ฉันเคยได้ยินผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า คนจีนในสมัยก่อนหอบเสือผืนหมอนใบรอนแรมมากับเรือสำเภาลำใหญ่ ข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงสยามประเทศ เพื่อที่จะเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระเจ้าอยู่หัว เข้ามาทำมาหากินในดินแดนขวานทองแห่งนี้ ส่วนใหญ่ได้ดิบดีเพราะความอุตสาหะหนักเอาเบาสู้ทำให้หลายคนเป็นใหญ่เป็นโตเป็นเจ้าสัวก็มากมาย ฉันได้ฟังแล้วก็ให้สงสัยว่าเรือสำเภา(ของจริง)หน้าตาเป็นอย่างไร จะใหญ่โตสักเพียงไหน เพราะเคยเห็นแต่ในหนังสือเรียนเมื่อตอนเด็กๆ ครั้นโตขึ้นก็จำไม่ค่อยได้เสียแล้ว
แต่ก็มาถึงบางอ้อ เนื่องจากเมื่อวันก่อนนั่งรถผ่านไปแถวเจริญกรุง เห็นเรือสำเภาลำใหญ่ยักษ์แถมมีเจดีย์อยู่บนลำด้วย ฉันสงสัยจึงรีบกระโดดลงจากรถเพื่อไปดูให้เห็นกับตา(ว่าไม่ได้ตาฝาด) ว่ามีเรือสำเภาอยู่กลางเมืองกรุงฯในยุคนี้จริงๆ
เรือสำเภาหรือพระสำเภาพระเจดีย์ลำที่ว่า ตั้งอยู่ในวัดยานนาวา แต่เดิมชื่อวัดคอกควาย เป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนกลาง แต่ไม่ปรากฏนามผู้สร้าง ต่อมาในสมัยกรุงธนบุรี(ประมาณปีพ.ศ.2319)พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานนามใหม่ว่า วัดคอกกระบือ
ส่วนการสร้างเรือสำเภาจำลองขึ้นมานั้น ฉันรู้มาว่าเป็นพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ที่พระองค์ต้องการจะสร้างพระสถูปเจดีย์ขึ้นที่วัดนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการที่พระองค์ทรงใช้เรือสำเภาขนส่งสินค้าไปทำมาค้าขายถึงเมืองจีนและประเทศต่างๆ นับว่าเป็นสายพระเนตรอันยาวไกลของพระองค์ท่านที่ทรงมีพระราชดำริว่า ต่อไปในภายหน้าคนรุ่นหลังอาจไม่รู้จักเรือสำเภาจีนก็เป็นได้ ประกอบกับพระองค์ทรงรำลึกในพระธรรมเวสสันดรชาดก ตอนที่พระเวสสันดรทรงตรัสเรียกกัณหาและชาลีให้อุทิศตน เพื่อร่วมกับพระบิดาสร้างมหากุศล อันจักเป็นเสมือนเรือสำเภาใหญ่พามนุษย์ชาติข้ามโอฆะสงสารไปสู่พระนิพพาน
จากพระราชประสงค์นี้เองจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างพระสถูปเจดีย์แบบใหม่ขึ้น เป็นสำเภาจีนมีพระเจดีย์ 2 องค์อยู่บนเรือ พร้อมกับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯราชทานนามจากวัดคอกกระบือเป็น วัดญาณนาวาราม มีความหมายว่า ญาณอันเป็นพาหนะดุจดั่งสำเภาข้ามโอฆะสงสาร ต่อมาภายหลังชื่อจึงได้เลือนมาเป็น วัดยานนาวา ที่มีความหมายใกล้เคียงกับชื่อเดิมคือ วัดอันมีพาหนะดุจสำเภาในการที่จะนำพาเวไนยสัตว์ให้ข้ามพ้นโอฆะสงสาร
