xs
xsm
sm
md
lg

เรื่องขี้ๆ ที่เมืองจีน/ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี

เทศกาลตรุษจีนตามต่อมาติดๆหลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไป ชนิดที่พรรคไทยรักไทยกวาด สส.ไปถล่มทลาย

ไอ้สัน(ดาน)เพื่อนผมมันบอกว่า เห็นผมเคยไปเที่ยวเมืองจีนมาหลายครั้งอยู่ นอกจากเหล้าเมืองจีนที่ซื้อมาดื่มด้วยกันแล้วก็น่าจะมีเรื่องเล่าแห่งความทรงจำในแดนมังกรมาเปิดประเด็นกลางวงสุรากันบ้าง

แรกเริ่มเดิมทีผมตั้งใจว่าจะเล่าเรื่องสาวจีนยุคใหม่โดยเฉพาะสาวจีนในเมืองใหญ่ที่กำลังมาแรงด้วยเทรนด์พิมพ์นิยม ขาว สวย หมวย อึ๋ม X และ“ล้น”จนเตะตาสำหรับอาหมวยบางคนให้ไอ้สัน(ดาน)ฟัง แต่ว่าพอเห็นหน้าตาหื่นๆของมันแล้ว ผมเลยเปลี่ยนใจหันมาเล่าเรื่องเก่าๆที่เมาท์กันไม่เคยเบื่ออย่าง เรื่องขี้ เรื่องส้วม เรื่องห้องน้ำ ที่เมืองจีนมากกว่า เพราะว่าดูแล้วเข้ากับหน้าตาของมันดี

พูดถึงเรื่องห้องน้ำที่เมืองจีนนี่ กูรูท่องเที่ยวหรือคนที่เคยไปย่ำแดนมังกรมา ต่างยกให้เป็นห้องน้ำปราบเซียนที่พอกลับมาเมืองไทยแล้วก็มักจะมีเรื่องเมาท์กันอย่างเมามันในอารมณ์กึ่งเหม็น กึ่งฮา

แน่นอนว่าเรื่องราวในส้วมเมืองจีนที่สะเด็ดสะเด่าทรวงก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการ “ขี้แตกขี้แตน” ที่หากเล่าแบบเก็บรายละเอียดทุกเม็ดให้คนขวัญอ่อนฟังอาจจะเกิดอาการ“อ้วกแตกอ้วกแตน”ขึ้นมาได้

“ขี้” คำๆนี้เป็นภาษาไทยชาวบ้านที่ฟังแล้วไม่น่ารักกระไรปานนั้น ในเมืองไทยจึงมีการยกระดับของขี้ให้สุภาพขึ้นเป็น “อึ” และ “อุจจาระ” รวมถึงศัพท์เทคนิคอย่างเช่น ข้าศึก ปล่อยหนัก ปลดทุกข์ ทิ้งบอมบ์ ซึ่งการใช้ก็แล้วแต่สถานการณ์และฐานะ แต่ไม่ว่าใครจะเรียกขานว่าอย่างไร ผมว่าคนไทยหลายๆคนที่เคยไปอึ(ขออนุญาตใช้คำสุภาพขึ้น)ที่ห้องน้ำสาธารณะสไตล์จีนแท้ๆในเมืองจีน คงเคยผ่านประสบการณ์ตรงที่ยากต่อการลืมเลือนเป็นแน่แท้

สำหรับผมสมัยที่ยังไม่เคยไปเยือนเมืองจีนก็พอได้ยินกิตติศัพท์ของเรื่องส้วมปราบเซียนมาพอสมควร โดยเพื่อนที่เคยไปเมืองจีนมาก่อนต่างแนะนำว่า ก่อนจะออกไปเที่ยวไหนต่อไหนให้ปฏิบัติภารกิจให้เสร็จสิ้นสุดๆเสียในห้องพัก หรือในโรงแรม(ควรเป็น 3 ดาวครึ่งขึ้นไป) เพราะว่าจะได้ไม่มีข้าศึกโจมตีระหว่างทางแล้วเราก็จะได้ไม่ต้องเข้าห้องน้ำปราบเซียน

