xs
xsm
sm
md
lg

แอ่วเวียงเชียงใหม่ หัวใจล้านนา (จบ)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตอนที่แล้วตะลุยเที่ยวเชียงใหม่ไปได้ส่วนหนึ่ง มาถึงคราวนี้ก็จะไปตะลุยเที่ยวในเขตนอกเมืองเชียงใหม่กันต่อ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ สมกับที่เชียงใหม่ได้ชื่อว่าเป็นต้นน้ำหรือ “ขุนน้ำ” ที่ให้กำเนิดแม่น้ำหลายสายที่ไปรวมกันเป็นน้ำแม่ปิง

ก่อนออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปสัมผัสกับผืนป่าและสายน้ำ ลองไปรำลึกประวัติศาสตร์กันโดย ใช้ถนนสาย 107  ออกจากเมืองเชียงใหม่ไปจนถึงที่ว่าการ อ.แม่ริม จะมีป้ายบอกทางไป พระตำหนักดาราภิรมย์ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณค่ายดารารัศมี เดิมพระตำหนักดาราภิรมย์เป็นที่ประทับของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี พระธิดาในพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าหลวงเชียงใหม่องค์ที่ 7 เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้ายที่มีอำนาจปกครองบ้านเมืองตามแบบเดิมก่อนจะถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของสยาม

พระนางมีประวัติชีวิตน่าสนใจยิ่ง และมีบทบาทในการเมืองระหว่างกรุงเทพฯ กับล้านนาสมัยรัชกาลที่ 5 รูปแบบตัวอาคารได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมตะวันตก ภายในพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้อันเกี่ยวเนื่องกับพระราชชายาฯ โดยมีสภาพใกล้เคียงกับอดีต

หลังจากนี้ก็ขับรถไปยังอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โดยถ้าเอาตัวเมืองเชียงใหม่เป็นจุดเริ่มต้นก็สามารถไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 108 จนก่อนถึง อ.จอมทอง ก็จะมีแยกซ้ายมือให้เข้าไปเป็นระยะทาง 48 กิโลเมตร รถที่จะขึ้นไปนั้นควรอยู่ในสภาพที่ดีพอสมควรเนื่องจากเป็นถนนลาดยางที่สูงชันขึ้นสู่ยอดเขา ซึ่งสูงที่สุดในสยามด้วยความสูง 2,599 เมตร หรือ 2.5 กิโลเมตรจากพื้นดิน ซึ่งแต่เดิมดอยอินทนนท์มีชื่อว่า ดอยหลวง หรือ ดอยอ่างกา ดอยหลวง

บนดอยมีสถานที่น่าสนใจมากมาย เช่น สถูปของเจ้าอินทวิชยานนท์ ซึ่งรักดอยนี้มาก พระมหาธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ซึ่งสร้างขึ้นโดยกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทย โดยพระมหาธาตุนภเมทนีดล สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างถวายสมเด็จพระพระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบเช่นกัน

พระมหาธาตุทั้ง 2 องค์นี้ มีรูปทรงคล้ายคลึงกัน คือ ฐานเป็นรูป 12 เหลี่ยม มีระเบียงแก้วโดยรอบเป็น 2 ระดับ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปบูชา รอบบริเวณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์โดยรอบ

และในเวลาที่อากาศเย็นเช่นนี้นักดูนกต่างก็ไม่พลาดที่จะมาจับตาดูบรรดานกหลากหลายชนิดโดยเฉพาะนกอพยพที่จะมามากในช่วงฤดูหนาว นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน ถ้ำบริจินดา หรือน้ำตกที่มีน้ำมากตลอดปีอย่าง น้ำตกแม่กลาง น้ำตกแม่ยะ และ น้ำตกวชิรธาร

สถานที่ทางธรรมชาติอีกแห่งในเชียงใหม่ที่ถือว่ามีคนรู้จักกันมากทั่วประเทศคือ ดอยหลวงเชียงดาว ใน อ.เชียงดาว ซึ่งเป็นภูเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่าน สูงถึง 2,195 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งถือว่าสูงเป็นลำดับที่ 3 ของประเทศ และมีธรรมชาติแปลกประหลาดคือ สังคมพืชแบบหิมาลัยหรือที่เรียกกันว่าป่าเมฆ ซึ่งหาได้ยากและมีความเปราะบางอย่างมาก

ที่นี่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว ใครจะเข้าไปเที่ยวต้องขออนุญาตล่วงหน้าอย่างน้อยสองอาทิตย์ที่ที่ทำการกรมป่าไม้เก่า ข้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และการเดินขึ้นดอยต้องทรหดอดทนเพราะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้งสิ้น และใกล้ๆ กันนี้ยังมี อุทยานแห่งชาติเชียงดาว ให้นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ต้องการปีนเขาเข้าไปชื่นชมธรรมชาติอีกด้วย

