“น้ำตกลือเลื่อง เมืองผลไม้ พริกไทยพันธุ์ดี อัญมณีมากเหลือ เสื่อจันทบูร สมบูรณ์ธรรมชาติ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รวมญาติกู้ชาติที่จันทบุรี”
ดูจะเป็นคำขวัญประจำจังหวัดที่นิยามความเป็นเมืองจันท์ได้ครอบคลุมในทุกด้าน ทั้งความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ และเรื่องราวที่เกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ชาติไทยในหลายยุคหลายสมัย จึงไม่แปลกที่จันทบุรีเมืองชายทะเลฝั่งตะวันออกจะเป็นจังหวัดที่เพียบพร้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวหลากรูปแบบ
ถ้าสังเกตตราประจำจังหวัดของจันทบุรี จะเห็นว่าเป็นรูปกระต่ายอยู่ในพระจันทร์เต็มดวงที่เปล่งแสงเป็นประกาย ซึ่งรูปกระต่ายเป็นสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งของดวงจันทร์ ที่คนไทยเชื่อว่ามีมาแต่ดึกดำบรรพ์ เช่นเดียวกับที่จันทบุรีเป็นเมืองโบราณตั้งแต่ยุคขอมเรืองอำนาจ และมีชื่อปรากฏอยู่ในพงศาวดารมาตั้งแต่แรกสร้างกรุงศรีอยุธยามีฐานะเป็นหัวเมืองการค้าทางทะเล หรือหากย้อนไปไกลกว่านั้น ก็มีหลักฐานทางโบราณคดีเชื่อได้ว่า จันทบุรีเคยเป็นที่อยู่อาศัยของคนในยุคก่อนประวัติศาสตร์ด้วยซ้ำ
ดังนั้นถ้าหากจะย้อนรอยแหล่งท่องเที่ยวในช่วงเก่าก่อนย้อนยุคที่ยังคงหลงเหลือให้ดูให้ชม ก็อาจจะเริ่มต้นที่ “วัดทองทั่ว” ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่เก็บรักษาศิลปวัตถุสมัยขอมหลายชิ้น และใกล้ๆกันนั้นมี “โบราณสถานเมืองเพนียด” ซึ่งเป็นเมืองโบราณเก่าแก่ที่สุดของจังหวัด และเชื่อว่าน่าจะเก่ากว่านครวัดนครธมของเขมร เพราะมีการพบทับหลังศิลปะแบบถาลาบริวัต ซึ่งเป็นรูปแบบศิลปะที่เก่าแก่กว่านครวัดนครธมหลายร้อยปี
แต่ถ้าร่นเวลาขึ้นมาในช่วงเสียกรุงอยุธยาครั้งที่ 2 ก็จะได้พบกับร่องรอยและเรื่องราวเกี่ยวกับการกู้ชาติของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชหลายแห่ง เหตุเพราะพระองค์ได้ทรงเลือกจันทบุรีเป็นที่รวบรวมไพร่พลและเสบียงอาหาร เพราะเป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ และยังเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนแต้จิ๋ว ซึ่งเป็นคนเชื้อสายเดียวกับพระองค์ จนในที่สุดได้รวมพลคนไทยไปตีกรุงศรีอยุธยาคืนจากพม่าเป็นผลสำเร็จ
ความผูกพันของคนเมืองจันท์กับพระเจ้าตากจึงปรากฏเป็นสถานที่สำคัญหลายแห่ง ทั้ง “ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” อยู่บริเวณหน้าค่ายตากสิน ซึ่งในแต่ละวันจะมีประชาชนมาสักการะบูชาเป็นจำนวนมาก และในวันที่ 28 ธันวาคมของทุกปีซึ่งเป็นวันคล้ายวันเสด็จขึ้นครองราชย์ของพระองค์ จะจัดให้มีการทำบุญตักบาตรและถวายเครื่องราชสักการะ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงกอบกู้กรุงศรีอยุธยา
ว่ากันว่าถ้าไม่ได้กราบไหว้สักการะพระเจ้าตากก็เหมือนกับว่ามาไม่ถึงเมืองจันท์ และถ้าจะให้ดีก็ต้องแวะนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอีกแห่งที่ตั้งอยู่ตรงกันข้าม นั่นก็คือ “ศาลหลักเมืองจันทบุรี” ที่สันนิษฐานว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงสร้างขึ้นเมื่อครั้งที่เสด็จเข้าเมืองจันทบุรี นอกจากนี้ยังมีอีกหลายแห่งที่เกี่ยวเนื่องกับพระเจ้าตาก ทั้ง “พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ที่ประดิษฐานอยู่ที่เกาะกลางบึงใน “สวนสาธารณะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” รวมไปถึง “อู่ต่อเรือพระเจ้าตากหรืออู่ต่อเรือเสม็ดงาม” ก็สันนิษฐานกันว่าเป็นสถานที่ซึ่งพระเจ้าตากใช้เป็นอู่ต่อเรือเมื่อครั้งเตรียมยกทัพไปตีพม่าเพื่อกอบกู้เอกราชชาติไทย
นอกจากจังหวัดจันทบุรีจะเป็นที่ตั้งฐานทัพของพระเจ้าตากแล้ว จังหวัดนี้ยังมี “วังสวนบ้านแก้ว” ที่ตั้งอยู่ภายในสถาบันราชภัฏรำไพพรรณี ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี (หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต) พระองค์ทรงใช้ที่นี่เป็นที่ดำเนินงาน ทั้งเป็นที่ปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นตัวอย่างแก่พสกนิกรในพื้นที่นำไปใช้เป็นประโยชน์ ที่สำคัญที่สุดพระองค์ทรงพัฒนาการทอเสื่อจันทบูรอันเป็นหัตถกรรมพื้นบ้านของชาวจันทบุรีให้เจริญก้าวหน้ากว่าเดิม โดยปัจจุบันวังสวนบ้านแก้วเป็นที่รวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ซึ่งแสดงถึงการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายแบบสามัญ และเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้