เรื่องนี้ผมท่องจำจนขึ้นใจ แต่ว่ากับเรื่องฉี่นี่ไม่ได้ใส่ใจเพราะว่าเป็นผู้ชายเรื่องฉี่สบายอยู่แล้ว พอรถจอดก็หามุมเหมาะปล่อยได้แบบไร้กังวล แต่แล้วประสบการณ์ตรงเรื่องขี้ๆที่เมืองจีนมันก็เกิดขึ้นจนได้ในการเยือนเมืองจีนครั้งแรกและก็เป็นการเข้าห้องน้ำสาธารณะในเมืองจีนครั้งแรกด้วย

ครั้งนั้นผมนั่งรถจากเซี่ยงไฮ้ไปมณฑลเจ้อเจียง ระหว่างทางพอรถแวะปั๊ม ผมก็เดินตรงดิ่งเข้าห้องน้ำตามปกติวิสัยแบบที่เคยปฏิบัติในเมืองไทย แต่ว่างานนี้ไม่มีพี่ไทยคนไหนเดินตามมาเลย เรียกว่าผมเดินเข้าไปแบบคนเดียวโดดๆ สัมผัสแรกที่รับรู้ได้ถึงลักษณะเด่นของห้องน้ำ(สาธารณะ)แบบจีนก็คือ กลิ่นที่โชยฉุนออกมาเตะจมูก ซึ่งผมไม่อาจจำแนกได้ว่าระหว่างกลิ่นอึกับกลิ่นฉี่มันผสมกันอยู่ในอัตราส่วนเท่าไหร่ แต่สรุปคำเดียวได้ว่า “โคตรเหม็น”

หลังโดนกลิ่นฉุนทักทายที่ทางเข้า พอหลุดไปในห้องน้ำแบบไม่เห็นใคร ผมไม่รีรอเดินเข้าคอกเตรียมยิงกระต่ายทันที ซึ่งก็ยังแปลกใจว่า เอ...ทำไมห้องน้ำปั๊มนี้ไม่มีห้องอึหรืออย่างไร หรือว่าคนจีนเขาสร้างห้องอึไว้อีกที่หนึ่ง ห้องนี้มีที่ล้างมือหน้าตาแปลกอยู่ที่ผนังด้านหนึ่ง ส่วนคอกฉี่ที่สร้างฉากกั้นระดับเลยเอวขึ้นมาหน่อยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนี่ก็เก๋น่าดู เพราะมีถังขยะวางไว้ทุกคอกเลย

สำหรับรางฉี่นี่ก็ดูแปลกๆไม่เหมือนบ้านเรา คือเป็นรางกว้างประมาณ 1 ฟุตขุดลึกลงไปเล็กน้อยจากระดับพื้นห้องน้ำ แต่ที่ผมสงสัยก็คือ ทำไมรางฉี่ที่ปั๊มนี้เขาต้องทำห่างออกมาจากผนังประมาณ 1 ฟุต เพราะเวลายิงกระต่ายต้องอาศัยความแม่นยำไม่น้อย ส่วนหากยิงใส่ผนังมันก็จะไม่ค่อยไหลลงมาลงรางเท่าไหร่

แต่ที่ไม่สงสัยก็คือเรื่องที่ทำไมห้องน้ำนี้ถึงกลิ่นแรงก็เพราะว่าไม่มีก๊อกเปิดน้ำไล่ แต่ว่าที่ด้านบนของผนังฝั่งหนึ่งมีเชือกไว้ดึงปล่อยน้ำ ซึ่งผมว่านานๆเด็กปั๊มคงมาดึงเชือกปล่อยน้ำไล่กลิ่นและคราบไปที

