xs
xsm
sm
md
lg

“เกาะลันตา”ไข่มุกซุกซ่อนแห่งทะเลกระบี่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลังเหตุการณ์สึนามิ “เกาะพีพี”เกาะที่ในอดีตได้ชื่อว่า“เกาะสวรรค์”แห่งท้องทะเลกระบี่ได้รับความเสียหายในระดับที่ต้องพักฟื้น

หากไม่นับความสูญเสียที่ถึงชีวิตที่เกาะพีพีแล้ว หลายๆคนอนุโมทนาสาธุต่อเหตุการณ์สึนามิ พร้อมเสนอให้ภาครัฐเร่งจัดระเบียบเกาะพีพีเสียใหม่ ด้วยเหตุนี้เกาะพีพีจึงต้องอยู่ในสภาพฟื้นฟูไปจนกว่าจะเข้าที่เข้าทาง ซึ่ง “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ก็ได้แต่หวังว่าเกาะพีพีโฉมใหม่คงจะงดงามเหมือนดังเกาะสวรรค์ดังเช่นในอดีต

เมื่อเกาะพีพียังเที่ยวไม่ได้ ทางจังหวัดกระบี่ก็ชูหมู่เกาะลันตาขึ้นมาเป็นไฮไลท์ใหม่แห่งทะเลกระบี่ ซึ่งจากเหตุการณ์สึนามิ หมู่เกาะลันตาเสียหายเพียงเล็กน้อยทำให้สามารถฟื้นฟูได้ในเวลาอันรวดเร็ว

เกาะลันตา ชื่อนี้ไม่ใช่มีดีแค่ธรรมชาติ น้ำทะเล หาดทราย สายลม และเกลียวคลื่นอันน่ารื่นรมย์ แต่ว่าที่เกาะลันตายังมีประวัติความเป็นมาหลายร้อยปี โดยชุมชนกลุ่มแรกที่อยู่อาศัยอยู่ที่เกาะลันตาก็คือชุมชนชาวเล(อูรักลาโว้ย) ที่ปัจจุบันชาวเลที่นี่มีวิถีชีวิตเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่ว่าก็ยังคงไว้ด้วยวิถีชีวิตชาวเลที่เรียบง่าย ผู้ชายออกหาปลา ผู้หญิงทำงานบ้าน โดยส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ที่บ้านหัวแหลม และบ้านชาวเลสังกาอู้

ส่วนชุมชนรุ่นที่ 2 คือชุมชนชาวจีนที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาตั้งรกรากอยู่ที่เกาะลันตา โดยเริ่มตั้งเป็นหมู่บ้านเมื่อ พ.ศ. 2444 ซึ่งหลังจากนั้นหมู่บ้านแห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งทะเลไทยฝั่งอันดามัน(เชื่อมกันตัง-ลันตา-ภูเก็ต)

ซึ่งรอยของอดีตสมัยเมืองท่ายังคงมีให้เห็นทางด้านตะวันออกของเกาะที่หมู่บ้านเก่าในเขตเทศบาลเกาะลันตา ที่เป็นชุมชนริมชายทะเลอันเงียบสงบ มีบ้านไม้เก่าแก่หลังใหญ่หลังคาจั่วอายุเกือบ 100 ปี ปลูกสร้างอยู่เรียงราย ผสมผสานไปกับวิถีชีวิตชาวบ้านที่อยู่อาศัยกันอย่างเรียบง่าย ส่วนมากจะทำมาค้าขายและทำประมง โดยมี“ศาลเจ้าสามต่องอ๋อง” และ “ศาลกรมหลวงชุมพรฯ”เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ส่วนใครที่ไปเที่ยวหมู่บ้านลันตาแล้วเกิดหิวขึ้นมา ที่หมู่บ้านนี้ก็มีร้านอาหารที่ดัดแปลงมาจากบ้านเก่าตั้งอยู่ริมทะเลในบรรยากาศที่ชวนนั่งรับลมชมวิว กินอาหารเคล้าเครื่องดื่มเย็นๆอยู่หลายร้านให้เลือกนั่งกันตามความชอบใจ

จากมนต์เสน่ห์แห่งความเก่าและความเรียบง่ายที่หมู่บ้านดั้งเดิม “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ขอสลับฉากมาที่ท้องทะเลหมู่เกาะลันตาบ้าง หมู่เกาะแห่งนี้มีเกาะที่เป็นไฮไลท์คือเกาะลันตาใหญ่ ซึ่งในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา เกาะลันตาถือว่าเป็นเกาะที่มาแรงมากด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มแบ็คแพ็คเกอร์ เพราะว่าเกาะแห่งนี้มีท้องทะเลและหาดทรายที่สวยงามอันน่าลงแหวกว่ายเล่นน้ำ หรือนอนอาบแดดบนหาดทรายรวมถึงเดินทอดหุ่ยเอาเท้าสัมผัสกับพื้นทรายนุ่มๆ อยู่หลายหาด

