หลายครั้งหลายคราว ที่ "ผู้จัดการท่องเที่ยว" ได้ไปเยือน จังหวัดกระบี่ แต่ทุกครั้งที่ไปก็ได้แต่รีบลงเรือไปดำผุดดำว่ายในท้องทะเล เพราะกระบี่นั้นได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งผืนน้ำ และความงามของทะเลอันดามัน ที่ไม่เป็นสองรองใครในประเทศไทย มีเกาะแก่งน้อยใหญ่ มีแหล่งดำน้ำดูปะการังที่สวยงาม ถึงขนาดได้รับฉายาว่า "มรกตแห่งอันดามัน"
เพราะมัวแต่หลงใหลกับทะเลกระบี่นี่เอง จึงทำให้ "ผู้จัดการท่องเที่ยว" พลาดที่จะได้รับรู้และสัมผัสกับมุมมองอื่นๆ ของกระบี่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวและร่องรอยของประวัติศาสตร์ หรือแม้แต่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ ที่ทั้งสวยและทั้งแปลกในหลายๆ แห่ง
เมื่อได้กลับมาเที่ยวกระบี่อีกครั้ง จึงนับเป็นโอกาสดีที่จะได้ไปทำความเข้าใจกระบี่ในแง่มุมอื่นดูบ้าง ซึ่งแค่ "อำเภอคลองท่อม" ที่เดียวก็เที่ยวได้เป็นวันแล้ว เพราะอำเภอเล็กๆ แห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็น Unseen ถึงสองแห่ง และยังมีพิพิธภัณฑ์ที่มีหลักฐานยืนยันได้ว่ากระบี่เป็นแหล่งชุมชนโบราณที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง ทั้งยังเคยเป็นเมืองท่าที่สำคัญในอดีต
พิพิธภัณฑ์ที่ว่าคือ "พิพิธภัณฑสถานวัดคลองท่อม" ซึ่งที่นี่ พระครูอาทรสังวรกิจ ได้เก็บรวบรวมสิ่งของวัตถุโบราณจำนวนมากจากที่มีผู้ขุดค้นพบทั่วอำเภอคลองท่อม โดยเฉพาะในบริเวณที่เรียกว่า "ควนลูกปัด" ที่เป็นเนินดินหลังวัดคลองท่อม ซึ่งมีการค้นพบลูกปัดแก้วสีต่าง ๆรวมทั้งเครื่องมือหิน เครื่องประดับและวัตถุที่ทำด้วยแก้ว เงิน ทองคำ สำริด หิน ดินเผา นับพันชิ้น
ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นหลักฐานทางโบราณคดี ที่แสดงถึงการอยู่อาศัยของมนุษย์ชนพื้นเมืองสมัยก่อนประวัติศาสตร์ และสันนิษฐานกันว่า บริเวณนี้น่าจะเคยเป็นเมืองท่า เพราะชุมชนคลองท่อมอยู่ใกล้ทะเล มีลำคลองไหลผ่าน อยู่ในเส้นทางการเดินข้ามแหลมจากตะวันตกไปตะวันออก เป็นที่ผ่านไปมาของบรรดาพ่อค้าวานิชจากเมืองต่าง ๆ
แม้จะเป็นเวลาเพียงชั่วโมงเดียวที่อยู่ในพิพิธภัณฑสถานวัดคลองท่อม แต่กลับเป็นช่วงเวลาที่มีค่าเพราะเหมือนกับว่าได้ย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายร้อยหลายพันปีก่อนในอดีต ใครที่สนใจเรื่องราวในเชิงประวัติศาสตร์โบราณคดี สามารถแวะไปชมและศึกษาได้
ส่วนตอนนี้ ได้เวลาที่จะไปดู "สระมรกต" สระน้ำสวยใสกลางใจป่า ที่กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น ใน ผืนป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ –บางคราม ซึ่งในการเดินทางไปชมนั้นจะต้องเดินเท้าจากทางเข้าไปประมาณ 800 เมตร แต่เห็นตัวเลขระยะทางแล้วอย่าเพิ่งทำท่าเหนื่อยไปเสียก่อน เพราะสองข้างทางนั้นเป็นป่าร่มครึ้มเย็นสบาย เดินไปเรื่อยๆ ก็ถึงสะพานไม้ที่จะนำทางไปสู่สระน้ำสีเขียวราวมรกต