นอกเหนือจากสถานที่สำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีสิ่งที่น่าสนใจที่เกี่ยวเนื่องกับศิลปวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชาวเมืองจันท์อีกหลายแห่ง เช่นที่ “ถนนอัญมณี” ซึ่งหมายถึง บริเวณถนนศรีจันท์และตรอกกระจ่าง เพราะเป็นที่ตั้งของร้านเจียระไนพลอยและร้านค้าอัญมณีต่างๆ อาจจะนับได้ว่าเป็นตลาดค้าพลอยเจียระไนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยก็ว่าได้
หรือถ้าอยากจะชมบ้านเรือนโบราณ ก็ต้องไปที่ “ย่านท่าหลวง” บริเวณถนนสุขาภิบาล ซึ่งที่นี่ในอดีตเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่เจริญที่สุดในเมืองจันท์ มี “วัดคาทอลิกจันทบุรี หรืออาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล” ที่ทางททท.คัดเลือกให้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก ที่มีประวัติการก่อสร้างยาวนานถึง275 ปี ภายในตกแต่งด้วยกระจกสีที่เรียกว่า สเตนกลาส เป็นภาพนักบุญองค์ต่าง ๆ ซึ่งมีความงดงามและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ นับเป็นวัดคาทอลิกขนาดใหญ่ที่มีความเก่าแก่ และกล่าวกันว่ามีความงดงามมากที่สุดในประเทศ
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า จันทบุรีก็มีพิพิธภัณฑ์ดีๆ ที่น่าเที่ยว อย่าง “พิพิธภัณทสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี” ที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการค้าทางเรือของไทย ซึ่งรวบรวมหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ได้จากการดำเนินงานด้านการศึกษาค้นคว้าวิจัยทางโบราณคดีใต้น้ำมาเป็นเวลากว่า 20 ปี โดยมีห้องแสดงหลักอยู่ที่ชั้นบน ซึ่งได้จัดสร้างเรือสำเภาขนาดเท่าของจริงที่ผู้ชมสามารถเดินเข้าไปชมส่วนต่าง ๆ ภายในลำเรือได้ ส่วนชั้นล่างเป็นห้องจัดแสดงการปฏิบัติงานของนักโบราณคดีใต้น้ำ ที่ทำให้ผู้ชมได้เห็นการทำงานใต้ท้องทะเลได้อย่างใกล้ชิดนอกจากนี้ยังมีห้องของดีเมืองจันท์ อาทิ การทำเหมืองพลอย การทำสวนผลไม้ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และเรื่องราวของชาวชอง ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิมของจันทบุรีอีกด้วย
ในด้านสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของเมืองจันท์ ก็มีมากหลากที่จนจะนับกันไม่ทั่ว แต่ที่รู้จักเป็นอย่างดี ต้องยกให้เหล่าบรรดาน้ำตกน้อยใหญ่ในพื้นที่ต่างๆ ทั้ง น้ำตกพลิ้ว ในอุทยานฯน้ำตกพลิ้ว น้ำตกกระทิง ในอุทยานฯเขาคิชฌกูฏ น้ำตกเขาสอยดาว ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว
ซึ่งถ้าเป็นที่ที่เหมาะแก่การมาพักผ่อนในฤดูนี้ ต้องไปที่ “หาดคุ้งวิมาน” ที่อยู่ในเขต อ.นายายอาม หรือถ้าไป อ.ท่าใหม่ ก็ต้องไปที่ “หาดเจ้าหลาว” ที่มีปะการังน้ำตื้นให้ชม ถัดไปเป็น “แหลมเสด็จ” ซึ่งนี่ก็เป็นชายหาดขนาดเล็กที่สวยงามเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยร่มเงาของสนทะเลและพันธุ์ไม้ชายหาดนานาชนิด ต่อเนื่องกับแหลมเสด็จ เป็น “อ่าวคุ้งกระเบน” ที่เป็นที่ตั้งของ “ศูนย์การศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่จะได้รับทั้งความเพลิดเพลินและความรู้ในเรื่องระบบนิเวศน์ป่าชายเลนที่น่าสนใจ
สรุปรวบรัดแหล่งท่องเที่ยวของจันทบุรีมาเพียงบางส่วน เพราะยังมีที่น่าเที่ยวอีกหลายแห่ง แต่ก่อนจะกลับอย่าลืมแวะซื้อของฝากจากเมืองจันท์ ซึ่งมีทั้งของกินของใช้มากมายให้เลือกซื้อหา ทั้งผลไม้นานาชนิดที่มีออกมาทุกฤดูกาล ทั้งพริกไทย ทั้งก๋วยเตี๋ยวเส้นจันทร์ ทั้งเสื่อจันทรบูร หรือจะให้ดีซื้อพลอยเมืองจันท์เป็นของฝาก รับรองว่าใครๆ ก็ต้องชอบ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
วัดคาทอลิกจันทบุรี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-3931-1578
วังสวนบ้านแก้ว สถาบันราชภัฏรำไพพรรณี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-3933-5408-9
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร .0-3936-9216 - 8
พิพิธภัณทสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-3939-1431- 3
สอบถามข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรีเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ททท. ภาคกลาง เขต 4 โทร. 0-3865-5420-1, 0-3864-4585