xs
xsm
sm
md
lg

ยลโฉม“บูเช็คเทียน”ที่มรดกโลก“ถ้ำหินหลงเหมิน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : กระบี่พลิ้ว

ในประวัติศาสตร์หลายพันปีของแผ่นดินจีน มีวีรสตรีถือกำเนิดขึ้นมากมาย แต่ว่ากับสตรีที่เป็นฮ่องเต้นั้นแล้ว แดนมังกรมีเพียงหนึ่งเดียวคือ จักรพรรดิหญิง “อู่เจ๋อเทียน” หรือที่บ้านเรารู้จักกันดีในนาม “พระนางบูเช็กเทียน” พญาหงส์เหนือมังกรอันลือลั่น

สำหรับเรื่องราวชีวิตของบูเช็กเทียน (พ.ศ. 1168 –1249) ข้าพเจ้าถือว่าเพริศแพร้วยิ่งกว่านวนิยายเสียอีก โดยเฉพาะเส้นทางการขึ้นครองราชย์ของนาง

ที่ในหนังสือประวัติศาสตร์ “ถังซู(ใหม่)” ได้กล่าวเอาไว้ว่า บูเช็กเทียนหลังจากถูกเรียกตัวเข้าวังเป็นเยาวสนมเมื่ออายุได้ 14 ปีในตำแหน่ง “ไฉเหยิน” (เจ้าปัญญา) ของ พระเจ้าถังไท่จง(หลี่ซื่อหมิน) 
แห่ง ราชวงศ์ถัง ครั้นพระเจ้าถังไท่จงสวรรคต บูเช็กเทียนและนางสนมกลุ่มหนึ่งได้ถูกขับออกจากวังให้ไปบวชชีอยู่ที่ วัดก่านเย่ในกรุงฉางอาน(ปัจจุบันคือเมืองซีอาน) ซึ่งเป็นเมืองหลวงในยุคนั้น

โดยบูเช็กเทียนมีโอกาสกลับเข้าวังอีกครั้งเมื่อพระเจ้าถังเกาจงขึ้นครองราชย์ ในตำแหน่งเจาหยี(อันดับสอง) ซึ่งถือว่านี่คือจุดเริ่มต้นของเส้นทางการที่เต็มไปด้วยเลือด การสังหาร และเล่ห์กลอุบาย ในการขึ้นสู่บังลังก์เป็นฮ่องเต้หญิงหนึ่งเดียวในแดนมังกร ก่อนที่นางจะสถาปนาราชวงศ์โจวขึ้นแทนราชวงศ์ถัง ซึ่งบูเช็กเทียนได้สังหารทุกคนที่ขัดขวางเส้นทางแห่งอำนาจของนางอย่างเลือดเย็นและไตร่ตรอง

เรื่องนี้ "หลินยู่ถัง" (Lin Yutang : พ.ศ.2438-2519)นักประพันธ์ชื่อดังของจีน ได้เขียนไว้ในหนังสือ “ประวัติบูเช็กเทียน” ถึงสถิติการฆ่าคนอย่างมีแผนการของนางว่า พระนางบูเช็กเทียนได้ฆ่าลูกสาว ลูกชาย หลาน และเชื้อพระวงศ์ที่ใกล้ชิดรวม 23 องค์ ฆ่าองค์ชายในรางวงศ์ถังแซ่หลี่ 50 องค์ ฆ่าเสนาบดีและขุนผลฝีมือดี 36 คน รวมทั้งหมด 109 คน!!!

นี่ถือเป็นหนึ่งในเรื่องราวด้านมืดของบูเช็กเทียน

จากด้านมืดหันมาดูด้านสว่างของบูเช็กเทียนกันบ้าง

ที่นักประวัติศาสตร์จีนบางคนถือว่าบูเช็กเทียนเป็นวีรสตรีคนหนึ่ง ก็เพราะว่านางได้สร้างคุณความดีให้กับประเทศชาติมากมาย ซึ่งเรื่องที่โดดเด่นที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่องของการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยหนึ่งในรอยอดีตอันยิ่งใหญ่ของบูเช็กเทียนนั้นอยู่ที่ “วัดเฟิ่งเซียน” ที่ถือเป็นไฮไลท์และสัญลักษณ์สำคัญทางการท่องเที่ยวของ มรดกโลก“ถ้ำหินหลงเหมิน”หรือ “ถ้ำผาหลงเหมิน” ในเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน

