xs
xsm
sm
md
lg

พิชิตเขา “คินาบาลู” มรดกโลก สูงเทียมฟ้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : ดากานดา

ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย คือ “ดอยอินทนนท์” ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร ในขณะที่สถิติยอดเขาที่ฉันเคยพิชิตได้สูงที่สุด คือ “ยอดภูกระดึง” ด้วยระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,288 เมตร ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้วความสูงห่างกันครึ่งต่อครึ่ง

แล้วจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อฉันหาญกล้าท้าทายไต่ข้ามระดับความสูงไปพิชิต “คินาบาลู” ยอดเขาที่มีความสูงถึง 4,095 เมตร …

หลังจากนั่งเครื่องบินข้ามทะเลจีนใต้ไปถึง เกาะบอร์เนียว เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก และยังเป็นเกาะที่มีถึง 3 ประเทศด้วยกัน คือ อินโดนีเซีย บรูไน และมาเลเซีย โดยจุดหมายการเดินทางอยู่ที่ “โกตาคินาบาลู” เมืองหลวงของรัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อไปสัมผัสกับสุดยอดความหลากหลายและมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ ณ “อุทยานแห่งชาติคินาบาลู” มรดกโลกทางธรรมชาติอันสำคัญของมาเลเซีย

ซึ่งที่นี่เอง ที่เป็นที่ตั้งของ “ยอดเขาคินาบาลู” เป้าหมายใหญ่ที่ฉันและชาวคณะจะไปเยือนครั้งนี้

จากตัวเมืองโกตาคินาบาลู 80 กม. ใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชม. ก็ไปถึงที่ทำการอุทยานฯ สังเกตว่า มีป้ายบอกเหมือนที่จะพบในเขตอุทยานฯ บ้านเรา นั่นคือ “ไม่เอาอะไรไปนอกจากภาพถ่าย และไม่ทิ้งอะไรไว้ นอกจากรอยเท้า” (Take Nothing but Photographs Leave Nothing but Footprints)

แต่กว่าจะจัดการเอกสาร ค่าธรรมเนียม และอื่นๆ ให้เรียบร้อย กว่าจะได้นั่งรถไปยังทางขึ้นเขาด้านประตู Timpohon ก็เสียเวลาไปพักใหญ่ กว่าจะขึ้นเขาได้ก็ปาเข้าไป 11.30 น. ซึ่งจริงๆ ควรจะต้องไปขึ้นก่อน 11.00 น. เพราะถ้าช้ากว่านั้นแล้วจะถึงที่พักค่ำ และยังเสี่ยงต่อการไม่มีของกิน เพราะอาหารข้างบนจะปิดขายประมาณ 19.30 น.

แต่ไม่เป็นไร เพราะทุกคนมั่นใจว่า จะไปถึงก่อนค่ำแน่ๆ ...ซึ่งจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่ ต้องติดตาม…

ในช่วงแรกๆ ทางเดินเป็นบันไดไม้และบันไดดินให้พอเดินไปได้แบบไม่ลำบากยากเย็นนัก ทำให้ฉันสามารถพาสองเท้าก้าวเดิน สองมือชี้ชมนกชมไม้ ทั้งยังคุยสนุกสนานกันดีอยู่ คิดดูว่า ครึ่งกิโลเมตร ฉันใช้เวลาเดินแค่ 10 นาทีเท่านั้นเอง

แต่ดูเหมือนว่า สถิติเวลาและจังหวะการเดินของฉัน มันจะหยุดความเร็วลงแค่ครึ่งกิโลเมตรแรก เพราะยิ่งทางเดินสูงขึ้นก็ยิ่งชันและลำบากมากขึ้น อาการเมื่อยขา หูอื้อตาลาย ก็เริ่มรุมเร้า บางช่วงที่ขั้นบันไดแต่ละขั้นสูงเกือบ 2 ฟุต จนต้องใช้วิธีก้าวหยุดก้าวหยุด

