xs
xsm
sm
md
lg

สะบายดีหลวงพระบาง/ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี

1...
          โอ้เมืองหลวงพระบาง เจ้ายัง สบายดีบ่...
หลายปีจึงได้มาพ้อ(1)...ดลนานหนอเฮาจึงได้พบกัน
พ่อแม่พี่ป้าน้าอา เฮาเด้นา อยู่เกษมสำราญ
ปู่เยอ ย่าเยอ(2) มิ่งมั่น สายน้ำคานสบาย สบาย บ่นา...


(ท่อนแรกของเพลง "สะบายดีหลวงพระบาง" แต่งโดย อุ่นคำ บันดาสัก : คลิกฟังเพลงสะบายดีหลวงพระบางได้ที่ไอคอนมุมขวาบน)

ผมได้ฟังเพลง "สะบายดีหลวงพระบาง" ครั้งแรก ในร้านขายซีดี-วีซีดีที่ตลาดเช้าในเมืองเวียงจันทน์ เมื่อหลายปีที่แล้ว

ครั้งนั้นพอได้ฟังปุ๊บ ดูเหมือนจังหวะรำวงของเพลงนี้จะพุ่งหมับเข้ามาจับในหัวใจทันทีก่อนที่จะซื้อวีซีดีชุดนี้กลับมาฟังที่บางกอก

และในทุกๆครั้งที่นึกถึงเมืองมรดกโลก"หลวงพระบาง" หากไม่หยิบหนังสือเกี่ยวกับหลวงพระบางมาอ่าน ก็จะเลือกเปิดเพลงสะบายดี(สวัสดี)หลวงพระบาง หรือเพลงอื่นๆที่เกี่ยวกับหลวงพระบางเพื่อดับความคิดถึง

...แต่ดูเหมือนว่ายิ่งฟังผมยิ่งคิดถึงหลวงพระบางมากขึ้น...

2...

          โอเชียงทอง(3) ล้านช้าง...ฝังใจชาวลาวทั้งชาติ...
เจ้ายืนสง่าองอาจ ให้ทั้งชาติ มีชีวิตชีวา
ท้อนโฮม(4) เชื้อเผ่าพงศ์พันธุ์...ฮักแพงกันเทิง ดินจำปา
ค่อยอยู่ดีเถิดนา คู่ดินฟ้า คู่ชวาลัย

(ท่อน 2 ของเพลง "สะบายดีหลวงพระบาง" : คลิกฟังเพลงสะบายดีหลวงพระบางได้ที่ไอคอนมุมขวาบน )

ในการไปเยือนเมืองหลวงพระบางหนล่าสุด ระหว่างที่กำลังเพลินตาเพลินใจกับการขี่รถถีบ(จักรยาน)ชมตัวเมืองในช่วงเย็นๆของวันแรกที่ไปถึง ผมได้ยินเสียงร้องเพลงสบายดีหลวงพระบางจากวงอีเลคโทนดังมาจากงานเลี้ยงฉลองที่หน้าตึกเก่าแถวสี่แยกใจกลางเมือง

ดูเหมือนว่าจังหวะรำวงของเพลงนี้ที่ร้องกันสดๆจะพุ่งหมับเข้ามาจับยังหัวใจผมทันที งานนี้ผมจึงใช้วิธีขี่รถถีบ(จักรยาน)เฉไฉเข้าไปใกล้ๆกับงานเพื่อชมบรรยากาศและบันทึกภาพอันสุดแสนจะรื่นเริงของงาน

พอคนในงานเห็นผมถือกล้องเดินเข้าไปเท่านั้นแหละ พวกเขาต่างพากันออกลีลารำวงกันอย่างเต็มที่ แม่หญิงลาวบางคนถึงกับกระเตงลูกน้อยเข้าไปร่วมรำวงด้วย ในขณะที่พี่คนหนึ่งดึงผมเข้าไปร่วมรำวงด้วย พร้อมๆกับบอกนักดนตรีเล่นเพลงสะบายดีหลวงพระบางอีกรอบ

