สึนามิถล่มใต้ : ผลกระทบโดยตรงต่อการท่องเที่ยว

จากกรณีการเกิดแผ่นดินไหวบริเวณเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย และส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์ใต้น้ำหรือ สึนามิพัดถล่มจังหวัดทางภาคใต้ เช่น ภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนอง ซึ่งล้วนแต่เป็นจังหวัดท่องเที่ยวทางภาคใต้ที่สำคัญของไทย ยิ่งกว่านั้น ในช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวทะเลอันดามัน ดังนั้นจึงถือว่าภัยธรรมชาติครั้งนี้ส่งผลต่อการท่องเที่ยวของไทยอย่างมหาศาล ซึ่งขณะนี้หลายฝ่ายในวงการการท่องเที่ยวได้ออกมาพูดถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมทั้งได้ร่วมมือกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่

สนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้เรียกคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และภาคเอกชนต่างๆ ด้านการท่องเที่ยวเข้าประชุมด่วน เพื่อประเมินความเสียหายและผลกระทบด้านการท่องเที่ยวในแถบอันดามัน โดยจะให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไปชี้แจงกับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในแถบทะเลอันดามัน ให้เปลี่ยนจุดหมายไปท่องเที่ยวที่ทะเลอ่าวไทย และแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้แทน รวมทั้งได้เตรียมอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ทั้งที่พักและตั๋วเครื่องบินในการเดินทางไปยังภาคใต้ นอกจากนี้ ยังมีแผนฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว เช่น การให้เงินทุนไม่คิดดอกเบี้ย และเร่งฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

สนธยา ยอมรับว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เนื่องจากพื้นที่ 6 จังหวัดในแถบทะเลอันดามันเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ซึ่งในแต่ละปีที่จะมีนักท่องเที่ยว มาเที่ยวในแถบทะเลอันดามันช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวประมาณ 300,000 – 400,000 คน และมีรายได้จากการท่องเที่ยวช่วงปลายปี ประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งททท. จะคอยติดตามดูผลกระทบอย่างใกล้ชิด

ทุกฝ่ายร่วมมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยเต็มที่

เนื่องจากมีผู้ที่ได้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้มากมาย จึงได้มีหน่วยงานต่างๆ ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เช่น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ให้บริการขนส่งหน่วยแพทย์ พยาบาลและอุปกรณ์การแพทย์ ไปยังจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้การช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย รวมทั้งยังจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยให้แก่ผู้โดยสารที่ตกค้างทั้งที่สนามบินภูเก็ต และสำนักงานการบินไทยที่อยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทั้งยังให้ความช่วยเหลือขนย้ายผู้โดยสารและผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่ประสบเหตุการณ์อุบัติภัยทางภาคใต้เดินทางเข้ามารักษาตัวที่กรุงเทพฯ รวมถึงผู้เสียชีวิต โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

ส่วนผู้โดยสารและผู้ป่วยที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ หรือส่งผู้เสียชีวิตกลับกรุงเทพฯ ติดต่อสำนักงานการบินไทยที่ท่าอากาศยานจังหวัดภูเก็ต โทร.(076) 205-335 , (076) 327-194 และสำนักงานการบินไทยที่อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โทร.(076) 212-400 , (076) 211-195 ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จัดตั้ง Help Desk Center ที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ท่าอากาศยานกรุงเทพฯ โทร.02-535-7070-3

นอกจากนั้น การบินไทยยังได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคเครื่องอุปโภค บริโภคและนำเจ้าหน้าที่การบินไทยร่วมบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทย นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้จัดศูนย์ประสานงาน เพื่อให้ความช่วยเหลือในการขนส่งผู้โดยสารและเครื่องอุปโภค บริโภค หากหน่วยงานใดประสงค์จะส่งเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ประสบภัยทางภาคใต้ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานใหญ่ การบินไทย หมายเลขโทรศัพท์ 02-5453181 และสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางไปยังภูเก็ต หาดใหญ่ และกระบี่ ขอให้ยืนยันการเดินทางล่วงหน้าหรือยกเลิกการเดินทางได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-535-2081-2 02-535-2846-7 และ 02-628-2000

ด้านบริษัทขนส่ง (บขส.) จะให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการประกาศว่า มีผู้เสียชีวิต โดยสามารถใช้บริการรถ บขส.ได้ฟรี เพื่อเดินทางออกจากพื้นที่ โดยนักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้บริการสามารถแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของแต่ละจังหวัด หรือแสดงตัวที่สถานีขนส่งของแต่ละจังหวัดทราบ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ส่วนเรืออันดามัน ปริ้นเซส ได้ส่งเรือเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ตามเกาะต่าง ๆ 1 ลำ เป็นเรือขนาดใหญ่จุคนได้นับพันคน พร้อมด้วยแพทย์ พยาบาล เวชภัณฑ์ อาหาร และน้ำดื่ม พร้อมคาดว่าจะเริ่มออกเดินทางได้ในเวลา 11.00 น. โดยบริษัท ไทยออยล์ ยินดีเติมน้ำมันให้ฟรี

สุวัจน์เตรียมพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกด้าน

สุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลด้านท่องเที่ยวแถลงภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมงว่า ขณะนี้ได้จัดตั้งศูนย์สื่อสารฉุกเฉินในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่กรุงเทพฯ และบริการสายด่วน 1672 โดยมี สุรพล เศวตเศรนี รองผู้ว่าฯ ททท.เป็นผู้รับผิดชอบดูแลศูนย์ จัดเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคอยให้ข้อมูลข่าวสารแก่นักท่องเที่ยวและญาติ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเฉพาะหน้าที่ภูเก็ต รับแจ้งผู้สูญหาย ประสานงานติดต่อญาติพี่น้อง จัดหาอาหารเครื่องดื่ม พร้อมบริการสายด่วน 1155 และเปิดเว็บไซต์ www.tourismthailand.org รายงานข้อมูลต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวทราบ

นอกจากนี้ยังมอบให้สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยวและสมาคมโรงแรมไทย จัดหาห้องพักในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และโรงพยาบาล เพื่อนำนักท่องเที่ยวในพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์เข้ามาส่วนกลาง รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาถึงประเทศไทยแล้ว แต่ที่พักที่จองไว้ได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ได้ห้องพักที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต หอพักนักกีฬา และโรงยิม รองรับได้ประมาณ 500 คน มหาวิทยาลัยสถาบันราชภัฎพระนคร 30 ห้อง ปทุมธานี 18 ห้อง สวนดุสิต 68 ห้อง และโรงแรมอื่นๆ ที่ภาคเอกชนช่วยกันประสานทั้งในกรุงเทพฯ พัทยา หัวหิน บางแสน รวมขณะนี้ที่รับได้ประมาณ 1,200 คน นอกจากนี้ยังประสานสายการบินทุกแห่ง ในการขอความร่วมมือจัดทำการบินพิเศษไปรับที่ภูเก็ต กระบี่ พังงา เพื่อเคลื่อนย้ายนักท่องเที่ยวเข้ามา โดยค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นทั้งหมดภาครัฐจะเป็นผู้รับผิดชอบ

ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินทางเข้ามาจองห้องพักในพื้นที่เกิดเหตุ จ่ายเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้วนั้น สุวัจน์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการประสานงานว่าจะย้ายไปพื้นที่อื่นหรือไม่ สำหรับการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ภูเก็ตนั้น ยังไม่ได้คิด ขอดำเนินมาตรการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวก่อนเป็นอันดับแรก สำหรับผลกระทบต่าง ๆ มาตรการช่วยเหลือระยะกลาง ระยะยาวนั้น ขอให้ผ่านเหตุการณ์ช่วงนี้ไปก่อนเช่นเดียวกัน

ทางด้านผู้ว่าฯ ททท.กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทนำเที่ยวในต่างประเทศสอบถามมายัง ททท.จำนวนมากว่าสามารถเดินทางมาประเทศไทยได้หรือไม่ โดยตลาดหลักที่สอบถาม คือ ญี่ปุ่น รัสเซีย และยุโรป ส่วนที่ขอยกเลิกการจองห้องพักนั้น ขอเวลา 2 วันในการตรวจสอบข้อมูล โดยมอบให้สมาคมโรงแรมไทยดำเนินการ หลังการแถลงข่าว นายสุวัจน์ พร้อมด้วยนายสนธยา และผู้ว่าฯ ททท.รีบเดินทางไปยังภูเก็ต ทันที เพื่อคอยอำนวยการประสานงานให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทันที

ส่วน โภคิน พลกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งในที่ประชุมให้จังหวัดภูเก็ต ตั้งศูนย์คอนเซ็นเตอร์ Call Center ภาษาอังกฤษขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างชาติได้ติดต่อสอบถามและติดตามหาญาติ เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีนักท่องเที่ยวร่วมประสบเหตุอยู่ด้วยจำนวนมาก

อุปนายกสมาคมโรงแรมไทยระดมหาห้องพักในกทม.

คณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจัดประชุมนัดพิเศษ โดย ประกิจ ชินอมรพงษ์ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย และกรรมการบริหารสภาฯ กล่าวว่า ได้ระดมห้องพักในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ยังว่างอยู่ประมาณ 1,000 ห้อง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ภาคใต้ โดยได้รับความร่วมมือจากสมาชิกเป็นอย่างดี แม้ในช่วงนี้จะอยู่ในภาวะโรงแรมค่อนข้างเต็มมาก เนื่องจากเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยว หรือไฮ ซีซัน

“ขณะนี้มีบางโรงแรมให้ห้องฟรีและบางแห่งคิดราคาพิเศษ เช่น รามา การ์เดนท์ คิดราคาพิเศษร้อยละ 25 จำนวน 100 ห้อง เอสซี ปาร์ค ให้ฟรี 40 ห้อง ซึ่งสมาคมมีความต้องการห้องพักระหว่างวันที่ 27-30 ธันวาคม เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจากจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์” ประกิจกล่าว

สำหรับโรงแรมในภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือที่เกาะพีพีและเขาหลัก รวมถึงป่าตองบางส่วน ซึ่งจะมีการสำรวจความเสียหายอีกครั้ง โดยเฉพาะที่พักแบบวิลล่าและกระท่อมที่โครงสร้างไม่แข็งแรงที่เสียหายมาก และหลังจากนี้จะพิจารณาว่าสมาคมโรงแรมไทยและสภาอุตฯ จะให้ความช่วยเหลือในรูปแบบใด

ด้าน พรศิริ มโนหาญ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้เที่ยวบินเช่าเหมาลำ กำลังจะเข้าภูเก็ตจำนวนหลายสายมีความไม่แน่ใจต่อสถานการณ์ในไทย โดยล่าสุดจะมีเที่ยวบินจากเกาหลีจำนวน 8 เที่ยวบิน และสแกนดิเนเวียอีกหลายสาย อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์เช่นนี้ ตนต้องการให้นักท่องเที่ยวที่จะเข้าภูเก็ตชะลอไประยะหนึ่งก่อน เพราะหากเข้ามาก็จะไม่สามารถเข้าพักในโรงแรมได้