ถ้าถามว่าตอนนี้นึกอยากจะไปเที่ยวที่จังหวัดมากที่สุด ขอตอบดังๆแบบไม่รอช้า เพราะว่ายังจำได้ดีถึงความประทับใจเมื่อครั้งที่เคยได้ไปเยือน ซึ่งยังจดจำและฝันไว้ว่าจะกลับไปอีกสักครั้ง จังหวัดที่ว่านั้นก็คือ “แม่ฮ่องสอน” จังหวัดที่มีคำขวัญประจำจังหวัดว่า
หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้า ป่าเขียวขจี ผู้คนดี ประเพณีงาม ลือนามถิ่นบัวตอง
ชื่อ แม่ฮ่องสอน จริงๆ แล้วเพี้ยนมาจาก “แม่ร่องสอน” ซึ่งหมายถึงที่มีร่องน้ำฝึกช้าง ดังจะเห็นได้จากตราประจำจังหวัดที่เป็นรูปช้างในท้องน้ำ ส่วนที่ได้ชื่อว่า เมืองสามหมอก ก็เพราะเป็นเมืองในหุบเขา ล้อมรอบด้วยภูเขาสลับซับซ้อนจึงถูกปกคลุมด้วยหมอกตลอดทั้งปี ซึ่งหมอกที่ว่าก็มีหมอกน้ำค้างในฤดูหนาว หมอกควันจากไฟป่าในฤดูร้อน และหมอกไอดินในฤดูฝน
แม่ฮ่องสอนยังได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีทางคดโค้งมากถึง 1,864 โค้ง ถึงขนาดว่าใครที่สามารถขับรถผ่านไปถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองการเดินทางในฐานะที่เป็นผู้พิชิตโค้งทั้ง 1,864 โค้งนี้ได้
แต่ใช่ว่าเส้นทางจะโหดร้ายเสมอไป ภายใต้ความคดโค้งของเส้นทาง ยังจะได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติที่ยังคงคงความอุดมสมบูรณ์ ลองนึกภาพและบรรยากาศขณะเปิดหน้าต่างแล้วยื่นหน้ารับลมเย็นๆ สูดอากาสบริสุทธิ์ ดูวิวสวยๆ และยังอาจจะได้เห็นภาพของชาวเขาใส่ชุดประจำเผ่าสีสันสวยงาม นั่งอยู่ในรถโดยสารที่วิ่งสวนระหว่างทาง ก็เป็นภาพที่แปลกตา แต่ทว่าแฝงด้วยความน่ารักจริงๆ
ก่อนที่จะละเมอไปกับผู้คนและธรรมชาติเมืองสามหมอกไปมากกว่านี้ คงต้องไปไหว้ปูชนียสถานสำคัญของจังหวัดกันก่อน นั่นก็คือ วัดพระธาตุดอยกองมู ที่ตั้งอยู่บนดอยกองมูทางทิศตะวันตกของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน
เดิมชื่อว่า วัดปลายดอย ประกอบด้วยพระธาตุเจดีย์ที่สวยงาม 2 องค์ องค์ใหญ่สร้างโดย จองต่องสู่ เมื่อ พ.ศ. 2403 เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระ ซึ่งนำมาจากประเทศพม่า ส่วนองค์เล็กสร้าง พ.ศ. 2417 โดย พระยาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก จากวัดนี้สามารถมองเห็นภูมิประเทศและสภาพตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจนและสวยงามมาก
ต่อจากนั้นก็ไปไหว้พระที่วัดจองคำและวัดจองกลาง ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกันคือริมบึงใหญ่ชื่อหนองจองคำ โดย วัดจองคำ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2370 โดยช่างฝีมือชาวไทยใหญ่เป็นศิลปะแบบไทยใหญ่ที่แปลกและงดงามมาก มีวิหารหลังคาเป็นรูปปราสาท และเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโต ขนาดหน้าตักกว้าง 4.85 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2469 โดยช่างฝีมือชาวพม่า และมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ซึ่งจำลองมาจากพระศรีศากยมุนีที่วิหารวัดสุทัศน์
