ถ้าพูดถึงลอยกระทงก็ต้องนึกถึง “จังหวัดสุโขทัย” เนื่องจากว่าลอยกระทงเป็นประเพณีที่มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย และด้วยเหตุว่าวันลอยกระทงเพิ่งจะผ่านพ้นไปไม่นาน จึงมีผลชวนกระตุ้นต่อมเดินทางว่าช่วงนี้น่าจะไปเยือนจังหวัดนี้ท่าจะดี จะได้ถือโอกาสนี้ไปเที่ยวท่องทำความรู้จักเมืองสุโขทัยให้มากขึ้นด้วย
แต่ก่อนนี้สุโขทัยเคยมีคำขวัญจังหวัดว่า กำเนิดอักษรไทย งานใหญ่ลอยกระทง มั่นคงพุทธศาสนา พระแม่ย่ามิ่งเมือง อดีตรุ่งเรืองคือเมืองสุโขทัย แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนมาใช้คำขวัญที่ดูจะบ่งบอกถึงความเป็นสุโขทัยได้ครอบคลุมโดยเกือบจะไม่ต้องอธิบายขยายความใดๆ เพิ่ม นั่นคือ
“มรดกโลกล้ำเลิศ กำเนิดลายสือไทย เล่นไฟลอยกระทง ดำรงพุทธศาสนา งามตาผ้าตีนจก สังคโลกทองโบราณ สักการแม่ย่าพ่อขุน รุ่งอรุณแห่งความสุข”
รุ่งอรุณแห่งความสุข ก็คือความหมายของชื่อจังหวัด สุโขทัย ซึ่งมาจากคำสองคำคือ สุข+อุทัย ความสุขความรุ่งเรืองของเมืองสุโขทัย ดูเหมือนจะไม่มีวันโรยรา นับตั้งแต่ที่สุโขทัย ก่อตั้งเป็นอาณาจักรแรกของชนชาติไทยเมื่อเกือบ 800 ปีที่แล้ว จนล่วงเลยผ่านมาถึงปัจจุบัน สุโขทัยก็ยังยิ่งใหญ่ในใจคนไทยทุกคน “อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” ดูจะเป็นสถานที่ที่ให้คำตอบของความเจริญและความมีเอกลักษณ์ทางศิลปะของไทยในสมัยสุโขทัยได้เป็นอย่างดี จนถึงขนาดได้รับการยกย่องให้เป็น มรดกโลก โดยองค์การ UNESCO เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2534
เมื่อเข้าไปเที่ยวชมภายในอุทยานฯ ตลอดพื้นที่ 70 ตร.กม.จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของอดีตเมืองสุโขทัย เห็นถึงความเป็นศูนย์กลางการปกครอง ศาสนา และเศรษฐกิจ ภายในอุทยานฯ มีสถานที่สำคัญที่เป็นพระราชวัง ศาสนสถาน โบราณสถาน เช่น วัดมหาธาตุ ศาลตาผาแดง วัดตระพังเงิน วัดตระพังทองหลาง วัดเชตุพน โดยมีคูเมือง กำแพงเมือง และประตูเมืองโบราณล้อมรอบเมืองอยู่ ไม่ต้องกลัวว่าพื้นที่กว้างขวางขนาดนี้จะเที่ยวชมได้ไม่ทั่ว เพราะเขามีรถจักรยานและรถรางสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย
ที่จะพลาดไม่ได้คือ ต้องแวะไปชม “พระอจนะ" หรือ “พระพูดได้” ที่ “วัดศรีชุม” ซึ่งเป็นความพิศวงที่ต้องพิสูจน์ องค์พระอจนะนั้นดูศักดิ์สิทธิ์เร้นลับ เมื่อเดินผ่านช่องบันไดแคบๆ ไปยังผนังด้านข้าง ที่ช่องหลืบแล้วเปล่งเสียงออกมา เสียงนั้นก็จะก้องสะท้อนเหมือนกับว่า พระอจนะพูดได้ นับเป็นอันซีนเมืองไทยที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง
ทางด้านขวาของอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็นที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง” เป็นที่รวบรวม และจัดแสดงศิลปโบราณที่ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดีภายในเมืองสุโขทัย และที่มีประชาชนมอบให้พิพิธภัณฑ์ แบ่งส่วนการแสดงโบราณวัตถุไว้เป็น 3 ส่วนคือ อาคารลายสือไท 700 ปี อาคารพิพิธภัณฑ์ และ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง
