xs
xsm
sm
md
lg

เที่ยว“เขาค้อ”หน้าฝน ยลทะเลภูเขาเคล้าสายหมอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ครั้งหนึ่ง “เขาค้อ” แห่ง จ.เพชรบูรณ์ เคยเป็นพื้นที่สีแดงที่คุกรุ่นไปด้วยควันไฟของการสู้รบจากผู้ที่มีแนวคิดทางการเมืองที่แตกต่างกัน (ช่วง พ.ศ. 2511-2525 )

ในยุคนั้นเขาค้อถือเป็นดินแดนต้องห้ามที่คนทั่วไปไม่ควรย่างกรายเข้าไปด้วยประการทั้งปวง

ครั้นเมื่อเวลาผันผ่าน ความขัดแย้งยุติ เขาค้อได้รับการพัฒนาเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นและสวยงามแห่งเมืองมะขามหวาน (แต่ว่าก็แลกด้วยการที่ป่าไม้บนเขาค้อและในพื้นที่สู้รบถูกทำลายไปเป็นจำนวนมาก)

สวยงามจนได้รับฉายาว่าเป็น “สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย” เพราะว่า “เขาค้อ”ที่เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาเพชรบูรณ์นั้น ประกอบไปด้วยขุนเขาน้อย-ใหญ่มากมาย และยังตั้งอยู่บนพื้นที่ ที่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร(ยอดเขาค้อมียอดสูงสุด 1,174 เมตร) อากาศบนเขาค้อจึงเย็นสบายตลอดปี หน้าร้อนก็ไม่ร้อน หน้าฝนอากาศเย็นไปจนถึงหนาวในคืนที่ฝนตก ส่วนหน้าหนาวอากาศหนาวอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส

นอกจากนี้ในพื้นที่ อ.เขาค้อ ยังมีโรงแรม รีสอร์ตในหลายระดับหลายราคาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกใช้บริการ ทำให้ช่วงหน้าหนาวทุกปีเขาค้อจะมากไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปสัมผัสไอหมอก หยอกสายลมหนาว

แต่ว่าพอถึงช่วงหน้าฝน เขาค้อกลับตกอยู่ในบรรยากาศที่เงียบเหงา เพราะว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต่างคิดว่าเขาค้อยามน่าฝนนั้นไม่น่าเที่ยวด้วยประการทั้งปวง เพราะทั้งเปียกฝน ทั้งเฉอะแฉะ ทั้งเลอะเทอะ แถมบางคนยังกลัวน้ำท่วมเขาค้ออีกต่างหาก

ในอดีต“ผู้จัดการท่องเที่ยว” ก็เคยมีมุมมองว่า “เขาค้อยังไงๆก็ไม่น่าไปน่าเที่ยวในหน้าฝน” เช่นกัน แต่ว่ามาในช่วง 2-3 ปีหลังที่ได้มีโอกาสขึ้นเขาค้อในฤดูฝนอยู่บ่อยๆ ทำให้รู้ว่าเขาค้อยามหน้าฝนนี่ก็มีน่าเที่ยวไม่น้อย เพราะในหน้านี้เขาค้อจะดูเขียวชอุ่มชุ่มฉ่ำ ท่ามกลางขุนเขาน้อยใหญ่ลูกแล้วลูกเล่า ที่ขึ้นสลับซับซ้อนลดหลั่นกันไปประหนึ่งทะเลภูเขา ซึ่งมองแล้วสดชื่นในอารมณ์ยิ่งนัก

และหากวันใดขึ้นเขาค้อคนเดียวในวันฝนพรำก็จะได้บรรยากาศอันหม่นเหงา แต่หากว่าไปกับคนรัก บรรยากาศจะดูโรแมนติกในทันที

ส่วนถ้าวันไหนขึ้นเขาค้อแล้วเกิดฝนตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่สามารถเที่ยวชมความงามที่ไหนได้ แต่ว่างานนี้อย่าเพิ่งก่นด่าธรรมชาติ เพราะบนเขาค้อยังมีจุดพักจิบกาแฟท่ามกลางบรรยากาศฝนตกจั๊กๆอยู่ 2-3 จุด