ส่วนที่ วัดจองกลาง มีสิ่งที่น่าสนใจอย่าง ตุ๊กตาแกะสลักด้วยไม้เป็นรูปคนและสัตว์ จำนวน 33 ตัว เกี่ยวกับพระเวสสันดรชาดก ฝีมือแกะสลักของช่างชาวพม่า ซึ่งนำมาจากพม่าตั้งแต่ พ.ศ. 2400 และยังมีภาพวาดบนแผ่นกระจกเรื่องพระเวสสันดรชาดกและภาพประวัติเจ้าชายสิทธัตถะ ตลอดจนภาพแสดงให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนสมัยนั้น หลายภาพมีคำบรรยายใต้ภาพเป็นภาษาพม่าและมีบันทึกบอกไว้ว่าเป็นฝีมือของช่างไทยใหญ่จากมัณฑะเลย์
จริงๆ ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนมีวัดหลายวัดที่น่าสนใจ ที่ล้วนแต่เก่าแก่และสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมไทยใหญ่ เช่นวัดพระนอน วัดก้ำก่อ (ภาษาไต แปลว่าดอกบุนนาค) วัดหัวเวียง หรือ วัดกลางเวียง รับรองว่าเสน่ห์ความงามของแต่ละวัดนั้นจะต้องสร้างความตะลึงตะลานไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ไหว้พระขอพรให้การเดินทางราบรื่น จากนั้นก็พร้อมจะลุยธรรมชาติพร้อมๆ กับสัมผัสวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวแม่ฮ่องสอน เพราะจังหวัดนี้เป็นที่รวมของชนเผ่าไทยและชาวไทยภูเขากลุ่ม ไทยใหญ่ ม้ง มูเซอ ลัวะ ลีซอ จีนฮ่อ กะเหรี่ยง ซึ่งผู้คนเหล่านี้ก็ยังคงดำเนินชีวิตแบบเรียบง่าย รักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมไว้เหมือนเมื่อหลายร้อยปีก่อน จึงไม่แปลกที่จะเห็นนักท่องเที่ยวสนใจมาเที่ยวชมจังหวัดแม่ฮ่องสอนมากขึ้นทุกปี
อย่างถ้าไปถึงที่ อำเภอปาย ก็อาจจะหลงคิดว่าเป็นตรอกข้าวสารในกรุงเทพฯ เพราะปายกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวหนุ่มสาวชาวต่างชาติมาเที่ยวจำนวนมาก ตัวเมืองอำเภอปายเป็นที่รวมของรีสอร์ทและร้านอาหาร ตอนเช้าและค่ำๆ จะเห็นนักท่องเที่ยวออกมาเดินเที่ยวเตร่ในตลาด สงสัยว่าคงจะเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตของชาวปายที่ อยู่กันอย่างเรียบง่าย เมืองปายยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง อย่างเช่น
แม่น้ำปาย เป็นแม่น้ำที่ใหญ่และยาวที่สุดของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เกิดจากทิวเขาถนนธงชัยและทิวเขาแดนลาวในเขตอำเภอปาย แล้วไหลลงมาทางทิศใต้ผ่านอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ไปบรรจบกับแม่น้ำสาละวิน (แม่น้ำคง) ในเขตรัฐคะยา สหภาพพม่า ที่มีความใสสะอาดท้องน้ำมีลักษณะเป็นกรวดทราย ในหน้าแล้งสามารถล่องแพได้เป็นช่วงๆ แต่ละช่วงก็ล้วนแต่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม นักท่องเที่ยวที่สนใจล่องแพสามารถติดต่อกับบริษัทนำเที่ยวที่อำเภอปายได้
ห่างจากตัวอำเภอปาย ไปทางทิศตะวันตก 3 ก.ม. เข้าไปไหว้พระที่ วัดน้ำฮู เป็นที่ประดิษฐานของเจ้าพ่ออุ่นเมือง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ทำด้วยโลหะทองสัมฤทธิ์หน้าตักกว้าง 28 วา สูง 30 นิ้ว พระเศียรกลวงส่วนบนเปิดได้ และมีน้ำขังอยู่ อายุประมาณ 500 ปี นอกจากนั้นยังมีเจดีย์อนุสรณ์สถานของพระสุพรรณกัลยา อยู่ในบริเวณวัดด้วย
