สำหรับการเดินทางไปต่างถิ่น ต่างที่ต่างทางและต่างความคุ้นเคยนั้น เหล่านักเดินทางทั้งหลายอาจเลือกหาที่พักกันไปคนละแบบ บางคนอาจเลือกที่จะนอนบ้านญาติหรือขอพักพิงบ้านเพื่อน แต่ก็มีอีกหลายคนเลือกที่จะใช้บริการโรงแรม ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ให้เลือกมากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น 3 ดาว 4 ดาว 5 ดาว หรือในตอนนี้ที่มาแรงสุดๆเห็นจะหนีไม่พ้นรีสอร์ท แอนด์ สปา ที่พร้อมใจกันผุดขึ้นมาอย่างกับดอกเห็ด
แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากรีสอร์ท แอนด์ สปา ที่ถือว่าเริ่ดสุดๆในขณะนี้แล้ว ยังมีที่พักในแบบที่เรียกว่า “บูติค สไตล์”ซึ่งมีความพิเศษแบบไม่เป็นสองรองใคร
“บูติค สไตล์”ถือได้ว่าเป็นทางเลือกใหม่ของผู้ที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัว แต่ยังไม่ทิ้งความสะดวกสบายต่างๆ นอกเหนือจากนั้นด้านความบริการก็ถือได้ว่าเทียบเท่ากับโรงแรมระดับ 5 ดาวเลยทีเดียว
ประกิจ ชินอมรพงษ์ เลขาธิการสมาคมโรงแรมไทย เล่าให้ฟังว่าน้อยคนนักจะทราบว่าบูติค สไตล์ นั้นได้ถือกำเนิดมาในประเทศไทยเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว แต่ไม่เป็นที่ฮือฮาเท่าใดนัก เนื่องบูติค สไตล์นั้นส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรมหรือรีสอร์ทที่มีความเป็นส่วนตัว และส่วนใหญ่ราคาห้องพักค่อนข้างสูง แต่ก็มีบ้างเหมือนกันที่ราคาไม่แพงนัก ส่วนในเรื่องของการบริการก็ไม่เป็นรองใคร เพราะจะเน้นการบริการแบบที่เรียกว่า Personal มาก การตกแต่งภายในห้องพักจะตกแต่งอย่างดี มีเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงสถานที่นั้นๆอย่างชัดเจน และจะไม่รับแขกเยอะเพราะจำนวนห้องมีไม่มาก
อย่างที่โรงแรมภูใจใส รีสอร์ท แอนด์ สปาตั้งอยู่ ณ เชิงดอยแม่สลองใน อ.แม่จัน จ.เชียงราย บนเนื้อที่กว่า 300 ไร่ ภายในอาณาบริเวณโดยรอบโอบล้อมด้วยพันธุ์ไม้ใบและไม้ดอกหลากสีสัน เน้นความสงบ ร่มรื่น
ที่นี่ถือได้ว่าเป็นบูติค รีสอร์ทแห่งหนึ่งของเมืองไทย โดยโครงสร้างทั้งหมดใช้ไม้ไผ่เป็นวัสดุสำคัญ บ้านพักเป็นกระท่อมหลังเล็กๆ แต่ละหลังสร้างลดหลั่นตามไหล่เขา ตกแต่งด้วยใบตองตึง
ภายในรีสอร์ทมีศาลารับรองแขก อีกทั้งยังเป็นห้องอาหารในรีสอร์ทที่ตั้งอยู่บนตำแหน่งสูงสุด สามารถชื่นชมวิวทิวทัศน์ของหุบเขาได้สุดสายตา มีสระว่ายน้ำอยู่ติดหน้าผา มีสปาไว้บริการหลากหลายรูปแบบ
หรือถ้าพอมีเวลาหน่อยอาจจะลงใต้ไปอีกนิด ก็จะพบกับบูติค รีสอร์ท อีกแห่งหนึ่งที่มีความสวยงามเช่นกันกับ บุหราส่าหรี รีสอร์ท บริเวณหาดป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต
ที่นี่ไม่ได้เน้นเน้นความหรูหรา อลังการ แต่จะเน้นความน่าสนใจของรายละเอียดปลีกย่อยเช่นการตกแต่งและบริการ เช่น บุราส่าหรีที่เน้นการตกแต่งที่สะท้อนความเป็นตะวันออก สื่อถึงความอบอุ่น สบาย บรรยากาศภายนอกที่ร่มรื่นของพันธ์ไม้ไทยนานาชนิด ที่ให้ความรู้สึกเหมือนโอเอซิส ท่ามกลางความจอแจของหาดป่าตอง รวมทั้งกลิ่นหอมที่เป็นเสน่ห์นับแต่ย่างก้าวเข้ามาในโรงแรม จะได้กลิ่นของไม้ไทย เมื่อเข้าห้องพักจะได้กลิ่นอโรมาจากตะไคร้หอม และใช้ผ้าส่าหรีสีสดใสเข้าช่วยตกแต่งบรรยากาศภายในห้อง ซึ่งล้วนเป็นจุดขายที่โดดเด่นและชัดเจน
