xs
xsm
sm
md
lg

ตามรอยพระบาท ชมธรรมชาติ ที่ “แม่โถ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โครงการหลวงแม่โถอีกหนึ่งในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง
เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์สมบัติครบ 60 ปี พระองค์เป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อลูกหลานชาวไทยทุกหมู่เหล่ามาช้านาน ทรงมีพระอัจฉริยภาพและสายพระเนตรอันยาวไกล

โครงการต่างๆมากมายได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อในพสกนิกรอยู่ดีกินดี โดยหนึ่งในโครงการที่ยืนยันถึงความห่วงใยที่พระองค์มีต่อพสกนิกรชาวไทย ก็คือ“โครงการหลวง” ที่ไม่เพียงสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ ให้กับพี่น้องชาวไทยภูเขาเท่านั้น โครงการหลวงหลายๆโครงการยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่น่าไปเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ หรือ โครงการหลวงแม่โถ ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ “ผู้จัดการท่องเที่ยว”ได้มีโอกาสไปสัมผัสมาเมื่อเร็วๆนี้ ก็นับเป็นอีกหนึ่งพื้นที่โครงการหลวงที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาและจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดยโครงการหลวงที่นี่มุ่งเน้นและต้องการพัฒนาอาชีพให้ชาวไทยภูเขาในพื้นที่ได้มีโอกาสประกอบอาชีพทำกิน ซึ่งทางโครงการได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชเมืองหนาวหลายชนิด เช่น พริกหวาน เบบี้แครอต เบบี้คอส เบบี้ฮ่องเต้ เป็นต้น
แปลงผักในโรงเรือนไม้ไผ่ในโครงการหลวงแม่โถ
ทั้งนี้การปลูกพืชผักจะเป็นในลักษณะของพืชหมุนเวียน ภายในเรือนโรงที่ทำด้วยไม้ไผ่ ขนาดพื้นที่ 180 ตารางเมตร เป็นการประหยัดพื้นที่ เป็นการป้องกันอันตรายจากสภาพอากาศที่ไม่สมดุล การให้น้ำและปุ๋ยใช้การควบคุมด้วยระบบท่อน้ำหยด นอกจากนี้ยังได้ให้ความรู้ปรับปรุงบำรุงดิน จัดระบบการให้น้ำที่เหมาะสมของพืชแต่ละชนิด ความรู้ด้านการเก็บเกี่ยว การแปรรูปผลผลิตแก่เกษตรกรที่สนใจ

ประการสำคัญที่นี่ไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลง แต่มีวิธีการแบบธรรมชาติบำบัด คือใช้ประโยชน์การวัฏจักรอันเป็นวงจรชีวิตของแมลงต่างๆ ที่ว่าสัตว์เล็กย่อมเป็นเหยื่อของสัตว์ใหญ่ หากมีหนอนกัดกินพืชผักที่ปลูกไว้ก็จะนำแมลงวันที่เพาะเลี้ยงไว้ โดยกรรมวิธีที่สะอาดจากห้องแล็บออกมาฆ่าหนอน

ชาวบ้านบ้านแม่โถส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าม้งและกะเหรี่ยง ทุกหลังคาเรือนจะมีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประดับอยู่เหนือหัวในฝาบ้าน ซึ่ง“ผู้จัดการท่องเที่ยว”ได้สอบถามชาวบ้านในละแวกนั้นและก็ได้รู้ว่า ทุกคนปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพ่อหลวงที่แผ่ปกคลุมมาถึงชาวป่าชาวดอยอย่างพวกเขาเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อย้อนคิดภาพไปเมื่อ 30 กว่าปีก่อน ที่พระองค์ทรงเสด็จมานั้น ทางเข้าหมู่บ้านมีสภาพดูไม่ออกว่าเป็นทาง แถมยังเต็มไปด้วยป่ารก ขนาดปัจจุบันที่ว่าถนนหนทางเจริญแล้วก็ยังมีนักท่องเที่ยวหลายคนบ่นว่าเดินทางไปลำบากเลย แต่ปรากฎว่าพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงเสด็จมาถึง
พริกหวานลูกโตผลผลิตจากโครงการหลวงแม่โถ
แม้ตอนนี้ฤดูกาลจะเริ่มเข้าสู่วสันตฤดูแล้ว แต่บนโครงการหลวงแห่งนี้ ก็ยังมีกลิ่นไอของความหนาวเย็นปกคลุมทั่วไป ในตอนเช้าในพื้นที่โครงการยังมีหมอกจางๆปรากฏให้เห็นอยู่ร่ำไร ซึ่งการได้มาเดินสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด ท่ามกลางธรรมชาติอันหนาวเย็นที่รายล้อมไปด้วยดอกไม้และแปลงผัก ที่กำลังเขียวขจีเจริญวัยเต็มที่ รอการเก็บเกี่ยวออกขายสู่ท้องตลาดก็เป็นธรรมชาติที่ชวนประทับใจไปอีกแบบ