ส่วนถ้าใครไม่รีบร้อนเที่ยว ช่วงเวลานี้ร้องเพลงรอให้ฝนหยุดตกเสียก่อนแล้วค่อยออกเที่ยว ซึ่งก็จะได้พบกับบรรยากาศฟ้าหลังฝนที่สดชื่นงามตายิ่งนัก เพราะเมื่อฝนเพิ่งหยุดตกหมาดๆ พื้นดินยังคงชุ่มฉ่ำ ต้นไม้ใบหญาบังคงพร่างพราวไปด้วยหยดหยาดน้ำที่เกาะตามใบและลำต้น ส่วนที่ผืนดินก็จะอบอวลไปด้วยกลิ่นไอแห่งแม่พระธรณี ส่วนในอากาศนั้นช่วงนี้เปี่ยมไปด้วยโอโซน ที่น่าสูดหายใจลึกๆเข้าปอดสักหลายปื๊ด

เมื่อพูดถึงฟ้าหลังฝนเขาค้อแล้ว หากจะไม่พูดถึงทะเลหมอกยามหน้าฝนบนเขาค้อก็ดูจะกระไรอยู่ เพราะทะเลหมอกบนนี้ถือเป็นเสน่ห์อันน่าพิสมัยยิ่งนัก โดยหมอกฝนจะแตกต่างออกไปจากหมอกยามหน้าหนาวที่ดูขาวเนียน ลอยพลิ้วฟูฟ่อง แต่ว่าหมอกฝนบนเขาค้อจะดูขาวหม่น แต่ดูชุ่มฉ่ำเป็นละอองลอยเอื่อยๆตามสายลม แถมหมอกฝนยังมีกลิ่นหอมชุ่มฉ่ำจางๆที่หากเดินอยู่ท่ามกลางสายหมอกก็จะสัมผัสได้

สำหรับจุดชมวิวหมอกฝน หรือทะเลหมอกหน้าหนาวบนเขาค้อก็มีอยู่หลายจุด แต่ว่าจุดที่ถือเป็นไฮไลท์นั้นอยู่ที่ ริมเขาในพื้นที่อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ ซึ่งในยามเช้าจนถึงสายของวันที่ฝนไม่ตกหนักเมื่อมองลงไปด้านหนึ่งจะเห็นทะเลภูเขาที่อบอวลไปด้วยหมอกฝนลอยอ้อยอิ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งก็จะเห็นสายหมอกลอยพลิ้ว ท่ามกลางฉากหลังที่เป็นตัวอำเภอเขาค้อมองเห็นอยู่ลิบๆ ชัดบ้างไม่ชัดบ้างขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นๆ

และไหนๆเมื่อมาถึงยัง “อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ” หากจะมาแค่ชมวิวมันก็ดูจะกระไรอยู่ เพราะที่นี่ยังมีของดีให้ชมอีกไม่ว่าจะเป็น อนุสรณ์ฯผู้เสียสละ ที่โดดเด่นไปด้วยแท่งหินอ่อนรูปทรงสามเหลี่ยมที่ตั้งสูงตระหง่าน ซึ่งรูปทรงสามเหลี่ยมนั้น หมายถึง การปฏิบัติการร่วมกัน ระหว่าง พลเรือน ตำรวจ ทหาร ในเขตรอยต่อ 3 จังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย โดยอนุสรณ์ฯแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนวีรกรรมของผู้พลีชีพเหล่านั้น

ส่วนบริเวณด้านข้างของอนุสรณ์ฯ ก็จะเป็นฐานจำลองการสู้รบ(จุดชมวิวอยู่ในบริเวณนี้) ที่เป็นเนินเตี้ยๆ มีหลุมหลบภัย มีกระสอบทรายบังเกอร์ ซึ่งในอดีตที่แห่งนี้เป็นฐานแห่งแรกที่ทหารไทยยึดคืนมาได้จากการสู้รบกับพคท.