พอไปถึงก็เห็นว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยคนต่างประเทศ ทั้งเด็กผู้ใหญ่ ต่างก็กำลังเล่นน้ำในสระกันอย่างสนุกสนาน แรกที่ได้เห็น "ผู้จัดการท่องเที่ยว" ยังนึกสนุกๆ ว่า โรงแรมที่ไหนยกเอาสระว่ายน้ำมาตั้งกลางป่าหรือเปล่า แต่เมื่อได้อ่านจากป้ายเก่าๆ ที่เกือบจะล้มซึ่งมีอยู่แค่ป้ายเดียว แถมตัวหนังสือก็แทบจะเลือนแล้วถึงได้รู้ว่าน้ำในสระมรกตมาจากน้ำพุร้อนประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส ที่พุ่งขึ้นมาจากใต้ดินผ่านชั้นหินปูนซึ่งมีแคลเซียมคาร์บอเนตสูง และมีคุณสมบัติเป็นด่าง จึงทำให้สารแขวนลอยต่างๆในน้ำตกตะกอนลง แต่ที่ตาเรามองเห็นน้ำในสระเป็นสีเขียวนั้นก็เพราะการตกกระทบของแสงอาทิตย์กับพื้นข้างล่าง ซึ่งจะเปลี่ยนสีความเขียวเข้มไปได้ตามวันเวลาและสภาพแสง
และที่เห็นสระน้ำใสๆ ดูสะอาดอย่างนี้ก็ไม่เหมาะกับการดื่มกินเพราะอาจทำให้เป็นนิ่วได้ ที่สำคัญใครที่จะลงเล่นน้ำไม่ควรที่จะใช้ แชมพู สบู่ หรือสารซักฟอกใดๆ เพราะจะเป็นตัวเร่งให้สาหร่ายในสระเกิดขึ้นมากจนผิดปกติ และทำให้น้ำเสียได้ในที่สุด นี่ถ้าไม่สังเกตเห็นป้าย ก็คงไม่รู้ความเป็นมาเป็นไปและข้อควรปฏิบัติต่างๆ ฝากไปถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบด้วยว่าน่าจะจัดการดูแลระบบต่างๆ ให้ดีขึ้น สระมรกตจะได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าที่เข้าทางมากกว่านี้แน่
จริงๆ แล้ว ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม และพื้นที่ป่าเขานอจู้จี้ และอยู่ใกล้ๆ กันนั้นยังมีสิ่งที่น่าดูน่าชมอยู่หลายอย่าง โดยเฉพาะกับความสมบูรณ์ของธรรมชาติเพราะพื้นที่ป่าบริเวณนี้ เป็นป่าที่ราบต่ำ บางส่วนแบ่งเป็นป่าดงดิบชื้น และบางส่วนที่เป็นป่าพรุที่มีน้ำท่วมขังทั้งปี ที่บางช่วงมีน้ำใสๆให้เป็นมุมถ่ายรูปที่ดีมากๆ และบริเวณนี้ยังเป็นที่รู้จักดีของนักดูนก เพราะมีนกหายากหลายพันธุ์ โดยเฉพาะกับ นกแต้วแร้วท้องดำ ซึ่งเป็นนกป่าที่หายากและมีแห่งเดียวในโลก
น่าเสียดายว่า ครั้งนี้ "ผู้จัดการท่องเที่ยว" ไม่มีเวลามากนัก จึงไม่ได้เดินสำรวจป่าและไม่ได้เห็นเหล่าบรรดาน้องนกทั้งหลาย แต่ไม่เป็นไร...เพราะเดี๋ยว "ผู้จัดการท่องเที่ยว" จะพาไปลงอ่างแทน
อ่างที่ว่าไม่ใช่ของเสี่ยที่ไหน แต่เป็นอ่างอาบน้ำธรรมชาติของชาวกระบี่ และยังเป็นอ่างอาบน้ำเพื่อสุขภาพที่บรรยากาศแสนจะรื่นรมย์ปนสนุกสนาน เอ้า !! คุณผู้ชายอย่าเพิ่งทำตาโต ส่วนคุณผู้หญิงก็ไม่ต้องทำหน้างง บอกให้ก็ได้ว่า อ่างอาบน้ำธรรมชาติเพื่อสุขภาพที่ว่า ก็อยู่ที่ "น้ำตกร้อนคลองท่อม" ซึ่งอยู่ไม่ไกลไปจากสระมรกตเท่าใดนัก
