โดย : วีระวัฒน์ วัฒนกุล

ท่านอาจารย์สุขสันต์ วิเวกเมธากร เคยแปลความจากคำคมของจีนไว้อย่างน่าประทับใจ เรียกได้ว่า คนไทยเชื้อสายจีนคนใดได้ฟังถ้อยคำนี้ เป็นต้องทึ่งและภาคภูมิใจมิใช่น้อย!
...หน่าหลี่โหย่วหยาง กวางจิ้ว โหย่วจงกว๋อหยืน หน่าหลี่โหย่วจงกว๋อ หยืนจิ้วโหย่ว กวางหยาง...
ที่หากแปลเป็นไทยมีใจความว่า...ที่ใดมีแสงอาทิตย์ ที่นั่นย่อมมีคนจีน ที่ใดมีคนจีน ที่นั่นย่อมมีความรุ่งโรจน์...
จะเห็นได้ว่า ชาวจีนเป็นชาติที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่ เป็นอารยธรรมของโลกที่สัมผัสได้ นับตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน
คนไทยเราจึงเดินทางไปจีน ครั้งแล้วครั้งเล่า แบบไม่รู้สึกเบื่อหน่าย เพราะเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นมีไว้รอคอยและต้อนรับผู้มาเยือนเสมอ...ไม่ว่าจะไปที่ไหนในแผนที่รูปแม่ไก่ของจีน

คราวนี้คุณอธิคม ชาญวิรอง เจ้าของบริษัทมิคโก้ แทรเวล และแฟร์ฮอลิเดย์ ได้มาเชิญชวนไปเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน แห่งประเทศจีน แต่ที่พิเศษครือทริปนี้ผมไม่ได้ไปในฐานะวิทยากร หากแต่ไปทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทัวร์นำคณะไประเริงหิมะที่ภูเขาซีหลิงซาน ให้เป็นที่หัวใจเบิกบาน ซึ่งผมก็ยินดีรับหน้าที่นี้อย่างเต็มกำลังความสามารถ มีน้องนิ่ม : สุมาลี โฉมศรี มาคอยเป็นโค้ช ให้ความรู้เรื่องการทำทัวร์แบบสมบูรณ์พร้อม เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้เดินทาง
เท่านั้นยังไม่พอคุณป้อม : พรชัย พรมั่น ไกด์มืออาชีพ เจ้าของฟ้าไทยทัวร์ ยังตามมาเพิ่มคณะทัวร์ เรื่องดื่มด่ำสำราญหรรษาจึงมีตลอดการเดินทาง
จากดอนเมืองสายการบินไทยใช้เวลาบินแค่ 2 ชั่วโมงเศษ ก็บินถึงท่าอากาศยานซวงหลิง นครเฉิงตู ที่อยู่ทางตอนกลางของประเทศจีน
เฉิงตูเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในเสฉวน มีสภาพเป็นเทือกเขาและที่ราบลุ่ม จึบงเหมาะสำหรับทำการเกษตร เพราะว่ามีมีอากาศไม่หนาวจนเกินไป รวมทั้งมีปริมาณความชื้นสูง
ประชากรส่วนใหญ่ เป็นชนกลุ่มน้อย เชื้อชาติต่างๆอย่างพวกชาวยี่ ทิเบต เมี้ยว หุย เชี่ยง ฯลฯ
เสฉวนเป็นเมืองโบราณที่เป็นถิ่นกำเนิดของบุคคลสำคัญมากมาย ทั้งนักการเมืองการปกครอง นักการทหาร และกวีเอก เป็นบ้านเกิดของบุคคลสำคัญของจีนอย่าง เติ้งเสี่ยวผิง ซึ่งเกิดในปี ค.ศ. 1904 ที่เมืองกว่างอาน ท้ายสุดเป็นผู้นำสูงสุดของจีน ตราบถึงอสัญกรรม เมื่อ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1997 สิริอายุได้ 93 ปี
กวีเอกได้บรรยายถึงเสฉวนที่มีแต่ภูเขาสูงว่า การเดินทางสู่ซื่อชวน(คนไทยเรียกเสฉวน) ยากเย็นยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์ แต่เมื่อเข้าถึง ซื่อชวน จึงรู้ว่าสวรรค์มีจริง

