xs
xsm
sm
md
lg

ตามรอยโสมในดินแดนโสม ที่"คึมซาน"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : มุสตาฟา



จะไปตามหา "แดจังกึม" กับ "หมอโฮจุน" หรือไง??


นั่นเป็นประโยคแรกที่เข้าหูผม หลังจากบอกกับใครๆว่า ผมจะไปเที่ยวเกาหลี และผมว่าหลายๆคนก็คงจะถูกถามกลับมาในทำนองเดียวกันกับผม เมื่อไปบอกคนรู้จักว่าจะไปเกาหลี

ต้องยอมรับล่ะครับว่า ละครเกาหลีเรื่อง "แดจังกึม" และ "หมอโฮจุนคนดีที่โลกรอ" นี้ ทำเอาผู้คนบ้านเราติดละครเกาหลีกันอย่างงอมแงม และก็ทำให้บ้านเราเกิดกระแสเกาหลีฟีเว่อร์ขึ้นมา อย่างอาหารเกาหลีก็มีผู้คนหันให้ความสนใจกินกันมากขึ้น เพราะอยากกินอาหารแบบแดจังกึม ไม่เท่านั้นเรื่องการท่องเที่ยวก็มีผู้คนอยากไปเยือนเกาหลีมากยิ่งขึ้น ชนิดที่ว่าหากมีบริษัททัวร์ไหนจัดไปเที่ยวเยี่ยมบ้านแดจังกึมแล้วล่ะก็เป็นขายดิบขายดี ยอดจองทัวร์ทะลุเป้ากันเลย

อันที่จริงแล้วตัวผมเองเรียกว่าไม่ได้บ้าละครเกาหลีกับเขามากนักหรอก เพราะก็ดูบ้างไม่ได้ดูบ้าง แต่ว่าพอดูละครเกาหลีที่มีฉากสวยๆ แล้วก็ทำเอาผมนึกอยากที่จะมาเที่ยวเกาหลี เมืองโสมแห่งนี้กับเขาขึ้นมาบ้างเหมือนกัน และแล้วก็เหมือนฟ้าประทานพรมาให้เมื่อผมได้มีโอกาสมาเยือนเกาหลีกับเขาสักครั้งในชีวิต

ผมเหินฟ้าจากเมืองไทยสู่เมืองโสมด้วยสายการบิน เอเชียน่า แอร์ไลน์ (ASIANA AIRLINES) ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงครึ่ง ก็มาถึงสนามบินนานาชาติ อินชอน (INCHEON) 1 ใน 6 เมืองใหญ่ของประเทศเกาหลี ซึ่งอยู่ติดกับกรุงโซลเมืองหลวงของประเทศ

ก้าวแรกที่เดินออกมาจากสนามบินอินชอน ผมได้สัมผัสกับเมืองเกาหลีเข้าอย่างจัง สายลมลมพัดมาวูบแรกที่ทักทายผมนั้น ทำเอาผมต้องเป่าปากควันออกปากทันที เพราะด้วยอุณหภูมิที่เกาหลีนั้นหนาวกว่าเมืองไทยมากๆ อุณหภูมิลดลงไปเหลือเพียง 7-8 องศาเท่านั้นเอง ทำเอาผมปรับตัวแทบไม่ทัน

แต่หลังจากที่เริ่มปรับสภาพร่างกายให้คุ้นเคยกับสภาพอากาศแล้ว ผมก็เริ่มออกทัวร์เที่ยวเมืองเกาหลีทันที โดยมุ่งหน้าไปยังมณฑลคึมซาน (Geumsan) ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดชุงชองนัมโด (CHUNGCHEONGNAN-DO) ภาคกลางของประเทศเกาหลี มลฑลคึมซานถือเป็นแหล่งปลูกโสม (Ginseng) แหล่งใหญ่ของประเทศเกาหลี ซึ่งโสมกว่า 70 % ที่เห็นวางขายกันอยู่ในเกาหนั้นมาจากคึมซานแห่งนี้

พอผมมาถึงคึมซาน ก็รีบปรี่ตรงไปที่อาคารจัดงาน "World Ginseng Expo 2006" ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22 ก.ย.-15 ต.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งความจริงในช่วงเดือนกันยายนของทุกๆ ปี คึมซานจะมีการจัดเทศกาลโสมประจำปีอยู่แล้ว

