เหตุการณ์ "สึนามิ" ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ไม่เพียงแต่จะก่อให้เกิดผลกระทบแห่งความสูญเสียของชีวิตผู้คนเท่านั้น
ในอีกแง่มุมหนึ่งคลื่นยักษ์ได้ซัดเอาความหายนะมาสู่แวดวงธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งถึงแม้ว่าเหตุการณ์สึนามิจะล่วงเลยมาเกือบครบ 1 ปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบต่างก็ยังต้องเผชิญกับชะตากรรมกันอยู่
และนี่คือบางส่วนของผู้ประสบวิบากกรรมจากเหตุการณ์ครั้งนี้
"ภูเก็ตแฟนตาซี" เกือบเหลือแต่ชื่อ
บนหาดกมลา สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสีสัน ชีวิตชีวา และมีนักท่องเที่ยวมากที่สุด เห็นจะไม่มีที่ไหนเกิน "ภูเก็ต แฟนตาซี" อัครสถานบันเทิงที่ให้ความสนุกสนานแก่ผู้คนทุกเพศทุกวัยมานานเกือบ 7 ปี แล้ว
จวบกระทั่งวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มหาดกมลา-กะตะ-กะรน และอีกหลายพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียง จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ภูเก็ต แฟนตาซี ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยได้รับความเสียหายในส่วนของภัตตาคาร ครัว และห้องอาหารของพนักงาน ซึ่งได้ซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยอย่างรวดเร็วหลังเกิดสึนามิ ทว่ากลับยังมีผลกระทบที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น นั่นคือ ผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อความอยู่รอดของภูเก็ตแฟนตาซี
"ภูเก็ตแฟนตาซีโดนพิษ"สึนามิ"ประกาศปิดบริการชั่วคราว"
"ภูเก็ตแฟนตาซีปิดต่ออีก11วัน เหตุนักท่องเที่ยวยังไม่เข้า"
"ภูเก็ตแฟนตาซีปิดแน่หากคนชมน้อยเหมือนขณะนี้และธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อ"
นี่คือพาดหัวข่าวที่บ่งบอกถึงสถานการณ์ของภูเก็ตแฟนตาซีในขณะนั้นได้เป็นอย่างดี ก่อนจะเกิดพิบัติภัยธรรมชาตินี้ขึ้น ภูเก็ตแฟนตาซี เคยมีผู้เข้าชมเฉลี่ยแล้ววันละ 3,000-6,000 คน มีรายได้เข้ามาวันละประมาณ 5 ล้านบาท ในช่วงวันหยุด ลานจอดรถที่นี่ไม่มีที่ว่าง เพราะเต็มไปด้วยรถทัวร์ แต่หลังจากที่เกิดเหตุการณ์สึนามิในช่วงแรกๆ นั้นเหลือนักท่องเที่ยวเฉลี่ยเพียง 15 คนต่อวันเท่านั้น บริษัททัวร์ต่างๆ ก็ยกเลิกการจองหมด ทำให้ทางภูเก็ตแฟนตาซีต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นจนผู้บริหารออกมาบอกว่า หากทางภาครัฐไม่ปล่อยเงินกู้ ภูเก็ตแฟนตาซีก็คงต้องปิดตัวลงอย่างไม่มีทางเลือก
ช่วงระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านพ้นเหตุการณ์สึนามิผ่านมา สถานการณ์ของภูเก็ตแฟนตาซีจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ศิริกุล อัมรามร ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของภูเก็ตแฟนตาซีบอกล่าวเรื่องราวให้ฟังว่า
"ในช่วงนี้นักท่องเที่ยวกลับมากว่า 50% แล้ว ก็ถือว่ายังไม่เยอะเท่าไร ถ้าเทียบกับช่วงก่อน และนักท่องเที่ยวส่วนมากที่มาก็จะเป็นชาวต่างประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ส่วนคนไทยยังมีน้อยอยู่"
ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ทางภูเก็ตแฟนตาซีได้ใช้มาตรการในการลดค่าใช้จ่ายด้วยการเพิ่มวันปิดทำการ จากที่หยุดในวันพฤหัสเพียงวันเดียว เป็นหยุดวันอังคารเพิ่มอีกวันหนึ่ง มาตรการนี้ได้เริ่มใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2548 นี้ แต่จากการรณรงค์ชักชวนให้คนไทยกลับมาเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดต่างๆ ในอันดามัน ทำให้แนวโน้มด้านการท่องเที่ยวเป็นไปในทางดีขึ้น ดังนั้นตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้ ภูเก็ตแฟนตาซีจึงได้ลดวันหยุดลงอีกครั้งให้เป็นเหมือนเดิม