ฉันแหงนหน้าขึ้นมองพระสำเภาพระเจดีย์ ที่ทางหัวเรือหันสู่ทิศใต้และปากแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนท้ายเรือหันไปทางทิศเหนือ ความยาวตอนบนตลอดลำเรือสำเภาวัดจากหัวเรือถึงท้ายบาหลียาว 21 วา 2 ศอก(43 เมตร) ความยาวตอนล่าง ส่วนที่ติดกับพื้น 18 วา 1 ศอก(36.5 เมตร) ความกว้างตรงส่วนกลางของเรือ 21 วา 3 ศอก(9.5 เมตร) ความสูงตรงส่วนกลางลำเรือ 2 วา 3 ศอก(5.5 เมตร)
และเจ้าความสูงที่ว่าทำให้ฉันต้องแหงนคอ(อีกครั้ง)มองหาเสากระโดงเรือ แต่ก็ต้องพบกับพระเจดีย์ 2 องค์อยู่ในตำแหน่งของเสากระโดงเรือแทน ถึงตอนนี้ฉันเริ่มจะมองหาทางขึ้นพระสำเภาพระเจดีย์ลำนี้เสียแล้วเพราะอยากไปดูให้เห็นกับตาว่าจะมีอะไรน่าค้นหาอีกหรือไม่
นั่นไงทางขึ้นพระสำเภาอยู่ทางด้านท้ายของเรือ...ดูคล้ายกับทางเข้าอุโมงค์ขนาดเล็ก คะเนว่าความสูงไม่น่าเกิน 165 เซนติเมตร ฉะนั้นสำหรับใครที่คิดว่าตัวเองสูงกว่านี้ควรก้มศีรษะด้วย มิฉะนั้นอาจหัวโนไม่รู้ตัว แต่สำหรับฉันเดินลอดผ่านไปได้อย่างสบายๆ พลางคิดในใจว่าตอนนี้ตนเองคงกำลังเดินอยู่ใต้ท้องเรือที่เปรียบได้กับห้องเก็บสินค้าและสัมภาระต่างๆที่บรรทุกไปขายยังดินแดนไกลโพ้น
ขณะที่สมองกำลังจินตนาการอย่างออกรสชาติอยู่นั้น พลันสายตาก็มาเจอะกับพระเจดีย์องค์ที่ 1 ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ฉันเดินขึ้นบันไดเพื่อนำทางขึ้นไปสู่ชั้น 2 ของเรือเพื่อไปดูพระเจดีย์ใกล้ๆ แล้วก็พบว่าเป็นพระเจดีย์ฐานย่อมุมไม้ยี่สิบ ขนาดฐานล่างกว้าง 3วา 1 ศอกเศษ สูงประมาณ 8 วา 2 ศอก(17 เมตร) ส่วนพระเจดีย์องค์เล็กที่อยู่เยื้องกับองค์ใหญ่นั้น เป็นพระเจดีย์แบบฐานย่อมุมไม้สิบหก ขนาดฐานล่างกว้าง 7 ศอกเศษ สูงประมาณ 6 วา(12 เมตร) พระเจดีย์ทั้งสององค์นั้นเป็นศิลปกรรมในแบบ “ขนบประเพณี”สมัยรัชกาลที่ 3 ที่มีความโดดเด่นและมีความสวยงามยิ่ง
ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับการนับมุมของพระเจดีย์ทั้งสององค์อยู่นั้น ฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้กราบพระที่อยู่ทางท้ายบาหลีพระสำเภาเลยนี่นา คิดได้ดังนั้นก็เลยเดินไปยังท้ายเรือแล้วเข้าไปกราบพระพุทธรูปสำคัญต่างๆ ซึ่งมีมากมาย นอกจากนี้ยังมีรูปหล่อพระเวสสันดรโพธิสัตว์ กัณหา-ชาลี รอยพระพุทธบาทจำลอง แต่ที่ทำให้ฉันตื่นเต้นคือหินพระไตรปิฎกเสี่ยงทาย ที่ร่ำลือกันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก หากใครอธิษฐานแล้วสมประสงค์จะสามารถยกหินขึ้นโดยง่าย แต่ตรงกันข้ามหากสิ่งที่หวังไม่ได้ดังหวังก็จะไม่มีทางยกหินนี้ขึ้นได้เลย
