คำว่า “ปราสาทผึ้ง” ไม่ได้หมายถึงที่อยู่ของเหล่าผึ้งที่เป็นแมลงตัวน้อยแต่ต่อยคนเจ็บ แต่ ปราสาทผึ้ง หมายถึง ประเพณีเก่าแก่ที่ชาวสกลนครพร้อมใจกันนำ ขึ้ผึ้ง นำมาตกแต่งบนกาบกล้วยที่ถูกแกะลายอย่างสวยงาม ซึ่งนิยมทำในช่วงออกพรรษา ระหว่างขึ้น 12-15 ค่ำ เดือน 11 (เดือนไทย) ของทุกปี
โดยแต่ละหมู่บ้านต่างก็จะนำปราสาทผึ้งที่ตกแต่งอย่างสวยงามมาตั้งประกวดแข่งขันกันที่สนามมิ่งเมืองในเวลากลางคืนของวันขึ้น 13 ค่ำ ก่อนทำการแห่ขบวนปราสาทผึ้ง ไปสู่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหารในวันรุ่งขึ้น (ขึ้น 14 ค่ำ) เพื่อตั้งไว้เป็นพุทธบูชา ณ บริเวณวัดพระธาตุเชิงชุม เป็นภาพสวยงามที่นักท่องเที่ยวสามารถพบได้ทุกปี...
ทั้งนี้ชาวสกลมีความเชื่อว่าการทำบุญโดยการถวายต้นผึ้ง จะได้บุญกุศลอย่างยิ่ง ด้วยพระธาตุเชิงชุมเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งพระพุทธเจ้ามาประชุมรอยพระพุทธบาทถึง 4 พระองค์ การนำหอผึ้งมาถวายเป็นพุทธบูชาแด่รอยพระพุทธบาท ย่อมเป็นสิริมงคลมหาศาล เพราะได้ทำบุญกับพระพุทธเจ้าพร้อมกัน 4 พระองค์ในคราวเดียว
และในช่วงออกพรรษาซึ่งมีการทำปราสาทผึ้งนี้ ยังเชื่อกันว่าพระพุทธองค์จะทรงเปิดโลกทั้งสามคือ สวรรค์ มนุษย์ นรกภูมิ ให้เห็นตลอดถึงกัน ดังนั้นพระพุทธองค์จึงทรงสามารถทอดพระเนตรปราสาทผึ้ง ที่ชาวบ้านทำถวายเป็นพุทธบูชา อีกทั้งประเพณีนี้ยังอาจเป็นกุศโลบาย เพื่อสืบทอดพระศาสนาของคนโบราณ เนื่องจากในอดีต พระภิกษุสงฆ์สามารถนำขี้ผึ้งที่ได้มาทำเทียนน้ำมนต์ และเทียนไข เพื่อจุดให้แสงสว่างตอนกลางคืนได้อีกด้วย
ปราสาทผึ้งที่เราเห็นๆ กันนั้นพัฒนาการ 3 ระยะคือ ยุคต้นผึ้งหรือหอผึ้ง เป็นต้นกำเนิดของปราสาทผึ้งในปัจจุบัน เป็นหอผึ้งทรงตะลุ่มสีเหลี่ยมซ้อนกันสองชั้น ประดับดอกผึ้งบนก้านกล้วย บรรจุเครื่องอัฐบริขารไว้ภายใน แล้วจึงพัฒนามาเป็น ปราสาทผึ้งยุคทรงหอ-ทรงสิมหรือศาลพระภูมิ ที่ มีหน้าจั่วทั้ง 4 ด้าน มีลักษณะเหมือนสิมพื้นบ้านอีสาน ประดับดอกผึ้งติดก้านกล้วย และวางเครื่องทานไว้ในปราสาท
ต่อมามีการพัฒนาให้มีความวิจิตรมากขึ้น โดยเป็น ยุคปราสาทผึ้งเรือนยอด โดยพัฒนารูปแบบลวดลายองค์ประกอบให้วิจิตรพิสดารด้วยโครงไม้ ให้เป็นทรงปราสาทจัตุรมุข มีเรือนยอดเรียวหรือที่เรียกว่า “กฏาคาร” ใช้ศิลปะอีสานผสมกับไทยภาคกลางในการจัดตกแต่ง เป็นการสร้างปราสาทที่เลียนแบบที่ประทับมหากษัตริย์ เพื่อถวายแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ปัจจุบันประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง ถือว่าเป็นประเพณีที่สำคัญและยิ่งใหญ่ประจำปีของจังหวัดสกลนคร