"น้ำตกร้อนคลองท่อม" เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen อีกแห่งของกระบี่ ซึ่งถ้าจะบอกว่าเป็นน้ำตกร้อนก็ดูจะไม่ใช่นัก เพราะเป็นน้ำร้อนที่ซึมขึ้นมาจากผิวดิน ลักษณะคล้ายน้ำพุร้อน อุณหภูมิประมาณ 40-50 องศาเซลเซียส และไหลไปรวมกันตามความลาดเอียงของพื้นที่ ซึ่งบางช่วงของสายน้ำก็จะมีควันลอยกรุ่นและคราบหินปูนธรรมชาติพอกอยู่ดูแล้วก็สวยแปลกตาดี นี่ยังไม่นับรวมกับต้นไม้น้อยใหญ่ที่เขียวครึ้มและปกคลุมร่มรื่น
โดยเฉพาะบริเวณที่ธารน้ำร้อนไหลลงสู่คลองท่อมที่จะลดระดับเกิดเป็นลักษณะคล้ายชั้นน้ำตกเล็ก ๆ ให้ได้เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน แถมด้านบนยังมีแอ่งเล็กๆ ดูคล้ายอ่างอาบน้ำหลายๆแอ่งให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปนอนแช่น้ำแร่อุ่นๆ ซึ่งเชื่อว่าจะดีต่อสุขภาพ ดูๆ ไปก็เป็นสปาธรรมชาติที่ออกแบบมาได้อย่างมหัศจรรย์
นอกจากจะมีอ่างอาบน้ำสปาธรรมชาติแล้ว ใกล้ๆ กันนั้นยังเห็นมีการสร้างพื้นที่สำหรับแช่น้ำแร่ที่ต่อมาจากธารน้ำ ซึ่งคงจะเป็นการให้บริการที่ทั่วถึงกับทุกๆ คนได้อีกทางหนึ่ง และที่ได้ยินมาว่าทาง อบต. จะเข้ามาดูแลการท่องเที่ยวรวมถึงจัดการสร้างมูลค่าเพิ่มกับน้ำแร่ธรรมชาติ ด้วยการทำเป็นน้ำแร่บรรจุขวด ไม่รู้ข้อนี้เท็จจริงแค่ไหน
ใครที่ยังไม่เคยมา ก็น่าจะหาโอกาสแวะเที่ยวหรือจะแวะเล่นน้ำด้วยก็ได้ เพราะหลังจากที่มีสึนามิ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในจังหวัดกระบี่รวมถึงจังหวัดอื่นรอบๆ ก็ดูจะเงียบเหงาไม่น้อย ยังไงก็ชวนกันเที่ยวให้มากๆ เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและยังถือว่าได้ช่วยกระจายรายได้ให้กับท้องถิ่นด้วย
ยิ่งช่วงนี้ที่พักก็ถูก ธรรมชาติก็สวย รับรองว่าได้ความประทับใจกลับไปอีกมาก
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
พิพิธภัณฑสถานวัดคลองท่อม ตั้งอยู่บริเวณวัดคลองท่อม บนถนนเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่ 71-72 ห่างจากที่ว่าการอำเภอคลองท่อมประมาณ 1 กิโลเมตร เปิดให้เข้าชมเวลา 8.30-11.00 น. และ 13.00-17.00 น.
น้ำตกร้อนคลองท่อม และสระมรกต อยู่ห่างจากอำเภอเมืองกระบี่ตามถนนเพชรเกษม (กระบี่-ตรัง) ประมาณ 45 กิโลเมตร จากนั้นแยกเข้าถนนสุขาภิบาล 2 ตรงที่ว่าการอำเภอคลองท่อมไปอีก 12 กิโลเมตร ระหว่างทางมีทางแยกขวามือเป็นทางย่อยแยกเข้าสู่น้ำตกร้อน และสระมรกต
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ททท. ภาคใต้ เขต 4 โทร.0-7621-1036, 0-7621-2213, 0-7621-7138
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
กินอาหารปักษ์ใต้ ในร่มเงาแมกไม้ที่ร้าน "เรือนไม้"
ที่พักในจังหวัดกระบี่