xs
xsm
sm
md
lg

ท่องแดนดินแห่งความงามที่ “พระราชวังบางปะอิน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“...อยุธยา เมืองเก่าของเราแต่ก่อน จิตใจอาวรณ์ มาเล่าสู่กันฟัง อยุธยา แต่ก่อนนี้ยัง เป็นดังเมืองทอง ของพี่น้อง เผ่าพงศ์ไทย...”

เพลง“อยุธยาเมืองเก่า”ของ มล.ขาบ กุลชร ณ.อยุธยา

เมื่อพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาหรือที่นิยมเรียกกันสั้นๆว่า“อยุธยา” แน่นอนว่าความเป็นเมืองเก่า กรุงเก่าคงจะลอยเด่นหราขึ้นมาในมโนภาพของใครหลายๆคน เพราะดินแดนอยุธยานั้นนอกจากจะเป็นราชธานีเก่าแก่อันสำคัญของไทยแล้ว ยังเป็นมรดกโลกที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามเก่าแก่และโบราณสถานที่น่าสนใจมากมาย

แต่หากว่ากันจริงๆแล้วอยุธยาไม่ใช่มีดีเฉพาะพื้นที่มรดกโลกเท่านั้น แต่ว่าอยุธยายังมีของดีที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง โดยหนึ่งในนั้นก็คือ “พระราชวังบางปะอิน” ที่ภายในเต็มไปด้วยสิ่งสวยงามน่าชมมากมาย

สำหรับความเป็นมาของพระราชวังบางปะอินนั้น ตามตำนานได้กล่าวไว้พอสรุปความได้ว่า...เมื่อครั้งที่สมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จประพาสล่องแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วเรือเกิดล่มที่บริเวณเกาะบ้านเลนอยุธยา

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้พระเอกาทศรถฯได้พบกับ“อิน”หญิงสาวชาวบ้าน ที่พอพบพาก็ถูกตาต้องใจและมีสัมพันธ์กันจนให้กำเนิดพระราชโอรส ที่ภายหลังขึ้นครองราชย์ทรงพระนามว่า“สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง” ซึ่งในปี พ.ศ. 2175 พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดขึ้นในบริเวณที่เสด็จพระราชสมภพ แล้วพระราชทานชื่อว่า “วัดชุมพลนิกายาราม”นอกจากนี้ยังมีการสร้าง “พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์”ขึ้น

นับแต่นั้นมาพระราชวังแห่งนี้กลายเป็นที่เสด็จประพาสเพื่อความสำราญของพระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงศรีอยุธยาเรื่อยมา ก่อนจะถูกทิ้งร้างหลังเสียกรุงฯ จากนั้นในยุครัตนโกสินทร์พระราชวังบางปะอินได้รับการฟื้นฟูเรื่อยมาทั้งในสมัยรัชกาลที่ 4 และ รัชกาลที่ 5...

มาในปัจจุบันพระราชวังบางปะอินถือเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อของอยุธยา

สำหรับสิ่งน่าสนใจในพระราชวังแห่งนี้เริ่มตั้งแต่เขตพระราชฐานชั้นนอก ที่พอ“ผู้จัดการท่องเที่ยว”ตีตั๋วเข้าไปก็รู้สึกประหนึ่งว่ากำลังเดินอยู่ในดินแดนแห่งความงามทีเดียว

จุดแรกในพระราชวังบางปะอินที่เราไปแวะชมก็คือ หอเหมมณเฑียรเทวราช ที่รัชกาลที่ 5 สร้างถวายแด่พระเจ้าปราสาททอง มีรูปทรงคล้ายพระปรางค์แบบขอมขนาดเล็ก

หอเหมมณเฑียรฯหลังนี้ในวันที่ไปชมมีคนไปบนบานกันไม่น้อยทีเดียว ส่วนเราเห็นคนเยอะเลยมุ่งหน้าต่อไปยังสระน้ำใหญ่ ที่มีกระโจมแตรแปดเหลี่ยมตั้งอยู่ริมน้ำ ส่วนตรงกลางสระน้ำดูโดดเด่นไปด้วยพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์หนึ่งในสัญลักษณ์ของพระราชวังบางปะอิน ที่ประณีตงดงามด้วยสถาปัตยกรรมไทยทรงปราสาทจตุรมุข ซึ่งจำลองแบบมาจากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ภายในประดิษฐานพระบรมรูปหล่อสัมฤทธิ์ของรัชกาลที่ 5

