บรรยากาศกับการร่ำสุราถือเป็นของคู่กันที่นักดื่มหลายๆคนชื่นชอบยิ่งนัก ยิ่งที่ไหนมีอาหารรสดีกินเป็นกับแกล้มด้วยยิ่งสุดยอด
สำหรับโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงก็นับเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีบรรยากาศ อาหาร และเบียร์สดรสดี ทำให้บรรดามิตรรักนักดื่มหลายๆคนนิยมเดินทางไปดื่มกินลิ้มรสชาติอาหารและสัมผัสบรรยากาศของการแสดงบนเวทีควบคู่กันไป ซึ่งนี่ถือเป็นเสน่ห์อันโดดเด่นของโรงเบียร์เยอรมันฯทั้งสาขาแรก(พระราม 3 )และสาขา 2 ตรงถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่ "ผู้จัดการตระเวนกิน" เดินทางมาลิ้มลองอาหาร จิบเบียร์สดเย็นๆและชมโชว์สนุกๆในมื้อนี้
อันความพิเศษของโรงเบียร์เยอรมันฯสาขา 2 ก็คือ บรรยากาศภายในที่ใช้โครงการแบบไร้เสาทำให้การดูโชว์บนเวทีไม่มีเสามาบังเกะกะสายตา ยิ่งทำให้การดูโชว์อันสนุกสนานของที่นี่ออกรสออกชาติมากขึ้น
และไหนๆเมื่อมาโรงเบียร์แล้ว จะไม่สั่งเบียร์มาดื่มย้อมอารมณ์ก็กระไรอยู่ สำหรับเบียร์สดรสแท้ของที่นี่มีให้เลือก 3 แบบ คือ ลาเกอร์เบียร์ (LAGER BEER) ที่ให้กลิ่นหอมของดอกฮ๊อป รสออกขมแต่นุ่มลิ้น ดุงเกนเบียร์ (DUNKEL BEER) หรือเบียร์ดำนั่นเอง เนื่องจากมีสีน้ำตาลเข้มออกดำ แต่รสชาติจะออกหวานกว่าลาเกอร์เบียร์ หอมและกลมกล่อมด้วยมอลต์คั่วอย่างดี ไวเซ่นเบียร์ (WEIZEN BEER) เบียร์กลิ่นหอมผลไม้ มีฟองมากแต่นุ่มลิ้น
เมื่อจิบเบียร์ไปแล้วก็ต้องตามด้วยกับแกล้มที่เราขอเปิดด้วยเมนูยอดฮิตของทางร้านอย่าง ขาหมูเยอรมัน (280 บาท) ที่แม้แต่คนกลัวอ้วนยังต้องติดใจ สูตรเด็ดก็คือจะเลือกเฉพาะขาหน้าน้ำหนัก 0.5 กิโลกรัม มาตัดคากิทิ้ง ส่วนวิธีทำต้องนำไปต้มก่อนแล้วจึงจะเอาไปทอดให้กรอบนอกนุ่มใน ได้กลิ่นหอมกลิ่นอายเยอรมัน ทานคู่กับผักกาดดอง และมันบดที่ออกรสเนยเหมือนละลายในปากสูตรเฉพาะของทางร้าน รับรองติดใจกันถ้วนหน้า
จานต่อมาเป็น กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา (100 บาท) ที่มีที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น เห็นชื่อแล้วอาจดูเหมือนว่าทำง่ายๆแต่หากจะทำให้อร่อยเหมือนที่โรงเบียร์ฯนี้คงทำกันไม่ได้ง่ายๆเพราะนี่เป็นสูตรพิเศษของทางร้านชั้นดี ที่ทอดออกมาให้กลิ่นหอมของน้ำปลา รสออกเค็มนิดๆ กินแกล้มเบียร์เดนักแล
เมนูต่อมาเป็น ออเดิร์ฟส้มตำ (150 บาท) ที่ดูแปลกกว่าส้มตำปกติตรงที่มีเครื่องเคียงเสิร์ฟมาพร้อมกับส้มตำ มีทั้งคอหมูย่างเนื้อนิ่มกลิ่นหอม เส้นหมี่ขาวม้วนก้อนพอคำ ที่กินทานแล้วเข้ากั๊นเข้ากันกับส้มตำรสกลมกล่อมเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีข้าวเหนียวห่อแผ่นปอเปี๊ยะทอดมาให้กินแกล้มอีกด้วย
ปลากะพงเผาเกลือ (240 บาท) ทางร้านเผาปลามากำลังดี ปลาเนื้อ แน่น รสหวาน กินกับน้ำจิ้มสูตรเด็ดของร้าน คอเหล้า-เบียร์ไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง
และปิดท้ายมื้อเด็ดกันด้วยไก่ย่างสมุนไพร (220 บาท) ใช้ไก่บ้านหมักสมุนไพรย่างด้วยเตาถ่านหอมกรุ่น เสิร์ฟพร้อมมันบดผักกาดดอง รองพื้นด้วยคะน้าหั่นฝอยทอดกรอบ และน้ำจิ้ม 3 รส หวาน เผ็ด เปรี้ยว ได้ลิ้มรสชาติอันหอมหวานของเนื้อไก่ผสมสุมนไพรเพื่อสุขภาพแล้วจะต้องติดใจ
นอกจากเมนูที่ "ผู้จัดการตระเวนกิน" ลิ้มลองมาแล้ว โรงเบียร์เยอรมัน 2 ยังมีเมนูเด็ดชวนกินอีกหลายอย่าง อาทิ เกาเหลาเย็นตาโฟทรงเครื่อง (160 บาท) ยำกุ้งแก้ว (150 บาท) ลาบทะเล และที่แปลกแหวกแนวจากสาขา1ก็คือ เมนูปลาน้ำโขง เช่น ต้มปลาช่อนใบมะขามอ่อน (240 บาท) หมกลาบปลาตอง (140 บาท) หรือจะเป็นแกงหน่อไม้ส้มปลาช่อน (240 บาท) ใครชอบเมนูไหนสามารถเลือกอร่อยกันได้ตามอัธยาศัย
***********************************************************
***********************************************************
คลิก!!! อ่านรายละเอียดและการเดินทางไปยังร้าน "โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง 2"