ช่วงนี้อากาศร้อนยังไม่คลายไปจากบ้านเราสักเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าหลายคนคงจะชุ่มชื่นชุ่มฉ่ำกับเทศกาลสงกรานต์ที่ทั่วประเทศต่างพร้อมใจจัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์”ในกทม. งาน“ประเพณีปี๋ใหม่เมือง” จ.เชียงใหม่ หรืองานสงกรานต์ในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ
แต่กระนั้นก็ใช่ว่าพองานสงกรานต์ตามประเพณีในวันที่ 13-15 เม.ย. จบสิ้น ประเพณีงานสงกรานต์ก็สิ้นสุดตาม เพราะยังมีอีกหลายพื้นที่ ที่มีการจัดประเพณีสงกรานต์ขึ้นหลังวันที่ 13-15 เม.ย.
สำหรับงานสงกรานต์หลังประเพณีสงกรานต์ที่เด่นๆ ในเมืองไทยก็มี สงกรานต์พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ สงกรานต์วันไหลในจังหวัดชลบุรี ซึ่งแต่ละที่ต่างก็มีความน่าสนใจแตกต่างกันออกไป
สนุกสนานกับวันไหลที่ชลบุรี
จังหวัดชลบุรีได้จัดงานวันไหลและส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณชายหาดบางแสน อ.เมือง ชายหาดพัทยา อ.บางละมุง เกาะลอย และ เกาะสีชัง อ.ศรีราชา ขึ้นในช่วงหลังวันสงกรานต์ตามประเพณี(13-15 เม.ย.) ของทุกปี ในเทศกาลวันไหลจะมีการจัดกิจกรรมหลายอย่าง อาทิ การทำบุญใส่บาตร การสรงน้ำพระพุทธรูป การเล่นสาดน้ำสงกรานต์ การก่อพระเจดีย์ทราย การแข่งขันกีฬาพื้นเมือง การแข่งขันด้านอาชีพ ฯลฯ
นอกจากนี้งานสงกรานต์วันไหลบางที่ หากมีสุภาพสตรีคนใดที่มาร่วมงานด้วยการแต่งกายแบบไทยก็จะมีแมวมองส่งเข้าประกวดขวัญใจงานวันไหล โดยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งสามารถสร้างความสนใจในหมู่ชาวไทย และชาวต่างประเทศได้อย่างดียิ่ง
หลายคนอาจสงสัยว่าวันไหลคืออะไร ???
“วันไหล” ก็คือวันทำบุญขึ้นปีใหม่ของชาวทะเล โดยกำหนดหลังวันมหาสงกรานต์ประมาณ 5-6 วัน เดิมเรียกว่า ประเพณีก่อพระทรายน้ำไหล วัดใดอยู่ใกล้แม่น้ำ ห้วย หนอง คลอง บึงในบริเวณนั้น ก็จะจัดประเพณีขึ้นโดยชาวบ้านจะช่วยกันชนทรายตามชายหาดใกล้ ๆ เข้าวัด ทำให้วัดนั้น ๆ ได้รับประโยชน์ในการใช้ทรายก่อสร้างเสนาสนะและปูชนียสถานในวัด หรือถมบริเวณวัด
จึงอาจกล่าวได้ว่านก่อพระทรายน้ำไหลและเป็นวันที่ชาวบ้านขนทรายมาเข้าวัด เพื่อก่อเป็นรูปกรวยเล็ก ๆ เพื่อให้ครบ 84,000 กอง เท่ากับจำนวนพระธรรมขันธ์ เจดีย์ทรายตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงประดับด้วยดอกไม้ และธงต่าง ๆ เพื่อเป็นพุทธบูชา
นอกจากนี้ยังมีการละเล่นพื้นเมืองเพื่อความสามัคคีและสนุกสนานรื่นเริง มีการทอดผ้าป่า ทำบุญเลี้ยงพระเนื่องในเทศกาลตรุษไทย และจัดเลี้ยงผู้คนที่มาร่วมงานด้วย
สำหรับงานวันไหลในจังหวัดชลบุรีที่เด่นๆนั้นก็มี “ประเพณีก่อพระทรายวันไหลบางแสน” 16-17 เม.ย. ณ ชายหาดบางแสน อ.เมือง ที่เป็นงานประเพณีที่ชาวตำบลแสนสุขได้ถือปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยโบราณ เดิมเรียกว่า “งานทำบุญวันไหล” ซึ่งเกิดจากประชาชนในหมู่บ้านต่างๆ มาทำบุญร่วมกันเนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ โดยการนิมนต์พระทุกวัดที่อยู่ในเขต ต.แสนสุขมาประกอบพิธีสงฆ์ มีการทำบุญ ตักบาตร
หลังจากนั้นก็เป็นกิจกรรมก่อพระเจดีย์ทราย เล่นสาดน้ำ การละเล่นและกีฬาพื้นบ้าน พิธีรดน้ำดำหัว การเล่นสาดน้ำสงกรานต์ การจัดทำพิธีกองข้าว ขบวนแห่สรงน้ำพระ โดยใน พ.ศ. 2540 ได้เปลี่ยนชื่องานเป็น “งานก่อพระทรายวันไหลบางแสน”