จากกระโจมแตรมีสะพานไป 2 ทางซ้าย-ขวา “ผู้จัดการท่องเที่ยว”เลือกไปทางซ้าย ที่เป็นถนนนารายณ์ที่บนหัวเสาราวสะพานมีรูปปั้นเทพและเทพีแบบตะวันตกอันสวยงามให้ยลตลอด 2 ฝั่งสะพาน โดยเฉพาะรูปปั้น “เทพธิดาเซเลส” เทพธิดาแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่อยู่สุดทางเดินทางขวามือ ซึ่งช่างปั้นได้งดงามนัก

ครั้นเดินพ้นสะพานไปสักหน่อย เราก็ได้พบกับพระที่นั่งวโรภาษพิมานที่น่ายลสมส่วนด้วยรูปแบบตึกเก่าทางยุโรป ภายในเป็นท้องพระโรงจัดแสดงศิลปวัตถุสวยๆงามๆต่างไว้มากมาย(ห้ามถ่ายรูป) โดยของจัดแสดงที่เด่นๆภายในพระที่นั่งวโรภาษฯก็มี บัลลังก์ที่ประทับของรัชกาลที่ 6, ชุดโต๊ะเก้าอี้สวยงามต่างๆ, ภาพวาดสมัยรัชกาลที่ 5, โคมไฟที่ห้อยระย้ากลางท้องพระโรง ฯลฯ ซึ่งก็ไม่ควรพลาดการเข้าไปชมด้วยประการทั้งปวง

พูดถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆในพระราชวังบางประอิน ตั้งแต่เดินเข้ามาจนถึงยังจุดนี้ล้วนแต่สร้างขึ้นมาใหม่ไม่ใช่ของแท้ดั้งเดิม แต่ว่าหากเดินไปริมน้ำข้างๆพระที่นั่งวโรภาษฯเราจะได้พบกับเรือนแพแฝดสีขาวหลังเล็กตั้งสงบนิ่งอยู่ ซึ่งหากมองผ่านๆอาจจะดูเหมือนเรือนแพริมน้ำธรรมดา แต่ว่าเรือนแพหลังนี้ถือเป็นสมบัติดั้งเดิมหลังเดียวนับจากอดีตถึงปัจจุบันของพระราชวังบางปะอินที่ยังคงหลงเหลืออยู่

จากพระที่นั่งวโรภาษฯ หากเดินไปตามทางขวามือ ข้ามสะพานไม้เล็กๆที่มีเสาและลวดลายฉลุอย่างสวยงามไป ก็จะเข้าสู่เขตพระราชฐานชั้นใน ที่ชวนมองด้วยรูปปั้นเทพธิดาท่ามกลางฉากหลังเป็นประตูเทวราชครรไล(ด้านใน)อันงดงาม โดยใกล้ๆกันนั้นมีพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรที่เป็นพระที่นั่งเรือนไม้สองชั้นแบบชาเลต์ของสวิสที่จัดตกแต่ทั้งภายนอกและภายในอย่างสวยงาม ส่วนฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกันหน่อยเป็นบ้านเจ้านายเก่าชั้นเดียวลวดลายขนมปังขิงที่นักท่องเที่ยวหลายคนนิยมไปยืนเก็กถ่ายรูปคู่กับบ้านเจ้านายเหล่านี้

จากนั้นเส้นทางก็พาผ่านบ้านเจ้านายเก่าไปยังสู่สระน้ำที่มองเห็นหอวิฑูรทัศนา หอสูง 4 ชั้น ยอดมนตั้งโดดเด่นอยู่ ซึ่งหอวิฑูรแห่งนี้ถือเป็นหอชมวิวพระราชวังบางปะอินชั้นเยี่ยม ที่หากใครมีกำลังขาเหลือเฟือน่าจะเดินขึ้นบันไดเวียนชึ้นไปชมวิวด้านบน