แรกๆผมยังเขินกับการรำวงในท่าควักกะปิอยู่ แต่ว่าพอได้กรึ๊บเบียร์ลาวที่มีมือดีส่งมาให้ 2-3 จอก(แก้ว) ก็ดูเหมือนว่าความเขินจะค่อยๆมลายหายไป

ครั้นจบเพลงสะบายดีหลวงพระบาง(รอบสอง ) เจ้าภาพในงานชวนผมมานั่งโอ้โลม(สนทนา) โดยมีเบียร์ลาวเป็นน้ำหล่อลื่นให้พวกเราคุยกันคล่องคอขึ้น

"ผมชื่อใหญ่ อ้ายมาจากเมืองไทยบ่..."

"พี่ใหญ่" เจ้าของงานแนะนำตัวกับผมพร้อมกับบอกว่า งานนี้เป็นงานเลี้ยงที่ลูกชายของเขาเกิดได้หนึ่งเดือน และบอกให้ผมทำตัวตามสบาย เพราะคนลาวกับคนไทยถือเป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียงกัน มีวัฒนธรรมคล้ายๆกัน รักสงบแต่ชอบสนุกเฮฮา และคุยกันรู้เรื่องเป็นอย่างดีแม้พูดกันคนละภาษา

เย็นวันนั้นผมกับพี่ใหญ่และสมาชิกในงานร่วมกันตำจอกอย่างคึกครื้น โดยมีผู้สาวชาวหลวงพระบางคอยส่งจอกเบียร์ให้อย่างนุ่มนวล

แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ซึ่งถึงแม้ว่างานเลี้ยงวันเกิดครบหนึ่งเดือนของลูกชายพี่ใหญ่จะยังไม่เลิกรา แต่ว่าผมต้องขอแยกตัวออกมาก่อนเนื่องจากมีนัดกับเพื่อนคนไทยในหลวงพระบาง ทั้งๆที่จริงๆแล้วยังคงอยากนั่งโอ้โลม ตำจอกกับสมาชิกในงานต่อ เพราะรู้สึกอบอุ่นกับบรรยากาศอันเปี่ยมไปด้วยน้ำมิตรและความจริงใจของคนหลวงพระบางที่แม้ว่าเราจะเพิ่งรู้จักกัน แต่ว่าพวกเขากลับต้อนรับผมเหมือนเป็นญาติ เป็นเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งก็สมดังคำร่ำลือของนักเดินทางหลายๆคนที่ว่า

เสน่ห์สูงสุดของเมืองหลวงพระบางก็คือ“คน”หลวงพระบาง

ซึ่งหากใครอยากรู้ว่าคนหลวงพระบางมีเสน่ห์แค่ไหน คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับผมก็คือการพูดคุย สังสรรค์ คบหาหรือมีเพื่อนเป็นชาวหลวงพระบาง

...หรือไม่ก็แต่งงานกับคนหลวงพระบาง...


3...

          สุขใจเหลือ เมื่อสันติภาพต่าวคืน(5)มา
สู่พื้นพสุธา แผ่นดินแม่เกิดเฮาผ่องใส
บาดนี้แล้ว เชียงทองเฮาจะรุ่งวิไล
จงอยู่ดีมีชัยสบายดีเด้อหลวงพระบาง

          หลวงพระบางมั่นคง เจ้าจงเข้มแข็งแรงกล้า
เหนือแสงดวงสุริยา ปวงประชา จะเป็นสุขสมหวัง
แรงกาย แรงใจวาจา หลั่งไหลมาอย่าละไลไกลห่าง
ประเทศลาวล้านช้าง จงใสแจ้งรุ่งเรืองก้าวเดิน


(ท่อน 3 และ4 ของเพลง "สะบายดีหลวงพระบาง" : คลิกฟังเพลงสะบายดีหลวงพระบางได้ที่ไอคอนมุมขวาบน)

เสียงดนตรีเพลงสะบายดีหลวงพระบางดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมๆกับชาวลาวลาวที่พร้อมใจกันร้องขานรับ...ฮิ๊วววว...ในช่วงอินโทรของเพลง

