"ทัวร์ทหาร" ท่องเที่ยวแบบทหารหาญ

"เขตทหาร ห้ามเข้า"

อาจจะเป็นป้ายที่พบเจอได้บ่อยๆ ในเขตทหาร หรือค่ายทหาร ซึ่งดูจะเป็นสถานที่หวงห้ามสำหรับบุคคลทั่วไป และทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนว่า ทหารกับประชาชนอยู่ห่างไกลกันไปสักหน่อย แต่ในตอนนี้ คนที่ได้แวะเวียนผ่านไปแถวๆ ค่ายทหาร อาจจะได้เจอกับป้าย "เขตทหาร ยินดีต้อนรับ" ปรากฏอยู่แทน และไม่เพียงแค่ยินดีต้อนรับเท่านั้น แต่ยังยินดีให้เข้ามาเที่ยวชม และเข้ามาทำกิจกรรมฝึกปฏิบัติทางทหารได้อีกต่างหาก ทั้งนี้ก็เพราะว่า มี "โครงการท่องเที่ยวในหน่วยทหาร" เกิดขึ้น

หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จังหวัดลพบุรี ก็เป็นเขตทหารอีกเขตหนึ่งที่ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาทำกิจกรรมร่วมกัน โดย สอ.ไพฑูรย์ ปิ่นแก้ว ซึ่งเป็นผู้คอยดูแลในเรื่องการท่องเที่ยว ได้เล่าถึงความเป็นมาของโครงการนี้ให้ฟังว่า ได้เริ่มกันมาตั้งแต่ปี 2541 โดยหลังจากวิกฤติการณ์ฟองสบู่ที่ส่งผลถึงเศรษฐกิจของทั้งประเทศ ก็ได้เกิดการรณรงค์ให้คนไทยท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก และพลเอกสุรยุทธ์ จุลลานนท์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของกองทัพบกในขณะนั้นก็ได้จัดโครงการท่องเที่ยวในหน่วยทหาร โดยเปิดค่ายทหารให้เป็นแหล่งที่ท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดลพบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น

สอ.ไพฑูรย์ กล่าวถึงกิจกรรมของโครงการท่องเที่ยวในหน่วยทหารของจังหวัดลพบุรีว่า "สำหรับที่นี่จะเน้นในเรื่องการผจญภัย เช่น การฝึกเป็นพลร่ม การกระโดดหอสูง การฝึกใช้อาวุธ ไต่หน้าผา การดำรงชีพในป่า คือหากใครมาที่นี่ จุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อการมาพักผ่อน แต่เป็นการมาเพื่อมีกิจกรรมร่วมกัน โดยส่วนใหญ่กลุ่มที่มาก็จะเป็นกลุ่มสัมมนา หรือกลุ่มเข้าค่ายพักแรม เพราะเรารับจำนวน 30 คน ขึ้นไป เท่าที่ผ่านมาก็เรียกว่ามีการตอบรับที่ดีมาก"

สำหรับกิจกรรมต่างๆ ของโครงการท่องเที่ยวในหน่วยทหารของจังหวัดลพบุรีนั้น แบ่งเป็นแบบ 2 วัน 1 คืน และ 3 วัน 2 คืน สำหรับแบบ 2 วัน 1 คืนนั้น จะมีกิจกรรมการทดสอบกำลังใจด้วยการกระโดดหอสูง 34 ฟุต (สำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป) สำหรับความสูง 34 ฟุต หรือประมาณตึกสูง 3 ชั้นนั้น บางคนอาจจะคิดว่าไม่สูงเท่าไรนัก แต่เมื่อได้มายืนจริงๆ อาจจะเข่าอ่อนได้ เพราะความสูงระดับนี้ถือเป็นจุดที่หวาดเสียวที่สุด สำหรับกิจกรรมนี้ ผู้ที่เข้าร่วมจะได้รับมอบเข็มรูปปีกนกซึ่งเป็นเครื่องหมายว่าเราผ่านการกระโดดหอทดสอบกำลังใจมาแล้ว

กิจกรรมการไต่เขา และไต่หน้าผา (สำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปี ขึ้นไป) เนื่องจากการเป็นทหารนั้นจะต้องเจอกับสภาพภูมิประเทศที่ไม่ได้สะดวกสบายนัก การฝึกไต่เขาและไต่หน้าผาก็จะเป็นการเอาชนะภูมิประเทศที่ยากลำบาก โดยผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้ขั้นตอนพื้นฐานการไต่เขา ไต่หน้าผา เรียนรู้การใช้อุปกรณ์ และลักษณะของหน้าผา ฝึกวิธีการโหนตัว โรยตัวลงจากหน้าผา

กิจกรรมการฝึกใช้อาวุธปืนพก (สำหรับผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี) จะได้เรียนรู้พื้นฐานการยิงปืน และกฎระเบียบความปลอดภัยของการใช้อาวุธปืน ระเบียบของสนามยิงปืน และการดูแลรักษาอาวุธปืน