ในขณะที่การแสดงต้อนรับนักท่องเที่ยวของชาวบ้านที่นี่ในคืนวันแรกที่เรามาถึงก็ชวนประทับใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นการรำดาบ การเต้นประกอบจังหวะเพลง รวมถึงการทำพิธีผูกข้อมือรับขวัญนักท่องเที่ยวที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งมิตรภาพ

ห่างออกไปไม่ไกลจากโครงการหลวงแม่โถเท่าใดนัก มี“อุทยานแห่งชาติแม่โถ” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเชียงใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันพิสุทธิ์ และสิ่งน่ายล
การแสดงต้อนรับนักท่องเที่ยวของชาวบ้านแม่โถ
อุทยานแห่งชาติแม่โถ นี้ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงที่ทอดตัวต่อมาจากดอยอินทนนท์ โดยยอดเขาสูงสุดของที่นี่มีความสูงถึง 1,699 เมตร สำหรับผู้ที่มาเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งนี้ ก็จะได้สัมผัสกับสิ่งที่น่าในใจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกในฤดูหนาวได้อย่างงดงาม นอกจากนี้ที่จุดชมวิวยังเคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จทรงงานที่หมู่บ้านแม่โถเมื่อประมาณปี พ.ศ.2523 อีกด้วย

ส่วนใครที่มาในช่วงต้นปี ก็ยังมีโอกาสได้เห็นความงามของต้น “นางพญาเสือโคร่ง” ที่ได้รับฉายาว่า “ซากุระเมืองไทย” ที่ออกดอกงดงามบานสะพรั่งทั่วบริเวณจุดชมวิว และวันไหนที่ละอองหมอกจางมองไปสุดปลายสายตา ยังสามารถมอเห็นยอดพระธาตุนภเมทนีดล และนภพลภูมิสิริ ที่ตั้งอยู่บนยอดดอยอินทนนท์ได้อีกด้วย

สำหรับพระธาตุสองแห่งที่ตั้งตระหง่านคู่กันนี้จะว่าไปก็ไม่ธรรมดาเอาเสียเลย เพราะถูกสร้างขึ้นในวาระที่กองทัพอากาศ มีอายุครบ 72 ปี ในปี พ.ศ.2530 ประจวบกับวาระมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม ปีเดียวกัน จึงได้สร้างพระธาตุขึ้นเป็นที่ระลึก วาระสำคัญของกองทัพอากาศและเฉลิมพระเกียรติน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน
พิธีผูกข้อมือรับขวัญอีกหนึ่งความประทับใจในบ้านแม่โถ
ใกล้ๆกับบริเวณบ้านพักในอุทยานยังมีต้นสนสำคัญอยู่ 2 ต้นที่ตระหง่านคู่กัน ผลิดอกออกใบแผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่ว ความสำคัญของมันก็คือเป็นต้นสนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเป็นผู้ทรงปลูก นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยว ณ อุทยานแห่งชาตินี้ ซึ่งในบางครั้งก็เลือกที่จะกางเต็นท์นอนใต้ร่มเงาของต้นสน 2 ต้น ที่ยืนหยัดคู่กันนี้ แทนการไปนอนในบ้านพักของทางอุทยาน เพราะพื้นที่ราบเรียบเหมาะแก่การกางเต็นท์อีกทั้งยังเป็นการซึมซับร่องรอยวันวาน ในที่ที่ในหลวงทรงเคยเหยียบย่าง โดยเฉพาะหนุ่มสาวด้วยแล้วจะยึดถือกันว่า สนคู่นี้คือสัญลักษณ์ของความรักที่เป็นนิรันดร์เลยทีเดียว