ถ้าอยากมองดอยเชียงดาวจากที่อื่นก็ลองไปที่ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง  ซึ่งเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับ อ.ปาย ของแม่ฮ่องสอน ในเวลานี้อากาศกำลังหนาวจัดได้ที่ ที่นี่มีจุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) ตั้งอยู่ที่ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง ซึ่งสวยงามและมีชื่อเสียงมาก สามารถมองเห็นดอยเชียงดาว คอยชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่ได้

ที่น่าไปเยือนอีกแห่งเมื่อมาเชียงใหม่คือ ดอยอ่างขาง ใน อ.ฝาง ที่นี่มีถนนลาดยางคดเคี้ยวขึ้นสู่ยอดเขา ช่วงเดือนนี้ใครโชคดีอาจได้เจอ แม่คะนิ้ง เกล็ดน้ำค้างที่แข็งตัวจากอากาศหนาวจัดก็ได้ บริเวณเดียวกันยังมี สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ซึ่งเกิดจากพระราชดำริของในหลวง และจุดชมนกบริเวณสถานีป่าแม่เผอะ และบริเวณรอบๆ รีสอร์ทธรรมชาติอ่างขาง

หากใครอยากดูความมหัศจรรย์ของธรรมชาติก็สามารถไปต่อได้ที่  อุทยานแห่งชาติออบหลวง อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ตามทางหลวงหมายเลข 108 อ.ฮอด-แม่สะเรียง สภาพทางลาดยางตลอด และช่วงระหว่างฮอดจนถึงออบหลวงนั้น ถนนจะเลียบขนานไปกับแม่น้ำแม่แจ่มหรือแม่น้ำสลักหิน และวกไปเวียนมาตามไหล่เขา

ออบหลวงเป็นสถานที่ซึ่งธรรมชาติรังสรรค์ความสวยงามและน่ากลัวไว้ในจุดเดียวกัน กล่าวคือ เบื้องล่างเป็นแม่น้ำที่ไหลคดเคี้ยวผ่านช่องเขาขาดตรงออบหลวง ช่องเขานี้มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชันและแคบมาก บีบทางน้ำไหล ดังนั้น แม่น้ำตรงนี้จึงเชี่ยวจัด เสียงน้ำกระทบหน้าผาดังสนั่น รอบๆ บริเวณชายน้ำด้านเหนืองดงามไปด้วยหมู่ไม้น้อยใหญ่ ร่มรื่นอยู่ตลอดเวลาชั่วนาตาปี นอกจากนี้ยังมีสะพานเชื่อมช่องเขาขาดสำหรับนักท่องเที่ยวยืนชมความงดงามของทัศนียภาพออบหลวง และภายในบริเวณอุทยานฯ มีการขุดค้นพบแหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ให้ได้ศึกษาอีกด้วย

สำหรับการเดินทางในเชียงใหม่นั้น การันตีได้เลยว่าไม่มีทางเที่ยววันเดียวได้ครบถ้วนทุกแห่ง อย่างน้อยนักท่องเที่ยวและนักเดินทางควรมีเวลาดื่มด่ำกับเวียงนี้สักสองอาทิตย์ เพราะนอกจากเชียงใหม่มีทั้งสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในเขตเมืองและชุมชนแล้ว ยังมีพื้นที่ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้อยู่อีกมากรอการไปสัมผัส

ด้วยปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ จะเห็นว่านครพิงค์เชียงใหม่นั้นเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ ตั้งอยู่ในภูมิประเทศอันสวยงาม งดงามทั้งวัฒนธรรมและประเพณีพื้นถิ่นของชาวล้านนา โดดเด่นกว่าจังหวัดอื่นในภาคเหนือทั้งหมดนับแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน

คงไม่เกินไปถ้าจะพูดว่า “เชียงใหม่คือศูนย์กลาง และหัวใจของล้านนา” นั่นเอง

หนาวนี้ ไปแอ่วเวียงเชียงใหม่กันเต๊อะเจ้า…


* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวและการเดินทางเพิ่มเติมที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงาน ททท. ภาคเหนือเขต 1 โทร. 0-5324-8604 , 0-5324-8607 และ 0-5324-1466

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

เชียงใหม่


"อ่างขาง"  ดอยสวย  รวยเสน่ห์

แอ่วเวียงเชียงใหม่  หัวใจล้านนา (1)

"เจ้าดารารัศมี" ดวงใจแห่งเมืองเหนือของพุทธเจ้าหลวง
 
กำลังโหลดความคิดเห็น