่นกัน เพราะถ้าเอาไปผัดสดๆ เลยอาจจะมีกลิ่นเหม็นหืนได้

และในอำเภอเดียวกันนี้ ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเกษตรอีกแห่งหนึ่งคือ "สวนองุ่นภูเรือวโนทยาน" ซึ่งมีไวน์ ชาโต้ เดอ เลย (Chateau de Loei) เป็นสินค้าที่หลายๆ คนน่าจะคุ้นหูกันดี ที่นี่เราได้พบกับผู้จัดการร้านชาโต้ เดอ เลย คือ สงวน ชินระนาท ซึ่งได้เล่าถึงสวนองุ่นแห่งนี้ว่า

พื้นที่ของสวนองุ่นภูเรือวโนทยานทั้งหมดนั้นกว้างถึง 2,500 ไร่ เลยทีเดียว และมีพื้นที่ที่เป็นสวนองุ่นประมาณ 700 ไร่ นอกนั้นก็เป็นพื้นที่ที่ปลูกพืชไร่ทั่วไป เช่น ข้าวโพด มันฝรั่ง ฯลฯ และนับเป็นสวนองุ่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สำหรับองุ่นที่ปลูกในสวนนี้ก็มีสามแบบด้วยกัน คือองุ่นที่ใช้ทำไวน์ขาว คือพันธุ์เชอแนงบลัง (Chenin Blanc) องุ่นที่ใช้ทำไวน์แดงคือพันธุ์ชีรา (Chiraz) และองุ่นกินสดๆ เช่น พันธุ์บิวตี้ซีดเลส พันธุ์คาโรไลน่าแบล็คโรส พันธุ์อิตาเลีย ฯลฯ ซึ่งสำหรับแปลงปลูกองุ่นกินสดนี้จะสังเกตได้ง่าย เพราะจะมีหลังคาคลุมเพื่อไม่ให้โดนฝนเนื่องจากมีเปลือกบาง

เหตุที่สามารถปลูกองุ่นเพื่อบริโภคและนำมาทำไวน์ได้รสชาติอร่อยนั้น ภูมิอากาศที่ภูเรือนั้นก็เป็นข้อได้เปรียบอีกเช่นเคย เพราะสภาพอากาศที่นี่คล้ายกับสภาพอากาศทางตอนใต้ของฝรั่งเศสคือเมืองมาร์เซย์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องไวน์รสชาติเยี่ยม

นักท่องเที่ยวสามารถขับรถยนต์เข้ามาชมในสวนองุ่นภูเรือวโนทยานนี้ได้เลย โดยทางสวนองุ่นจะทำเส้นทางสำหรับขับรถชมไว้ให้ มีระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ลัดเลาะไปตามแปลงองุ่น นอกจากนั้นผู้ที่ขับรถเข้ามาชมภายในสวนก็จะสามารถมาชิมไวน์ชาโต้ เดอ เลย ภายในโรงบ่มไวน์ได้อีกต่างหาก ซึ่งภายในโรงบ่มนั้นแม้จะไม่ให้เข้าชมถึงภายใน แต่ก็มีป้ายอธิบายถึงขั้นตอนในการผลิตทั้งไวน์ขาวและไวน์แดงให้ชม และมีวีดิทัศน์เกี่ยวกับประวัติของชาโต้ เดอ เลย ให้ชมกัน รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำไวน์ชนิดต่างๆ ทั้งไวน์ขาวไวน์แดงให้ชิมกันครบครันในห้องชิมไวน์

สำหรับคนที่ชิมแล้วติดใจ สามารถมาเลือกซื้อไวน์เหล่านี้กันได้ที่ร้านขายผลิตภัณฑ์ของชาโต้ เดอ เลย บริเวณทางเข้าสวนองุ่นกันได้ด้วย ซึ่งก็มีทั้งไวน์ขาว ไวน์แดง บรั่นดี องุ่นสด และผักปลอดสารพิษต่างๆ มากมาย

และนอกจากสถานที่เหล่านี้แล้ว ในอำเภอภูเรือก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตรอย่างเช่น สวนดอกไม้เมืองหนาวของเอกชนมากมายที่มีดอกไม้เมืองหนาวและไม้ประดับต่างๆ อย่างพิทูเนีย คริสต์มาส ฯลฯ รวมทั้งยังมีตลาดดอกไม้เมืองหนาวบ้านหนองบง ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายไม้ดอกเมืองหนาวหลากชนิดที่ปลูกโดยเกษตรกรชาวภูเรือ ใครที่อยากได้ดอกไม้สวยๆ งามๆ กลับไปปลูกที่บ้านรับรองว่าไม่ผิดหวัง โดยเฉพาะหากมาในหน้าหนาวแล้วก็จะเห็นดอกไม้บานสะพรั่งไปทั่วทั้งภูเรือเลยทีเดียว เพราะในช่วงปลายปีของทุกปี ทางอำเภอภูเรือจะมีการจัดงานไม้ดอกเมืองหนาวอำเภอภูเรือขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการเพาะปลูกไม้ดอกเมืองหนาว และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย

อีกสถานที่หนึ่งในอำเภอภูเรือที่น่าไปชมก็คือหน่วยงานวิชาการอย่าง สถานีทดลองเกษตรที่สูงภูเรือ ซึ่งเป็นแหล่งค้นคว้าทดลองไม้ดอกไม้ผลทั้งของเมืองหนาวและพืชท้องถิ่นที่มีสภาพเหมาะสมกับดินฟ้าอากาศ ไม่ว่าจะเป็นแปลงไม้กฤษณา แปลงสตรอว์เบอร์รี่ โรงเรือนเพาะชำไม้กระถางต่างๆ หากมาในช่วงเดือนกันยายน-เมษายนแล้ว ก็จะได้เห็นไม้ดอกไม้ผลเหล่านี้บานสะพรั่งสวยงามมากทีเดียว นอกจากไม้ดอกแล้ว ไม้ผลอย่างส้มโชกุนจากสวนส้มสยามภูเรือก็น่ากินไม้น้อย นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสวนส้มพื้นที่กว่าร้อยไร่ รวมทั้งเลือกซื้อส้มสดๆ หวานอร่อยเป็นของฝากได้ด้วย

นับว่าภูเรือนี้เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 

สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดเลยได้ที่ ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดเลย โทรศัพท์ 0-4281-2812, 0-4281-1405

สวนเห็ดบ้านภูเรือ ตั้งอยู่ที่ 109 หมู่ 1 ตำบลสานตม อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย 42130 โทรศัพท์ 0-1873-8236, 0-9618-5222

สวนองุ่นภูเรือวโนทยาน (ชาโต้ เดอ เลย) ตั้งอยู่ที่ 220 หมู่ 10 ตำบลร่องจิก อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย 42160 โทรศัพท์ 0-4280-9521 www.chateaudeloei.com

สถานีทดลองเกษตรที่สูงภูเรือ โทรศัพท์ 0-4289-1199, 0-4289-1398

สวนส้มสยามภูเรือ โทรศัพท์ 0-1975-4212

กำลังโหลดความคิดเห็น