xs
xsm
sm
md
lg

สุนทรีย์แห่งเสียงเพลง  บรรเลงย้อนความทรงจำ  ณ พระราชวังนารายณ์ ฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ลพบุรี” ที่หลายคนรู้จักว่าเป็นเมืองลิง  แต่จังหวัดนี้ไม่ได้มีแค่ลิงอย่างเดียว  เพราะยังเป็นเมืองงามที่มีร่องรอยอารายธรรมเก่าแก่กว่า 3,000 ปี  ที่เป็นพยานถึงร่องรอยความเจริญของยุคสมัยอย่างโดดเด่น 2 ศตวรรษที่แล้ว  ที่นี่เกือบเป็นราชธานีถึงสองคราว เพราะกษัตริย์ไทยถึง 2 พระองค์โปรดปราน  คือ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช   และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ที่มักจะเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับ

เมืองนี้ยังเป็นสถานที่รับรองแขกบ้านแขกเมืองจากต่างประเทศมากมายนับไม่ถ้วน  เป็นปัจจัยทำให้เกิดความสำเร็จด้านการฑูต และการค้ากับชาติตะวันตกในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งได้มีส่วนสนับสนุนความเจริญของชาติ     ทั้งด้านภาษา  วรรณกรรม  ดาราศาสตร์  สถาปัตยกรรม  ดังปรากฏในร่องรอยโบราณสถานต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ ที่ซึ่งสองกษัตริย์ผู้ซึ่งเคยมาประทับที่พระราชวังแห่งนี้เมื่อครั้งอดีตในสมัยอยุธยาตอนกลาง และต้นรัตนโกสินทร์เพื่อระวังภัยทางการเมืองจากชาติตะวันตก

เมื่อวันเสาร์ที่ 10 ที่ผ่านมา พระราชวังที่อ้างว้างตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้านั้นเหมือนกลับมีชีวิตชีวาขึ้น เมื่อเสียงดนตรีบรรเลงคล้ายโหมโรงให้ผู้ฟังรำลึกถึงอดีต ใน “งานชมวังฟังดนตรี” ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศ ภาคกลางเขต 7 จัดขึ้น
 
ซึ่งปกติที่ “วังนารายณ์” แห่งนี้ จะจัดแต่การแสดงแสงสีเสียงขนาดเล็ก “นารายณ์ราชนิเวศน์นิมิต” เท่านั้น แต่ปีนี้มีการเปลี่ยนรูปแบบโดยคิดกิจกรรมใหม่ขึ้นมาสร้างสีสันให้กับพระราชวังแห่งนี้ เพราะด้วยสถานที่และบรรยากาศต่าง ๆ ก็ล้วนเป็นใจ ซึ่งเมื่อย่างหน้าหนาว อากาศภายในพระราชวังจะกำลังดี และเมื่อถูกขับกล่อมด้วยเพลงคลาสสิก ก็ช่างลงตัวกันอย่างพอดี

เวทีที่ยกสูงจากพื้นเพียงเล็กน้อย ถูกเนรมิตขึ้นมาในส่วนของเขตพระราชฐานชั้นนอก เมื่อก้าวผ่านประตูวังที่โอ่โถงเข้ามาก็จะเห็นอยู่เวทีอยู่ทางซ้ายมือ เก้าอี้จำนวนมากถูกจัดไว้รองรับแขกผู้มาเยือน หรือถ้าใครอยากสัมผัสไอดินกลิ่นหญ้าก็เลือกที่จะนั่งบนหญ้านุ่ม ๆ ปล่อยอารมณ์เพลิน ๆ ก็ไม่มีใครว่า

เมื่อถึงเวลาเย็นย่ำสักประมาณ ห้าโมงเย็นหย่อน ๆ เพลงบรรเลงที่เหล่านักดนตรีบรรจงคัดสรรมาก็จะถูกบรรเลงขึ้นเพื่อขับกล่อมแขกผู้มาเยือน แสงไฟที่สาดส่องไปที่เวที แลทำให้ “อาคารสิบสองห้องท้องพระคลัง” ที่ตั้งตระหง่านเป็นฉากอยู่ด้านหลังดูสีทองเหลืองอร่าม เสมือนว่าพระราชวังแห่งนี้มีชีวิตอีกครั้งเช่นในอดีต ที่เสียงมโหรีปี่ฆ้องต่างบรรเลงเพื่อถวายสมเด็จพระนารายณ์มหาราชและล้นเกล้ารัชกาลที่ 4

หากใครอยากไปรำลึกอดีต กินลมชมวังและฟังเสียงเพลง ลองไปงานนี้ซึ่งจะจัดขึ้นอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม 2547 ตั้งแต่เวลา 17.30 เป็นต้นไป แล้วท่านก็จะพบว่า นารายณ์ราชนิเวศน์มีเสน่ห์ไม่รู้ลืม...

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคกลาง
เขต 7  โทร. 0-3642-2768-9 หรือ http://www2.tat.or.th/central7/

กำหนดการงานชมวังฟังดนตรี

วันที่ 18 ธันวาคม 2547

17.00 น.              ผู้มีเกียรติเข้าสู่บริเวณพระนารายณ์ราชนิเวศน์
17.30 น.              การแสดงดนตรีไทยจากนักเรียนโรงเรียนโคกตูม
18.00 – 20.00 น. การแสดงวงดุริยางค์สากลกรมศิลปากร (Nation symphony 
                            orchestra) สลับกับการขับร้องเพลงไทยสากล และเพลง
                            สากล
                           ชุดที่ 1 บรรเลงประสานเสียง Medley เพลงพระรานิพนธ์
                           ชุดที่ 2 บรรเลงประชันเดี่ยวดนตรีไทย ชุดโหมโรง
                           ชุดที่ 3 บรรเลงร่วมกับการแสดงรำวงมาตรฐานจาก
                                      วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี
                          ชุดที่ 4 บรรเลงเพลงสากล Medley คริสมาสต์
                          ชุดที่ 5 บรรเลงประชันเดี่ยวดนตรีไทย (ขลุ่ย) ศิลปินรับ
                                     เชิญ อาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

พระนารายณ์ราชนิเวศน์

กำลังโหลดความคิดเห็น