ขอนแก่นเป็นอีกจังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน ที่มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ ชื่อ “ขอนแก่น” สันนิษฐานกันว่าน่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า “ขามแก่น” เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งฟอสซิลไดโนเสาร์ที่อ.ภูเวียง เขื่อนขนาดใหญ่อย่างเขื่อนอุบลรัตน์ หรือหมู่บ้านงูโคกสง่า ก็สร้างชื่อเสียงจนโด่งดังไปทั่ว
พูดถึงวัดสำคัญๆก็มีมากมายอย่าง “วัดหนองแวง” เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีมานานคู่จังหวัดขอนแก่น แต่เดิมเรียกกันว่า “วัดเหนือ” เพราะว่าวัดหนองแวงตั้งอยู่เหนือทางน้ำไหล น้ำจะไหลจากโคกและทุ่งนาที่อยู่ใกล้ๆวัดลงไปสู่บึงบอน
หลังจากนั้นน้ำจะไหลออกจากบึงบอนผ่านวัดกลางและวัดธาตุ แล้วไหลมาสู่ลำหนองโคตร ซึ่งอยู่ทางด้านทิศใต้ของวัดศรีนวล ไหลต่อไปสู่ทุ่งสร้าง ผ่านวัดศรีจันทร์ และคุ้มหนองคู
ผู้สร้างวัดนี้คือ พระนครศรีบริรักษ์ เมื่อครั้งนำไพร่พลมาตั้งถิ่นฐาน จวบจนปัจจุบันก็มีอายุกว่า217ปีแล้ว เมื่อปี พ.ศ. 2539 เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี และมหามังคลานุสรณ์ 200 ปี เมืองขอนแก่น ทางวัดได้สร้าง “พระมหาธาตุแก่นนคร” หรือ “พระธาตุเก้าชั้น”
เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กก่ออิฐถือปูน มีเรือนยอดเป็นทรงเจดีย์ จำลองแบบจากพระธาตุขามแก่น บนยอดเจดีย์สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของบึงแก่นนครและเมืองขอนแก่นได้อย่างเด่นชัด
องค์พระธาตุแก่นนคร มีความสูง 80 เมตร มีพระจุลธาตุ 4 องค์ ตั้งอยู่ 4 มุม และมีกำแพงแก้วพญานาค 7 เศียรล้อมรอบ เป็นศิลปะสมัยทวาราวดี ผสมผสานศิลปะอินโดจีน ซึ่งเป็นลักษณะแบบชาวอีสานตากแห ภายในองค์พระธาตุมีอยู่ 9 ชั้น ด้านในปูพื้นด้วยหินอ่อน
ชั้นที่1 มีลักษณะเป็นหอประชุม มีพระบรมสารีริกธาตุอยู่บนบุษบกตรงกลาง มีพระประธานประดิษฐานอยู่ 4 องค์ ตรงกลาง 3 องค์ ด้านข้างทางทิศใต้ 1 องค์ ต้นเสาเขียนลวดลายสีเบญจรงค์ลายกรวยเชิงดอกพุดตาน และดอกบัว ที่คานขื่อเขียนภาพเทพชุมนุม
ล้อมรอบเพดานเขียนภาพเทพพนมปีกค้างคาวดาวล้อมเดือน จตุเทพดารา ตรงบานประตูหน้าต่างแกะสลักเป็นนิทานเรื่องจำปาสี่ต้น โดยเฉพาะบานประตูใหญ่แกะสลักเป็นรูปแบบ 3 มิติ
เมื่อเดินขึ้นบันไดมาชั้นที่ 2 เป็นหอพัก มีของเก่าที่ทางวัดนำมาจัดแสดง บานประตูหน้าต่างเขียนลวดลายเบญจรงค์ ภาพนิทานเรื่องสังสินไช ในชั้นที่ 3 เป็นหอปริยัติ บานประตูหน้าต่างเขียนภาพนิทานเรื่อง นางผมหอม
ชั้นที่ 4 เป็นหอปฏิบัติธรรม ความโดดเด่นอยู่ที่บานประตูหน้าต่าง เขียนภาพพระประจำวัน เทพประจำทิศ ตัวพึ่งตัวเสวยไว้ และเมื่องขั้นมาถึง ชั้นที่ 5 ใช้เป็นหอพิพิธภัณฑ์ บานประตูหน้าต่างแกะสลักภาพพุทธประวัติ แกะสลักเป็นภาพ 1 มิติ
ชั้นที่ 6 เป็นหอพระอุปัชฌายาจารย์ บานประตูหน้าต่างแกะสลักนิทานชาดกเรื่อง เตมีย์ใบ้ แกะสลัก 1 มิติ และชั้นที่ 7 เป็นหอพระอรหันตสาวก บานประตูหน้าต่างแกะสลักนิทานชาดกเรื่อง พระเวสสันดรชาดก แกะสลัก 1 มิติ
ส่วนชั้นที่ 8 เป็นหอพระธรรม รวบรวมพระคัมภีร์สำคัญทางพระพุทธศาสนา อาทิเช่น พระไตรปิฎก บานประตูหน้าต่าง แกะสลักพรหม 16 ชั้น ถึงชั้นที่ 9 แกะสลัก 3 มิติ
ชั้นที่ 9 เป็นหอพระพุทธ เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุตรงกลางบุษบก บานประตูหน้าต่างแกะสลัก 3 มิติ รูปพระพรหม 16 ชั้น และเป็นหอชมวิวทิวทัศน์ตัวเมืองขอนแก่นทั้ง 4 ด้านระเบียงด้านทิศตะวันออกจะติดบึงแก่นนครสามารถออกมายืนรับลมชมทิวทัศน์เมืองได้สวยงามเป็นอย่างยิ่ง
ใครผ่านมาเยือนขอนแก่นก็แวะมาสักการะกันได้เพราะอยู่ในตัวเมืองนี่เอง วัดตั้งอยู่ที่ ถนนกลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เปิดให้ เข้าชมตลอด จนถึง 18.00 น.โทร.0-4322-1664,0-4322-2479,0-4322-4479