แต่ที่นี่จะไม่มี Facilities เหมือนโรงแรมทั่วไป เช่น ห้องออกกำลังกาย หรือ ยิม , ห้องจัดเลี้ยง โดยเน้นความสบายของหัองพักเป็นหลัก ห้องอาหารจะมีแต่ที่เป็นคอนเซ็ปต์เข้ากับโรงแรม ไม่มีให้เลือกมากนัก เช่น ห้องอาหาร Chez Serge ของบุราส่าหรีซึ่งเป็นห้องอาหารสไตล์ Fusion Jazz French ซึ่งมีกลิ่นไอของแจ๊ซจากการตกแต่ง เครื่องดนตรี ที่เน้นบรรยากาศสบาย โรแมนติค
แต่ก็คงความทันสมัยด้วยบริการเครื่องเล่นดีวีดี , บริการHi-speed & Wireless Internet ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นรายละเอียดที่นำความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในรูปแบบที่อบอุ่น เป็นกันเอง
สำหรับใครที่ไม่มีเวลาจะไปขึ้นเหนือล่องใต้ที่ไหน ที่กรุงเทพฯก็มีโรงแรมสไตล์กิ๊บเก๋ที่ว่านี้เหมือนกัน ตั้งอยู่บนถนนสีลม ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมทริปเปิล ทู (222)
“ตอนแรกตั้งใจจะรื้อทิ้ง แล้วสร้างตึกสูงระฟ้าขึ้นมาแทน แต่เผอิญเกิดวิกฤตฟองสบู่แตกเสียก่อน ทำให้ต้องพักโครงการไปชั่วคราว แล้วต้องมาคิดต่อไปว่าจะทำอย่างไรให้ไม่ต้องลงทุนมาก”สุภี เผือกไพบูลย์ ผู้จัดการโรงแรมทริปเปิล ทู กล่าว
และนั่นก่อให้เกิดโรงแรมสไตล์ บูติค โฮเต็ล ซึ่งที่แห่งนี้มีพร้อมไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เพราะแต่เดิมเคยเป็นห้องแถวของชาวจีนที่เคยทำมาค้าขายมาก่อน รวมไปถึงการตกแต่งที่เน้นกลิ่นอายของความเป็นโอเรียนทอล ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ จีน ไทย และตะวันตกไว้ด้วยกัน วัสดุและอุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่นำมาตกแต่งภายใน ล้วนแล้วแต่มีความแปลกใหม่ น่าค้นหา และสามารถบอกเล่าเรื่องราวในอดีตได้เป็นอย่างดี เช่น ประตูลิฟท์จะพิมพ์ภาพของชาวจีนสมัยก่อน ซี่ลูกรงที่ทำมาจากไม้นำมาตกแต่งเหมือนหน้าต่าง ประตูเหล็กในตึกแถว
ส่วนห้องพักทั้ง 75 ห้องดีไซน์ภายในอย่างหรูหราด้วยโทนสีขาว ม่วง และน้ำเงิน ดูภูมิฐานแต่ยังคงความทันสมัยภายใต้คอนเซ็ป Privacy security and hing technology ไฮเทคด้วยคีย์การ์ดสำหรับทุกการเข้าออก ไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าล็อบบี้ ลิฟท์ นอกจากนี้ภายในห้องพักยังมีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไว้บริการลูกค้าอีกด้วย
“บูติค สไตล์ ไม่ใช่แค่การสร้างโรงแรมหรือรีสอร์ทขึ้นมาแล้วมาบอกว่าตัวเองคือบูติค แต่ที่แห่งนั้นต้องมีครบทั้งการออกแบบที่สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ และมีประวัติความเป็นมา นั่นถึงจะเรียกว่าเป็นบูติค สไตล์ที่แท้จริง”สุภีกล่าวทิ้งท้าย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
5 สุดยอดโรงแรมและสปาในเมืองไทย
UNSEEN PARADISE...UNSEEN THAILAND