และสำหรับสถานที่จัดเทศกาลในครั้งนี้ ก็คือโถงจัดนิทรรศการโสมในคึมซาน-อึบ (Geumsan-eup) ซึ่งภายในมีร้านค้าเป็นพันร้านอยู่ในตลาด ที่ล้วนแล้วแต่จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากโสมนานาชนิด มีทั้งรูปแบบของโสมสด รากแห้ง เหง้า โสมสกัด รากโสมแผ่น โสมบดหรือรากโสมแช่น้ำผึ้ง โสมแดงอบ รวมถึงผลิตภัณฑ์โสมในรูปแบบอื่นๆอีกมากมาย เรียกว่าละลานตาไปด้วยสารพัดโสม

เท่าที่ผมเดินดูรอบๆ จนทั่วภายในอาคาร สิ่งที่สะดุดตามากที่สุดเห็นจะเป็นบรรดาขวดโหลหลายใบ ที่ภายในบรรจุโสมที่ได้รางวัลในการประกวดในแต่ละปี จัดวางแสดงอยู่เป็นจำนวนมาก แบ่งออกเป็นหลายประเภทเช่น Mr.หรือ Ms.Ginseng ประจำปีต่างๆ และก็มีโสมที่มีรูปร่างเหมือนคนกำลังแสดงกิริยาอาการต่างๆ มากมายดูแล้วแปลกตาดี

แต่ก่อนจะกลับออกมาจากที่นั่นผมก็สังเกตเห็นว่ามีรูปปั้นที่น่าสนใจอยู่ในอาคาร เป็นรูปปั้นของชายคนหนึ่ง กำลังหมอบคำนับเทพเจ้าองค์หนึ่งอยู่ โดยมีเสือตัวหนึ่งนอนหมอบอยู่ใกล้ๆ ถามกับทีมงานก็จึงรู้ว่า มันเป็นรูปปั้นที่เกี่ยวกับตำนานของโสม

เรื่องเล่าหรือตำนานที่ว่านี้ ก็มีอยู่ว่า เมื่อราว 1,500 ปีก่อน มีชายคนหนึ่งชื่อว่า "กัง" ซึ่งพ่อของเขาเสียชีวิตไปแล้ว แต่แม่ของเขากำลังป่วยหนัก "กัง" จึงเข้าไปนั่งสวดภาวนาอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งชื่อ กวานนึม-กูล (Gwaneum-Gul) บนเขา จินนักซัน อยู่ 3 วัน 3 คืน เพื่อให้แม่ของตัวเองกำลังป่วยอยู่นั้นหายป่วย ซึ่งขณะที่กำลังสวดอยู่ในคืนที่ 3 นั้น ก็มีเทวดาองค์หนึ่งที่ชาวเกาหลีเรียกว่า Moutain Grand Mother มาปรากฏกายให้เห็น และเทวดาก็บอกให้ กัง ไปเก็บรากของพืชชนิดหนึ่งที่มีผลสีแดง มาต้มให้แม่กิน ซึ่งหลังจากที่ กังทำตามที่เทวดาบอก แม่ของเขาหายจากอาการป่วยตามที่เทวดาบอกจริงๆ หลังจากนั้นเป็นต้นมาที่เมืองคึมซานก็เริ่มมีการปลูกโสมกันเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
รูปปั้นกัง กับตำนานโสม
หลังจากได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับโสมจนแน่นสมอง แต่ว่ามันไม่แน่นท้อง เพราะท้องมันร้องหิวขึ้นมาแล้ว ซึ่งที่จริง ในใจผมก็นึกอยากลองชิมโสมที่ว่ากันว่ามีประโยชน์เหลือหลายนักนั้นจะมีรสชาติเป็นอย่างไร แต่ว่าขอติดเอาไว้ก่อนจะดีกว่า เพราะคิดแล้วว่าถึงจะกินโสมทั้งต้นแล้วก็คงจะไม่อิ่มท้องเป็นแน่

ผมจึงตัดสินใจออกไปเดินหาร้านอาหารในเมืองคึมซานกินแก้หิวจะดีกว่า จนกระทั่งมาเจอเข้ากับร้านคึมซาน แซมวอน การ์เด้น (Geumsan Samwon Garden) ซึ่งเป็นร้านอาหารแบบนั่งกับพื้นสไตล์เกาหลี มีฮีตเตอร์อยู่ใต้โต๊ะ ทำให้คลายความหนาวลงไปได้บ้าง

