หากพูดถึง“บะหมี่” หลายๆ คนคงนึกถึงหน้าตาของบะหมี่เส้นเหลืองๆ ยาวๆ แต่ถ้าเอ่ยถึงบะหมี่ “ไลท์หมิ่น” หลายๆคนอาจจะนึกไม่ออกว่าหน้าตาและรสชาติเป็นอย่างไร
ตอนแรก “ผู้จัดการตระเวนกิน” ก็ยังไม่รู้หรอกว่าบะหมี่ไลท์หมิ่นเป็นอย่างไร จนกระทั่งได้ไปมาตระเวนกินที่ โรงแรม แกรนด์ ไชน่า ปริ๊นเซส ก็ถึงได้รู้คำตอบ
“กำชัย จิตรมณีมงคล” เชฟมือหนึ่งในการทำบะหมี่ไลท์หมิ่นของภัตตาคารจีนเซียง ปิง เหลา รร.แกรนด์ ไชน่า ปริ๊นเซส บอกว่า "ไลท์หมิ่น” เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง หมายถึง การทำบะหมี่ด้วยมือ ซึ่งบะหมี่ไลท์หมิ่นนี้เป็นการทำบะหมี่ตามแบบฉบับของชาวจีนเซี่ยงไฮ้ ดังนั้นเรียกอีกชื่อว่าได้ว่าบะหมี่เซี่ยงไฮ้
เชฟกำชัย บอกว่าการทำบะหมี่ไลท์หมิ่นไม่ยุ่งยากอะไร แต่ต้องอาศัยการฝึกฝนฝีมือเป็นเวลานานกว่าจะทำออกมาได้ การทำบะหมี่เริ่มจากการนำแป้งสาลีมาร่อน จากนั้นนำมาผสมกับไข่ไก่ และน้ำ นวดให้เข้ากันจนเนียนแต่ไม่ต้องนิ่มมาก แล้วหมักทิ้งไว้ให้แป้งขึ้นตัวประมาณ 1 วัน (โดยไม่ต้องใส่ยีส หรือสารกันบูด) พอแป้งขึ้นตัวได้ที่ ก็นำมานวด ดึงสะบัด และตีก็จะได้เป็นเส้นบะหมี่ไลท์หมิ่นสดๆ ออกมา ลักษณะเส้นสดๆ สีเหลืองเหนียวนุ่ม เส้นจะใหญ่ออกกลมยาว คล้ายๆ กับเส้นโซบะของญี่ปุ่น
บะหมี่ไลท์หมิ่นที่ทำออกมาสดๆ แล้วนั้นก็นำมาปรุงเป็นเมนูบะหมี่ ที่เชฟแนะนำเมนูเด็ดก็มี ไลท์หมิ่นผัดแห้งทะเล (200 บาท++) เป็นการนำเอาบะหมี่ไลท์หมิ่นที่ลวกจนสุกแล้วมาผัดกับกุ้งขาว หอยเชลล์ ปลาหมึก และเห็ดหอม ผัดให้เข้ากันจนหอม ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ้วดำและน้ำตาลทราย ใส่กุยช่ายขาวลงไปผัดให้เข้ากันอีกที จนได้บะหมี่แห้งเส้นเหนียวนุ่มละมุนลิ้น เส้นไม่แฉะ ไม่เละ รสชาติกลมกล่อมลงตัวหม่ำโดยไม่ต้องปรุงรสเพิ่ม
อีกหนึ่งเมนูแนะนำสำหรับคนชอบซดน้ำซุปร้อนๆ เป็น ไลท์หมิ่นน้ำใสหมู (200 บาท++) กลิ่นหอมชวนหม่ำ หอมน้ำซุปที่ทำมาจากกระดูกหมูปรุงรสสูตรพิเศษของเชฟ และก็หอมเส้นบะหมี่ไลท์หมิ่นด้วย คีบเส้นบะหมี่ส่งเข้าปาก รับรู้ได้ถึงความนุ่มนิ่มของเส้น เรียกว่าไม่ต้องเคี้ยวก็ไหลลื่นลงคอ เนื้อหมูที่ใส่มาก็หวานนุ่มได้รสชาติ ซดน้ำซุปร้อนๆ ตามได้รสชาติหวานกลมกล่อมคล่องคอ หอมกลิ่นเห็ดหอมอ่อนๆ ด้วย