หลังจากที่ผิดหวังกับการยกหินพระไตรปิฎกเสี่ยงทายแล้ว ฉันก็เลยใส่รองเท้าแล้วเดินออกมาจากท้ายบาหลีพระสำเภา จุดประสงค์ก็เพื่อจะเดินชมพระสำเภาพระเจดีย์ลำนี้ให้ทั่ว เพื่อต่อไปจะได้อธิบายให้รุ่นลูกรุ่นหลายฟังได้ว่าเรือสำเภาที่ใช้ขนสินค้าในสมัยโบราณนั้นเป็นอย่างไร แต่ก็ต้องพบว่าพื้นที่บนเรือลำนี้กว้างใหญ่เอาการอยู่ ทำเอาฉันตัวเล็กลงไปถนัดตา เพราะฉะนั้นคงไม่แปลกอะไรที่ในสมัยก่อนนอกจากสินค้าซึ่งมีจำนวนมากแล้ว ยังสามารถบรรจุคนได้อีกกว่าร้อยคน ใช้ชีวิตกินอยู่หลับนอนรอนแรมอยู่บนเรือสำเภาเป็นเวลานานนับเดือน กว่าจะเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทาง
หลังจากที่เดินดูจนทั่วแล้วจึงออกมาข้างนอกเรือเพื่อมาชมพระแท่นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จำลองขึ้นมาใหม่ให้มีหลังคาคลุมพร้อมกับมีที่กั้นโดยรอบ แต่ของเดิมนั้นเป็นเพียงแท่นหินวางไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่เท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเรียบง่ายของพระองค์ท่านได้เป็นอย่างดี ใกล้ๆกันนั้นเป็นพระอุโบสถที่มีภาพจิตรกรรมที่มีคุณค่ามากมายฝังตัวอยู่ตามบานประตู หน้าต่าง ไม่ว่าจะเป็นบานหน้าต่างด้านนอกปิดทองรดน้ำเป็นภาพเล่าเรื่องทศชาติ ส่วนด้านในบานหน้าต่างเป็นภาพจิตรกรรมโถยาคู
ฉันสังเกตว่าอาคารที่สำคัญๆในวัดยานนาวานี้จะเป็นอาคารทรงไทยประดับยอดปราสาทดูวิจิตรตระการตาและแสดงให้เห็นฝีมือของช่างไทย ไม่ว่าจะเป็นอาคารมหาเจษฎาบดินทร์ ที่มียอดปราสาทถึง 5 ยอดสูง 3 ชั้น และหอพระไตรปิฎกมียอดปราสาท 3 ยอดสูง 3 ชั้น ภายในใช้เป็นห้องสมุดและยังเป็นที่เก็บรักษาตู้พระไตรปิฎกเขียนลายลงรักปิดทองของโบราณไว้ด้วย
ฉันกวาดตามองพื้นที่รอบวัดยานนาวา พบว่าส่วนใหญ่รายล้อมด้วยอาคารพาณิชย์สูงตั้งตระหง่านมากมายและย่านเจริญกรุงยังเป็นย่านการค้าที่ผู้คนพลุกพล่าน แต่ภายในบริเวณวัดแห่งนี้กลับยังมีสถาปัตยกรรมไทยที่งดงามและความเงียบสงบแบบเขตสงฆ์อยู่ ทำให้รู้ว่าจริงๆแล้วของสองสิ่งที่แตกต่างกันก็สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสันติ หากรู้วิธีที่จะอยู่ร่วมกัน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
วัดยานนาวา ตั้งอยู่ที่ ถนนเจริญกรุง(แถวซอยเจริญกรุง 54 ) แขวงยานนาวา เขตสาทร กทม. สามารถเดินทางไปวัดยานนาวาได้ทั้งทางรถและเรือ หากลงเรือให้ขึ้นที่ท่าสาทรแล้วเดินตรงขึ้นไปจะเจอสี่แยกให้เลี้ยวขวา เดินต่อไปอีกประมาณ 50 เมตรจะเจอกับวัดยานนาวาที่อยู่ทางขวามือ แต่หากเลือกใช้บริการรถประจำทาง มีรถเมล์สาย 1,15,17,35,75 และ ปอ.38,75 ปอ.พ. 9,20 ผ่าน ใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่วัดยานาวา โทร.0-2211-9317 ใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่วัดยานนาวา โทร.0-2211-9317