สำหรับสิ่งน่าสนใจน่าเที่ยวชมในเขาค้อยังไม่หมดเท่านี้ เพราะในพื้นที่นี้ยังมีจุดน่าเที่ยวอีกหลายจุด ไม่ว่าจะเป็น

พิพิธภัณฑ์อาวุธ(ฐานอิทธิ)ตั้งอยู่บริเวณฐานอิทธิ บ้านสิมารักษ์ ต.ทุ่งเสมอ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์อาวุธ จัดแสดงปืนใหญ่ ซากรถถัง และอาวุธที่เคยใช้สู้รบบนเขาค้อ(เปิดทุกวัน 07.00 – 17.00 น.ค่าเข้าชมคนละ 10 บาท)

พระตำหนักเขาค้อ ตั้งอยู่บนเขาย่า ต.สะเดาะพง เป็นอาคารชั้นเดียวติดต่อกัน เป็นรูปครึ่งวงกลม 15 ห้อง (เปิดทุกวัน 06.00-18.00 น. ต้องแต่งกายสุภาพ และชมได้เฉพาะภายนอกพระตำหนัก)

อนุสาวรีย์จีนฮ่อ เป็นอนุสาวรีย์ทหารอาสาจากหน่วยกองพลรบ 93 ที่มาช่วยรบในเขาค้อ ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 2196 เลยกม. 23 ไปเล็กน้อย

หอสมุดนานาชาติเขาค้อ ตั้งอยู่ตรงข้ามทางแยกขึ้นอนุสรณ์เขาค้อ เป็นหอสมุดรูปทรงเพชรคว่ำสร้างด้วยกระจกสะท้อนแสง ด้านหน้าตกแต่งเป็นสวนดอกไม้สวยงาม (เปิดทุกวันเวลา 07.00 – 17.00 น. ค่าเข้าชม 10 บาท)

เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อยู่ติดกับหอสมุดนานาชาติ ภายในยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา ชาวเพชรบูรณ์ร่วมใจกันสร้างถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ 50 ปี

พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาค้อ ภายในยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา ซึ่งชาวเพชรบูรณ์ร่วมใจกันสร้างถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ 50 ปี เช่นเดียวกับ เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

ส่วนใครที่ชอบธรรมชาติ จากตัวอำเภอเขาค้อไปตามทางหลวงหมายเลข 2325 เลยสามแยกหนองแม่นาประมาณ 10 กิโลเมตร มี “น้ำตกศรีดิษฐ์” ซึ่งเป็นน้ำตกชั้นเดียวขนาดใหญ่ มีน้ำไหลผ่านหน้าผาหินกว้างดูคล้ายม่านน้ำขนาดใหญ่ โดยในช่วงหน้าฝนอย่างนี้ น้ำตกศรีดิษฐ์จะมีน้ำเยอะและเป็นสีแดงขุ่น

อีกจุดหนึ่งที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งธรรมชาติอันพิสุทธิ์ก็คือ ที่ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หน่วยหนองแม่นา)ที่อยู่ไม่ไกลกัน โดยในหน้าฝนอย่างนี้ทุ่งแสลงหลวงจะเขียวชอุ่มไปด้วยทุ่งหญ้าสะวันนากว้างไกล รวมถึงป่าสนอันร่มรื่น ซึ่งในหน้าฝนเช่นนี้ทุ่งแสลงหลวงจะสวยงามน่าเที่ยวมาก

ส่วนใครที่ชอบความท้าทาย ที่ “ภูแก้วรีสอร์ท” ได้จัดกิจกรรมผจญภัยขึ้นในหุบเขา ในพื้นที่ Adventure Park ที่มีกิจกรรมมันๆแต่ว่าปลอดภัยให้เลือกเล่นหลายอย่าง อาทิ การปีนกำแพงตาข่าย 3 เมตรแล้วกลิ้งตัวลงมา การดึงตัวเองขึ้นที่สูงกว่า 6 เมตรด้วยการดึงเชือกผ่านรอก การผจญภัยบนสะพานเชือกชิงช้าที่แกว่งไปแกว่งมา และอีกหลายกิจกรรมท้าทายความสามารถและจิตใจ