แน่นอนว่าจังหวะรำวงพุ่งหมับเข้าจับดวงใจผมอีกแล้ว

งานนี้ไม่มีเขินอีกต่อไป เพราะบรรยากาศใน "ดาวฟ้า"เธคชื่อดังของหลวงพระบางนั้น ช่างเป็นใจเสียเหลือเกิน

พูดถึงเธคชื่อดังในหลวงพระบาง เพื่อนผมที่อยู่ที่นั่นบอกว่ามี 2 แห่งคือ “ดาวฟ้า” กับ“ราตรี เมืองซัว” โดยเธคในหลวงพระบางนั้นต้องสร้างอยู่นอกเขตมรดกโลก และมีเวลาเปิด-ปิด ชัดเจน

ในส่วนของเธคดาวฟ้านั้นดูคล้ายๆกับเธค(เล็กๆ)นอกเมืองตามต่างจังหวัดในบ้านเรา ที่มีดนตรีเล่นกันสดๆสลับกับการการเปิดแผ่น มีฟลอร์เต้นอยู่ตรงกลางด้านหน้าถัดมาจากเวทีดนตรี โดยสิ่งที่ถือว่าเป็นสีสันอย่างยิ่งในเธคดาวฟ้า(หรือราตรีเมืองซัวหรือเธคอีกหลายๆแห่งในเมืองลาว) ก็คือสีสันชุดเต้น การเต้นและดนตรีของชาวลาวที่ออกลีลาม่วนซื่น(สนุกสนาน)อยู่ในเธค

สำหรับชุดเต้น หากเป็นผู้ชายดูจะไม่แตกต่างจากบ้านเรา แต่หากเป็นชุดผู้สาวชาวลาวนี่สิ ชุดที่พวกเธอหลายๆคนใส่ถือว่าน่าชมยิ่งนักเพราะท่อนล่างนั้นพวกเธอนุ่งซิ่น คาดเข็มขัดเงิน ใส่ส้นสูง ส่วนท่อนบน บางคนใส่เสื้อสายเดี่ยว บางคนใส่เสื้อแขนกุด บางคนใส่เสื้อยืดรัดรูป ในขณะที่บางคนเก๋ไก๋ออกไปด้วยการนุ่งซิ่นเหนือหัวเข่า ซึ่งนับว่าผู้สาวชาวหลวงพระบางเก่งมากในเรื่องของการประยุกต์สองสิ่งต่างขั้วให้เข้ากันได้อย่างเหมาะสมกลมกลืน

ในส่วนของการเต้นและดนตรีนั้นถือว่าไปคู่กัน พอวงดนตรีเล่นเพลงสนุกๆหรือเปิดเพลงแดนซ์ หนุ่ม-สาวหลายๆคนก็พากันออกลีลาแดนซ์กระจาย พอถึงจังหวะช้าพวกเขาก็จะเต้นสโลว์ซบกันอย่างเพลิดเพลิน แต่ที่ผมชอบมากก็เห็นจะเป็นการที่สมาชิกในเธคพร้อมใจกันยืนเรียงแถวเต้นบาร์สล็อบ ขยับหมุนตัวซ้าย-ขวา เดินหน้าถอยหลัง และการพร้อมใจกันแบ่งฝ่ายชาย-หญิงล้อมวง "รำวง"เมื่อวงดนตรีเล่นในจังหวะรำวง โดยนักดนตรีจะเล่นเพลง(ไทย-ลาว-ฝรั่ง) ในจังหวะร็อค แดนซ์ สามช่า รำวง บาร์สล็อบ สลับกันไป

ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือเสน่ห์อันโดดเด่นที่ผมได้สัมผัสมาในเธคหลวงพระบาง เพราะฉะนั้นเมื่อเพลงสะบายดีหลวงพระบางดังขึ้น ผมจึงไม่พลาดการออกไปรำวงกับผู้สาวชาวไทยและชาวลาวที่กลางฟลอร์อยู่แล้ว

พอจบรำวงดูเหมือนว่าดีกรีความสนุกจะเพิ่มมากยิ่งขึ้นเมื่อวงดนตรีเล่นเพลงให้พวกเราเต้นบาร์สล็อบกันอย่างเพลิดเพลิน