และกิจกรรมที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การเรียนรู้เกี่ยวกับการดำรงชีพในป่าโดยใช้วัสดุจากธรรมชาติที่สามารถหาได้ในป่า เช่น พันธุ์ไม้ต่างๆ การประกอบอาหารจากวัสดุที่หาได้ในป่า เช่น การหุงข้าวด้วยกระบอกไม่ไผ่ การดื่มน้ำจากเถาวัลย์ การเรียนรู้ชนิดของงู และการรับมือเมื่อเจอกับงู โดยจะมีวิทยากรซึ่งมีความชำนาญเป็นผู้สาธิตให้ผู้ชมได้ใจหายใจคว่ำกันเล่นๆ

ที่กล่าวมานั้นคือกิจกรรมสำหรับการท่องเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน และสำหรับแบบ 3 วัน 2 คืนนั้น อีกหนึ่งวันที่เพิ่มขึ้นมาจะเป็นกิจกรรมการเดินป่าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จังหวัดลพบุรี โดยจะมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ห้วยพริก-น้ำตกผาผึ้งที่สวยงามและมีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ โดยจะมีการตั้งเต็นท์พักค้างแรมกันในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ท่ามกลางธรรมชาติป่าต้นน้ำของภาคกลาง

ทั้งหมดนี้คือกิจกรรมที่จะได้สัมผัส หากไปเที่ยวในหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และในอนาคต สอ.ไพฑูรย์ บอกว่า อาจจะมีกิจรรมอื่นๆ เพิ่มเติมเข้ามาอีก

"กิจกรรมที่เพิ่มเข้ามาก็จะเป็น การผจญภัยตอนกลางคืน คือให้อยู่ในป่าตั้งแต่ตอนสว่างจนถึงตอนมืด เพื่อให้สายตาค่อยๆ ปรับจนชินกับความมืดของป่า ทำให้สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ในป่าตอนมืดๆ ได้ และจะมีการฝึกสังเกตการณ์ ฝึกการฟังเสียง และการดูดาว คือเป็นการขายไอเดียทางทหารที่คนทั่วไปยังไม่เคยเห็น" สอ.ไพฑูรย์บอก

และนอกเหนือจากกิจกรรมที่ว่ามาทั้งหมดนี้แล้ว ก็ยังมีกิจกรรมการฝึกกระโดดร่มจากบอลลูน ซึ่งเป็นการฝึกแบบเร่งรัด ใช้เวลา 7 วัน โดยผู้เข้ารับการฝึกจะได้เรียนรู้บนภาคพื้นดินก่อนตามสถานีต่างๆ และทดสอบการกระโดดหอสูง 34 ฟุต การจัดเตรียมอุปกรณ์การกระโดดร่ม และเมื่อฝึกเสร็จตามหลักสูตรได้กระโดดร่มจริงๆ แล้ว ก็จะได้รับเข็มพัชรกิติยาภา ซึ่งเป็นเครื่องหมายของผู้ที่ผ่านการฝึกมาแล้ว

ก่อนจะกลับอย่าลืมแวะดูพิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมประวัติศาสตร์ทางทหาร และวีรกรรมของทหารรบพิเศษที่ได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตปกป้องเอกราชของชาติ นอกจากนั้นก็ยังจะได้ชมอุปกรณ์และเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ของหน่วยรบพิเศษ รวมทั้งห้องที่จำลองภารกิจต่างๆ ของหน่วยรบพิเศษ เช่น การปฏิบัติการใต้น้ำ การปฏิบัติการใต้ดิน ฯลฯ มาให้ชมกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อภารกิจและความสำคัญของหน่วยทหารรบพิเศษ

นับว่า "โครงการท่องเที่ยวในหน่วยทหาร" เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะนอกจากความรู้และความสนุกสนานที่จะได้รับแล้ว ก็ยังเป็นความแปลกใหม่ที่พลเรือนอย่างเราๆ คงไม่ได้พบเจอบ่อยนักอีกด้วย

*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 

สำหรับค่าใช้จ่ายของโครงการท่องเที่ยวในหน่วยทหาร จังหวัดลพบุรีแบบ 2 วัน 1 คืน มีค่าใช้จ่าย 2,000 บาทต่อคน แบบ 3 วัน 2 คืน 2,500 บาทต่อคน (รับจำนวน 30 คนขึ้นไป) การฝึกกระโดดร่มจากบอลลูนมีค่าใช้จ่าย 12,000 บาทต่อคน (ระยะเวลา 7 วัน รวมค่าอุปกรณ์การฝึก ค่าอาหารและที่พัก) สอบถามรายละเอียดโทร. 0-3641-2192

พิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ เปิดให้เข้าชมในเวลาราชการ เวลา 09.00-16.00 น. ปิดวันหยุดราชการ (ยกเว้นการเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะ โปรดติดต่อล่วงหน้า) อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท สอบถามรายละเอียดโทร. 0-3661-2395