xs
xsm
sm
md
lg

"ขบวนเรือพระราชพิธี"ชมฟรีได้ในหลายจุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : หนุ่มลูกทุ่ง

เย็นวันที่ 12 มิถุนายน 2549 นี้ ลำน้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ท่าวาสุกรีไปจนถึงวัดอรุณจะงดงามวิจิตรไปด้วยการแสดงขบวนเรือพระราชพิธี ฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่หลงเหลือหนึ่งเดียวในโลก

นอกจากการแสดงในวันจริงแล้ว ในวันที่ 2 และ 6 มิถุนายน จะมีการซ้อมใหญ่ที่เหมือนการแสดงจริงทุกประการ และการซ้อมปรับสภาพ ในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ ซึ่งทั้งการซ้อมใหญ่และการซ้อมปรับสภาพต่างก็มีความงดงามไม่ต่างจากการแสดงจริง

ความสวยงามอลังการของขบวนเรือพระราชพิธีนั้น ส่งผลให้บัตรชมขบวนเรือฯที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดจำหน่ายขายหมดเกลี้ยงในไม่กี่วัน ในขณะที่ตามร้านอาหารริมเจ้าพระยาที่ขบวนเรือฯแล่นผ่านต่างก็ถูกจับจองกันเกือบหมดแล้ว

สำหรับฉัน งานนี้แม้ไม่ได้เสียเงินไปซื้อบัตรหรือจับจองร้านอาหารชม แต่ก็เล็งเอาไว้ว่าจะหาจุดชมขบวนเรือฯแบบไม่เสียสตางค์ในที่สาธารณะริมเจ้าพระยาสักแห่งหนึ่ง ซึ่งหลายๆจุดที่ขบวนเรือฯแล่นผ่าน มีมุมดีๆ และสามารถชมได้อย่างใกล้ชิดเป็นบุญตาไม่แพ้จุดชมที่เสียสตางค์เลย...ว่าแล้วเรามาลองสำรวจกันดีกว่าว่าจุดชมขบวนเรือฯ ฟรีนั้นมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง

จุดแรกฉันขอนำเสนอสวนสันติชัยปราการ สวนสาธารณะใกล้ออฟฟิศที่มีป้อมพระสุเมรุตั้งเด่นเป็นสง่า ในช่วงเย็นๆ แดดร่มลมตกสวนแห่งนี้ก็จะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนทั้งคนไทยและต่างชาติที่อยู่อาศัยในละแวกนั้น

ผู้ที่จะมารอชมเรือพระราชพิธีที่สวนแห่งนี้นับว่าเหมาะมาก เพราะผู้ชมสามารถนั่งชมกันได้บริเวณลานกว้างริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะมีที่นั่งยาวขนานกับริมน้ำ หรือถ้าจับจองที่นั่งตรงนั้นไม่ทัน ก็ยังมีพื้นที่ว่างอีกเยอะแยะที่สามารถชมขบวนเรือพระราชพิธีได้เช่นกัน

อีกข้อหนึ่งที่ฉันเห็นว่าสวนสันติชัยปราการเป็นจุดชมที่น่าสนใจก็คือ ตรงจุดนี้สามารถมองเห็นสะพานพระราม 8 ได้อย่างชัดเจนและสวยงามอีกต่างหาก ถ้าใครจะถ่ายภาพก็คงได้มุมดีไม่น้อย มีสะพานพระราม 8 เป็นฉากหลัง

นอกจากในสวนสันติชัยปราการแล้ว บริเวณทางเดินริมน้ำเจ้าพระยาตั้งแต่สวนสันติฯ ไปจนถึงท่าเรือพระอาทิตย์ และยาวต่อไปถึงบริเวณใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ตรงนั้นก็เป็นจุดที่สามารถมองเห็นขบวนเรือได้อย่างชัดเจนทีเดียว มีฉากหลังเป็นสะพานพระปิ่นเกล้าและตึกแฝด แต่ผู้ชมคงต้องทนเมื่อยเอาหน่อยเพราะตรงนี้ไม่มีเก้าอี้ให้นั่งดูสบายๆ อ้อ...และขอบอกว่าบริเวณทางเดินตรงนี้ก็ชมได้เฉพาะวันซ้อมเท่านั้น คือวันที่ 2, 6, และ 9 มิถุนายน เพราะวันจริงเขาจะปิดห้ามคนผ่านไปผ่านมา แล้วก็ห้ามลงไปยืนบนโป๊ะเรือด้วยอีกต่างหาก

เอ้า...ไหนๆ ก็เดินมาถึงตั้งสะพานปิ่นเกล้าแล้ว ก็เดินเลยมาอีกหน่อยหนึ่งผ่านถนนพระอาทิตย์เข้าไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยที่มีพื้นที่ทั้งแถบติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา แต่จุดที่จะสามารถชมเรือพระราชพิธีได้ก็คือบริเวณโรงอาหารที่อยู่ใต้ตึกอเนกประสงค์ 2 (อาคาร 60 ปี) ติดกับคณะเศรษฐศาสตร์ ใกล้ประตูด้านถนนพระอาทิตย์ และอีกที่หนึ่งก็คือใต้ตึกคณะศิลปศาสตร์ ใกล้ประตูท่าพระจันทร์