สมัยสามก๊ก ขงเบ้งเคยพรรณนาให้เล่าปี่ฟังว่า หากคิดตั้งตัวเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ต้องไปตั้งหลักที่ ซื่อชวนก่อน
เห็นที่ว่า ใครที่คิดอ่านจะทำการใหญ่ หรืออยากเจริญก้าวหน้าคงต้องมาเสฉวนสักหนก่อน การในภาคหน้าเห็นทีสมประสงค์แน่นอน
เราเดินทางจากเฉิงตูขึ้นสู่เขตพื้นที่ ภูเขาหิมะซีหลิงซาน ไปทางทิศตะวันตก ราว 2 ชั่วโมง ก็ถึงจุดขึ้นกระเช้าไฟฟ้า จากนั้นนั่งไปราว 20 นาทีก็ถึงยังภูเขาหิมะซีหลิงซานที่สูงราว 5,230 เมตร จากระดับน้ำทะเล ที่นี่มีทิวทัศน์งดงามตายิ่งนัก จากทุ่งหญ้าในฤดูอื่นพอถึงฤดูหนาวก็กลายเป็นลานหิมะ ที่เหมาะสำหรับเล่นสกี เล่นเกมสนุกๆ พวกกระดานเลื่อน แพยาง หรือแม้แต่ขึ้นบอลลูนไปชมความงามในมุมสูง ในราคาเพียงคนละไม่กี่หยวน(1 หยวน ประมาณ 5 บาท) ที่นับว่าไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆในแบบเดียวกันนี้ ซีหลิงซาน นับว่าสนุกและถูกใจจังที่ตังค์จ่ายน้อยกว่านั่นเอง
ลงจากเขาซีหลิงซาน ก็ไปต่อยังเมืองตูเจียงเอี๊ยน เพื่อชมเขื่อนโบราณ สัญลักษณ์แห่งความเพียรพยายาม เอาชนะธรรมชาติของมนุษย์ ตั้งแต่เมื่อ 256 ปีก่อน ค.ศ. สมัยนั้นใช้เทคนิคเจาะแยกภูเขา ให้แบ่งธารน้ำเป็น 2 สาย ด้วยฝีมือของ หลี่ปิง และเออหลาง บุตรชาย ด้วยเหตุนี้จึงมีการศาล 2 กษัตริย์เพื่อเป็นที่เคารพ สักการะ 2 วีรบุรุษนักสร้างเขื่อน ซึ่งถูกยกให้เป็นกษัตริย์ผู้พิชิตแม่น้ำหมินเจียงได้สำเร็จ

ที่ตั้งของเขื่อนในตำบลกวนเซียน อยู่ห่างจากเฉิงตู ไปราว 50 กิโลเมตร ปัจจุบันส่งน้ำให้กับพื้นที่การเกษตรถึง 600,000 เอเคอร์ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อการเกษตรมาอย่างยาวนาน
คราวนี้มาถึงสถานที่น่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อคณะเดินทางไปถึงเมืองต้าอิง แหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่หากใครไปเสฉวนแล้วไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะเมืองนี้เป็นที่ตั้งของ ไชน่าเดดซี หรือ ทะเลสาบน้ำเค็ม ที่มีการก่อสร้างโมขนาดยักษ์คลุมไว้ ทะเลสาบนี้เป็นทะเลสาบที่มีแต่แร่ธาตุซึ่งสามารถรักษาโรคได้ อาทิ โรคไขข้อกระดูก โรคเหน็บชา ที่ต้องตามไปพิสูจน์ในห้องอาบน้ำของโรงแรมซันซิตี้ ซึ่งเขาได้ขุดรางน้ำ แยกชาย-หญิงให้ใช้ พอถึงเวลาก็เปลี่ยนชุด ลงทะเลสาบไชน่าเดดซี ได้ตามสบาย ลงน้ำไปแล้วหลายๆคนก็จะกลายเป็นแม่ชีลอยน้ำกันถ้วนหน้า หรือใครจะขึ้นมาเข้าห้องพัก พอกโคลน-สปา หรือหาหมอจีนรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ก็ทำได้ตามต้องการ