แต่เท่าที่ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” กล่าวมาถือว่าเป็นแค่กิจกรรมเรียกน้ำย่อย เพราะความมันและท้าทายจริงๆจะอยู่ที่ 3 กิจกรรมไฮไลท์ นั่นก็คือ

รถเลื่อนภูเขาความเร็วสูง (Mountain Speed Luge) ที่เป็นการนำรถเลื่อนของชาวเขามาผสมผสานกับรูปแบบรถ Go-Cart ซึ่งเมื่อขึ้นไปนั่งรถเลื่อนฯจะพาเราไหลลงมาตามความชันของสนามบนไหล่เขาระยะทางกว่า 700 เมตร ผ่านโค้งและเนินที่หลากหลาย เรียกอารมณ์สนุก มัน และเสียวไส้เล็กๆได้ชะงัดนัก

เหิรเวหา (High Flying) เป็นการแขวนตัวไว้กับสลิงแล้วปล่อยตัวลงมาจากระดับความสูงกว่า 34 ฟุต ในระยะทาง 150 เมตร ข้ามสระน้ำที่ ระดับความเร็วจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ซึ่งก็สามารถเรียกเสียง “กรี๊ด”ของสาวๆได้หลายคนทีเดียว

ส่วนความมันระคนเสียวอันดับสุดท้ายเป็นกิจกรรม “โรยตัวจากหน้าผาจำลอง” (Cliff Hanger) ซึ่งเป็นการโรยตัวไต่ลงมาบนหน้าผาจำลองสูง 34 ฟุตที่สร้างอารมณ์เสียว สั่น ระทึกขวัญ ได้ไม่น้อย

และนั่นก็คือกิจกรรมท้าทายความเสียวเล็กๆในพื้นที่เขาค้อ ที่หน้าฝนนี้ คนที่มีหัวใจลุย ไม่กลัวเปียก และอยากสัมผัสบรรยากาศการท่องเที่ยวที่หลากหลายทั้งธรรมชาติ สถาปัตยกรรม และกิจกรรมผจญภัย เขาค้อนับเป็นอีกหนึ่งในทางเลือกของการท่องเที่ยวยามหน้าฝนที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในเมืองไทย ยิ่งในหน้าฝนอย่างนี้ราคาที่พัก โรงแรม รีสอร์ต ถูกกว่าหน้าหนาวหลายสตางค์นัก

ฉะนั้นใครที่เกิดอาการ เบื่อ เซ็ง กับฝนตกรถติดในเมือง ลองหาเวลาไปสัมผัสกับบรรยากาศของทะเลภูเขา ที่คละเคล้าไปด้วยสายฝนและสายหมอกชุ่มฉ่ำบนเขาค้อดูบ้างก็น่าจะดีไม่น้อย...
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมในสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักสามารถสอบถามได้ที่ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ 0-5671-8284-5 หรือที่ ททท.ภาคเหนือเขต 3 โทร.0-5525-2743 ส่วนผู้ที่สนใจกิจกรรมผจญภัย Adventure Park สามารถสอบถามได้ที่ 0-5675-0053 
 
การเดินทางสู่จังหวัดเพชรบูรณ์และเขาค้อ      ที่พัก     ร้านอาหาร
ทริปตัวอย่างเที่ยวเพชรบูรณ์และเขาค้อ 2 วัน 1 คืน    เที่ยวเพชรบูรณ์ไปตามคำขวัญ


สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงเขาค้อ
“ทับเบิก”แดนแห่งภูหนาวที่มีดาวเกลื่อนดิน
สัมผัสอารมณ์ ฝนแรก หญ้าแตกใบ ใน“อช.ทุ่งแสลงหลวง”  

กำลังโหลดความคิดเห็น