อยากกินพิซซ่าไหม? อยากกินอาหารอิตาเลี่ยนและซีฟู้ดไหม? อยากฟังเพลงและแดนซ์ไหม?
ถ้าสิ่งที่ทุกคนกำลังจะตอบคือคำว่า “ใช่” แล้วละก็ ตาม “ผู้จัดการตระเวนกิน” มาได้เลย เพราะว่ามื้อนี้เราจะพาไปตระเวนกินและแดนซ์กันให้หนำใจกันที่ร้านอาหารชื่อว่า “สกูซี่” (SCOOZI) (ที่เปิดเป็นร้านพิซซ่าและอีกร้านเปิดเป็นอาหารอิตาเลี่ยนแอนด์ซีฟู้ด) และ คลับหรู “เด นอคเต้”ซึ่งเจ้าของร้านไม่ใช่ใครที่ไหน คุณตุ๊ก ญาณี จงวิสุทธิ์ พิธีกรอารมณ์ดีชื่อดังกับสามี คุณแซมร่วมกันเปิดขึ้น
เอาล่ะเราไม่ขอพล่ามอะไรมากแล้ว เพราะรู้ว่าหลายๆ คนชักอยากจะรู้แล้วว่าที่ “สกูซี่” มีอะไรน่ากินบ้าง เอาเป็นเริ่มกันที่กินพิซซ่ากันก่อนเป็นอันดับแรก ที่ “สกูซี่ พิซเซอเรีย อิตาเลียน่า”
“สกูซี่ พิซเซอเรียฯ” เป็นร้านพิซซ่าสไตล์แบบอิตาเลี่ยนแท้ๆ คือพิซซ่าจะเป็นแบบแป้งบางกรอบ เน้นชีส และถึงกับมีเตา(ถ่าน)อบพิซซ่าที่สั่งทำเป็นพิเศษโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นเตาอบแบบนโปเลียนที่ใช้ความร้อนสูงในการอบจากไม้สนและไม้ยูคาลิปตัส ทำให้ได้พิซซ่าที่หอมหวนชวนกิน
สำหรับพิซซ่าของที่นี่ก็มีหน้าให้เลือกสั่งมาหม่ำอยู่ด้วยกันกว่า 30 หน้า อย่างที่ “ผู้จัดการตระเวนกิน” สั่งมาลิ้มรชิมรสชาติก็คือ พิซซ่าซัลมอนกับพิซซ่าเซอร์จิโอ้ (ถาดละ330 บาท 8 ชิ้น) แต่ว่าเราเลือกสั่งมาแบบทูอินวัน 2 หน้าในถาดเดียว (ราคา 330 บาทเท่าเดิม) รสชาติของพิซซ่า 2 ตัวนี้มีความแตกต่างกันตรงเครื่องที่ใส่มา พิซซ่าซัลมอนใส่ซอสมะเขือเทศ ชีสMozzarella และซัลมอนรมควัน รสชาติเด่นตรงซัลมอนรมควันที่เนื้อหวานนุ่ม เข้ากับแป้งพิซซ่าที่บางกรอบ
ส่วนพิซซ่าเซอร์จิโอ้ ใส่ซอสมะเขือเทศ ชีสMozzarella Salami (ไส้กรอกหมูปนเนื้อวัว) แฮม เห็ด กุ้ง และโรยหน้าด้วยพริกป่น รสชาติเด็ดโดนใจตรงเครื่องทุกอย่างที่ใส่มาเข้ากับพิซซ่าที่แป้งบางกรอบและออกเผ็ดลิ้นจากพริกที่ใส่มา กินโดยไม่ต้องใส่ซอสก็รสชาติดีถูกปาก
นอกจากนี้ยังมีพิซซ่าหน้าอื่นๆ ที่น่าหม่ำอีก อย่างพิซซ่าปาร์ม่าแฮม (330 บาท) พิซซ่า 4 ชีส (330 บาท) พิซซ่าสกูซี่ (330 บาท) และก็อาหารอิตาเลี่ยนอย่างอื่น อาทิ ไส้กรอกอิตาเลี่ยน (150 บาท) ไส้กรอกหมูมี 2 รสชาติคือ แบบเผ็ดกับไม่เผ็ด รสชาติเด็ดตรงที่เป็นไส้กรอกหมูผสมเครื่องเทศเคี้ยวแล้วเนื้อหมูแน่น เคี้ยวหนึบ รสชาติกลมกล่อมถูกลิ้น ส่วนถ้าใครชอบสลัดแนะนำ คาปรีเซ่สลัด (250 บาท) สลัดสไตล์อิตาเลี่ยนแท้ๆ รวมไปถึงยังมีเบเกอรี่โฮมเมดอีกหลายเมนูให้ลิ้มลอง