ใครที่ไปชมเรือที่ตึกอเนกประสงค์ก็อย่าลืมแวะไปไหว้ศาลสิงโตทอง หรือที่เด็กธรรมศาสตร์มักเรียกกันว่าศาลเจ้าแม่สิงโต ตั้งหันหน้าออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ศาลแห่งนี้เป็นที่เคารพสักการะของนักศึกษา โดยมักจะมาขอพรในเรื่องของการเรียนรวมทั้งเรื่องความรักด้วย และเท่าที่ฉันเห็น ดูเหมือนเจ้าแม่สิงโตนี้คงจะชอบลูกแก้วเป็นพิเศษ เพราะของแก้บนที่ฉันเห็นวางอยู่เต็มศาลของท่านก็คือลูกแก้วทั้งลูกเล็กลูกใหญ่เต็มไปหมด

ไหว้ศาลสิงโตทองแล้วก็มาจับจองที่นั่งกันได้ จุดชมเรือตรงนี้นอกจากจะสามารถยืนดูกันได้ตรงทางเดินริมน้ำแล้ว ก็ยังมีศาลาริมน้ำอยู่สองหลังให้นั่งดูสบายๆ กันอีกด้วย ทิวทัศน์ฝั่งตรงข้ามก็มีสะพานพระปิ่นเกล้าให้ชมอยู่ด้านขวามือ ส่วนฝั่งตรงข้ามก็เป็นโรงพยาบาลศิริราช ก็นับว่าเป็นทำเลถ่ายภาพที่ไม่เลวนัก

จริงๆ แล้ว ยังมีอีกจุดหนึ่งของมหาวิทยาลัยที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา นั่นก็คือบริเวณลานปรีดี หน้าตึกโดม แต่ทางมหาวิทยาลัยเขาขอสงวนพื้นที่ไว้สำหรับอาจารย์และแขกผู้ใหญ่นั่งชมกัน เพราะฉะนั้นเหล่าผู้น้อยก็สามารถชมอยู่ตามจุดที่ฉันบอกได้

จากฝั่งพระนคร เราข้ามไปฝั่งธนฯ กันบ้างดีกว่า คราวนี้ต้องเปลี่ยนอาชีพเป็นเด็กวัดอาศัยพื้นที่วัดในการชมเรือพระราชพิธี เริ่มจากวัดแรกก็คือวัดอรุณราชวราราม ที่มีพื้นที่ด้านหน้าวัดติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา มีที่ให้นั่งชมยืนชมได้สบายๆ ตลอดแนววัด แนะนำให้รีบไปกันตั้งแต่หัววันเพื่อกราบพระ ไหว้พระปรางค์วัดอรุณ และชมสิ่งที่น่าใจภายในวัดกันก่อนเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยว

แต่หากที่วัดอรุณฯ นี้คนเยอะเกินไป ไม่มีที่นั่งดีๆ ก็ลองย้ายที่ไปยังวัดกัลยาณมิตร ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก ซึ่งลักษณะพื้นที่นั่งชมก็คล้ายกับที่วัดอรุณฯ แต่ที่วัดกัลยาณมิตรนี้เป็นช่วงปลายๆ ของขบวนเรือแล้ว และเช่นเดียวกัน เมื่อมาถึงวัดแห่งนี้แล้วก็ไม่ควรพลาดที่จะไปกราบหลวงพ่อโต หรือซำปอกง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของทั้งชาวไทยและชาวจีน

หรือถ้าอยากได้มุมชมเรือและมุมถ่ายรูปแบบที่เห็นยอดปราสาทในพระบรมมหาราชวังเป็นฉากหลัง ฉันขอแนะนำให้มาชมที่วัดระฆังโฆษิตาราม ซึ่งแม้สถานที่อาจจะคับแคบมากกว่าสองวัดที่แล้วไปบ้าง แต่เชื่อว่ามุมที่ออกมาสวยแน่นอน

สำหรับลานกว้างใต้สะพานพระราม 8 (ฝั่งธนฯ) นั้นทางกทม. ก็ได้จัดที่นั่งส่วนหนึ่งไว้ให้ประชาชนทั่วไปสามารถจับจองรอชมขบวนเรือได้ โดยผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับบัตรชมขบวนเรือฯ ได้ที่สำนักงานเขตฯ ทุกเขต หรือสอบถามที่ กองประชาสัมพันธ์ กทม. 0-2224-8651