สำหรับอาหารที่ผมสั่งมากินนั้นเป็นสุกี้เกาหลี เรียกว่า "บูลโกกิ" (Bulgogi)ส่วนผสมเท่าที่สังเกตดูก็มีหลายอย่างมีทั้งเนื้อสับ ผักนานาชนิด เช่น เห็ดเข็มทอง ผักกาด ฯลฯ จัดรวมอยู่ในกระทะ เวลากินก็เลือกจิ้มกินตามใจชอบ แถมยังมีอาหารอีกเกือบกว่า 20 ชนิด ที่ผมได้ลิ้มลองเรียกว่ากินจนอิ่มแน่นท้อง มีกำลังพร้อมที่จะออกเดินทางเที่ยวกันต่อแล้ว

พอมีกำลังวังชาแล้ว ผมก็เลยไปเดินเที่ยวชอปปิ้งสักหน่อย ซึ่งถ้ามาที่เกาหลีแล้วสินค้าขึ้นชื่อลือชาที่บรรดานักท่องเที่ยวนิยมซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันก็เห็นจะเห็นจะเป็น "โสม" นี่แหละ ผมจึงไปเดินเที่ยวยังตลาดโสมในเมืองคึมซาน (Ginseng Market) ที่นี่มีร้านขายโสมเรียงรายอยู่มากมายเป็นแถวยาวให้เดินเลือกซื้อกันไม่หวั่นไม่ไหว บรรยากาศตลาดดูแล้วก็เหมือนกับร้านขายของฝากตามต่างจังหวัดในบ้านเราเลย

สำหรับโสมที่มีวางขายนั้นก็มีอยู่หลายชนิดเช่นกัน ราคาก็มีหลายระดับตั้งแต่ถูก จนถึงขั้นแพงมาก และที่แพงที่สุดก็คือ "โสมแดง" จริงๆ แล้วก็เป็นชนิดเดียวกันกับโสมขาวนั่นแหละ แต่นำมาผ่านกรรมวิธีดูดความชื้นออกมาให้หมด ซึ่งจะทำให้เก็บไว้ได้นานนับ 10 ปีเลยทีเดียว และการดูดเอาความชื้นออกนี้ ก็จะทำให้สารซาลาโตนิน ซึ่งเป็นสารที่บำรุงสุขภาพ รู้สึกสดชื่น เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย
ในตลาดโสมคึมซานมีโสมมากมายหลายแบบให้เลือกซื้อ
ผมเดินเลือกซื้อโสมที่จะเอามาเป็นของฝากอยู่นานพอควร กว่าจะได้โสมที่ถูกใจแถมถูกตังค์ (คือราคาไม่แพงพอกำลังทรัพย์จะซื้อไหว) จนเวลาเย็นมากแล้ว ผมจึงเดินทางออกจากมณฑลคึมซานกลับเข้ามายังกรุงโซล (เมืองหลวงของเกาหลี) เพื่อกลับมายังโรงแรมที่พักของผมซึ่งตั้งอยู่ในย่านเมียงดง (Myeongdong) ซึ่งย่านนี้ถือว่าเป็นย่านแฟชั่นชั้นนำของเกาหลี เปรียบเสมือนสยามในบ้านเราได้เลยทีเดียว เท่าที่ผมเดินดูที่นี่มีสินค้าขายมากมายทั้งเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับต่าง ๆ รวมทั้งผลไม้นานาชนิด ให้เลือกซื้อมากมาย เรียกว่าหากใครเป็นนักชอปตัวยงคงจะติดใจย่านเมียงดงนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว

*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 

เกาหลี ประกอบด้วย 9 จังหวัด (โด) มีกรุงโซลเป็นเมืองหลวง และประกอบด้วยเมืองใหญ่ 6 เมืองคือ พูซาน แดกู อินชอน ควางจู แทจอน และอุลซาน พื้นที่ 70 % เป็นเทือกเขา เกาหลีจึงเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

หน่วยสกุลเงินของเกาหลีคือ วอน (Won) หน่วยเงินเหรียญแบ่งออกเป็นมูลค่า 1, 5, 10, 50, 100 และ500 วอน แต่เหรียญ 1 และ 5 วอน จะหาได้ยาก ส่วนธนบัตรแบ่งออกเป็น 1,000, 5,000 และ 10,000 วอน สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 43 บาท ต่อ 1,000 วอน

สำหรับการเดินไปเกาหลี โดยสายการบินเอเชียน่า แอร์ไลน์ (Asiana Airlines) ใช้เวลาราว 4 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งขณะนี้ทางเอเชียน่าเพิ่มเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ-โซล จากสัปดาห์ละ 7 เที่ยว เป็นสัปดาห์ละ 11 เที่ยว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2263-8301 หรือ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี โทร.0-2231-3895-6

กำลังโหลดความคิดเห็น