พอตกค่ำก็มีการแสดง แบบอาหรับผสมจีน โดยนักแสดงที่เก่งกาจ หุ่นทรงอรชรอ่อนแอ้นเหลือเกิน ในการแสดงเขาเตรียมเก้าอี้นั่งสบายๆไว้ให้นั่ง ในขณะที่บางคนเลือกชมการแสดงด้วยการมองจากห้องพักที่สามารถมองเห็นอย่างถนัดชัดเจน
จากต้าอิง เดินทางต่อราว 3 ชั่วโมงบนทางด่วนกลับสู่เฉินตูอีกครั้ง เพื่อมาเที่ยวชมสวนสาธารณะหลานเจียว ที่นี่มีต้นไม้-ดอกไม้งามของฤดูหนาว ยิ่งช่วงที่ไปมีดอกเหมย หรือเหมยฮัว ดอกไม้ประจำฤดูหนาว กำลังเบ่งบาน ก็ยิ่งเพลิดเพลินในอารมณ์ ทำให้ผู้ที่ไปถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนาน

ค่ำวันนี้จึงเต็มอิ่มด้วยความสุข ด้วยการดูโชว์งิ้วเปลี่ยนหน้ากากสี ที่เป็นความสามารถพิเศษ ขนาดสถานีโทรทัศน์ของดิสคัพเวอรี่ เคยตั้งกล้อง 4 ตัว จับจับทุกมุมก็ยังถึงกับงง..เพราะจับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน พอไปถามใครว่า เขามีเทคนิคอย่างไร ก็ไม่มีใครตอบได้ เอาเป็นว่า ปริศนามายากลนี้ก็ยังหาคำตอบไม่ได้อยู่นั่นเอง
ไหนๆมาเฉิงตูแล้ว หากพลาดการดูสูงเมา หรือหมีแพนด้าก็ดูจะกระไรอยู่ ที่สวนสัตว์เชียงใหม่บ้านเรามีช่วง ช่วง กับ หลินฮุ่ย ที่เดินทางจากจีนมาสร้างความน่ารักน่าเอ็นดูให้กับคนไทย แต่ที่นี่มีแพนด้าจำนวนนับร้อยตัวทีเดียว
แพนด้าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์สงวนของจีน และด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูนี่เอง จึงทำให้แพนด้าเป็นสื่อสันถวไมตรีกับมิตรประเทศของจีน
ใครที่มาเสฉวนน่าจะลองหาเวลามาเที่ยวชมความน่ารักของหมีแพนด้า ที่แม้จะตัวอวบอ้วนใหญ่ แต่ก็มีนิสัยชอบเล่นเคล้าแข้งเคล้าขาคล้ายแมว ดูกี่ครั้งกี่หนก็ไม่น่าเบื่อ
นอกจากที่เล่ามาแล้ว เฉิงตูยังมีเสน่ห์เชิญชวนให้มาสัมผัสอีกมากมาย แบบที่เล่าขานกันไม่จบสิ้น จนเป็นที่ยกย่องว่าเป็น...เทียนผู๋จือกว๋อ หรือ เมืองแมนแดนสวรรค์ที่น่าสัมผัสสักครั้งในชีวิต
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
นครเฉิงตู เป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน มีอากาศอบอุ่นชุ่มชื้น หนึ่งปีมี 4 ฤดู หน้าร้อนไม่แห้ง หน้าหนาวไม่ทารุณ อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีราว 16.7 องศา นับว่าเป็นอุณหภูมิที่พอเหมาะ
เฉิงตูยังเป็นชุมทางคมนาคมสู่แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกที่มีชื่ออย่าง อุทยานแห่งชาติจิ่วไจ้โกว หวงหลง เขาง้อไบ๊ โดยจากเมืองไทยมีสายการบิน อาทิ การบินไทย แอร์ไชน่า บินตรงจากกรุงเทพฯสู่เฉิงตู สำหรับผู้สนใจเที่ยวเฉิงตู สามารถติดต่อได้ สามารถติดต่อได้กับบริษัททัวร์ทั่วไป หรือที่ โทร. 0-2691-7299
ท่านอาจารย์สุขสันต์ วิเวกเมธากร เคยแปลความจากคำคมของจีนไว้อย่างน่าประทับใจ เรียกได้ว่า คนไทยเชื้อสายจีนคนใดได้ฟังถ้อยคำนี้ เป็นต้องทึ่งและภาคภูมิใจมิใช่น้อย!