ครั้นจบการเต้นบาร์สล็อบ วงดนตรีต่อด้วยเพลงของวงโอเวอร์แดนซ์ที่เป็นวงดนตรีลาวที่มาแรงมากในปีนี แน่นอนว่าชาวลาวต่างก็ออกลีลาเต้นกันอย่างม่วนซื่น (แต่ก็มีความสุภาพอยู่ในทีคือไม่มีท่าอุบาทก์ลามกแต่อย่างใด)

แต่จู่ๆวงก็แตกออกมาเสียดื้อๆ เพราะเมื่อมีนักท่องเที่ยวฝรั่งชาย-หญิงกลุ่มหนึ่งนับได้ 7 คน เดินถือขวดเบียร์คนละขวดไปที่กลางฟลอร์ พร้อมๆกับงัดลีลาท่าเต้นที่ส่อไปทางลามกจกเปรตออกมาอย่างสุดฤทธิ์สุดเดช จนทำให้ผมและสมาชิกในเธคหยุดเต้นมานั่งดูนั่งท่องเที่ยวเหล่านี้แบบงงๆ ซึ่งดูเหมือนว่าพวกนี้ยังไม่รู้ตัวเต้นกันอย่างเมามันอยู่ 7 คน แถมการวิ่งไล่เตะ ไล่ถีบกันกลางฟลอร์อีกด้วย

เพื่อนคนไทยที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่หลวงพระบางบอกกับผมว่า ฝรั่งพวกนี้ทำน่าเกลียดมาก เพราะคนหลวงพระบางเขาจะเต้นกันอย่างสุภาพ และไม่มีการถือเบียร์ไปดื่มกันกลางเวที ส่วนใครที่อยากดื่มเบียร์ก็จะเดินกลับมาจิบที่โต๊ะก่อนออกไปเต้นต่อ

สำหรับกลุ่มฝรั่งพวกนี้ดูเหมือนว่าโอกาสของเขาจะมีได้แค่เพลงเดียวเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นวงดนตรีรีบเปลี่ยนแนว มาเล่นเพลงรำวงสนุกๆอย่าง"เย็นสบายชาวนา"

งานนี้ต้องบอกว่าฝรั่งกลุ่มนี้งง!!!ครับท่าน เพราะจู่สมาชิกในเธคก็พร้อมใจกันออกมาล้องวงรำวง แบบแบ่งฝ่ายชาย-หญิงชัดเจน ก่อนที่จะต่อด้วยการเต้นบาร์สล็อบในเพลง "30 ยังแจ๋ว" ของยอดรัก สลักใจ ยิ่งทำให้ฝรั่งกลุ่มนี้งง!!!(อีกแล้วครับทั่น)เข้าไปใหญ่ แต่กระนั้นก็ยังมี 2-3 คนพยามยามเต้นเลียนแบบตาม ก่อนที่ทั้งกลุ่ม(7 คน)จะถอยทัพหายออกไปจากเธคดาวฟ้า

เรื่องนี้ผมไม่อาจรู้ได้ว่าจู่ๆนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ทำไมถึงถอนตัวออกไปจากเธคดาวฟ้าเร็วนัก แต่ที่รู้ก็คือหากหลวงพระบางเจอนักท่องเที่ยวอย่างนี้บ่อยๆ หลวงพระบาง"ไม่สบาย"แน่นอน...
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ภาษาลาวบางคำในเรื่องที่น่าสนใจ

1.พ้อ = เจอ
2.ปู่เยอ ย่าเยอ = เทวดาหลวงหรืออารักษ์เมือง ซึ่งคนลาวนับถือกันมาก
3.เชียงทอง= ชื่อเดิมของหลวงพระบาง
4.ท้อนโฮม = รวม
5.ต่าวคืน = กลับคืน

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
รู้จักหลวงพระบาง
การเดินทางสู่หลวงพระบาง
เก็บ“หลวงพระบาง”ไว้ในใจเสมอ 
“หลวงพระบาง” เมืองงาม
กำลังโหลดความคิดเห็น