สำหรับหาดที่โดดเด่นก็มี “หาดคลองดาว” หาดนี้ยาวประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นหาดที่มีโค้งเว้าสวยงาม และไม่ลาดชันสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างสะดวกโยธิน ยามน้ำลดจะเห็นหาดทรายกว้างไกลทอดยาวสู่ท้องทะเลที่มีคลื่นลมขับเห่ช่วยสร้างสีสัน ผสมผสานกับสีสันของนักท่องเที่ยวที่มาแต่งแต้มบรรยากาศของหาดคลองดาวให้มีชีวิตชีวา ซึ่งมีทั้งพวกที่ลงเล่นน้ำ นอนอาบแดด นั่งเล่น เดินเล่นตามชายหาด ส่วนบางคนก็ทำกิ๊บเก๋ด้วยการตีกอล์ฟริมชายหาดท่ามกลางบรรยากาศสายลม สายน้ำและเกลียวคลื่น นับเป็นไอเดียที่เข้าท่าไม่น้อย

ส่วนใครที่ชอบชมอาทิตย์ลับฟ้าตกทะเลป๋อมแป๋ม ที่หาดคลองดาวนี่แหละจุดชมอาทิตย์อัสดงชั้นดี ส่วนใครที่อยากชมอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ ต้องไปที่จุดวิวพอยท์ ซึ่งหากไปตรงกับวันฟ้าใสและเป็นใจให้นักถ่ายภาพก็จะเห็นดวงอาทิตย์ลูกกลมแดงค่อยๆเคลื่อนดวงโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาโดยมีฉากหน้าเป็นผืนป่าและท้องทะเลเกาะลันตา

ส่วนคนที่ไม่ชอบตื่นเช้า แต่ชอบทำตัวเป็นผีเสื้อราตรี ที่หาดคลองดาวยามค่ำคืนก็คึกคักไม่น้อย(คึกคักกว่าหาดอื่นๆ) เนื่องจากว่าหาดนี้อยู่ไม่ไกลจากท่าเรือศาลาด่าน และเป็นหาดที่มีที่พักอยู่จำนวนมาก และในหลายราคา

สำหรับคนที่อยากหาที่พักในราคาประหยัด ให้ลองไปพักที่ “หาดคลองโขง” ซึ่งเป็นหาดที่ค่อนข้างสงบ ท่ามกลางบรรยากาศของทิวมะพร้าวและแนวสน โดยที่หาดนี้มีห้องพักราคากันเองประมาณ 200-500 บาท ให้เลือกพักอยู่หลายหลัง แต่ก็อย่างว่างานนี้ใครตาดีได้ ตาร้ายอด

อีกหาดหนึ่งที่กำลังมาแรง แห่งเกาะลันตานั้นก็คือ “หาดพระแอะ” หรือที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเรียกกันว่า “Long Beach” เนื่องจากว่าเป็นแนวหาดที่ดูยาวต่อเนื่องประมาณ 2-3 กิโลเมตร สำหรับหาดพระแอะนี้มีหาดทรายที่สามารถลงเล่นน้ำได้ในบางจุด และที่พักในหลายราคาให้เลือกพัก

นอกเหนือจากหาดเด่นๆที่ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” กล่าวมาแล้ว เกาะลันตายังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกอย่างเช่น หาดคอกวาง หาดคลองนิน หาดบากันเตียง แหลมโตนด(เป็นที่ตั้งอุทยานฯหมู่เกาะลันตา) อ่าวไม้ไผ่ โดยแต่ละหาดต่างก็มีลักษณะเด่นแตกต่างกันไป ซึ่งหากใครไปเที่ยวเกาะลันตาในช่วงนี้นอกจากจะได้ที่พักหรือแพ็กเกจทัวร์ที่ราคาถูกกว่าปกติแล้ว ยังได้บรรยากาศของความสงบ และสะอาดของชายหาดและท้องทะเลเนื่องจากนักท่องเที่ยวยังคงมีปริมาณน้อยอยู่หากเทียบกับช่วงก่อนสึนามิ

เรื่องของดีทางด้านการท่องเที่ยวที่เกาะลันตายังไม่หมดแค่นี้ เพราะที่เกาะนี้ยังมีเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งตรงที่เป็นดังศูนย์กลางของการเดินทางไปเที่ยวยังเกาะใกล้เคียงแบบไปเช้า-เย็นกลับ โดยทริปที่เด่นๆก็มีไปเที่ยวเกาะพีพี และทริปไปแหวกว่ายน้ำทะเลหรือไปดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น(Snorkeling) ที่เกาะไหง เกาะรอก ซึ่งน้ำทะเลช่วงหลังสึนามินี้ใสมากๆ เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำเป็นอย่างยิ่ง

และด้วยองค์ประกอบทางด้านการท่องเที่ยวที่ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” เล่ามาเป็นแค่น้ำจิ้มของเกาะลันตาเท่านั้น เพราะเสน่ห์ของเกาะลันตานั้นยังมีอีกมากที่รอให้คนไปสัมผัส และด้วยความที่มีดีหลายอย่างทางจังหวัดกระบี่ อำเภอเกาะลันตา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ก็ได้ชูไข่มุกที่ถูกซุกซ่อนนามว่า“เกาะลันตา”ให้เป็นไข่มุกที่เจิดจรัสแสงด้านการท่องเที่ยวแห่งใหม่ในท้องทะเลกระบี่