อืม...หรือว่านี่คือห้องน้ำในสไตล์จีนมั๊ง ผมคิดพร้อมๆกับไม่รีรอปล่อยฉี่ทันที ระหว่างที่กำลังยิงกระต่ายอยู่เพลินๆ หูก็ได้ยินเสียงผิวปากในสำเนียงเพลงจีนอยู่ในระยะกระชั้นชิด แต่พอเหลียวซ้ายแลขวากลับไม่เห็นใคร ในใจนึกว่าคงโดนผีจีนหลอกเข้าให้แล้ว แต่พอตั้งสติมองไปตามทิศทางต้นเสียง

อ้าว...เฮ้ย !!! มันไม่ใช่ผีนี่หว่า แต่ว่าเป็นหนุ่มตี๋มานั่งอึ ผิวปาก ทิ้งบอมบ์ แบบสบายใจเฉิบอยู่คอกติดกันนี่เอง โอ้ว...shipหายแล้วสิ ตกลงนี่มันคอกอะไรกัน(วะ)เนี่ย แต่ว่าไม่ทันที่ผมจะเพ่งพินิจพิจารณาก็มี 2 ตี๋แดนมังกรเดินเข้ามา หนึ่งนั้นเดินเข้าถกกางเกงลงและหย่อนก้นลงที่คอกด้านขวามือ ส่วนอีกหนึ่งตี๋ก็ยืนฉี่ลงในสิ่งที่ผมนึกว่าเป็นอ่างล้างมือที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของคอก

แป่ว เพล้ง โพล๊ะ!?! งานนี้ต้องบอกว่าหน้าแตกแหกเป็นริ้วๆ เพราะดันไปยืนฉี่ในที่อึแถมคอมเมนต์เรื่องรางไปอีกต่างหาก

นั่นถือเป็นประสบการณ์ตรงครั้งแรกแบบเบาะๆในเรื่องขี้ๆที่เมืองจีน ซึ่งหลังจากนั้นตอนไปเที่ยวเมืองจีนครั้งต่อมา ผมเฝ้าระวังตัวแจในเรื่องท้องไส้ เวลาจะออกไปเที่ยวไหนเป็นต้องขับไล่ข้าศึกภายในท้องออกให้หมดก่อน แต่ว่าเรื่องของฝนจะตก ฟ้าจะร้อง หรือคนจะอึนี่ เป็นเรื่องที่ห้ามและอั้นไม่ได้จริงๆ

อย่างกับวันนั้นจู่ๆข้าศึกก็บุกโจมตีในเวลาที่กระชั้นชิดเกินตั้งตัว ผมเริ่มจากอาการตุ่ยๆขึ้นมาก่อน จากนั้นมันเปลี่ยนเป็นอาการจี๊ดที่เล่นเอาขนลุกซู่ แต่ว่าผมก็แข็งใจสู้กับมันอยู่เพราะว่าในโปรแกรมอักสักพักรถจะไปแวะจอดที่ร้านขายของที่ระลึก ซึ่งคุณไกด์บอกว่าร้านนี้มีห้องน้ำดีกว่าห้องน้ำสาธารณะเยอะ แถมค่อนข้างเป็นสากล

พอถึงร้านปุ๊บผมรีบวิ่งไปหลังร้านเข้าห้องน้ำทันที แน่นอนว่ากลิ่นเหม็นนั้นมีแต่ว่าไม่แรงมาก และเมื่อดูจากลักษณะห้องน้ำก็คือเป็นเหมือนบ้านเราคือมีอ่างล้างมือ มีโถฉี่ 2 โถ และห้องอึ 2 ห้อง ที่วันนั้นไม่มีห้องไหนล็อก แต่ว่าประตูเปิดแง้มไว้ประมาณ 1 ใน 3 ผมเห็นดังนั้นไม่รีรอเปิดประตูโผงในห้องแรกเพื่อหวังจะเข้าไปปล่อยทุกข์ให้สบายตัว แต่ว่า...กลับเจอหนุ่มตี๋แดนมังกรนั่งอึในอารมณ์ที่ใช้ความพยายามอย่างสุดซึ้ง