ที่บนหอวิฑูรฯ สามารถมองเห็นทิวทัศน์มุมสูงสวยๆงามๆของพระราชวังบางปะอินได้หลายมุม ไม่ว่าจะเป็นพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรในมุมสูง หรือพระที่นั่งเวหาศจำรูญที่อยู่ใกล้ๆกับหอวิฑูรฯ ที่หากเดินจากหอวิฑูรฯไปอีกนิดก็จะถึงยังพระที่นั่งแห่งนี้ ซึ่งเป็นพระที่นั่งหลังใหญ่ในรูปแบบสถาปัตยกรรมจีนสีฉูดฉาดที่ดูโดดเด่นแปลกกว่าใคร ภายในตกแต่งด้วยศิลปะแบบจีนที่วิจิตรงดงามที่เมื่อเราเข้าไปเดินในนั้นรู้สึกว่าเหมือนกำลังเดินอยู่ในพระราชวังในหนังจีนกำลังภายในยังไงยังงั้นเลย

ของดีในพระราชวังบางปะอินยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะเมื่อเดินไปทางด้านหลังของพระที่นั่งเวหาศจำรูญ ก็จะได้พบกับอนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทกุมารีรัตน์ ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทกุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ซึ่งเสด็จทิวงคตเนื่องจากเรือพระที่นั่งเกิดอุบัติเหตุล่มลงในแม่น้ำเจ้าพระยา ณ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ส่วนใกล้ๆกันนั้นเป็นอนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ ที่รัชกาลที่ 5 ทรงสร้างขึ้นเพื่อไว้อาลัยแด่พระอัครชายาเธอพระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัตน์ พร้อมทั้งพระราชโอรสและพระราชธิดาอีกสามพระองค์

จากนั้นเส้นทางพาเข้าสู่เขต พระตำหนักฝ่ายใน ที่มีบ้านเก่าหลังกะทัดรัดทั้งชั้นเดียวและ 2 ชั้นของเหล่าเจ้านายให้ชมพร้อมๆกับสิ่งของที่จัดแสดงภายใน ก่อนที่เส้นทางจะพาวกกลับมายังรูปปั้นเทพธิดาบริเวณเขตพระราชฐานชั้นใน แล้วพาออกไปสู่เขตพระราชฐานชั้นนอกที่มองเห็นพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพย์อาสน์กลางสระน้ำ ในคนละมุมกับขาเดินเข้า ซึ่งถือว่านับว่าเป็นการยลความงามของงานสถาปัตยกรรมอันงดงามทิ้งท้าย ก่อนจากลาพระราชวังบางปะอินดินแดนแห่งความงามด้วยความตราตรึงใจ...

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

พระราชวังบางปะอิน ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จากกรุงเทพฯ จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 22 กม. ( หลักกิโลเมตรที่ 53 ) จากนั้นแยกซ้ายเข้า อ.บางปะอิน ( ถนนหมายเลข 308 ) แล้วตรงไปประมาณ 7 กม. ก็จะถึงพระราชวังบางปะอิน ซึ่งเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.00 น.

หากไปทางรถโดยสารประจำทาง จากสถานีขนส่งสายเหนือ ( หมอชิต 2 ) นั่งรถสายกรุงเทพฯ - บางปะอิน ไปลงที่ บขส. บางปะอิน ( สุดสาย ) จากนั้นเหมาสามล้อเครื่องไปส่งที่พระราชวังบางปะอิน

สำหรับผู้เข้าชมต้องแต่งกายสุภาพ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท นักเรียน นักศึกษา 20 บาท ภายในมีรถกอล์ฟบริการชั่วโมงละ 250 บาท นอกจากนี้ภายในพระราชวังบางปะอินยังมีร้านจำหน่ายสินค้า และจำหน่ายของที่ระลึก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-3526-1548,0-3526-1044 ส่วนผู้ที่ต้องการชมภาพพระราชวังบางประอินในอดีตว่าแตกต่างจากปัจจุบันอย่างไร สามารถติดต่อขอชมได้ที่สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร โทร. 0-2281-1599

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
ทำบุญใหญ่ ไหว้พระ 9 วัด“อยุธยามหามงคล”
พายคยัก-ขี่จักรยาน...กับ 1 วัน อันคุ้มค่า ที่ 'อยุธยา มรดกโลก'
อร่อยริมน้ำเมืองกรุงเก่าที่"คุ้มกรุงศรี"
กำลังโหลดความคิดเห็น