...หน่าหลี่โหย่วหยาง กวางจิ้ว โหย่วจงกว๋อหยืน หน่าหลี่โหย่วจงกว๋อ หยืนจิ้วโหย่ว กวางหยาง...
ที่หากแปลเป็นไทยมีใจความว่า...ที่ใดมีแสงอาทิตย์ ที่นั่นย่อมมีคนจีน ที่ใดมีคนจีน ที่นั่นย่อมมีความรุ่งโรจน์...
จะเห็นได้ว่า ชาวจีนเป็นชาติที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่ เป็นอารยธรรมของโลกที่สัมผัสได้ นับตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน
คนไทยเราจึงเดินทางไปจีน ครั้งแล้วครั้งเล่า แบบไม่รู้สึกเบื่อหน่าย เพราะเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นมีไว้รอคอยและต้อนรับผู้มาเยือนเสมอ...ไม่ว่าจะไปที่ไหนในแผนที่รูปแม่ไก่ของจีน
คราวนี้คุณอธิคม ชาญวิรอง เจ้าของบริษัทมิคโก้ แทรเวล และแฟร์ฮอลิเดย์ ได้มาเชิญชวนไปเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน แห่งประเทศจีน แต่ที่พิเศษครือทริปนี้ผมไม่ได้ไปในฐานะวิทยากร หากแต่ไปทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทัวร์นำคณะไประเริงหิมะที่ภูเขาซีหลิงซาน ให้เป็นที่หัวใจเบิกบาน ซึ่งผมก็ยินดีรับหน้าที่นี้อย่างเต็มกำลังความสามารถ มีน้องนิ่ม : สุมาลี โฉมศรี มาคอยเป็นโค้ช ให้ความรู้เรื่องการทำทัวร์แบบสมบูรณ์พร้อม เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้เดินทาง
เท่านั้นยังไม่พอคุณป้อม : พรชัย พรมั่น ไกด์มืออาชีพ เจ้าของฟ้าไทยทัวร์ ยังตามมาเพิ่มคณะทัวร์ เรื่องดื่มด่ำสำราญหรรษาจึงมีตลอดการเดินทาง
จากดอนเมืองสายการบินไทยใช้เวลาบินแค่ 2 ชั่วโมงเศษ ก็บินถึงท่าอากาศยานซวงหลิง นครเฉิงตู ที่อยู่ทางตอนกลางของประเทศจีน
เฉิงตูเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในเสฉวน มีสภาพเป็นเทือกเขาและที่ราบลุ่ม จึบงเหมาะสำหรับทำการเกษตร เพราะว่ามีมีอากาศไม่หนาวจนเกินไป รวมทั้งมีปริมาณความชื้นสูง
ประชากรส่วนใหญ่ เป็นชนกลุ่มน้อย เชื้อชาติต่างๆอย่างพวกชาวยี่ ทิเบต เมี้ยว หุย เชี่ยง ฯลฯ
เสฉวนเป็นเมืองโบราณที่เป็นถิ่นกำเนิดของบุคคลสำคัญมากมาย ทั้งนักการเมืองการปกครอง นักการทหาร และกวีเอก เป็นบ้านเกิดของบุคคลสำคัญของจีนอย่าง เติ้งเสี่ยวผิง ซึ่งเกิดในปี ค.ศ. 1904 ที่เมืองกว่างอาน ท้ายสุดเป็นผู้นำสูงสุดของจีน ตราบถึงอสัญกรรม เมื่อ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1997 สิริอายุได้ 93 ปี
กวีเอกได้บรรยายถึงเสฉวนที่มีแต่ภูเขาสูงว่า การเดินทางสู่ซื่อชวน(คนไทยเรียกเสฉวน) ยากเย็นยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์ แต่เมื่อเข้าถึง ซื่อชวน จึงรู้ว่าสวรรค์มีจริง