"ในส่วนของการปรับตัว เช่นในเรื่องของโชว์ต่างๆ ก็จะมีการปรับทุกๆ 6 เดือน ในเรื่องของราคาบัตรเข้าชมก็ยังราคาเดิม คือ 1,600 บาท สำหรับการชมการแสดง และอาหารเย็น และ 1,100 บาท สำหรับการชมการแสดงอย่างเดียว" ศิริกุล กล่าว และบอกต่อว่า
"คาดว่าในปีหน้าสถานการณ์ของภูเก็ตแฟนตาซีน่าจะเข้าสู่ปกติ ถ้าหากว่าเรื่องของระบบเตือนภัยเสร็จเรียบร้อยแล้ว และมีการประกาศไปให้แน่ชัดว่าระบบเตือนภัยเราพร้อมแล้ว จะได้สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวมากขึ้น"
เขาหลัก เตรียมพร้อมรับการกลับมาของการท่องเที่ยว
เขาหลัก จังหวัดพังงา เป็นอีกหนึ่งสถานที่หนึ่งซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากคลื่นสึนามิ ผู้คนมากมายจบชีวิตลงที่นี่ บ้านเรือนของชาวบ้านต้องพังลง แต่ที่สำคัญก็คือ เขาหลักเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายๆ คนกำลังจับตามอง และเชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังมาแรง โรงแรมและรีสอร์ทต่างๆ ผุดขึ้นมาเต็มบริเวณชายหาด แต่ไม่นานนัก คลื่นยักษ์ก็พัดมาทุกอย่างกลับคืนสู่ทะเล นั่นย่อมทำให้ธุรกิจในเขาหลักซบเซาลงทันตาเห็น
วันนี้ เริ่มมีโรงแรมบางแห่งเปิดให้บริการแล้ว โรงแรม เลอ เมอริเดียน เขาหลัก เป็นโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2548 ทั้งๆ ที่โรงแรม รีสอร์ท และพื้นที่โดยรอบในเขาหลักยังคงอยู่มีซากปรักหักพัง และส่วนใหญ่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างแทบทั้งสิ้น
"เราจะเริ่มเปิดโรงแรมให้ทันช่วงไฮซีซั่นเพื่อรองรับลูกค้านักท่องเที่ยว โดยจะให้เลอ เมอริเดียน เป็นผู้นำในการเปิดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่เขาหลักอีกครั้ง" ม.ล.วิทยา จักรพันธุ์ ผู้เป็นเจ้าของโรงแรมกล่าว
ตามแนวคิดของ ม.ล.วิทยา ก็คือ หากมีโรงแรมใหญ่ๆ เปิดตัวขึ้นแล้ว ก็จะเป็นตัวดึงให้นักท่องเที่ยวกลับมาได้มาก ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อย ทั้งโรงแรม เกสต์เฮ้าส์ หรือผู้ประกอบการร้านอาหารมีกำลังใจที่จะประกอบธุรกิจต่อไป และเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีเงินสะพัดในพื้นที่มากขึ้น
ในส่วนของ เลอ เมอริเดียน เขาหลัก เองก็ได้รับความเสียหายอย่างมากเช่นกันในช่วงเหตุการณ์สึนามิ "จากจำนวนห้องทั้งหมด 400 กว่าห้อง เป็นห้องพักเสียหาย 200 กว่าห้อง รวมถึงห้องน้ำ ห้องเครื่อง และห้องครัวต่างๆ อีก 100 ห้อง โดยส่วนที่เสียหายเป็นชั้น 1 ทั้งหมด ขณะที่ตัวอาคารชั้น 2 และ ชั้น 3 ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด" มล.วิทยา บอกเล่าเหตุการณ์ความสูญเสียทางวัตถุเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ม.ล.วิทยา บอกว่ามีความเชื่อมั่นว่าในอีก 1-2 ปี จากนี้ เขาหลักจะกลับมาเหมือนเดิม ปลายปีหน้าคนจะลืมเรื่องร้ายๆ และกลับมาเหมือนเดิม คิดว่าโรงแรม 4-5 ดาวจะกลับมาเหมือนเดิม เป็นนักท่องเที่ยวระดับบน คิดว่าในอนาคตเขาหลักจะยังไปได้ดี
"ผมมั่นใจว่าฤดูท่องเที่ยวที่จะมาถึงนี้ ทางโรงแรมจะเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือว่าชาวต่างชาติ ที่ต้องการมาเที่ยวและมาพักผ่อนที่เขาหลัก และเชื่อมั่นว่าเขาหลักจะกลับมาคึกคักเหมือนเดิม" ม.ล.วิทยา กล่าว