“ประเพณีวันไหลพัทยา” 18-19 เม.ย. ณ ชายหาดพัทยา วัดชัยมงคล เมืองพัทยา อ.บางละมุง งานนี้มีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การประกวดก่อพระทราย สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัว ขบวนแห่ประเพณีสงกรานต์ การประกวดนางสงกรานต์นานาชาติ งานมหรสพรื่นเริงต่างๆ รวมถึงบรรยากาศการสาดน้ำริมชายหาดที่สนุกสนาน
“ประเพณีสงกรานต์ศรีมหาราชาและประเพณีกองข้าว” 19-21 เม.ย. ณ สวนสาธารณะ เกาะลอย อ.ศรีราชา สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจในงานก็มี การจัดพิธีกรรมบวงสรวงกองข้าว การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดง แสง สี เสียง การละเล่นพื้นบ้าน การสาธิตและจำหน่ายขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง การประกวดก่อพระทราย การประกวดเทพีสงกรานต์ และการเล่นสาดน้ำสงกรานต์
ส่วนงานวันไหลที่เกาะสีชัง อ.ศรีราชา ที่ปีนี้จัดขึ้นในวันที่ 17-19 เม.ย. ก็นับเป็นอีกหนึ่งงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะมีสภาพเป็นเกาะ จึงมีลักษณะเฉพาะของประเพณีนี้คือ การอุ้มสาวลงน้ำ หรือ การจูงมือลงทะเลที่บริเวณเกาะขามใหญ่ซึ่งอยู่ตอนเหนือของเกาะสีชัง กิจกรรมนี้เป็นที่สนุกสนานของชาวเกาะสีชังมากและจะเรียกวันนี้ว่า วันไหล
และในช่วงวันสุดท้ายบริเวณตอนบ่ายจะมีการก่อพระทรายเป็นรูปคน 2 คน ชื่อไอ้เมฆและได้หมอก ซึ่งมีตำนานเล่าว่าได้มีชาวบ้านพบศพชาย 2 คนลอยมาติดเกาะบริเวณท่าวังใกล้ๆกับศาลศรีชโลธรเทพทั้งที่ในอดีตไม่เคยปรากฏเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน จึงคิดว่าการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อาจนำภัยพิบัติมาให้ จึงได้มีการแก้เคล็ดโดยการนำคนเฒ่าคนแก่มาทำการเสี่ยงทายที่ตุ๊กตา ไอ้เมฆและได้หมอก เพื่อขอให้ฝนในโลกมนุษย์ตก 100 ห่าและให้ตกในทะเล 50 ห่าเพราะเห็นว่าแล้งมาก
นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงอาหารให้ผีกินโดยการเซ่นไหว้ จากนั้นให้ผีป่าลงมากินของที่เซ่นไหว้แล้วไล่ผีน้ำลงทะเล ซึ่งเปรียบเสมือนการไล่สิ่งที่ไม่ดีออกจากเกาะ เสร็จแล้วจะมีการทำพิธีประทับทรง ณ ศาลศรีชโลธรเทพเพื่อถามไถ่ถึงความเป็นอยู่ทั่วไปในปีนั้นๆของชาวเกาะและเรื่องอื่นๆตามแต่เจ้าที่มาประทับทรงในครั้งนั้นจะบอก
และเมื่อเสร็จพิธีเมฆหมอกและก็จะมีกิจกรรม กองข้าว ขึ้นที่บริเวณชายหาดท่าวัง โดยประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวที่มาร่วมพิธีต่างก็จะนำอาหารของแต่ละคนมาร่วมกันรับประทานด้วยกันและร่วมร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนานบริเวณชายหาด
สำหรับผู้ที่สนใจในงานสงกรานต์วันไหลแห่งจังหวัดชลบุรี ก็สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท. ภาคกลาง เขต 3 โทร. 0-3842-7667, 0-3842-8750
เริงร่ากับสงกรานต์พระประแดง
เมื่อใกล้จะถึงวันสงกรานต์ ชาวบ้านโดยทั่วไปเฉพาะชาวรามัญ-ไทย แต่ละครอบครัวต่างก็จะช่วยกันทำความสะอาดบ้านเรือนของตน และก่อนวันสงกรานต์ 2-3 วัน แต่ละบ้านก็ช่วยกันกวนขนมที่เรียกว่า “กาละแม” บางบ้านก็ทำขนมข้าวเหนียวแดง เพื่อจะได้นำไปทำบุญในวันสงกรานต์พระประแดง งานสงกรานต์ที่จัดขึ้นช่วงหลังวันสงกรานต์ตามประเพณี(13-15 เม.ย.) อันโด่งดัง