ภายในเขตอุทยานแห่งชาติแม่โถยังมี “น้ำตกแม่แอบ”น้ำตกขนาดเล็ก 2 ชั้นน่ายล จะไปชมความงามของน้ำตกแม่แอบ ไม่ใช่เรื่องง่ายเป็นการพิสูจน์ความอดทนเหมือนกัน เพราะต้องเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีทิวทัศน์รอบกายเป็นป่า

ความจริงแล้วที่มาของชื่อน้ำตกแม่แอบ ก็ได้มาจากชื่อของหมู่บ้านแม่แอบนั่นแหละ แต่เมื่อได้มาเยือนถึงถิ่นก็อดคิดไม่ได้ว่าชื่อแม่แอบ น่าจะหมายถึงการที่ตัวน้ำตก แอบซ่อนอยู่ท่ามกลางป่ามากกว่า ชมความงามของน้ำตกไปควบคู่กับการเตรียมอาหารกลางวันให้พร้อม แล้วมานั่งกินใต้ร่มเงาไผ่ บริเวณน้ำตกก็เป็นบรรยากาศที่โรแมนติกไม่เบา

นอกจากนี้อุทยานฯแม่โถยังมี ถ้ำหลวงแม่ตูม ที่ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยรูปทรง คล้ายเสาหินในวิหารโบราณ รอบ ๆ เสาหินจะมีหินงอกที่มองดูคล้ายเทวรูป มีลักษณะแปลกประหลาดสวยงามมาก มีค้างคาวอาศัยอยู่ภายในถ้ำเป็นจำนวนมาก ส่วนใครชอบล่องแม่น้ำชมธรรมชาติตามลำน้ำแม่ตูม ยังเป็นเส้นทางล่องลำน้ำเที่ยวชมธรรมชาติของสภาพป่าเบญจพรรณที่ขึ้นสลับกับสภาพป่าเต็งรัง โดยมีต้นไม้ลักษณะคล้ายต้นกระบองเพชรเป็นอีกหนึ่งจุดสนใจอันน่ามอง

และนี่คือหนึ่งในทริปอันน่าประทับใจที่เราได้สัมผัสทั้งธรรมชาติดันพิสุทธิ์ในอุทยานแห่งชาติแม่โถ และได้สัมผัสกับพระมหากรุณาธิคุณที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีต่อพสกนิกรชาวไทยในโครงการหลวงแม่โถ ซึ่งนี่ถือเป็นหนึ่งความทรงจำอันทรงคุณค่า ที่เราได้มาเห็นความเหนื่อยยากของพระองค์ท่านที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ในทริปนี้นอกจากความอิ่มเอิบใจแล้ว “ผู้จัดการท่องเที่ยว”ยังรู้สึกดีใจเหลือเกินที่ได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย
****************************

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ ตั้งอยู่บ้านแม่โถ ตำบลสลี อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน การเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 สายเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน 88 กิโลเมตร ถึงอำเภอฮอดให้เลี้ยวขวาไปตามถนนฮอด-แม่สะเรียง (เส้นทางหลวงหมายเลข 108) อีก 55 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวาที่แยกบ้านกองลอยมุ่งหน้าไปบ้านแม่โถ ตามทางหลวงหมายเลข 1270 สายกองลอย-แม่โถ (ถนนลูกรัง) ระยะทาง 16 กิโลเมตร ในฤดูฝนควรใช้รถโฟร์วีลไดร์ฟ (ไม่มีบริการรถยนต์รับจ้าง) สนใจสอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-5321-0935 ในวันและเวลาราชการ

อุทยานแห่งชาติแม่โถ ที่ทำการอุทยานตั้งอยู่ในบริเวณ หน่วยพัฒนาต้นน้ำที่6 (ดอยแม่โถ)เดิมหมู่ที่1 ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ มีสถานที่พักและอาหาร บริการภายในบริเวณอุทยาน มีบ้านพักจำนวน 4 หลัง รองรับผู้เข้าพักได้ประมาณ 30 คน มีที่สำหรับกางเต็นท์(ประมาณ 50 หลัง) ต้องนำอุปกรณ์กางเต็นท์มาเอง

อุทยานไม่มีร้านอาหารไว้บริการ หากต้องการให้จัดเตรียมไว้ให้ ต้องประสานแจ้งให้ทราบล่วงหน้า สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติแม่โถ โทร.0-5381-8348 และ 0-5381-9349

กำลังโหลดความคิดเห็น