สถานที่ที่เป็นมรดกโลก ยังรวมถึง อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ที่เดิมชื่อ “เมืองเชลียง” แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น “ศรีสัชนาลัย” ในสมัยราชวงศ์พระร่วง ในบริเวณอุทยานฯมีโบราณสถาน และโบราณวัตถุกว่า 200 แห่ง ภายในมีวัดสำคัญๆ เช่น วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดช้างล้อม วัดเจดีย์เจ็ดแถว วัดสวนแก้วอุทยานใหญ่ วัดนางพญา รวมถึงศูนย์ศึกษาและอนุรักษ์เตาสังคโลก ที่มีการขุดพบเตาเผากว่า 500 เตา ที่ถือได้ว่าเป็นนิคมอุตสาหกรรมของเมืองศรีสัชนาลัย
จะสังเกตเห็นได้ว่าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย มีวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยสุโขทัยอยู่มากมายหลายแห่ง จนมาถึงปัจจุบันที่ยังดำรงพุทธศาสนาไว้อย่างมั่นคง และไม่ใช่เพียงพระพุทธศาสนาที่ชาวสุโขทัยยึดเหนี่ยวในใจเท่านั้น สิ่งสำคัญที่เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนในจังหวัดสุโขทัย ใครมีเรื่องทุกข์ร้อนก็จะไปกราบไหว้ตั้งจิตอธิษฐานขอความช่วยเหลือ นั่นก็คือ ศาลพระแม่ย่า
“ศาลพระแม่ย่า” เป็นปูชนียสถานที่สำคัญของสุโขทัย เป็นที่ประดิษฐานดวงพระวิญญาณของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และเทวรูปพระแม่ย่า สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เพื่ออุทิศให้กับพระมารดา คือนางเสือง แต่เดิมศาลพระแม่ย่าประดิษฐานอยู่บนเขาพระแม่ย่า ต่อมาชาวสุโขทัยได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่เมืองใหม่ โดยสร้างศาลขึ้นที่หน้าศาลากลางจังหวัด ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์มีการจัดงานเฉลิมฉลองที่ศาลพระแม่ย่าทุกปี เรียกว่า งานพระแม่ย่า
อย่าเข้าใจว่าสุโขทัยจะมีสถานที่ท่องเที่ยวในเชิงประวัติศาสตร์และศาสนสถานเท่านั้น เพราะสุโขทัยยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง ที่โดดเด่นแต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ นั่นก็คือ “อุทยานแห่งชาติรามคำแหง” นับเป็นอุทยานแห่งชาติทางประวัติศาสตร์แห่งแรกของเมืองไทยที่น่าสนใจและน่าศึกษา เพราะเป็นการอนุรักษ์ป่าที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์สมัยกรุงสุโขทัยไว้พร้อมกับธรรมชาติ ในสมัยก่อนเรียกป่านี้ว่า “ป่าเขาหลวง” (คนละที่กับอุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช)
อุทยานแห่งชาติรามคำแหงมีขุนเขาที่สูงเด่นเป็นสง่า คือ ยอดเขาหลวง ภายในอุทยานฯ มีสัตว์ป่าหลายชนิด มีพรรณไม้ที่สำคัญ มีน้ำตกที่สวยงาม และมีถ้ำต่างๆ ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ จึงเหมาะสำหรับการไปพักผ่อนท่องเที่ยว อากาศบนยอดเขาจะหนาวเย็นตลอดปี มีเมฆหมอกปกคลุมมากในช่วงฤดูหนาว และฤดูฝน ช่วงที่อากาศเย็นสบายอยู่ระหว่างเดือนธันวาคม-มกราคม ช่วงที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางไปอุทยานฯ เริ่มตั้งแต่ประมาณเดือนกันยายน-กุมภาพันธ์
บนเขาหลวงมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าธรรมชาติ มีทั้งหมด 4 ยอดเขาคือ ยอดเขานารายณ์ ยอดเขาพระแม่ย่า ซึ่งเคยเป็นที่ประทับ จำศีลภาวนาของพระแม่ย่า ยอดเขาภูกา และ ยอดเขาพระเจดีย์ เมื่อมองจากยอดเขาเหล่านี้ลงไปสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม และจะเห็นทำนบกั้นน้ำที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยที่เรียกว่า สรีดภงค์ และตัวจังหวัดสุโขทัยได้อย่างชัดเจน
ทางทิศตะวันตกของเขาหลวงมี น้ำตกสายรุ้ง เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียง เพราะเมื่อแสงแดดส่องลงมากระทบเข้ากับน้ำเป็นสายทำให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเป็นสายรุ้งที่มีสีสันสวยงาม แต่จะมีน้ำตกเฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติรามคำแหงยังมี รอยพระพุทธบาท ถ้ำพระนารายณ์ ถ้ำพระแม่ย่า เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมถึง ถนนพระร่วง ซึ่งเป็นถนนสายประวัติศาสตร์ที่เชื่อมระหว่างเมืองกำแพงเพชรผ่านสุโขทัย จดศรีสัชนาลัย เชื่อว่าถนนสายนี้สร้างเมื่อ 700 ปีมาแล้ว เพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ อาจถือว่าเป็นทางหลวงแผ่นดินสายแรกของประเทศไทยก็ว่าได้
อุทยานแห่งชาติอีกแห่งของสุโขทัยคือ “อุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย” หรือที่ชาวบ้านเรียก “ป่าคา” มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าคาขนาดใหญ่ เป็นต้นน้ำของแม่น้ำท่าแพ มีสถานที่น่าสนใจอย่าง น้ำตกตาดเดือน น้ำตกตาดดาว น้ำตกทรายขาว ถ้ำธาราสันต์ โป่งเดือด ถ้ำค้างคาว และยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้คนชอบลุยป่าได้ตะลุยเที่ยวและสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย มีถ้ำอีกแห่งที่น่าสนใจ คือ “ถ้ำเจ้าราม” ซึ่งเรียกชื่อเพี้ยนมาจาก ถ้ำพระราม จากหลักฐานและคำบอกเล่าคาดว่าถ้ำเจ้ารามน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับพ่อขุนรามคำแหง อยู่ 2 อย่างคือ เป็นที่พักผ่อนของพ่อขุนรามคำแหง หรืออาจจะเป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรู ในถ้ำมีแผ่นศิลาจารึกเป็นภาษาสุโขทัยปรากฏอยู่
ถ้ำเจ้ารามยังเป็นที่อยู่ของค้างคาวกินแมลงหลายชนิด ที่สำคัญคือ ค้างคาวปากย่นที่มีอยู่นับล้านตัว ในตอนเย็นๆจะเห็นบินออกจากถ้ำเป็นทิวสาย นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าไปชมถ้ำ ควรจะมีเสื้อไว้เปลี่ยน เพราะในถ้ำมีมูลค้างคาวจำนวนมากอาจฟุ้งกระจายติดตัว และควรมีไฟฉายไปด้วยเพราะภายในถ้ำมืดมาก ชาวบ้านเชื่อกันว่าในระหว่างเข้าชมถ้ำเจ้าราม ไม่ควรพูดจาหยาบคายหรือกระทำลบหลู่ที่ไม่ดีเพราะจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดต่าง ๆ ได้
ได้เที่ยวชมสัมผัสและรับรู้ครบทั้งเรื่องราวความรุ่งเรืองในสมัยก่อนและความงามของธรรมชาติอย่างนี้ เรียกว่าไปสุโขทัยที่เดียวก็ได้เที่ยวครบทุกแบบ สมกับเป็นเมืองรุ่งอรุณแห่งความสุขจริงๆ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ประชาสัมพันธ์จังหวัด โทร. 0-5561-1619 สำนักงาน ททท. ภาคเหนือ เขต 3 โทร. 0-5525-2742-3