โอ้ว...งานนี้เล่นเอาผมถึงกับอึ้ง แต่ว่ายังเหลือห้องอึว่างอีกห้อง ผมจึงรีบเดินไปเปิดประตูอย่างฉับไว แต่ว่าให้ตายเถอะ !?! ห้องอึห้องนี้ก็มีหนุ่มจีนนั่งอึอยู่อีกเหมือนกัน แถมยังดูไม่อนาทรร้อนใจใดๆ พอเห็นผมเปิดประตูหมอนี่ยังส่งยิ้มให้อีกต่างหาก ส่วนผมเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้เข้าก็ซาบซึ้งถึงสำนวน“ขี้หดตดหาย”ทันที งานนี้ยอมแข็งใจกลับไปทิ้งบอมบ์ที่โรงแรมดีกว่า

พอปฏิบัติภารกิจสบายตัวสบายใจ ผมมานั่งคุยกับคุณไกด์ก็ได้ความกระจ่างว่าเนื่องจากคนจีนส่วนใหญ่เคยชินกับการนั่งอึแบบเปิดโล่งมีคอกกั้นไว้เตี้ยๆ พอทำห้องน้ำมีประตูปิดมิดชิดพวกเขาจึงไม่ค่อยคุ้น เลยนิยมเปิดประตูนั่งอึ และนี่ก็คือวัฒนธรรมการใช้ห้องน้ำแบบคนจีนที่คนประเทศอื่นมาเห็นแล้วยากที่จะเข้าใจ

ส่วนผมนับแต่วันนั้นมาเริ่มคุ้นเคยกับห้องน้ำเมืองจีนมากขึ้น เวลาไปใช้บริการในการเที่ยวจีนคราวต่อๆไปผมจึงอาศัยเทคนิคส่วนตัวเอาตัวรอดไปได้

ไอ้สัน(ดาน)เมื่อฟังผมเล่าแล้วมันก็สงสัยต่อว่าแล้วห้องน้ำหญิงจะเป็นเหมือนกันมั๊ย เรื่องนี้จากที่ผมฟังเพื่อนผู้หญิงมา รู้สึกว่าจะย่ำแย่กว่าเพราะว่าผู้ชายนั้นเรื่องฉี่ไม่มีปัญหา ขอเพียงแต่ว่าให้ฉี่ถูกรางก็พอ แต่ว่าผู้หญิงนี่มีปัญหาทั้งฉี่และอึมีปัญหาหมด

แต่กระนั้นไอ้สัน(ดาน)มันก็ถามผมต่อว่า ในเมื่อมันสุดวิสัยต้องทิ้งบอมบ์ในส้วมสาธารณะจริงๆจะทำยังไง แล้วเทคนิคส่วนตัวของผมคืออะไร

“เมื่อหลีกเลี่ยงข้าศึกโจมตีไม่ได้ก็ปล่อยไปสิวะ ทนกลิ่นเอาหน่อย แต่ว่าถ้าเป็นห้องน้ำสาธารณะที่เปิดโล่งและกั้นแค่คอกก็ให้พกหนังสือพิมพ์เข้าไปด้วยเพื่อเอาไว้บังหน้าบังตาไม่ให้คนเห็น แล้วควรเลือกปล่อยห้องในๆ พร้อมๆกับร้องเพลงหรือไม่ก็ผิวปากเพื่อส่งสัญญาณให้คนรู้ว่าคอกนี้มีคนใช้อยู่นะ ห้ามเข้ามาเด็ดขาด แต่ถ้าไม่มีหนังสือพิมพ์ก็ให้ตั้งสติให้มั่นแล้วใช้วิธีหลับตานั่งอึแทน”ผมอธิบาย

“หลับตานั่งอึ มันเป็นเทคนิคอะไรวะเนี่ย???”

ไอ้สัน(ดาน)ยิงคำถามต่อ ซึ่งผมก็ตอบมันไปว่า

“เวลาหลับตานั่งทิ้งบอมบ์มึงก็จะมองไม่เห็นใคร และก็จะไม่รู้ว่ามีใครมาเห็นมึงด้วย”

กำลังโหลดความคิดเห็น