สมัยสามก๊ก ขงเบ้งเคยพรรณนาให้เล่าปี่ฟังว่า หากคิดตั้งตัวเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ต้องไปตั้งหลักที่ ซื่อชวนก่อน
เห็นที่ว่า ใครที่คิดอ่านจะทำการใหญ่ หรืออยากเจริญก้าวหน้าคงต้องมาเสฉวนสักหนก่อน การในภาคหน้าเห็นทีสมประสงค์แน่นอน
เราเดินทางจากเฉิงตูขึ้นสู่เขตพื้นที่ ภูเขาหิมะซีหลิงซาน ไปทางทิศตะวันตก ราว 2 ชั่วโมง ก็ถึงจุดขึ้นกระเช้าไฟฟ้า จากนั้นนั่งไปราว 20 นาทีก็ถึงยังภูเขาหิมะซีหลิงซานที่สูงราว 5,230 เมตร จากระดับน้ำทะเล ที่นี่มีทิวทัศน์งดงามตายิ่งนัก จากทุ่งหญ้าในฤดูอื่นพอถึงฤดูหนาวก็กลายเป็นลานหิมะ ที่เหมาะสำหรับเล่นสกี เล่นเกมสนุกๆ พวกกระดานเลื่อน แพยาง หรือแม้แต่ขึ้นบอลลูนไปชมความงามในมุมสูง ในราคาเพียงคนละไม่กี่หยวน(1 หยวน ประมาณ 5 บาท) ที่นับว่าไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆในแบบเดียวกันนี้ ซีหลิงซาน นับว่าสนุกและถูกใจจังที่ตังค์จ่ายน้อยกว่านั่นเอง
ลงจากเขาซีหลิงซาน ก็ไปต่อยังเมืองตูเจียงเอี๊ยน เพื่อชมเขื่อนโบราณ สัญลักษณ์แห่งความเพียรพยายาม เอาชนะธรรมชาติของมนุษย์ ตั้งแต่เมื่อ 256 ปีก่อน ค.ศ. สมัยนั้นใช้เทคนิคเจาะแยกภูเขา ให้แบ่งธารน้ำเป็น 2 สาย ด้วยฝีมือของ หลี่ปิง และเออหลาง บุตรชาย ด้วยเหตุนี้จึงมีการศาล 2 กษัตริย์เพื่อเป็นที่เคารพ สักการะ 2 วีรบุรุษนักสร้างเขื่อน ซึ่งถูกยกให้เป็นกษัตริย์ผู้พิชิตแม่น้ำหมินเจียงได้สำเร็จ
ที่ตั้งของเขื่อนในตำบลกวนเซียน อยู่ห่างจากเฉิงตู ไปราว 50 กิโลเมตร ปัจจุบันส่งน้ำให้กับพื้นที่การเกษตรถึง 600,000 เอเคอร์ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อการเกษตรมาอย่างยาวนาน
คราวนี้มาถึงสถานที่น่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อคณะเดินทางไปถึงเมืองต้าอิง แหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่หากใครไปเสฉวนแล้วไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะเมืองนี้เป็นที่ตั้งของ ไชน่าเดดซี หรือ ทะเลสาบน้ำเค็ม ที่มีการก่อสร้างโมขนาดยักษ์คลุมไว้ ทะเลสาบนี้เป็นทะเลสาบที่มีแต่แร่ธาตุซึ่งสามารถรักษาโรคได้ อาทิ โรคไขข้อกระดูก โรคเหน็บชา ที่ต้องตามไปพิสูจน์ในห้องอาบน้ำของโรงแรมซันซิตี้ ซึ่งเขาได้ขุดรางน้ำ แยกชาย-หญิงให้ใช้ พอถึงเวลาก็เปลี่ยนชุด ลงทะเลสาบไชน่าเดดซี ได้ตามสบาย ลงน้ำไปแล้วหลายๆคนก็จะกลายเป็นแม่ชีลอยน้ำกันถ้วนหน้า หรือใครจะขึ้นมาเข้าห้องพัก พอกโคลน-สปา หรือหาหมอจีนรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ก็ทำได้ตามต้องการ