ไกด์บอกเคล็ดลับการเดินว่า ไม่ควรเดินแล้วหยุดพักบ่อยๆ จะทำให้เหนื่อยง่ายยิ่งขึ้น หรือถ้านั่งแล้วให้เหยียดขาออกไปตรงๆ ไม่อย่างนั้นอาจจะเป็นตะคริวได้ และถ้าใครรู้ตัวว่าเดินช้า ก็ให้เดินอยู่ข้างหลัง จะได้ไม่กดดันเห็นคนเดินขึ้นมาแซง

อากาศที่เบาบางทำให้เราทุกคนเหนื่อยกันง่ายมาก ตอนนี้เสียงที่ได้ยิน มีเพียงหัวใจที่ดังตึกๆ เหมือนกับจะกระโดดออกมาอยู่ข้างนอก เพราะไม่ใช่เพียงเส้นทางที่สูงชัน แต่เรายังต้องต่อสู้กับสภาพอากาศ ที่จะเย็นลงเรื่อยๆ บางจุดมีหมอกลงจนแทบมองทางไม่เห็น แต่ในบางจุดก็แดดส่องร้อนแรง ทั้งที่เวลาใกล้มืดเข้าไปทุกที

ระหว่างทางเจอเพื่อนร่วมทางมากหน้าหลายตาที่เดินสวนกลับลงมา ทั้งฝรั่ง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ต่างคนต่างทักทายด้วยภาษาประจำชาติ เป็นเหมือนมิตรภาพต่างเชื้อชาติ ที่แสดงความห่วงใยและให้กำลังใจกันและกันเป็นอย่างดี

ฉันยังคงเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ งานนี้เหนื่อยมากจนแทบพูดไม่ออก ยิ่งฉันไม่ค่อยได้ออกกำลังกายด้วยยิ่งแย่ใหญ่ แต่ว่าเมื่อเห็นบรรดาป้าๆ ชาวจีน เกาหลี แกยังล้งเล้งๆ บ่นไป เดินไปได้ ฉันก็ต้องทำให้ได้

เพื่อไม่ให้ระยะทางมาสร้างแรงกดดัน ฉันจึงต้องสร้างกำลังใจด้วยการสอดส่ายตาชื่นชมธรรมชาติสองข้างทาง ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง เพราะได้พบกับต้น “หม้อข้าวหม้อแกงลิง” ซึ่งใหญ่ยักษ์กว่าที่ฉันเคยเห็นมา และไกด์บอกว่าในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม อาจจะโชคดีได้เห็นบัวผุดด้วย แต่ฉันว่าเท่าที่ได้เห็นความเขียวขจีและอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณซึ่งมีอยู่หลากหลาย ก็ถือเป็นความโชคดีของฉันแล้วล่ะ

ด้วยความยากลำบาก ที่กว่าจะผจญขึ้นกันมาได้นี่เองกระมัง ที่ทำให้คินาบาลู ยังคงสภาพป่าธรรมชาติที่สมบูรณ์

หันไปดูภูดอยต่างๆในบ้านเรา ที่นับวันจะโดนจ้องทำร้ายจากพวกต้องการผลประโยชน์ คิดจะเบียดเบียนสร้างโน่นสร้างนี่ โดยอ้างถึงรายได้ส่วนรวมที่จะเพิ่มขึ้น ไร้ซึ่งความตระหนักว่าถ้าคนมากขึ้นธรรมชาติก็จะยิ่งน้อยลง

อะไรที่ได้มาง่าย ๆ แล้วจะทำให้รู้ค่าแห่งความภาคภูมิใจที่ได้พยายามฝ่าฟันนั้นได้อย่างไร

เหมือนอย่างฉันตอนนี้ ที่ในที่สุด ฉันก็สามารถดั้นด้นไปถึงที่พัก Laban Rata Resthouse ซึ่งตั้งอยู่บนระดับความสูง 3,272 เมตร ในระยะทางประมาณ 6 กม. ใช้เวลาเดินรวมเกือบ 8 ชม. (ในขณะที่คนอื่นอาจจะเดินแค่ 6-7 ชม.)

