ผอ.ททท.ภาคกลางเขต 3 เผยพื้นที่เขาหัวโล้นของเขาค้ออาจเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา เทือกเขาเพชรบูรณ์เป็นมรดกโลก แต่หากได้เป็นมรดกโลกจริง ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีแน่นอน
จากกรณีที่กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชจะดันเทือกเขาเพชรบูรณ์ขึ้นเป็นมรดกโลกแห่งใหม่ของประเทศไทย โดยมีผืนป่าใหญ่ 5 แห่งรวมอยู่ด้วยกัน ได้แก่ พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว รวมพื้นที่ทั้งหมด 3,487,794 ไร่
ร.ต.ชัยวัฒน์ เจริญสุข ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือเขต 3 กล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีพื้นที่ใดบ้างในเทือกเขาเพชรบูรณ์ที่จะรวมเสนอเป็นมรดกโลก แต่ในส่วนของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวนั้น ถือเป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร
“ในส่วนของจังหวัดเพชรบูรณ์และพิษณุโลก ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ในเขตของสำนักงานภาคเหนือเขต 3 นั้น อาจจะยังติดอยู่ในส่วนของพื้นที่เขาค้อ ที่เป็นชื่อเรียกรวมบริเวณเทือกเขาน้อยใหญ่ของทิวเขาเพชรบูรณ์ ที่มีพื้นที่อยู่ในเขตอำเภอเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งมีลักษณะพื้นที่ที่เป็นเขาหัวโล้นอยู่บ้างรวมทั้งผืนป่าทั้ง 5 ผืนที่กล่าวมานั้นก็ไม่ได้ติดเป็นผืนเดียวกันหมด ไม่เหมือนกับผืนป่าเขาใหญ่ที่เพิ่งได้เป็นมรดกโลกไป จึงไม่ทราบว่าจะตรงกับข้อกำหนดการพิจารณาเป็นมรดกโลกหรือไม่”
ร.ต. ชัยวัฒน์ ยังกล่าวต่อว่า หากผืนป่าในเทือกเขาเพชรบูรณ์ได้รับพิจารณาให้เป็นมรดกโลกจริง ก็จะเกิดผลดีอย่างแน่นอน เพราะจะทำให้ทุกคนเข้าใจว่าพื้นที่นี้คือสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกันเข้ามาดูแลรักษา และเพื่อไม่ให้ป่าถูกบุกรุกมากไปกว่านี้ เพราะจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้นทุกปี ดังนั้นหากได้เป็นมรดกโลกจริงก็จะเป็นผลดีแน่นอน
ทั้งนี้ ในการเสนอเทือกเขาเพชรบูรณ์ขึ้นเป็นมรดกโลกนั้น ทางกรมอุทยานฯ กำลังจัดทำเอกสารทางวิชาการ รวมทั้งได้ว่าจ้างทีมนักวิชาการที่เชี่ยวชาญด้านป่าไม้ สัตว์ป่า และความหลากหลายของระบบนิเวศในผืนป่าแห่งนี้เป็นผู้ทำรายละเอียดต่อไป และคาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่งในการทำแผนเพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
อ่านเรื่องเกี่ยวข้อง
ดัน“เทือกเขาเพชรบูรณ์” เป็นมรดกโลกแห่งใหม่