นี่ถือว่าเป็น 2 เมนูเด่นๆ ของบะหมี่ไลท์หมิ่นที่เชฟแนะนำว่าต้องสั่งมาหม่ำให้ได้ ส่วนถ้าใครคิดว่าหม่ำแค่บะหมี่แล้วจะไม่อิ่มท้อง ไม่ต้องห่วงเพราะที่ "ภัตตาคารจีนเซียง ปิง เหลา" นี้ยังมีเมนูอาหารจีนหลากหลายสไตล์ไว้ให้เลือกสั่งมาหม่ำได้อีกเพียบ อาทิ ปลาหิมะนึ่งหนำเลี้ยบ (คิดตามน้ำหนักปลา ขีดละ 160 บาท++) ที่เด่นตรงเนื้อปลาหิมะเนื้อแน่นสดหวาน ได้ความหอมของเครื่องหนำเลี้ยบที่ราดมาบนตัวปลา รสชาติออกเค็มๆ หวานๆ
ซี่โครงแกะพริกไทยดำ (ชิ้นละ 200 บาท++) เมนูนี้ฉีกแนวจากอาหารจีนสักหน่อย แต่เป็นเมนูเด็ดที่ลูกค้าติดใจกันมาก เด็ดตรงที่ซี่โครงแกะติดเนื้อ เนื้อแกะเคี้ยวนุ่ม ไม่เหนียว ไม่สาป ได้รสชาติเผ็ดลิ้นเข้มข้นน้ำซอสพริกไทยดำ
นอกจากนี้ก็มีเมนูอื่นๆ อีก อาทิ เป็ดปักกิ่ง (750 บาท++) กุ้งทอดครีมสลัด (300 บาท++, 500 บาท++, 600 บาท++) ซีฟู้ดกระโดดกำแพง (1,200 บาท++) และบะหมี่เซียงปิงผัดซอสเอ็กซ์โอ (150 บาท++, 300 บาท++, 500 บาท++) ที่กล่าวมานี้ถือว่าเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวหนึ่งของเมนูอาหารจีนของที่นี่
เอาเป็นว่าถ้าใครอยากรู้ว่ายังมีเมนูอาหารจีนอะไรที่น่าหม่ำอีก รวมทั้งบะหมี่ไลท์หมิ่นรสเลิศที่บอกกล่าวกันไปนั้น เป็นอย่างไร และรสชาติจะเลิศรสอย่างที่กล่าวอ้างไว้หรือไม่นั้น เห็นทีว่ามิตรรักแฟนกินทั้งหลายคงต้องมาพิสูจน์ให้เห็นกับตาและมาลิ้มรสให้รู้กับปากของตัวเองกันเสียแล้วละ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
เทศกาล “บะหมี่ไลท์หมิ่น” จัดขึ้นภายในเดือนเม.ย.นี้เท่านั้น ไปลิ้มลองรสชาติบะหมี่ไลท์หมิ่นกันได้ทุกวัน และทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เชฟจะโชว์การทำบะหมี่ไลท์หมิ่นให้ได้ดูกัน ตามไปชิมและชมได้ที่ “ภัตตาคารจีน เซียง ปิง เหลา” ตั้งอยู่ที่ ชั้น 8 โรงแรมแกรนด์ ไชน่า ปริ๊นเซส 215 ถ. เยาวราช (สี่แยกราชวงศ์-เยาวราช) สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-14.30 น. และ 18.00-22.30 น. โทร. 0-2224-9977 ต่อ 338, 352, 303