"แมลงตัวนั้น...ตัวนี้ มีเยอะมากมาย ดูไปก็รัก...รักมันทุกตัว แมลงไม่เหมือนมนุษย์...มนุษย์หลายใจ พอลองไปรัก แล้วเราเวียนหัว"
แหม!! ไอ้หนุ่มลูกทุ่งอย่างฉันกำลังเพลิดเพลินกับการร้องเพลง "แมลง" ของน้องทาทา ยัง (ที่ตอนนี้ไม่ Young แต่เปลี่ยนเป็น ดูม..ดูม ตูมๆ โกอินเตอร์ ไปแล้ว) มันช่างเป็นเพลงที่เข้ากับบรรยากาศของสถานที่เที่ยวของฉันในทริปนี้เสียจริงเชียว
เพราะว่าฉันกำลังพาตัวเองมาเดินทอดน่องสูดกลิ่นอายธรรมชาติ พร้อมกับได้ปล่อยกาย ปล่อยใจ สบายๆ ไปกับเหล่ามวลหมู่แมลง และผีเสื้อแสนสวยหลากหลายพันธุ์ ที่พากันบินว่อนอยู่ใน "อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพฯ" ซึ่งตั้งอยู่ในสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) สถานที่เที่ยวพักผ่อน แหล่งใหญ่ของคนกรุงเทพฯ
อุทยานผีเสื้อฯจัดว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่เรียนรู้ทางธรรมชาติ ที่เหมาะสำหรับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปได้มาศึกษาเรียนรู้ และให้เกิดจิตสำนึกในการช่วยกันรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปได้รับความนันทนาการ พักผ่อนหย่อนใจ พร้อมกับได้ชมความสวยงามของผีเสื้อชนิดต่าง ๆ ท่ามกลางบรรยากาศการเรียนรู้แบบเป็นธรรมชาติที่จะได้รับความสนุกสนาน และมีชีวิตชีวา อย่างแท้จริง
ที่ฉันพูดมานี่ไม่ได้ "โม้" นะจะบอกให้ ถ้าไม่เชื่อ!! ตามฉันออกสำรวจพื้นที่ของอุทยานผีเสื้อฯ และสัมผัสโลกแห่งความงามของผีเสื้อและแมลงกันได้เลย
ทันทีที่เข้าสู่อุทยานผีเสื้อฯ ส่วนแรกที่ได้สัมผัสคือ พื้นที่ส่วนประชาสัมพันธ์ ที่นักท่องเที่ยว (บางคน) ไม่ค่อยให้ความสำคัญสักเท่าไหร่ แต่ในส่วนพื้นที่ประชาสัมพันธ์ของที่นี่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เรารู้จักกับอุทยานผีเสื้อฯเพราะจะมีเจ้าหน้าที่นั่งประจำการคอยต้อนรับ (แบบยิ้มบ้างไม่ยิ้มบ้าง) และก็มีแผ่นพับที่ให้ข้อมูลความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอุทยานผีเสื้อฯ แจกฟรี!! รวมทั้งมีเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆเกี่ยวกับความเป็นมาของอุทยานผีเสื้อฯ และข้อควรปฏิบัติในการเข้าชมติดไว้ให้ได้อ่านกัน และตรงจุดนี้ฉันต้องเซ็นสมุดเยี่ยมก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ส่วนถัดไป
หลังจากที่เซ็นชื่อเรียบร้อยแล้ว ฉันเดินเท้าเข้าสู่ห้องมินิเธียเตอร์ ห้องนี้มีความน่าสนใจตรงที่ ภายในห้องจัดฉายวีดีทัศน์นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับโลกของผีเสื้อและแมลงต่างๆ เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับการกำเนิดผีเสื้อ และแมลง สายใยในระบบนิเวศ ให้รู้ถึงความสำคัญของแมลงและความสัมพันธ์ในระบบนิเวศ ฉันใช้เวลานั่งดูวีดีทัศน์อย่างเพลินๆ ในห้องแอร์เย็นๆ ด้วยระยะเวลาเพียง 15 นาที ก็ทำให้ฉันรู้จักผีเสื้อและแมลงดีขึ้นมากกว่าเก่า
จากนั้นจึงเดินเข้าไปสู่ห้องโถงที่จัดเป็นห้องแสดงนิทรรศการ ที่จัดแสดงข้อมูลความรู้เกี่ยวกับชีวิต และบทบาทของผีเสื้อในธรรมชาติ ตรงส่วนนี้จัดตกแต่งไว้ได้อย่างน่าสนใจ สร้างบรรยากาศดูสดชื่น ด้านบนเพดานเป็นท้องฟ้าสดใส ชวนให้น่าเดินดูเรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจของผีเสื้อที่จัดเป็นนิทรรศการจำนวน 7 ชุดด้วยกัน ชุดแรกเป็นเรื่องมารู้จักผีเสื้อกันเถอะ ชุดนี้ทำให้ฉันรู้จักชนิดของผีเสื้อกลางวัน และผีเสื้อกลางคืนว่าเป็นอย่างไร มีรูปผีเสื้อสวยๆ ให้ดูประกอบด้วย จากนั้นมาเรียนรู้กันต่อในชุดผีเสื้อกับระบบนิเวศ จะได้รู้ว่าผีเสื้อมีความสำคัญต่อระบบ และได้รู้จักแหล่งและถิ่นที่อยู่ของผีเสื้อหายากในประเทศไทย
แล้วมาต่อกันที่กำเนิดผีเสื้อนิทรรศการชุดนี้ทำให้ฉันรู้จักวงจรชีวิตของผีเสื้อ และการเปลี่ยนแปลงรูปร่างในระยะต่าง ๆ ของผีเสื้อก่อนจะเป็นผีเสื้อที่แสนสวยโบยบินอยู่บนฟากฟ้า ตามมาด้วยเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับความลับของผีเสื้อที่ไม่น่าเชื่อว่าผีเสื้อก็มีความลับกับเขาเหมือนกัน อย่างอวัยวะที่สำคัญของผีเสื้อ เช่น ตาหรือหนวดนั้นมีความลับซ่อนอยู่มากมาย ถ้าใครอยากรู้ต้องมาดูกันเอาเอง (เพราะฉันไม่บอก!!)