ถ้ำหินหลงเหมิน ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์แหงความเลื่อมใสศรัทธาในศาสนาพุทธที่โดดเด่นไปด้วยศิลปะการแกะสลักหินอันยอดเยี่ยม โดยถ้ำแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นมาในราชวงศ์วุ่ย จากดำริของเซี่ยวเหวินตี้ฮ่องเต้(ครองราชย์ พ.ศ.1014-1042 นอกจากนี้เซี่ยวเหวินฮ่องเต้ยังเป็นผู้สร้าง วัดเส้าหลิน อีกด้วย) เพื่อทำนุบำรุงศาสนาพุทธโดยการให้ช่างแกะสลักพระพุทธรูปขึ้นที่หน้าผาแห่งนี้

หลังจากนั้นถ้ำหินหลงเหมินก็มีการแกะสลักยาวนานต่อเนื่อง ก่อนที่จะสิ้นสุดลงในราชวงศ์ถังรวมระยะเวลาได้ 400 กว่าปี มีระยะทางรวมประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีผาแกะสลักประมาณ 1,300 คูหา มีโพรงแท่นบูชา 2,345 ช่อง มีศิลาจารึกสลักอักษรจีนแลบันทึกต่างๆกว่า 3,600 หลัก มีเจดีย์พุทธแกะสลักกว่า 50 องค์ มีพระพุทธรูปองค์น้อยใหญ่แกะสลักกว่า 100,000 องค์

นอกจากจะมากมายด้วยพระพุทธรูปแกะสลักแล้ว ปัจจุบันถ้ำหินหลงเหมินถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งแห่งเมืองลั่วหยาง ซึ่งนอกจากจะมีรอยอดีตอันยิ่งใหญ่แล้ว ชัยภูมิของถ้ำแห่งนี้นับว่าเหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าถ้ำหินหลงเหมินมีแม่น้ำอีเหออันไหลผ่ากลาง แบ่งถ้ำหินหลงเหมินแห่งหุบเขาหลงเหมินเป็นฝั่งตะวันออกและตะวันตก

ทั้งสองฝั่งหันหน้าเข้าหากัน และมีพระพุทธรูปแกะสลักอยู่ทั่วไป มีสะพานเชื่อม 2 ฟากฝั่ง ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งในมุมถ่ายรูปยอดฮิตของนักท่องเที่ยวในมุมสะพานสะท้อนเงาแม่น้ำ และจากสะพานหากเดินไปเรื่อยๆก็จะได้พบกับศิลปะการแกะสลักหินที่น่าสนใจมากมาย โดยที่น่าสนใจก็มี

ถ้ำปิงหยัง ที่โดดเด่นไปด้วยศิลปะในยุคราชวงศ์วุ่ย (พ.ศ. 929-1055) ที่สะท้อนรสนิยมความงามของยุคนั้นออกมาคือพระพักตร์ของพระพุทธรูปจะมีหน้ารีเป็นรูปไข่ รูปร่างดูสูงเพรียว โดยที่ถ้ำแห่งนี้ได้แกะสลักรูปเซี่ยวเหวินตี้ฮ่องเต้และไทเฮากำลังประกอบพิธีทางศาสนาอยู่

ถ้ำกู่หยัง ถือเป็นถ้ำแรกที่สร้างขึ้น ภายในถ้ำมีงานแกะสลักที่เต็มไปด้วนรายละเอียด มีโพรงแท่นบูชาพระพุทธรูป 3 ชั้น มีรูปพระศากยมุนี รูปพระศรีอาริยเมตรไตรในอิริยาบถที่แตกต่างกันไป

อีกถ้ำหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยก็คือถ้ำพระพุทธรูปหมื่นองค์ ที่ภายในนอกจากจะมีองค์พระประธานแล้วยังมีรูปสลักพระพุทธรูปองค์เล็กขนาดนิ้วมือ ที่ว่ากันว่าเป็นพระพุทธรูปแกะสลักที่มีขนาดเล็กที่สุดแห่งถ้ำหินหลงเหมินอยู่ที่ผนังถ้ำจำนวนกว่า 15,000 องค์ ซึ่งมีความเชื่อว่าถ้ำนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวันมาฆบูชาที่มีพระอรหันต์มาชุมนุมกัน 1,250 รูป