ซึ่งจะว่าไปแล้วเกาะลันตาในวันนี้ยังคงเป็นเกาะที่ค่อนข้างสงบหากเทียบกับเกาะท่องเที่ยวที่มีลักษณะเป็นชุมชนใหญ่คล้ายๆกัน ไม่ว่า เกาะสมุย เกาะช้าง เกาะเสม็ด แน่นอนว่าเกาะลันตาสงบกว่า แต่ก็อย่างว่าถ้าหากการท่องเที่ยวที่เกาะลันตาเติบโตแบบไร้ทิศไร้ทางไร้การควบคุม “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ก็ไม่รู้ว่าเสน่ห์ต่างๆแห่งเกาะลันตาจะถูกคลื่นลมของธุรกิจท่องเที่ยวพัดพาไปในทิศทางใด ???

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

หมู่เกาะลันตาประกอบด้วย เกาะน้อย-ใหญ่ 53 เกาะ มีเกาะลันตาใหญ่เป็นศูนย์กลาง ขึ้นอยู่ในเขตการปกครองของอำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ โดยมีพื้นที่ส่วนหนึ่งถูกกันเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

สำหรับชื่อเกาะลันตานั้นมีหลายที่มา บ้างก็ว่า เดิมชาวบ้านเรียกเกาะลันตาว่า“ปูเลาส่าตั๊ก” ที่แปลว่าเกาะที่มีหาดยาว ต่อมามีคนไทยพุทธและไทยมุสลิมเข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากจนดูลานตาเต็มไปหมด จึงได้ชื่อว่า “เกาะลานตา” ก่อนที่จะกร่อนเสียงเป็น “เกาะลันตา” ในขณะที่คนท้องถิ่นบางคนเล่าว่า เกาะลันตาเดิมชื่อ “เกาะลานตา” เนื่องจากว่าเมื่อออกเรือไปในทะเลแล้วมองเข้ามายังเกาะจะเห็นหาดดูลานตาเต็มไปหมด ส่วนบางตำราก็ว่า “ลันตา” แผลงมาจากคำว่า “ลันตัส” ซึ่งเป็นภาษาชวา มีความหมายว่า “ผลาย่างปลา” (ที่ย่างปลามีลักษณะเป็นไม้รูปสี่เหลี่ยมยกพื้นสูงขึ้นคล้ายโต๊ะ จุดไฟไว้ข้างล่าง เอาปลาเรียงไว้ข้างบน)

การเดินทางสู่เกาะลันตาใหญ่

รถยนต์ จากตัวเมืองกระบี่ไปตามทางหลวงหมายเลข 4 (กระบี่-ตรัง) ถึงบ้านห้วยน้ำขาว แล้วเลี้ยวขวาไปบ้านหัวหิน ข้ามแพขนานยนต์ช่วงที่หนึ่ง จากนั้นไปบ้านคลองหมากบนเกาะลันตาน้อย แล้วไปต่ออีกประมาณ 7 กม.ก็จะถึงบ้านหลังสอด ข้ามแพขนานยนต์ช่วงที่สองไปบ้านศาลาด่าน เกาะลันตาใหญ่ โดยเสียค่าข้ามแพช่วงละ 10 บาท ค่ารถเก๋ง กระบะ คันละ 50 บาท(รวมคนขับ)

รถโดยสาร จากกรุงเทพฯ มีรถออกจากสายใต้ไปจังหวัดกระบี่ทุกวัน ทั้งรถปรับอากาศและรถธรรมดาสอบถามข้อมูล โทร. 0-2435-1199, 0-2435-1200 หรือ www.transport.co.th สำหรับบริษัทเดินรถเอกชน ติดต่อ บริษัท ลิกไนท์ จำกัด โทร. 0-2435-1199, 0-2435-1200 และจากจังหวัดกระบี่นั่งสองแถวต่อไปยังท่าเรือเจ้าฟ้า (20 บาท) จากท่าเรือเจ้าฟ้ามีเรือไปเกาะลันตาใหญ่วันละ 2 เที่ยว 10.00น.และ 13.00 น. ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ค่าโดยสารคนละ 180 บาท ขากลับมีเรือจากท่าศาลาด่านเวลา 8.00 น. และ 13.00 น.

นอกจากนี้ก็ยังมีรถตู้(ขึ้นที่ถนนมหาราช)ไปเกาะลันตา เสียค่าโดยสาร 120 บาท สำหรับถนนบนเกาะลันตาในช่วงนี้กำลังอยู่ในช่วงการสร้างทาง เพราะฉะนั้นฝุ่นจึงเยอะมาก

เครื่องบิน มีบริการเที่ยวบินระหว่าง กรุงเทพฯ-กระบี่ ทุกวัน สามารถสอบถามตารางบิน และข้อมูลเพิ่มเติม จากสายการบินต่างๆ ดังนี้ การบินไทย, ภูเก็ตแอร์ , บางกอกแอร์เวยส์, พีบีแอร์

ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยว จ.กระบี่ โทร. 0-7562-2163-4

กำลังโหลดความคิดเห็น