ส่วนผู้ที่ตั้งใจจะไปรอชมตามท่าเรือสาธารณะนั้น ก็ต้องดูดีๆ เพราะบางท่าก็มีการเปิดขายบัตรเข้าชม ถ้าไม่มีบัตรก็ไม่มีสิทธิ์ ซึ่งท่าเรือที่ต้องซื้อบัตรก็มีท่าวังหลัง (ติดกับโรงพยาบาลศิริราช) ท่าพรานนก ท่าพระจันทร์เหนือ ท่ารถไฟ (สถานีรถไฟบางกอกน้อย) ท่าข้ามฟากพระปิ่นเกล้าธนบุรี และท่ามหาราช สำหรับราคาขายวันซ้อมที่นั่งละ 300 บาท ส่วนวันจริง 500 บาท แต่เดี๋ยวก่อน!! สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบัตร ขอแจ้งให้ทราบว่า บัตรขายหมดแล้วทุกที่นั่ง เพราะฉะนั้นไปดูกันต่อว่ามีท่าเรือสาธารณะที่ไหนบ้างที่สามารถไปชมได้แบบฟรีๆ ได้บ้าง

นอกจากท่าพระอาทิตย์ ที่สามารถไปยืนชมได้ฟรีอย่างที่ฉันได้บอกไปในตอนแรกแล้วนั้น ก็ยังมีท่าอื่นๆ คือท่าช้าง ท่าเตียน ท่าราชินี ซึ่งก็อาศัยยืนชมกันได้โดยไม่เสียสตางค์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในวันที่มีการแสดงจริง ทางท่าเรือก็จะปิดไม่ให้ลงไปยืนบนโป๊ะเรือ

สำหรับจุดชมแต่ละที่นั้นก็ไม่มีข้อได้เปรียบเสียเปรียบอะไรมากนัก ต่างกันแต่ตรงฉากหลัง แต่คนที่ชมอยู่ทางฝั่งธนฯอาจจะดีกว่านิดหนึ่งตรงที่ไม่ต้องชมเรือแบบย้อนแสงแดดไม่ส่องหน้า และใครที่ต้องการมาชมตามจุดต่างๆ ที่ฉันว่ามานี้ ก็ขอให้รีบมาจับจองที่นั่งกันเสียแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะในวันแสดงจริง เพราะเชื่อว่าคงมีหลายคนที่ใจเดียวกันคิดเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องเสียอารมณ์แย่งที่นั่งกัน แล้วอย่าลืมเอากล้องมาเก็บรูปสวยๆ กันไปด้วยล่ะ

ยังเหลืออีก 3 ครั้งสำหรับการซ้อมใหญ่ขบวนเรือพระราชพิธี จากนั้นก็จะเป็นการแสดงจริง รวมทั้งหมดก็ 4 ครั้งด้วยกันที่เราจะได้เห็นความงดงามของเรือพระที่นั่งและเรือประกอบขบวนอันสวยงาม รวมทั้งได้ฟังกาพย์เห่เรืออันไพเราะจับใจ งานพิธีแบบนี้ใช่ว่าจะหาชมได้ง่ายๆ หรือบ่อยๆ เสียที่ไหน เพราะฉะนั้นฉันว่าควรจะหาเวลา รวมทั้งหามุมดีๆ มานั่งชมขบวนเรือพระราชพิธีสักครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นบุญตาและเป็นภาพประทับใจของตัวเองต่อไป

*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 

สำหรับการเคลื่อนขบวนเรือพระราชพิธี ฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในวันที่ 2, 6, 9 และ 12 มิถุนายนนี้ จะมีการปรับเวลาจากเดิม 18.00 เป็นเวลา 16.00 น. โดยขบวนเรือจะเคลื่อนจากบริเวณสะพานพระราม 8 และสิ้นสุดที่วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร ซึ่งจะถึงประมาณเวลา 19.00 น. โดยการปรับเวลาครั้งนี้เพื่อจะได้เห็นภาพขบวนเรือพระราชพิธีในลำน้ำขณะที่ยังมีแสงธรรมชาติอยู่

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

"ขบวนเรือพระราชพิธี" มรดกทางวัฒนธรรมหนึ่งเดียวในโลก
“เรือพระที่นั่ง”สุดยอดเรือแห่งสยามประเทศ
รู้จักเรือ 52 ลำในริ้วขบวนเรือพระราชพิธี
ขุนพล "ขบวนเรือพระราชพิธี" เบื้องหลังความอลังการแห่งสายน้ำ
คนเห่เรือ ผู้ขับขานภาษา ให้กังวานก้อง แห่งท้องน้ำเจ้าพระยา
นาวาเอกทองย้อย ผู้เรียงร้อยอักษรเป็น“กาพย์เห่เรือฯ"
รู้จักนักเห่เรือ 2 รุ่น 2 ยุค
"กาพย์เห่เรือฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี" ท่วงทำนองความงดงามแห่งภาษาไทย

กำลังโหลดความคิดเห็น