จากนั้นเดินมาดูชุดอย่ากินฉันเลย ฉันได้รู้วิธีการพรางตัวหลากหลายรูปแบบของผีเสื้อเพื่อหลบหลีกศัตรู อันเป็นหนทางนำไปสู่การมีชีวิตรอด อย่างว่าชีวิตใครๆ ก็รัก ถึงแม้จะเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กๆ อย่างผีเสื้อก็ตามที และมาดูเรื่องประโยชน์ของผีเสื้อกันต่อว่าผีเสื้อตัวเล็กๆ มีประโยชน์มากมายต่อระบบนิเวศในทุกช่วงของวงจรชีวิต ปิดท้ายกับมินิคอมพิวเตอร์ชุด108 คำถามแสนสนุก ที่ทำเอาฉันเพลิดเพลินกับคำถามทดสอบความรู้เรื่องผีเสื้อและแมลงในหลากหลายแง่มุมจากเกมคอมพิวเตอร์ ถึงฉันจะตอบผิดบ้างถูกบ้าง แต่ก็สนุกและได้ความรู้ดี
เรียกว่าฉันเดินดูนิทรรศการในห้องโถงนี้จนทั่ว และได้รับความรู้เรื่องผีเสื้อและแมลงจนอิ่มแน่นสมองกันแล้ว ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะได้สัมผัสกับเจ้าผีเสื้อตัวน้อยบินให้เห็นตัวเป็นๆ ในบรรยากาศของธรรมชาติอย่างแท้จริงกันเสียที กับสถานที่ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของอุทยานผีเสื้อฯ แห่งนี้ นั่นคือกรงจัดแสดงผีเสื้อ เป็นกรงตาข่ายขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ 1,168 ตร.ม. ภายในถูกเนรมิตให้มีสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกับธรรมชาติมากๆ มีทั้ง บ่อน้ำ ลำธาร น้ำตก มีดอกไม้นานาพันธุ์ และต้นไม้น้อย-ใหญ่ ขึ้นให้ครึ้มดูร่มรื่นสบายตา
และที่น่าตื่นเต้นสุดๆ ก็คือ มีเจ้าผีเสื้อสีสวยตัวเป็นๆ พากันบินวนเวียน ดอมดมดอกไม้ ต้นไม้ บินให้เห็นเต็มไปหมดภายในกรง ซึ่งผีเสื้อที่ฉันเห็นทั้งหมดเป็นผีเสื้อกลางวัน มีอยู่มากมายหลากหลายสายพันธุ์ ถามว่ามีกี่ตัวนั้นนับกันไม่หวาดไม่ไหวจริงๆ
รู้แต่ว่าฉันคิดไม่ผิดจริงๆ ที่ตัดสินใจมาเที่ยวที่ "อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพฯ" ในวันว่างๆ เช่นนี้ เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกคลายความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน (หนัก) มาตลอดสัปดาห์ และทำให้ฉันหวนคิดถึงภาพเก่าๆ เมื่อครั้งที่ยังเป็นเด็กบ้านนอก วิ่งเล่นอยู่กลางท้องทุ่ง ท้องนา มีแมลงและผีเสื้อสวยๆ ให้ฉันได้วิ่งไล่จับเล่นกันอย่างสนุกสนาน นึกไปยิ้มให้กับผีเสื้อไป มันช่างสุขขีสโมสรใจเสียจริงๆ หากใครชอบผีเสื้อ ชอบความเป็นธรรมชาติ วันว่างๆ หาโอกาสมาสัมผัสโลกแห่งความงาม ที่เป็นความจริงด้วยตัวเองดูสิ แล้วจะติดใจ!!
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
"อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพฯ" ตั้งอยู่ในสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เปิดให้บริการเที่ยวชม โดยไม่เสียค่าเข้าชม ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 08.30-16.30 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สนใจเข้าเยี่ยมชมติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2272-4359-60, 0-2272-4680
สวนวิชรเบญจทิศ (สวนรถไฟ) ตั้งอยู่ที่ ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. 10900 (อยู่ด้านหลังสวนจตุจักร ด้านถนนพหลโยธิน ใกล้กรมการบินพลเรือน) การเดินทางมาสวนรถไฟ ถ้ามาทางรถประจำทาง ต้องนั่งรถมาลงที่สวนจตุจักร แล้วเดินมายังสวนรถไฟ มีรถประจำทางสายที่ผ่าน คือ 3 8 26 27 28 29 34 38 39 44 52 59 77 96 104 108 112 134 136 138 145 502 503 509 510 512 513 หรือนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีหมอชิต แล้วเดินมายังสวนรถไฟ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาขึ้นที่สถานีจตุจักร แล้วเดินมายังสวนรถไฟได้เช่นกัน