พอตกค่ำก็มีการแสดง แบบอาหรับผสมจีน โดยนักแสดงที่เก่งกาจ หุ่นทรงอรชรอ่อนแอ้นเหลือเกิน ในการแสดงเขาเตรียมเก้าอี้นั่งสบายๆไว้ให้นั่ง ในขณะที่บางคนเลือกชมการแสดงด้วยการมองจากห้องพักที่สามารถมองเห็นอย่างถนัดชัดเจน
จากต้าอิง เดินทางต่อราว 3 ชั่วโมงบนทางด่วนกลับสู่เฉินตูอีกครั้ง เพื่อมาเที่ยวชมสวนสาธารณะหลานเจียว ที่นี่มีต้นไม้-ดอกไม้งามของฤดูหนาว ยิ่งช่วงที่ไปมีดอกเหมย หรือเหมยฮัว ดอกไม้ประจำฤดูหนาว กำลังเบ่งบาน ก็ยิ่งเพลิดเพลินในอารมณ์ ทำให้ผู้ที่ไปถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนาน
ค่ำวันนี้จึงเต็มอิ่มด้วยความสุข ด้วยการดูโชว์งิ้วเปลี่ยนหน้ากากสี ที่เป็นความสามารถพิเศษ ขนาดสถานีโทรทัศน์ของดิสคัพเวอรี่ เคยตั้งกล้อง 4 ตัว จับจับทุกมุมก็ยังถึงกับงง..เพราะจับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน พอไปถามใครว่า เขามีเทคนิคอย่างไร ก็ไม่มีใครตอบได้ เอาเป็นว่า ปริศนามายากลนี้ก็ยังหาคำตอบไม่ได้อยู่นั่นเอง
ไหนๆมาเฉิงตูแล้ว หากพลาดการดูสูงเมา หรือหมีแพนด้าก็ดูจะกระไรอยู่ ที่สวนสัตว์เชียงใหม่บ้านเรามีช่วง ช่วง กับ หลินฮุ่ย ที่เดินทางจากจีนมาสร้างความน่ารักน่าเอ็นดูให้กับคนไทย แต่ที่นี่มีแพนด้าจำนวนนับร้อยตัวทีเดียว
แพนด้าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์สงวนของจีน และด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูนี่เอง จึงทำให้แพนด้าเป็นสื่อสันถวไมตรีกับมิตรประเทศของจีน
ใครที่มาเสฉวนน่าจะลองหาเวลามาเที่ยวชมความน่ารักของหมีแพนด้า ที่แม้จะตัวอวบอ้วนใหญ่ แต่ก็มีนิสัยชอบเล่นเคล้าแข้งเคล้าขาคล้ายแมว ดูกี่ครั้งกี่หนก็ไม่น่าเบื่อ
นอกจากที่เล่ามาแล้ว เฉิงตูยังมีเสน่ห์เชิญชวนให้มาสัมผัสอีกมากมาย แบบที่เล่าขานกันไม่จบสิ้น จนเป็นที่ยกย่องว่าเป็น...เทียนผู๋จือกว๋อ หรือ เมืองแมนแดนสวรรค์ที่น่าสัมผัสสักครั้งในชีวิต
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
นครเฉิงตู เป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน มีอากาศอบอุ่นชุ่มชื้น หนึ่งปีมี 4 ฤดู หน้าร้อนไม่แห้ง หน้าหนาวไม่ทารุณ อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีราว 16.7 องศา นับว่าเป็นอุณหภูมิที่พอเหมาะ
เฉิงตูยังเป็นชุมทางคมนาคมสู่แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกที่มีชื่ออย่าง อุทยานแห่งชาติจิ่วไจ้โกว หวงหลง เขาง้อไบ๊ โดยจากเมืองไทยมีสายการบิน อาทิ การบินไทย แอร์ไชน่า บินตรงจากกรุงเทพฯสู่เฉิงตู สำหรับผู้สนใจเที่ยวเฉิงตู สามารถติดต่อได้ สามารถติดต่อได้กับบริษัททัวร์ทั่วไป หรือที่ โทร. 0-2691-7299