กะเหรี่ยงคอยาว หรือชนเผ่าปาดอง เป็นชาวเขาเผ่าหนึ่งในแม่ฮ่องสอนที่มีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เพราะผู้หญิงของชาวเผ่านี้จะสวมห่วงทองเหลืองที่คอและจะเพิ่มจำนวนห่วงมากขึ้นเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น ทำให้สาวๆ เผ่านี้ดูมีคอที่ยาวกว่าปกติ โดยในจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวที่นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวได้ที่ บ้านน้ำเพียงดิน บ้านสบสอย บ้านห้วยเสือเฒ่า ความที่ใครๆ ก็อยากเห็นกะเหรี่ยงคอยาว และอยากรู้จักวิถีชีวิตของพวกเขามากถึงขนาดที่ว่ามีการทาบทามกะเหรียงคอยาวให้ไปโชว์ตัวไกลถึงภูเก็ต แต่ด้วยเหตุผลของความไม่เหมาะสมหลายอย่างที่ทำไม่ได้ เอาเป็นว่าถ้าอยากเห็นกะหรี่ยงคอยาวจริงๆ ก็ต้องไปที่หมู่บ้านของพวกเขาเองจะดีที่สุด
ขอบอกว่าที่เที่ยวในแม่ฮ่องสอนมีมากจริงๆ แต่ละอำเภอก็มีที่เที่ยวเด็ดๆ ชวนให้อยากไปเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นที่ อำเภอเมือง ที่มีถ้ำปลา น้ำตกผาเสื่อ พระตำหนักปางตอง ภูโคลน บ้านรักไทย บ้านรวมไทย อำเภอปางมะผ้า มีสารพัดถ้ำที่ดังๆ ก็ ถ้ำลอด ถ้ำแม่ละนา อำเภอสบเมย มีแม่น้ำเงา หมู่บ้านชาวเขาบ้านแม่ลามาหลวง อำเภอแม่สะเรียง มีพระธาตุสี่จอม วัดสำคัญ 4 แห่งของแม่สะเรียง อำเภอแม่ลาน้อย มีถ้ำแก้วโกมลหรือถ้ำน้ำแข็งสุดโด่งดัง
แต่ถ้าเป็นไฮไลท์ของแม่ฮ่องสอนในช่วงนี้ก็คงต้องยกให้กับ ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวม ดอกบัวตอง หรือที่ภาษาถิ่นเรียกว่า "พอหมื่อนี่" จะบานพร้อมๆ กันในช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม เหลืองอร่ามปกคลุมทั่วทั้งภูเขา สวยงามมาก โดยในปีนี้จะเปิดเทศกาลดอกบัวตองบานในวันที่ 13 พฤศจิกายน ซึ่งทางจังหวัดได้เตรียมพร้อมรับทัพนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ มีที่กางเต้นท์สำหรับนักท่องเที่ยวนอนค้างคืนถ้าใครต้องการจองล่วงหน้าให้ติดต่อกับทางอำเภอขุนยวมโดยตรง และบริเวณด้านหลังจุดชมวิว ยังมีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย
คงเห็นแล้วว่าทุกๆตารางพื้นที่ของจังหวัดเล็กๆ แห่งนี้เต็มไปด้วยสีสันและเรื่องราวที่ชวนให้หลงใหล ต่อให้กลับไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็ไม่เคยเบื่อแม่ฮ่องสอน พอๆ กับที่ไม่เคยหยุดคิดถึงแม่ฮ่องสอนเลย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สอบถามข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยว จังหวัดแม่ฮ่องสอน 0-5361-2982,0-5361-2983 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 24 ชั่วโมง โทร. 0-5361-2800
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง "ท่องโลกใต้ดิน อันซีนฯแม่ฮ่องสอน"