เส้นทางยังไม่ได้หยุดแค่นี้ เพราะยังเหลือ Low’s Peak รออยู่ข้างบน ซึ่งถือเป็นจุดที่สูงที่สุด คือ 4,095 เมตร ในระยะทางประมาณ 3 กม. ใช้เวลาไปกลับประมาณ 6 ชม. ซึ่งตรงนี้แหละที่ถือว่าเป็นด่านทดสอบสุดยอดแห่งความหฤโหด ถ้าใครไปถึงยอดนี้ได้ จึงจะถือว่าเป็นผู้พิชิตคินาบาลูที่แท้จริง

เพราะด้วยเส้นทางที่ยากลำบากยิ่งกว่าที่ผ่านมาหลายสิบเท่า โดยทางเดินเป็นหินล้วนๆ ทั้งมืด ทั้งลื่น ทั้งลมฝนและลมหนาวที่พัดแรง ที่สำคัญคือตลอดระยะทางที่ขึ้นไปนั้น ต้องไต่เชือกขึ้นไปอย่างเดียว บางช่วงชันถึง 60 องศา คือถ้าปล่อยมือจากเชือก ก็คือร่วง อย่างเดียว

เดากันหน่อย ว่าฉันไปถึงไหม…

แน่นอนหญิงกล้าท้าลุยอย่างฉัน...จอดตั้งแต่ 30 เมตรแรก เพราะอากาศที่หนาวถึง 0 องศาเซลเซียส และคาดว่าข้างบนอากาศจะติดลบแน่นอน แต่ทั้งเสื้อผ้า ถุงมือ ที่มีอยู่คงไม่สามารถช่วยต้านความหนาวได้ บวกกับสภาพที่โหมเดินหนักมาทั้งวัน ทำให้ฉันได้แต่ฝากกำลังใจไปกับคนอื่นๆ แทน

คนที่ไปถึง เล่าให้ฟังว่า ระหว่างที่ขึ้นไปนั้น รู้เลยว่า “นรก” เป็นอย่างไร แต่เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขานั้นได้ ก็รู้สึกเลยทันทีว่า “สวรรค์” เป็นอย่างไร

ฉันเอง...แม้จะยังเรียกว่าสามารถพิชิตคินาบาลูได้ไม่เต็มปากเต็มคำนัก แต่ก็ทำให้รู้ว่า ถ้าเราพยายามจริงๆ ในที่สุด เราก็ย่อมจะทำได้สำเร็จ อย่างครั้งนี้ที่สภาพร่างกายรับได้เต็มที่เท่านี้จริงๆ แต่หวังเอาไว้ ว่าจะกลับไปฟิตร่างกาย วิ่งขึ้นลงบันได 50 ขั้นวันละ 2 รอบ ล่วงหน้าก่อนสัก 3 เดือน

คราวนี้จะพยายามพิชิตไปให้ถึงยอดสูงสุดแห่งคินาบาลูให้ได้

...มีใครจะไปกับฉันไหม ???

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ยอดเขาคินาบาลู เป็นยอดเขาที่สูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความสูง 4,095 เมตร (ข้อมูลจากการท่องเที่ยวมาเลเซีย) ตั้งอยู่ที่เกาะบอร์เนียว รัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เนื่องจากความหลายหลายทางชีวภาพ มีดอกไม้หายาก เช่น หม้อข้าวหม้อแกงลิงสายพันธุ์ต่าง ๆ ดอกบัวผุด และสัตว์หายากนานาชนิด

การเดินทาง จากกรุงเทพฯมีหลายสายการบิน บินตรงเมืองโกตาคินาบาลู บาลู (เมืองหลวงของรัฐซาบาร์) สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ โทร 0-2263-2565-71,สายการบิน สิงค์โปร์แอร์ไลน์ โทร 0-2236-0440, สายการบินแอร์ เอเซีย โทร 0-2515-9999 ในราคาเริ่มต้นที่ 599 บาท (RM 59.99) ส่วนผู้ที่สนใจเดินทางท่องเที่ยวแบบแพ็คเกจทัวร์ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บริษัททัวร์ทั่วไป

อนึ่งเวลาในประเทศมาเลเซียเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง อัตราแลกเปลี่ยน 1 ริงกิตมาเลเซีย (RM) ประมาณ 10-11 บาท

 
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลเบื้องต้นเมืองโกตาคินาบาลู
สถานที่พักในเมืองโกตาคินาบาลู
การท่องเที่ยวมาเลเซีย
กำลังโหลดความคิดเห็น