แต่อย่าเพิ่งอิ่มกับพิซซ่าจนเกินไป เพราะว่ายังมีอาหารอิตาเลี่ยนแอนด์ซีฟู้ดให้ไปเลือกกินกันอีก ที่ร้าน “สกูซี่ อิตาเลี่ยน แอนด์ ซีฟู้ด เรสเตอรองท์” เพียงแค่เดินออกจากร้าน “สกูซี่ พิซเซอเรียฯ” ไม่กี่ก้าวก็ถึงร้านแล้ว
“สกูซี่ อิตาเลี่ยนฯ” ร้านนี้บริการอาหารทั้งสไตล์และรสชาติแบบอิตาเลี่ยนแท้ๆ และก็มีซีฟู้ดด้วย บรรยากาศร้านก็ชวนนั่ง ตัวบ้าน 2 ชั้น ตกแต่งอย่างหรูหรา คลาสสิค ดูอบอุ่นโรแมนติก ด้านอาหารก็มีหลายเมนูให้เลือกหม่ำ อาทิ เมนูเด็ดของที่นี่ Ravioli Di Tartufo Bianco E Ricotta Fresca (490 บาท) ลักษณะคล้ายๆ กับเกี๊ยวที่ไส้ข้างในมีเห็ด ชีส และราดด้วยซอสเห็ด โรยด้วยใบกระเพรา และ Cotolette D’ Agnello Alla Griglia 3 Cutlets (1,050 บาท) ซี่โครงแกะออสเตรเลียหมักซอสย่าง และก็มีเมนูอื่นๆ อีกหลายเมนูที่น่าหม่ำต้องลองมาลิ้มรสกันเอาเอง
ครั้นพออิ่มกับการอาหารจนได้ที่ แล้วเกิดอยากย่อยอาหารนั่งฟังเพลงและแดนซ์กันขึ้นมา ก็แค่เดินออกจากร้าน“สกูซี่ อิตาเลี่ยนฯ” ไปต่อที่ “เด นอคเต้” คลับหรู 2 ชั้นที่อยู่ติดๆ กัน มาที่นี่รับรองว่าได้ฟังเพลงและแดนซ์กันกระจายแน่นอน เพราะว่าที่นี่เปิดเพลงหลายสไตล์ทั้งอาร์แอนด์บี, ฮิฟฮอฟ, ฟังค์กี้ เฮาส์ มิวสิค ฯลฯ ซึ่งใช้ระบบเสียงแบบเดียวกับคอนเสิร์ตระดับโลกอย่างไมเคิล แจ๊คสัน แถมเก๋ไก๋มีมุมดีไซด์เป็นพิเศษให้นั่งคุยได้สบายๆ เพราะกันเสียงได้ครึ่งหนึ่ง สำหรับเครื่องดื่มที่นี่บริการแบบฟลูบาร์ อาหารนั้นสามารถสั่งพิซซ่าจากร้าน “สกูซี่ พิซเซอเรียฯ” มาหม่ำได้ เรียกว่าอิ่มและสนุกได้อย่างเต็มที่
สำหรับใครที่ไม่เคยมาที่ “สกูซี่” และ “เด นอคเต้” ขอบอกว่าถ้ามาแล้วจะต้องติดใจ เพราะว่ามาที่นี่แล้วได้ครบรสชาติความอิ่มอร่อยแบบอิตาเลี่ยน และได้ความสนุกสนานกลับบ้านไป มาเมื่อไหร่คุ้มค่าจริงๆ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
รายละเอียดและการเดินทางไปที่ร้าน "สกูซี่" & "เด นอคเต้"
อ่านร้านอาหารอิเลี่ยนอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ยืด-นุ่ม-เหนียว กับ พิซซ่าอบเตาถ่านที่ร้าน “ลันตา พิซเซอเรีย”
“Antonio’s Trattoria” ร้านหรู คู่เมนูอิตาเลียนรสเด็ด
“เบคโคฟิโน่” โชว์ความเป็นอิตาเลียนแท้ๆ