หากไปตามหมู่บ้านชาวไทยรามัญ จะเห็นศาลเพียงตาปลูกเตรียมไว้ (อนึ่งชื่อหมู่บ้านในพระประแดงโดยเฉพาะในเขตเทศบาล และใกล้เคียงมีชื่อเป็นภาษารามัญ ตามชื่อหมู่บ้านในประเทศรามัญ เพราะรามัญที่อพยพมาเมื่อครั้งกรุงธนบุรีและกรุงเทพฯ ได้มาอยู่ ณ เมืองนี้ ตามที่กล่าวไว้ในประวัติศาสตร์) หากบ้านใดหุงข้าวสงกรานต์ หรือข้าวแช่ ก็จะเชิญสาว ๆ ในหมู่บ้านมาช่วยกันหุงต้มอาหารเพื่อการทำบุญ คือในเวลาเช้าสาวที่รับเชิญจะนำอาหาร และข้าวสงกรานต์นั้นไปส่งตามวัดต่างๆ เช่น วัดทรงธรรม วัดคันลัด วัดจวน วัดกลางนา วัดแค วัดโมกข์ เป็นต้น
เมื่อขากลับจะมีการพรมน้ำรดกัน เพื่อความสวัสดีสิริมงคล แต่เป็นการรดน้ำอย่างมีวัฒนธรรมมิใช่สาดน้ำ เมื่อสาวกลับถึงบ้านเจ้าบ้านที่จัดทำข้าวสงกรานต์ก็จะเลี้ยงดูสาว ๆ และญาติมิตรสหายเป็นการรื่นเริงและไมตรีจิตต่อกัน
ส่วนศาลเพียงตานั้น เจ้าบ้านจะนำอาหารใส่กระทงตั้งไว้บนศาลพร้อมด้วยข้าวแช่ เป็นการสักการะพระพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงตามประเพณีการส่งข้าวสงกรานต์นั้น จะทำได้ 3 วัน คือวันที่ 13 – 14 –15 เมษายน นอกจากส่งข้าวสงกรานต์แล้ว ตามวัดต่าง ๆ มีผู้ไปทำบุญกันอย่างมาก-มาย ในเวลากลางคืนมีบ่อนสะบ้าตามหมู่บ้านเป็นที่สนุกสนานยิ่งนัก บางบ่อนมีถึง 7 วัน ทั้งนี้ มิใช่เป็นการพนันเอาทรัพย์สินอย่างใด เป็นการละเล่นอย่างหนึ่งตามพื้นเมือง ตามบ่อนสะบ้ามีผู้ชมมากมายและแต่ละคนต่างก็รักษามารยาทและวัฒนธรรม
ในระหว่างสงกรานต์มีการแห่ปลาปล่อยนก ซึ่งเป็นที่เลื่องลือกัน การแห่ปลาปล่อยนกนั้นเดิมแต่ละหมู่บ้านหรือสองสามหมู่บ้านร่วมกันจัดงานเอง โดยช่วยกันเชื้อเชิญสาว ๆ ต่างหมู่บ้านมาร่วมขบวนแห่ แต่ก่อนมีการแห่กันหลายหมู่บ้านในระหว่างสงกรานต์ เช่นที่หมู่บ้านตา บ้านทรงคะนอง และบ้านแซ่ ต่อมาเศรษฐกิจของประชาชนต่ำลง ทางราชการได้เข้าช่วยเหลือประเพณีนี้ โดยให้ความร่วมมือจัดงานร่วมกับประชาชน แต่มีการแห่เพียงครั้งเดียวในปีหนึ่ง ในระหว่างสงกรานต์ ซึ่งแล้วแต่กรรมการจัดงานจะกำหนดวัน เวลา และสถานที่จัดงาน เช่นบางปีจัดที่โรงเรียนมัธยมวัดทรงธรรม บางปีจัดที่ที่ว่าการอำเภอ แล้วแต่กรรมการจะได้กำหนดการขึ้นโดยร่วมมือกันทุกฝ่าย
การแห่นั้นจะมีสาวๆ จากหมู่บ้านต่างๆ ที่รับเชิญมาร่วมงานเดินขบวนแห่แหนไปตามถนนต่างๆ ในเขตเทศบาล ในมือถือโหลปลาหรือไม่ก็กรงนกที่มีนก เมื่อถึงที่กำหนดปล่อยปลาและนก สาว ๆ เหล่านั้นก็ปล่อยไป เป็นการสะเดาะเคราะห์และแสดงเมตตาจิตต่อสัตว์ทั้งปวง (เพราะในสมัยโบราณปลาเหล่านี้พอถึงฤดูแล้งจะค้างอยู่ตามบึงตามหนองน้ำ ที่น้ำแห้งขอดชาวบ้านจะเก็บมาขังรวมไว้แล้วนำไปปล่อยตามวัดที่มีบ่อน้ำ จึงกลายต่อมาภายหลังเป็นการปล่อยอย่างมีระเบียบและสนุกสนานพร้อมทั้งได้กุศลด้วย
นอกจากนี้ก็ยังมีขบวนแห่หงส์ ธงตะขาบที่เป็นขบวนแห่งอันเป็นเอกลักษณ์ของสงกรานต์พระประแดง
สำหรับผู้ที่สนใจในงานสงกรานต์พระประแดง ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 เมษายน 2548 สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ เทศบาลเมืองพระประแดง โทร. 0-2463-4841 ต่อ 129, 130 หรือที่ ททท. ภาคกลาง เขต 3 โทร. 0-3842-7667, 0-3842-8750