จากพระพุทธรูปที่เล็กที่สุดไปดูพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดกันบ้าง ที่วัดเฟิ่งเซียน ที่ข้าพเจ้าได้เล่าไว้ในเบื้องต้นว่านี่คือรอยอดีตด้านสว่างอันยิ่งใหญ่ของพระนางบูเช็กเทียน เพราะนางได้สั่งให้ช่างสร้าง “พระพุทธรูปโรจนะ” ที่สูงใหญ่ที่สุดแห่งถ้ำหินหลงเหมินขึ้นมา โดยสูงถึง 17.4 เมตร มีพระเศียรสูงถึง 4 เมตร นับเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดของถ้ำหินหลงเหมิน โดยมีงานแกะสลักพระพุทธรูปและเทพเจ้าขนาดรองลงมายืนอยู่ที่ผนังถ้ำทั้ง 2 ด้าน ซึ่งงานแกะสลักที่วัดนี้ถือเป็นงานแกะสลักชุดสุดท้ายของถ้ำหินหลงเหมิน

สำหรับองค์พระพุทธรูปโรจนะนั้น ไม่เพียงแค่ใหญ่โตอย่างเดียวแต่ยังเป็นพระพุทธรูปที่งดงามสมบูรณ์ที่สุด มีด้วยพระวรกายที่อวบอัด มีพระพักตร์กลมดูอิ่มเอิบสมบูรณ์ ถือเป็นงานศิลปะที่สะท้อนถึงรสนิยมความงามของราชวงศ์ถังได้เป็นอย่างดี

ว่ากันว่าพระพักตร์ของพระพุทธรูปโรจนะองค์นี้ก็คือใบหน้าของบูเช็กเทียนนั่นเอง!!!เพราะว่านางเป็นคนสั่งให้ช่างสร้างขึ้นมา ซึ่งจะว่าไปแล้วก็คล้ายกับกรณีของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่สลักรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ไว้บริเวณยอดปรางก์ ปราสาทบายน  ซึ่งนักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าคือใบหน้าของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7

นอกจากนี้หากดูจากบันทึกทางประวัติศาสตร์ประกอบอาจเป็นไปได้ว่า บูเช็กเทียนนั้นต้องการให้ช่างแกะสลักตัวเองขึ้นมา เพราะเชื่อคำของพระภิกษุรูปหนึ่งที่กล่าวว่า นางคือพระอาริยเมตรไตรกลับชาติมาเกิด

เรื่องนี้จริง-เท็จอย่างไรคงต้องให้นักประวัติศาสตร์พิสูจน์กันต่อไป แต่ที่จริงแท้แน่นอนก็คือบูเช็กเทียนเป็นฮ่องเต้หญิงหนึ่งเดียวแห่งประวัติศาสตร์ชาติจีน ที่แม้ว่านางจะจากโลกไปร่วม 1,300 ปีแล้ว แต่ว่าเรื่องราวของนางยังคงอยู่ให้คนวิพากษ์วิจารณ์กันต่อไปว่า "บูเช็กเทียน" นางเป็นวีรสตรี หรือหญิงชั่วช้ากันแน่???

*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *
ถ้ำหินหลงเหมิน ตั้งอยู่ในเมืองลั่วหยาง แห่งมณฑลเหอหนาน โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางใต้ประมาณ 13 กม. สำหรับคนไทยการเที่ยวถ้ำหินหลงเหมินสามารถติดต่อได้ที่บริษัททัวร์ทั่วไป หรือหากจะไปเที่ยวเองเส้นทางที่สะดวกที่สุดคือ จากกรุงเทพฯเดินทางสู่เมืองซีอาน มณฑลส่านซี (มีสายการบินบางกอกแอร์เวยส์เปิดบินตรง กรุงเทพฯ-ซีอาน  สอบถามได้ที่ 1771) และจากซีอานเดินทางสู่เมืองลั่วหยาง จากนั้นนั่งรถประจำทางสาย 81,53,60 จากตัวเมืองสู่ถ้ำผาหลงเหมิน เสียค่าเข้าชมคนละ 60 หยวน(1 หยวนประมาณ 5 บาท) เปิดทุกวัน 7.30-18.30 น. ส่วนหน้าหนาวเปิด 7.30-17.30 น.

นอกจากถ้ำหินหลงเหมินแล้ว ลั่วหยางยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวกับยอดคนอันโด่งดังก็คือ กวนลิ้ม หรือ สุสานกวนอู ที่ปัจจุบันถือกวนอูแห่งยุค 3 ก๊ก เป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์แห่งแดนมังกร โดยกวนลิ้มเมืองลั่วหยางเป็นที่ฝังศีรษะกวนอู นับเป็นสุสานกวนอูเลื่องชื่อ 1 ใน 3 ของเมืองจีน

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
บูเช็คเทียน ฮ่องเต้อิสตรีองค์เดียวของจีน 
ถ้ำผาหลงเหมิน ที่ลั่วหยัง
 
กำลังโหลดความคิดเห็น